แหล่งรวมงานเขียนของ ภ. ม. ภาคิโน PM Pakino
|
||||
เจ้าชายแมคคาดาเมียน กับตำนานการปลูกต้นมิตรภาพ Prince Macadamian : The Legend of Planting Friendship Tree เจ้าชายแมคคาดาเมียน กับตำนานการปลูกต้นมิตรภาพ PM Pakino ภ. ม. ภาคิโน แม้เราจะทราบกันดีอยู่ว่า ชาวมายาเป็นผู้ค้นพลเมล็ดโกโก้ และชาวแอซเทคก็สืบทอดการรับประทานโกโก้ต่อมา จนกระทั่งเมื่อสเปนได้ยึดครองอาณาจักรนั้น และนำเมล็ดโกโก้กลับมายังประเทศของตน วัฒนธรรมการรับประทานโกโก้ ก็ได้แพร่หลายไปทั่วยุโรป ตลอดจนทั่วโลกในเวลาต่อมา ทว่าโคลัมบัส ไม่ได้ค้นพบเกาะแอสเตอร์ แผ่นดินที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ มิฉะนั้น โลกอาจจะได้ค้นพบพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากมายอีกชนิดหนึ่งเป็นแน่ เกาะแอสเตอร์เมื่อราว ๑,๒๐๐ ปีก่อนคริสตกาล ปกครองด้วยพระราชาพระองค์หนึ่ง ซึ่งมีพระโอรสหลายพระองค์ หนึ่งในนั้น ทรงมีพระนามว่า เจ้าชายแมคคาดาเมียน เจ้าชายพระองค์นี้ ทรงมีพระสติปัญญาเฉลียวฉลาดและเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม วันหนึ่ง เรือรบจากต่างแดนก็แล่นมาประชิดหวังจะยึดเอาเกาะแอสเตอร์เป็นเมืองขึ้น ด้วยเพราะเกาะแห่งนี้นี้มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถเพาะปลูกได้ผลดีตลอดปี กองทัพที่พระราชาทรงมีอยู่นั้น น้อยนิดเมื่อเทียบกับกองเรือข้าศึกที่จอดทอดสมออยู่ พระองค์จึงตัดสินพระทัยทรงส่งทูตไปเจรจา เมื่อกลับมาแล้ว ฝ่ายทูตได้รายงานว่า ข้าศึกประสงค์อยากได้เกาะแห่งนี้เป็นเมืองขึ้น เว้นแต่พระองค์จะทรงพระราชทานเมล็ดพันธุ์ใดก็ได้ ที่สามารถเจริญได้ในดินทุกประเภท เติบโตได้ทั้งที่ไม่มีน้ำ และเก็บเกี่ยวทุกส่วนของต้นมาทำประโยชน์ได้ทั้งหมด ก็จะยกทัพกลับไป พระราชาทรงทราบดังนั้นก็หนักพระทัย ด้วยไม่มีพืชชนิดใดที่จะมีคุณสมบัติสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ยกมา เจ้าชายหนุ่มประทับฟังด้วยความสงบอยู่นั้น ก็บันดาลพระทัยฉับพลัน ทูลพระบิดาว่า พระองค์ทรงทราบแล้วว่า เมล็ดพันธุ์ที่ข้าศึกต้องการอยู่หนใด จึงขอเวลาเพียง ๑ วันเพื่อไปตระเตรียม วันรุ่งพรุ่งนี้จะเดินทางไปมอบให้แก่ข้าศึกด้วยตนเอง เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าชายเสด็จไปยังเรือของข้าศึกที่ริมทะเลโดยลำพังและปราศจากอาวุธ เมื่อพบกับแม่ทัพก็แจ้งว่า บัดนี้ได้นำเมล็ดพันธุ์ที่ท่านต้องการมามอบให้แล้ว ท่านจงรีบถอนสมอออกไปจากเกาะแอสเตอร์เสีย อย่าให้ชาวเมืองได้รับความทุกข์ร้อนไปมากกว่านี้เลย แม่ทัพได้ฟังเข้าก็ฉงนใจ ถามหาเมล็ดพันธุ์ที่ว่า เจ้าชายจึงยกพระหัตถ์ชี้เข้าที่พระอุระของตน พร้อมกับกล่าวด้วยสุรเสียงหนักแน่นว่า เรานี่แหละ ป็นเมล็ดพันธุ์ตามที่ท่านต้องการ เราเติบโตได้ในดินทุกประเภท เราเติบโตได้ทั้งที่ไม่มีน้ำ และทุกส่วนของเราก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่พวกท่านได้ทั้งสิ้น แม่ทัพและทหารทั้งหลายที่ฟังอยู่ ต่างพากันหัวเราะ พากันคิดว่า เจ้าชายพระองค์นี้คงมีสติวิปลาสไป จึงร้องถามว่า เหตุใดพระองค์ทรงกล่าวเช่นนั้น เจ้าชาแมคคาดาเมียนที่ทรงนิ่งด้วยอดกลั้นอย่างยิ่ง กล่าวตอบไปด้วยสุรเสียงหนักแน่นเช่นเดิมว่า อันที่จริงแต่ก่อน เกาะแอสเตอร์ก็มีภูมิประเทศรกร้างประดุจดังทะเลทราย ดินและน้ำที่จะใช้เพาะปลูกต่างก็เค็มเพราะผลจากทะเล เจ้าชายจึงใช้สมองและสองมือของตนคิดทดลองหาวิธีปรับปรุงดิน ลงแรงขุดน้ำใต้ดินและทดน้ำจากลำธารมาใช้ในการเพาะปลูก ร่อนเร่ไปตามป่าเขาเพื่อเสาะหาเมล็ดพันธุ์พืชที่เหมาะกับดินแบบต่าง ๆ มาเพาะในไร่ทดลองของพระองค์เอง เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไม้ก็เติบใหญ่ให้ผลผลิตดีตามคาด จึงทรงเริ่มออกเผยแพร่ความรู้นี้แก่ประชาชน แม้ในระยะแรกจะได้ผลไม่ดีนัก ก็ทยอยปรับปรุงแก้ไขปัญหาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จ เกาะแอสเตอร์จึงกลายเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารและธรรมชาติในที่สุด ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมแรงร่วมใจของพระองค์กับประชาชนทุกคน ดังนี้เล่า ข้าพเจ้าจึงถือว่าตัวเองคือเมล็ดพันธุ์ที่ท่านต้องการ ถ้าท่านนำข้าพเจ้ากลับไปยังเมืองของท่านแล้ว ข้าพเจ้าจะใช้ทุกส่วนของร่างกาย คิดและลงแรงพัฒนาเมืองของท่านให้เจริญและอุดมสมบูรณ์ ไม่น้อยหน้าไปกว่าเมืองของเราเลย แม่ทัพได้ฟังแล้วก็ตะลึงต่อคำตอบของเจ้าชาย เมื่อทำความเข้าใจอยู่ครู่หนึ่งแล้ว จึงได้พาเจ้าชายแมคคาดาเมียนกลับไปยังเมืองของตน พระราชาของเมืองซึ่งทราบเหตุการณ์จากคนส่งสารที่มาถึงก่อนหน้านั้น ก็ต้อนรับขับสู้เจ้าชายด้วยความยินดี เจ้าชายใช้เวลาอยู่ที่เมืองแห่งนั้นเพียง ๓ ปี ก็สามารถคิดหาวิธีเพาะปลูกและสร้างความเจริญมาสู่ประชาชนของเมืองนั้นได้เป็นผลสำเร็จ มีความอุดมสมบูรณ์มั่งคั่งเทียบเท่ากับบ้านเกิดของพระองค์ ภายหลังจากที่ภารกิจจบลงไม่นานนัก เจ้าชายจึงทูลลาต่อพระราชาเพื่อขอกลับไปยังเกาะแอสเตอร์ วันที่เจ้าชายแมคคาดาเมียนเดินทางกลับนั้น พระราชาได้ทรงมอบต้นไม้ซึ่งเป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่งให้ ซึ่งต่อมา เจ้าชายได้เรียกชื่อต้นไม้นี้ว่า ต้นแมคคาดาเมียน และเพี้ยนไปเป็นแมคคาดาเมียในปัจจุบัน พระราชาตรัสสรรเสริญสติปัญญาของเจ้าชายว่า สิ่งที่เจ้าชายมอบไว้ให้แก่เมืองของพระองค์นั้นมีค่าไม่เทียบเท่ากับมิตรภาพที่พระองค์ทรงปลูกไว้ระหว่างกัน ซึ่งหยั่งรากลึกกว่าต้นไม้ใดที่ถูกปลูกขึ้นในแผ่นดินนี้ เจริญเติบโตงดงามมากกว่าดอกไม้ใดที่ประดับอยู่ทั่ว ให้ผลอันเอร็ดอร่อยหอมหวานกว่าผลไม้ใดในโลกนี้ ต้นมิตรภาพนี้จะยั่งยืนอยู่ยงตราบนานเท่านาน และจะกลายเป็นตำนานเล่าขานสืบไป ถึงเจ้าชายแมคคาดาเมียน ผู้ปลูกต้นไม้แห่งมิตรภาพ บ้านศรีบุญยืน ๒๖ ต.ค. ๕๑ ๑๐๕๐ น. สนุกดีค่ะ
โดย: ออน IP: 113.53.217.60 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:03:50 น.
|
PeeEm
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีครับ ผมชื่อ ภาคิน มณีกุล ครับ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บริษัท ลานนาโปรดักส์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตวาซาบิรายใหญ่ของประเทศ งานอดิเรกของผม นอกจากส่วนใหญ่จะเล่นกีฬา คือ ปั่นจักรยานและเล่นแบดมินตัน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์และชอบเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อถ่ายรูปหรือพักผ่อนแล้ว ผมยังชอบเขียนบทความ เรื่องสั้น และนวนิยายอีกด้วยครับ เพื่อน ๆ คนไหนเข้ามาอ่านก็สามารถติชมได้นะครับ ขอบคุณครับ
Group Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |