โรงเรียนวิชารบ ตอนที่ ๗ ภ.ม.ภาคิโน
โรงเรียนวิชารบ ตอนที่ ๗ ภ.ม.ภาคิโน


“ไอ้น้ำปลา ลองสรุปหัวข้อคร่าว ๆ ให้เพื่อนมึงฟังสิ ว่าหมู่สอนอะไรไปแล้วบ้าง?” หมู่เมธถามขึ้น ฉันนึกปลงกับคำเรียกขานชื่อที่แกมักจะแผลงให้มันเพี้ยนแบบกวน ๆ ได้ทุกครั้งเสียนี่!

น้ำขยับหลังตรง ก่อนจะตอบว่า “มีเรื่องระบบหายใจ ระบบเส้นเลือด การห้ามเลือด วิธีการช่วยเหลือชีวิต การช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นลม เช่น เป็นลมแดด ครับ”

“หัวดีนี่ ไอ้น้ำปลา” ยุทธซึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ข้างน้ำถึงกับเงยหน้าขึ้นมองผู้พูดด้วยความตื่นตะลึงในคำชมนั้น แต่หมู่เมธไม่สนใจ “ทีนี้ก็จะพูดถึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยบ้าง ...ตุ๊ด มึงออกมานอนกับพื้นตรงนี้เด๊ะ”

ฉันทำตามอย่างว่าง่าย ไม่ใช่ว่าเป็นคนใจง่ายกับผู้ชายหน้าตาดีหรอกนะ เพียงแต่ไม่อยากมีปัญหา

“เอาละ ทีนี้ มึงก็หลับตาแกล้งทำเป็นลมเด๊ะ”

ฉันหลับตา ในใจกลัวอย่างเดียวเท่านั้น กลัวไอ้หมู่หน้าหล่อนี่มันเล่นพิเรนทร์
“ขออาสาสมัครสักสองคนเด๊ะ มาสาธิตการใช้เปลกับผู้ป่วยเป็นลมหน่อย”

เฮ้อ...! ฉันค่อยโล่งอกไปหน่อย กร กับปิ๊ก ออกมาสาธิตการใช้เปลสนามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง นั่นคือการช่วยกันยกตัวฉันอย่างเป็นจังหวะสำหรับขึ้นและลงจากเปลพร้อมกัน

ทุกนายได้มาสาธิตเหมือนกันหมด ทำให้ฉันสบายหน่อยตรงที่นอนให้เพื่อน ๆ ยกขึ้นลงอย่างเดียวทั้งนั้น ในขณะที่กำลังโล่งใจว่า มันคงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ทว่าถัดมา หมู่เมธก็นำเสนอรายการต่อไป

“ทีนี้ หมู่จะสมมติว่า เราอยู่ใน Killing zone (คิลลิ่ง โซน – หมายถึงจุดที่มีการปะทะ หรือสังหาร) แล้วเพื่อนเราเจ็บ เราจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเขาออกไปให้เร็วที่สุด เราจะต้องทำอย่างไร?”

ทุกนายเงียบหมด ฉันสงสัยเหลือเกินว่า ตกลงแล้วทั้งรุ่นนี่ พอฝึกทหารใหม่เสร็จก็เก็บความรู้ที่ได้เข้าลิ้นชักข้างเตียงกันหมดแล้วหรืออย่างไร ก่อนที่หมู่เมธจะสำแดงอาการกินยาผิดขนานขึ้น ฉันจึงยกมือทั้งที่นอนอยู่กับพื้นอย่างนั้นแหละ

“เอ้า อีตุ๊ด ตอบมา”

“ต้องใช้วิธีหอบแขนคนป่วย แล้วคลานต่ำพาออกไปครับ”

ทันทีที่พูดจบ ฉันรู้ได้ทันทีว่า ตัวเองพลาดไปเสียนี่! เชี่ย!!!!... อย่าบอกนะว่า...

“ไอ้หนอนน้อย มึงออกมาสาธิตสิ”

ฉันเหลือบเห็นยุทธ แอบขำชื่อเรียกของเชฟน้อย เจ้าตัวเสียอีกที่ทำหน้ายังกะอมของขมไว้ในปาก

“มึงลองเด๊ะ” หมู่เมธสั่ง เมื่อเห็นเชฟน้อยยืนทำท่างง ๆ ผ่านไปสักครู่ จึงก้มตัวลงพยุงฉันขึ้นแล้วตั้งท่าจะลากไปกับพื้น

“เชี่ยเอ้ย! ใครเขาทำแบบนั้นกันว่ะ!” หมู่เมธเริ่มอารมณ์เสีย “ถอยออกมา กูจะสาธิตเอง”

และแล้ว... สิ่งที่ฉันไม่เคยเตรียมใจมาก่อนก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไอ้หน้าหล่อ ผู้ที่ฉันเคยมองว่า มีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าใสกิ๊ก คิ้วคมเข้ม ปากได้รูป ผมที่ตัดสั้นรับกับใบหน้าและศีรษะจนดูเท่มากมาย ฯลฯ นั้น บัดนี้ ดันนอนคร่อมลงบนตัวฉันในลักษณะราบไปกับพื้น หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ นาบไปกับพื้นผิวกายด้านหน้าทั้งตัวจนฉันสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องที่ซ่อนอยู่ใต้ร่มชุดพรางนั้น ลมหายใจ อุ่น ๆ จากจมูกที่โด่งเป็นสันรดต้นคอเบา ๆ เมื่อหมู่เมธสอดแขนทั้งสองข้างเข้าไปยังใต้รักแร้ของฉันแล้วออกแรงยกขึ้น ขาซ้ายและขวาของหมู่หนีบขาทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ตรงกลาง ดวงตาของเราประสานกันแค่เพียงแว่บเดียวเท่านั้น

ฉันได้ยินเสียงสูดลมหายใจ และกลืนน้ำลายจากเพื่อนพลทหารทั้งหลาย แล้วแกก็อธิบายต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มึงดูซะ เนี่ยแหละ เขาเรียกว่า การหอบผู้ป่วยแล้วคลานต่ำ มึงอย่าเงยศีรษะขึ้นสูงละ ไม่งั้นข้าศึกเห็นหัวมึงเข้าก็โดนลูกปืนนัดเดียวจอดพอดี”

เชฟน้อยเข้ามาแทนที่หมู่เมธ ซึ่งผละออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา วิชาปฐมพยาบาล จะจบลงด้วยความเรียบร้อย แต่ความสงสัยอะไรบางอย่างในจิตใจของฉันกำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างช้า ๆ !




บ่ายวันเสาร์สัปดาห์สุดท้ายก่อนที่จะถึงวันรับทหารใหม่ ใบหน้าที่คุ้นเคยก็โผล่มาให้เห็นถึงสองดวง

“อ้าว ไปไงมาไงวะเนี่ย!” ฉันทักทายชายในชุดพรางสองนาย ที่ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวเข้ามาจอดตรงหน้าอาคารหน่วยฝึกฯ พอดี

“กูมาเยี่ยมพวกมึงนั่นแหละ” ดวงตาอันหยาดเยิ้มจ้องมองมายังฉัน พอมันถอดหมวกกันน็อกออกเท่านั้นแหละ ฉันก็อุทานด้วยความดีใจ

“ไอ้เยิ้ม!”

“อืม... ไอ้พัทซี่ มึงตะโกนเรียกกูซะดัง ทำยังกับกูเพิ่งกลับจากชายแดนงั้นแหละ ไม่ได้เจอกันกี่เดือนเองนี่”

“ไม่ถึงเดือนหรอก” หมู่เอ็มซ้อนท้ายมาด้วยถอดหมวกกันน็อกวางไว้บนเบาะ
“สวัสดีครับ หมู่เอ็ม”

“สบายดีหรือเรา?” หมู่เอ็มถามยิ้ม ๆ แต่ช้ากว่าไอ้เยิ้มซึ่งสวนขึ้นมาทันควัน “มึงได้ใครหรือยังเนี่ย?”

“นั่นปากมึงเหรอ?” ฉันอดขำไม่ได้ “เหนื่อยกายไม่เท่าไร เหนื่อยใจวะ”

ที่แท้ หมู่เอ็มมีธุระกับจ่ากอง ไอ้เยิ้มรู้เข้าเลยอาสาขี่รถจักรยานยนต์จาก บก.ร้อยฯ มาส่ง หมู่ขอตัวไปคุยกับ จ่ากองใน บก.หน่วยฝึกฯ ฉันเลยพาไอ้เยิ้มเดินชมรอบหน่วยฝึกทหารใหม่ระลึกถึงความหลังซะหน่อย

“กูจำได้!” ไอ้เยิ้มชี้ไปตรงลานซีเมนต์เล็ก ๆ หลังหน่วยฝึกฯ “ที่พวกเราจับไอ้ปิงนอนตรงพื้นตรงนี้ แล้วเปิดจู๋มันช่วยตัวเองให้มึงดู” มันพูดถึงเพื่อนพลทหารรุ่นเดียวกับเรานายหนึ่งที่ไปประจำอีกกองพัน

ฉันหัวเราะหึๆ ในลำคอ “ทีเรื่องอุบาทว์ ๆ อย่างนี้ มึงจำได้ทีเดียวเชียว”

“ไอ้น้ำ กับไอ้เชฟน้อยไปไหน?”

“อยู่ข้างบน จะให้เรียกไหมละ?”

“เดี๋ยวก่อนก็ได้ กูมีเรื่องคุยกับมึงก่อน” ไอ้เยิ้มทำหน้าขึงขัง เวลามันทำหน้าจริงจังขึ้นมาทีไร พวกเรามักจะนึกถึงซาลาเปาที่หน้าของมันยุบลงไปทุกครั้ง แปลง่าย ๆ ว่าหน้าหักนั่นแหละ

“ครูสามฝากมาบอกว่า อาทิตย์หน้า มึงอย่าลืมกลับไปงานเลี้ยงผลัดปลดของครูเขานะ”

“แล้วจะให้พวกกูไปยังไง? อยู่นี่ตั้งสามคน”

“ใครบอกว่าสาม?” ไอ้เยิ้มยักไหล่ “ครูสามเขาชวนมึงคนเดียว ไม่ได้ชวนไอ้สองคนนั่นซักหน่อย”

“เอ้อ... จะดีเหรอ?” ฉันลังเล เพราะเหมือนรู้สึกแอบย่องไปหาความสนุกใส่ตัวคนเดียวอย่างไรก็ไม่รู้สิ!

“อ้าว มึงก็อย่าไปคิดมาก เหมือนเวลากูออกค่ายกลับบ้านไปกินเหล้ากับเพื่อน ใครชวนกู กูก็ไป คนไหนไม่ได้ชวน กูก็ไม่ไป ...มันเป็นมารยาท อันนี้กูก็รู้!”

ฉันมองไอ้เยิ้มพลางถอนหายใจ อันนี้กูก็รู้! อย่างที่มันว่า ความเป็นจริง คือ ที่เพื่อน ๆ เขาไม่ชวนมันไป กินเหล้าด้วย เพราะมันกินอย่างเดียวไม่แชร์กันจ่าย หลัง ๆ ก็เลยไม่ค่อยมีใครจะชวน แต่มันพูดราวกับว่า ที่มันรู้มารยาทเรื่องนี้นะ... เป็นสิ่งที่มันภาคภูมิใจเสียเต็มประดา เฮ้อ!

“ขอคิดดูก่อนละกัน” ฉันสรุป

เสียงสบถเป็นคำเรียกอวัยวะเพศชาย “มึงไม่ต้องคิดแล้ว กูจะเอารถเครื่องมารับมึง ทุ่มนึงมึงรอตรงหน้าหน่วยฝึกฯ ละกัน มืดหน่อยไม่มีใครเห็นดี แล้วมึงก็ขออนุญาตจ่ากองไว้ด้วยละ อย่าลืม”

“ขออนุญาตไปไหนกันเหรอ?”

ไอ้หน้าหล่อโผล่ขึ้นราวกับมันดำดินพรวดขึ้นมาตรงหน้า ชีวิตฉันคงจะผูกติดกับหมู่เมธไปจนกว่าจะปิดหน่วยฝึกฯ เป็นแน่แท้ ไอ้เยิ้มผงะถอยหลังไปเล็กน้อย ราวกับเพิ่งเห็นผีตอนกลางวันแสก ๆ แต่มันก็ยังมีสติดีพอจะทำความเคารพ

“ไอ้เชี่ยนี่ มึงมากับหมู่เอ็มหรือ?”

“ครับ”

ว่าแล้ว หมู่เมธก็เดินจากไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งผิดปกติเป็นอย่างมาก ไอ้เยิ้มกระซิบเบา ๆ “ใครว่ะ?”

“คนบ้าวะ อย่าไปสนใจเลย” ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกไป แล้วพาไอ้เยิ้มขึ้นบนโรงนอนเพื่อไปหากลุ่มเพื่อน ๆ

...............................



Create Date : 21 เมษายน 2555
Last Update : 21 เมษายน 2555 13:21:07 น.
Counter : 787 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PeeEm
Location :
ลำพูน  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีครับ ผมชื่อ ภาคิน มณีกุล ครับ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บริษัท ลานนาโปรดักส์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตวาซาบิรายใหญ่ของประเทศ งานอดิเรกของผม นอกจากส่วนใหญ่จะเล่นกีฬา คือ ปั่นจักรยานและเล่นแบดมินตัน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์และชอบเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อถ่ายรูปหรือพักผ่อนแล้ว ผมยังชอบเขียนบทความ เรื่องสั้น และนวนิยายอีกด้วยครับ

เพื่อน ๆ คนไหนเข้ามาอ่านก็สามารถติชมได้นะครับ ขอบคุณครับ
New Comments
เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog