สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
29
30
31
 
 
All Blog
(3) A day in Tamcoc ฮาลองบก หรือนินห์บิง


ถึง นังโน้ตที่เลิฟยิ่ง

วันนี้เป็นวันที่ 3 ของชั้นในเวียดนามแล้วนะ

วันนี้ชั้นจะไปเที่ยวฮาลองบก หรือ Tamcoc แต่ตั้งแต่เช้าแล้ว ฝนตกตลอดเลย



ชั้นตื่นมาตอนเช้าตรู่ เพราะเจ๊ชวนไปเดินเล่นก่อนจะจากฮานอยไปกันในคืนนี้ พอออกมาสักพัก ก็ทนกระแสรถและคนเวียดไม่ไหว พร้อมสายฝนที่โปรยปรายมาไม่ไหว กลับมาอาบน้ำอาบท่า เก็บของกันอีกรอบ ลงมาเคาะเรียกพี่ติพี่หน่อย ไปกินเฝอกันตายหน้าปากซอย วันนี้นั่งโต๊ะเดียวกะหนุ่มเวียดมาจากโฮจิมินต์ ซิตี้ พูดภาษาอังกฤษได้คล่องพอควร เราก็เลยคุยกันเยอะเลย

เค้าเคยมาเมืองไทยด้วย ไปภูเก็ต กรุงเทพ เชียงใหม่ เค้าชอบภูเก็ตมาก สวยที่สุด ที่เวียดนามไม่สวยงี้ ถามว่าเค้าพักที่ไหน เค้าชี้ไม้ชี้มือบอกว่าไกล เลยถามว่าแล้วทำใมมากินร้านนี้ เค้าบอกว่าร้านนี้เป็นร้านดัง ใครๆ มาฮานอยก็ต้องมากิน

พอวันหลังๆ ลองกินเฝอที่อื่นก็ไม่อร่อยเหมือนร้านนี้จริงๆ ถึงจะเป็นร้านกินกันตาย แต่ก็อร่อย

รอทัวร์ประมาณแปดโมงครึ่ง เลทอีกละ มีคนมาตาม พอเดินไปหน้าปากซอยมีรถเหมือนเมื่อวานจอดรออยู่ นายไกด์วันนี้ของเราชื่อเบ้ หรืออะไรประมาณนี้ พูดภาษาอังกฤษดี คล่องมากๆ อธิบายอะไรเยอะมากมาย แต่ลางไม่ดีเลย พอเราขึ้นรถฝนก็ตก ตกหนักด้วย กลัวจริงๆ ว่าวันนี้จะไม่ได้ลงเรือ เฮ้อ.........

นอนๆ หลับๆ ตื่นๆ ไป สักห้าโมงเช้าก็จอดแวะให้เข้าห้องน้ำ ตามสูตรของทัวร์ เราเดินไปดูภาพเขียนแต่มีแต่ภาพปักเหมือนเดิม ไม่ถูกใจ ถามนายไกด์ แต่นายไกด์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีขายที่ไหน เดี๋ยวมีเวลาค่อยไปเดินหาอีกที

นายเบ้ต้อนพวกเราขึ้นรถ ฝนก็ยังตกไม่หาย รถวิ่งเข้าในทางเล็ก เรามองเห็นสองข้างทางเป็นนาข้าวเขียวๆ มีภูเขาหินปูน หน้าตาเหมือนฮาลองเบย์เมื่อวาน แต่วันนี้มันมาอยู่ใกล้เรามากกว่าที่เคย พ่อแม่ฝรั่งที่พาลูกมาเที่ยวในทัวร์เราชี้มือให้ดูข้างทาง ตายโหง.... ถนนกะนาข้าวมันแยกกันไม่ออกแล้ว น้ำท่วมประมาณครึ่งล้อรถ แต่ตาไกด์กะคนขับเค้าก็เฉยๆ มีรถสวนมาประปรายส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวกะมอไซค์ ไอ้เราก็ลุ้นแทบแย่ มีอยู่หนสวนกะรถใหญ่ ประมาณรถหกล้อบ้านเรา รู้สึกเลยว่ารถเอียงเหมือนล้อข้างหนึ่งตกลงไปในน้ำฝั่งนาข้าว พอรถใหญ่ผ่านไป คนขับถอยนิดนุงแล้วเร่งเครื่องรถก็กระโดดขึ้นมาอยู่บนถนน (เข้าใจเอาเองว่ามันคือถนน เพราะตอนนั้นดูไม่รู้แล้วว่าถนนอยู่ไหน) แล้วก็ขับต่อ

ฝนก็ยังตกต่อไป รถมาจอดที่หน้าวัดอะไรสักอย่าง แต่เราเริ่มลังเลว่าจะไปไหม แต่นะคนอื่นๆ ลง เราก็ลง เอาเสื้อฝนมาใส่ เรื่องถ่ายรูปก็ลืมไปก่อน เพราะเอาตัวเองยังไม่รอด พี่ติเอาถุงซิปล็อคใส่กล้องกะเลนส์ทุกตัวซีนไว้อย่างดีแล้ว เดินไป สองข้างทางมีคนขายของ บรรยากาศประมาณเมืองไทยเลย แต่แอบมองเห็นกล้วยไม้เค้าเอามาประดับใส่ขอนไม้ ใส่หินรูปร่างแปลกๆ สวยดี บางอย่างไม่เคยเห็นในเมืองไทยเลย แต่ที่นี่ยังมีกล้วยไม้ป่าอยู่เยอะค่ะ เค้าเก็บมากองๆ ขายเยอะเลย เราชอบมาก แต่คงไม่ซื้อกลับ เพราะไม่มีนโยบายซื้อกล้วยไม้ป่ามานานแล้ว เดินไปสักหน่อยก็เข้าเขตวัด บรรยากาศเหมือนวัดเวียดนามทั่วๆ ไป ตอนนี้ล่ะ เริ่มแย่ เพราะหาเป๋าใส่เงินด่งไม่เจอ แย่เลย ดีนะที่แยกเงินไว้หลายที่ แล้วใบที่หายเป็นเงินด่งที่แลกมา โชคดีอีกอย่างที่เมื่อวานเอาเงินดอลล่าร์ในกระเป๋านี้จ่ายค่าทัวร์กะตั๋วรถไฟแทบจะเกลี้ยงแล้ว เหลือไม่กี่ดอลล่าร์

แต่ก็ยังแย่อยู่ดี เพราะเงินด่งที่อยู่กะพี่ติมีไม่เท่าไหร่ ส่วนของเจ๊ก็จ่ายซื้อของที่ระลึกเมื่อวานไปเยอะแล้ว เท่ากะเราสามคนเหลือเงินด่งรวมกันไม่ถึงแสน แย่มากเลย

คิดไปคิดมา ตอนนี้ไม่มีปัญญาฟังนายเบ้อธิบายอะไรแล้ว มานั่งนึกว่ากระเป๋ามันจะหายตอนไหน มือถือก็ไม่มีสัญญาณไม่งั้นจะได้โทรกลับไปหานายตู๋ที่โรงแรมว่าลืมเป๋าไว้ที่นั่นหรือเปล่า แทบไม่มีอารมณ์เดินเลย ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เดินไปบอกนายไกด์ว่าเป๋าเราหาย ทุกคนในทัวร์ตกใจกันมาก แล้วก็บอกนายไกด์ด้วยว่าเราไม่มีใบเสร็จที่เมื่อวานบริษัทส่งมาให้ แต่นายเบ้บอกว่าไม่เป็นไรเพราะเราซื้อทัวร์ตรงกะบริษัทของเค้าเลย ไม่ต้องใช้ก็ได้

ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วนายเบ้ก็ถามพวกเราว่าจะไปวัดอีกที่ไหม อยู่ไม่ไกลเดินไปได้ แต่ฝนตกอย่างนี้จะเดินลำบากนิดหนึง แล้วก็วัดเหมือนๆ กัน แต่ที่นั่นมีเกี้ยวสมัยโบราณ ฝนที่ตกหนักทำให้ทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าเราจะไม่ไป เดินลุยฝน ใส่เสื้อฝนไปที่รถ เริ่มมีสัญญาณเลยโทรกลับที่โรงแรม ดีนะที่เมื่อเช้าตอนนั่งรอไกด์มารับ เราเพิ่งเม็มเบอร์โรงแรมไว้ เจ้าของโรงแรมคนจองตั๋วกระบอกน้ำแถว H รับโทรศัพท์ บอกว่าเค้าเก็บกระเป๋าไว้ให้เราแล้ว เย้ๆๆๆๆ ดีใจมากๆ เลย บอกนายเบ้ เค้าก็ดีใจกะเราด้วย

นั่งรถออกมา หวาดเสียวเหมือนเดิม อุปทานหรือเปล่าไม่รู้ เหมือนระดับน้ำมันสูงขึ้น และรถทุกคันก็ทยอยกันออกมา คงไม่มีใครไปวัดที่สองมั้ง เพราะฝนตกหนักเหลือเกิน ตอนนี้ในรถไกด์เริ่มถามว่าพวกเราจะลงเรือกันไหม แต่เราขอผลัดว่าให้ถึงตอนนั้นก่อนค่อยตัดสินใจ แต่ยังไงๆ ก็ยังอยากลงอยู่ดี เพราะก่อนมาเอ็กซ์เพื่อนเลิฟ มันย้ำแล้วย้ำอีก บอกว่าที่นี่สวยกว่าฮาลองเบย์

นั่งรถต่อมาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง รถก็มาจอดหน้าโรงแรม+ภัตราคาร ไกด์เราก็ต้อนเราไปนั่งกินข้าว เรานั่งโต๊ะเดียวกะแหม่มสองคน เสริฟ์อาหารแล้วแหม่มทำหน้างงๆ มีผัดเต้าหู้ เนื้อย่างคนละไม้ (มารู้ทีหลังว่าเป็นเนื้อแพะ) ปลาทอด แหม่มเขี่ยๆ แล้วก็วางช้อน เสร็จเรา อิๆ

หม่ำๆ กันเสร็จเรียบร้อย ฝนก็ยังตกอยู่อย่างนั้น ตกได้อ้อยอิ่งมาก ไกด์เริ่มเดินมาถามทีละคน ว่าจะเอาไง จะลงเรือ หรือจะไปหมู่บ้านผ้าไหม Silk village แหม...... จะไปดูทำใมใช่ไหมแก หมู่บ้านผ้าไหม บ้านเราก็มี ใหญ่กว่าด้วยเพราะเค้าเป็นแค่หมู่บ้าน แถวบ้านเราทำยกจังหวัด ยกภาค กลุ่มชั้น 4 คน คนจีน 2 คน น่ะ อยากจะลงเรือ แต่กลุ่มที่เป็นครอบครัวฝรั่งเค้ากลัวๆ น่ะ

แต่ตอนนี้ฝนก็เริ่มซา แต่ก็ยังตกอยู่ ชั้นก็เลยชวนเจ๊ไปดูรอบๆ เห็นกลุ่มอื่นเค้าก็ลงเรือกัน ใส่เสื้อฝนไป

เลยกลับมาไฟโคกลุ่มพ่อแม่ลูกว่า ไปเหอะนะ เนี่ย I เดินไปดูมาแล้ว no dangerous แล้วคนพายก็พาย very slowly มากๆ เลยนะ bra bra bra…. .ในที่สุดเค้าก็ยินยอมตามพวกเรา เย้ๆๆๆ

ด้วยความที่เราสี่คนแบกกล้องไปคนละตัว ตัวใหญ่ๆ เพื่อความไม่ประมาท เลยเอากล้องฝากไกด์ไว้

ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก รู้แต่ว่า ชั้นชอบที่นี่มาก มากกว่า Halong Bay โทษทีนะเพื่อนที่ไม่มีรูปมาให้ดูเลย

เรานั่งลำละสองคน ชั้นไปกะพี่ติ เจ๊ไปกะพี่หน่อย มีคนพายลำละสองคน มีคนพายเรือตามเรามาจะถ่ายรูป เราไม่ได้เอากล้องมาเลยให้ถ่าย รูปละ 10,000 ด่ง เอา 3 รูป

เรือพายลอดผ่านถ้ำไป 3 อัน ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง (ปล.จริงๆ เดินหรือปั่นจักรยานก็ได้นะ เห็นทางเดินลียบคลองที่เค้าพาเราไป)

พอขากลับ ไอ้คนพายเรือคนนึงก็แปลงร่างกลายเป็นแม่ค้า จริงๆ ก็ตั้งใจจะทิปอยู่แล้ว 50,000 แต่มันตื้อจัด เลยซื้อของมันไป ตังค์ก็มีแค่นั้นล่ะ กระเป๋าใส่เงินด่งน่ะอยู่ที่โรงแรม มันทำหน้าโมโหๆ ตอนนี้เลยไม่ชอบมันแล้ว มาจับมือเราให้ดูผ้า ดูอะไรด้วย พี่ติเริ่มมีมะโห แต่มันยังไม่รู้สึกตัว พอเห็นว่าขายอะไรเราต่อไม่ได้แล้ว มันเลยยกหีบนั่นข้ามไปเรือลำอื่นซะงั้นล่ะ กลัวเรือล่มจะแย่

ขึ้นมาจากเรือ เราสองคนกะเจ๊ก็เดินตามหารูปตัวเองกัน ไม่เห็นมีใครมาถามให้เราซื้อรูปที่เราถ่ายไว้เลย พอถามไกด์ ๆ ก็ไม่รู้ไม่ชี้ เลยบอกกันว่าสงสัยเค้าจะจำหน้าเราไม่ได้ เพราะเมื่อกี้ ตอนอยู่ในเรือ เราใส่เสื้อกันฝน ชั้นเลยอดมีรูปมาให้แกดูเลย พูดแล้วก็เซ็ง

ขากลับนั่งรถเหมือนเดิม แต่วันนี้มาถึงเร็วกว่าเมื่อวานเยอะ บ่าย 4 ก็ถึงแล้ว เราเลยลงที่ ATP เลย เพราะต้องรอเอาตั๋วกะ Mr.Dai ที่นี่ ส่วนเจ๊กะพี่หน่อยไปเก็บของกันต่อ เพราะได้ตั๋วตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เมื่อวานเราได้แต่ตั๋วขากลับ ส่วนขาไป เค้าให้มาเอาวันนี้

เทียบกับเอเย่นต์อื่น ATP นี่ สต๊าฟเยอะมาก พอเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทย เค้าก็บอกว่ามีคนไทยอยู่นี่ ตะโกนเรียกกันสักพัก มีคนโผล่หน้ามาดูที่ชั้นสอง แล้วก็ไป ให้เรานั่งรอเกือบ 6 โมงเย็น จนต้องบอกว่าเราต้องกลับโรงแรมแล้วนะ เพราะต้องไปเอาของ สักพักถึงจะมีคนเอาตั๋วมาให้ ตอนนี้พอจะออกมาจากที่นั่น ชั้นน่ะ งงเต๊ก เลย เพราะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของฮานอย พอถามเค้า เค้าก็บอกว่าเราอยู่ old Quarter อันนั้นน่ะ ชั้นรู้แล้วเฟร่ย แต่ชั้นอยากรู้ว่าชั้นจะกลับโรงแรมได้ไง ไม่มีใครไกด์ให้เราได้เลย โชคดีมีน้องผู้ชาย บอกว่าฝึกงานที่นี่เค้าเดินออกมาพอดี เลยเดินตามเค้ามา เค้าก็พาเราไปส่งถึงที่ น่ารักมากๆ เลย แต่สต๊าฟคนอื่นเนี่ย ฮึมๆๆๆๆ

ออกมาเสร็จ เก็บของ กินข้าว เรียก Taxi ไปสถานีรถไฟ ส่วนเจ๊ รถเค้าจะมารับที่หน้า water puppet แล้วเจอกันนะเจ๊ อีก 3 วัน

มาถึงสถานี คนเยอะมหาศาล เดินเข้าไปรอที่ชานชลา ถามเค้าแล้ว ถามเค้าอีก ในที่สุดก็เจอนักท่องเที่ยว ถือตั๋วหน้าตาเหมือนเราเด๊ะๆ เลยรออยู่ด้วยกัน

เราไป LC5 ออกตอน 21.00 แต่ 21.20 แล้ว รถก็ยังไม่มา คนก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ จนแทบแน่น พอรถมา โห... ตู้คนอื่นเค้า Hiso มาก ๆ มีโคมไฟ มีขนม แต่ตู้ชั้นนะแก กระจอกมากเลย เอาน่า ได้ตั๋วดีกว่าไม่ได้ตั๋ว โทรบอกเจ๊ว่าขึ้นรถไฟแล้ว ตู้นอน 4 เตียง มีแอร์ พี่ติให้เรานอนด้านบน ส่วนพี่ตินอนเตียงล่าง เกือบ 21.40 มีคนมาที่ตู้เราอีกคน เป็นฝรั่งผู้ชาย เห็นหน้ากันแล้วก็หัวเราะ เพราะวันนี้เพิ่งไปทัวร์เดียวกันมา Tamcoc เข้าใจว่าเค้าคงซื้อตั๋วกะทัวร์ที่ ATP เหมือนกัน แต่แปลก ห้องเรามีแค่ 3 คนนี่เอง แปลว่าตั๋วอีกใบไม่มีคนซื้อหรือไงไม่ทราบ อ้อ... ห้องน้ำจะอยู่ตรงด้านหัวท้ายของตู้ ตอนรถออกแรกๆ ก็มีน้ำไหลให้แปรงฟัน ล้างหน้าอยู่หรอก แต่พอสัก 4 ทุ่ม น้ำก็หมด ดีนะ ชั้นกะพี่ติตุนน้ำมาเยอะ

ไปนอนดีกว่าแก เหนื่อยมามากแล้ววันนี้ ไม่รู้พรุ่งนี้จะเจออะไรอีก

Bye bye

สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน

เฝอเช้า 10,000 โค้ก 2 ป๋อง 12,000
ทิปเรือ 50,000+20 บาท
ค่าTaxi จากโรงแรมมาสถานีรถไฟ 25,000
เฝอเย็นอีกที 12,000 น้ำขวดใหญ่ 6,000
ผ้าคาดที่เป็นหน้ากากกันฝุ่น 2 อัน 15,000
แผนที่ภาษาอังกฤษ 15,000
โค้กอีก 1 ป๋อง 10,000
ขนมปังติดกระเป๋ากันตาย 6 ชิ้น 19,000
รวม 174,000 ด่ง





Create Date : 28 สิงหาคม 2550
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 15:06:54 น.
Counter : 602 Pageviews.

4 comments
  
^^
โดย: ^^ IP: 124.120.234.101 วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:13:32:47 น.
  
อิจฉาจริงๆหนอ อยากจะไปเที่ยวบ้างจัง

แต่อ่านแล้วก็ ตะลุยน่าดูเลยเนอะ

แต่เอานะ ก็คนชอบเที่ยวนี่นา

แค่นี้บ่หยั่น

haha แต่น่าเสียดายนะ ที่ไม่ได้เห็นรูปที่คุณหมวยแก้มป่องบอกว่าสวย

ชะแวปแอบปิ๊งมาจาก PClovers
โดย: karnlaka วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:19:09:53 น.
  
นั่นสิคะ แก้มยุ้ยก็เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้รูปมา

แต่ไม่เป็นไรค่ะ แค่รูปที่มีอยู่ก็ปาเข้าไปเจ็ดกิ๊กแล้ว อิๆ

โดย: แก้มยุ้ย แก้มป่อง IP: 58.64.94.239 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:23:26:05 น.
  
รูปสวยดีจังครับ
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:14:22:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยแก้มป่อง
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



"All Or Nothing"

ถ้าจะรักต้องให้หมดทั้งใจ หรือก็ไม่ต้องเลย
Friends Blog
[Add หมวยแก้มป่อง's blog to your weblog]