กันยายน 2558

 
 
1
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
ว่างแล้ว..มาวึ่นวือต่อ
ต่อจากคราวที่แล้ว......ที่สับสนเรื่องการงาน

หลังจากเคลียร์งานด่วนจนเสร็จสิ้นไป...จากคราวก่อนก็ผ่านมาหลายวันพอสมควร....เมื่อเวลาผ่านไป....ความคิดคนเราก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

จากบันทึกหน้าที่แล้วจะเห็นว่า ความอึดอัด ความเบื่อหน่าย ความอยากลาออกไปพ้นๆ มันเข้มข้นมากกกกก....แต่พอมาถึงวันนี้ ความเข้มข้นมันลดลงไปเยอะเลย

สาเหตุมันเกิดจาก................อืมมมมม

ช่วงหลายวันที่ผ่านมามันผ่านเสาร์-อาทิตย์ด้วย...อาทิตย์นี้ว่างไม่ได้มีธุระอะไร....ระริกระรี้มาก ได้จัดการกับขนมให้เรียบร้อยซะที กองเกะกะบ้านมาก แต่กว่าจะเริ่มจริงจังได้ก็เที่ยงเข้าไปละ จัดการไปทีละปี๊บ ๆ ๆ จนหมดไปหลายปี๊บเลย ดูเรียบร้อยขึ้นมานิดนึง แล้วก็จัดแยกไว้เป็นส่วนๆ อันนี้ของอา อันนี้ของลูกค้าอีกเจ้านึง กว่าจะเก็บอุปกรณ์เสร็จก็หมดวันพอดี

พอถึงวันอาทิตย์ โอ้เอ้ๆๆ จนบ่าย โทรไปถามลูกค้าว่าจะเอาขนมเท่าไหร่ดี คุณป้าตอบกลับมาว่า วันนี้ยังไม่ต้องมาส่ง พอดีมีอีกเจ้านึงมาส่งจะขายของเค้าก่อน......สตั๊นท์ไป 3 วิ...แต่ก็ตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร พอวางสายนั่งอึ้งไปพักนึง 

ไม่เป็นไร เตรียมขนมใส่ถุงเพื่อจะไปส่งอีกเจ้านึง แต่ใจแป้วๆยังไงไม่รู้ ออกจากบ้านนั่งรถไปถึงร้าน พอไปถึงเห็นแต่ลูกจ้าง เลยถามว่าเจ้าของไม่อยู่เหรอ ลูกจ้างบอกว่า วันนี้เจ้าของไม่มา ไม่รู้ว่าเจ๊จะเอาอะไรบ้าง เอาไว้พรุ่งนี้มาใหม่แล้วกัน (คือพรุ่งนี้วันจันทร์...ฉันต้องทำงานอ่ะ)

เดินถือถุงขนมกลับบ้านแบบอึนๆๆ วันนี้มันวันอะไร โดนปฏิเสธทั้ง 2 ร้านเลย เดินไปคิดไป มันจะไหวมั๊ยวะ มันจะรอดมั๊ยเนี่ย เอายังไงดีหว่า คำถามวนเวียนอยู่ในหัว

พอกลับมาบ้าน ตั้งสติ เริ่มคิดละ คือคิดใหญ่มาก จากความคิดตอนแรก ปีหน้ารับโบนัสเสร็จ ลาออกเลย น่าจะได้เงินจากกองทุนก้อนนึง พอออกมา ต้องหาลูกค้าจริงจัง จากตอนนี้ มีส่ง 3 ที่ คือร้านของที่บ้าน 1 และร้านนอกอีก 2 จากที่ตั้งใจว่าถ้าหาได้แบบประจำซัก 5 ร้าน นี่ ลาออกชัวร์ พอทำเข้าจริง 3 ร้านนี่ก็เหนื่อยแทบตายแล้ว เอาวะ 3 ร้านก็พอ ถ้ามากกว่านี้ ทำไม่ไหวแน่ แต่พอมาโดนปฏิเสธแบบนี้ คงต้องคิดใหม่แล้ว เพราะผลสรุปคือ ร้านที่บอกว่ารับเจ้าอื่นมาขายบอกว่าถ้าจะเอาจะโทรมาบอก ส่วนอีกเจ้านึงที่เจ๊ไม่อยู่ คงต้องรอดูอาทิตย์นี้ว่าจะเอามั๊ย

จากที่สอบถามคนที่เคยส่งให้อา เค้ามีลูกค้ากว่า 50 ราย อย่างส่งของอาก็ครั้งละ 40 ห่อ อาทิตย์นึง 3 วัน ซึ่งทำให้กลับมาคิดว่าถ้าเราออกมาทำแล้วอยากมีรายได้อย่างน้อยก็เท่ากับเงินเดือนที่ได้อยู่ตอนนี้ มันต้องทำซักขนาดไหน เจ้าแรกรับอาทิตย์ละ 20 ห่อ ส่วนอีกเจ้านึงรับอาทิตย์ละ 15 ห่อ คำนวณแล้ว เอ่อ...

เอาน่ะ...เคยได้ยินว่าจะทำอะไรก็ต้องทำให้สุด แม้จะเริ่มหวั่นๆ ว่ามันจะรอดมั๊ย อีกอย่าง สงสารคนที่บ้านด้วย เค้าก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ อุตส่าห์งดรับเจ้าประจำไปวันนึง เพื่อจะได้ระบายของๆ เรา เริ่มต้นซะดิบดี มาล้มเลิกง่ายๆ แบบนี้ เด๋วเค้าจะคิดว่าเราไม่อดทน คงต้องสู้ต่อไป อีกซักตั้ง

ยัง ความคิดยังไม่หมดแค่นั้น พอเรื่องขนมหาทางออกได้ ทีนี้ก็มาถึงรายได้ ถ้าออกมาส่งขนมอย่างเดียว ทำคนเดียว คงไม่พอแน่ๆ เพราะเท่าที่จ่ายรายเดือนให้ที่บ้านตอนนี้ 4 คน ก็หมื่นกว่าแล้ว ถ้าคิดจะทำก็ไม่อยากให้ใครๆ เดือดร้อน ไหนจะค่าเบี้ยประกันต่อปีอีก 5 เล่ม ค่าหมอ คิดเฉพาะแค่ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายแน่ๆ ดูๆแล้ว ไม่รอด 

นอกจากค่าใช้จ่ายพวกนี้ ยังมีคิดเรื่องประสิทธิภาพในการใช้จ่ายของตัวเองอีก แล้วยิ่งตอนนี้เพิ่งจะปลดแอกเรื่องค่าผ่อนบ้านไปได้ เงินเดือนเหลือเยอะขึ้นมากโข เห็นตัวเลขในบัญชีแล้วหัวใจมันพองฟูอย่างบอกไม่ถูก อยากกินอะไรก็ไม่ต้องคิดเยอะ เพื่อนนัดกินข้าวที่ไหนไม่เคยปฏิเสธ อยากจะไปเที่ยวไหนไม่ต้องกังวัลเรื่องเงิน อยากได้เสื้อใหม่จัดได้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากที่คิดจะลาออกนี่ กะว่าเงินที่เพิ่มขึ้นจะเก็บไว้เป็นทุนหลังลาออก เลยคิดว่าต้องประหยัด แต่อย่างว่าแหละ จากนิสัยที่เคยอยากกินอะไร อยากได้เสื้อใหม่ก็ไม่เคยคิดเยอะ พอสมองคิดว่าต้องประหยัด อยากกินอะไร อยากได้อะไร ก็ต้องอดใจไว้ มันก็แย่เหมือนกัน พอหลายๆ อย่างมันเริ่มชัดเจน ระหว่างสิ่งที่คิดเพราะอารมณ์ที่อยากจะไปให้พ้นๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และได้คิดตามความเป็นจริง มันเริ่มไม่สวยงาม เราก็ต้องยอมรับมัน

แต่การยอมรับ ก็ไม่ได้หมายถึงว่าท้อถอยกับสิ่งที่ทำอยู่ เพียงแค่กลับมาคิดใหม่ ว่าจะเอายังไงดี สำหรับเรื่องงาน ใจก็ยังอยากเปลี่ยน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเขวไปมากเพราะคำนึงถึงรายได้ และคนข้างหลัง แต่ก็ยังอยากที่จะพยายามลองทำอะไรดูบ้าง เผื่อวันข้างหน้าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงจริงจะได้รับมือได้

วึ่นวือมายาวมาก....แต่สำหรับวันนี้เราว่ามันโอเคละ หลายๆ ความคิดมันมีเหตุผลขึ้น เหลือแต่ต้องพยายามเท่านั้นแหละ

ปล.แปลกใจมาก..ปกติถ้าเจอเรื่องผิดหวังอย่างโดนปฏิเสธพร้อมกัน 2 คนนี่ ต้องมีดราม่าแล้ว แต่นี่แค่รู้สึกมึนๆ งงๆ อึนๆ บอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตั้งสติหรือเพราะยา



Create Date : 09 กันยายน 2558
Last Update : 9 กันยายน 2558 17:39:26 น.
Counter : 857 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i_mafuang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเพ้อเอาถ้วย
MY VIP Friends