เที่ยวอินทนนท์หน้าฝน ไหว้พระมหาธาตุทั้งสอง แล้วแวะชิมส้มตำสุดอร่อย
ตอนที่แล้วไปไม่ถึงดอยอินทนนท์ซะที มัวแต่หลงระเริงอยู่กับทุ่งนาขั้นบันไดที่เขียวชะอุ่มชุ่มชื่นหัวใจที่บ้านแม่กลางหลวง เก็บภาพจนหนำใจแล้ว ก็บึ่งรถขึ้นดอยกันต่อเลย ด้วยหนทางที่ลดเลี้ยว เส้นทางที่คดเคี้ยว เอนตัวไปเอนตัวมา จะนั่งเก็บไม้เก็บมือไว้เฉยๆ ก็ไม่ใช่แนวเรา ว่าแล้วก็คว้ากล้องตัวเล็กคู่ใจออกมาเก็บภาพหนทางที่เราต้องเผชิญดีกว่า นี่ขนาด 10 โมงกว่าแล้วนะ ยังมีละอองและไอหมอกปกคลุมไปทั่ว ในที่สุดก็มาถึง "สูงสุดแดนสยาม" แล้ว ไม่อยากบอกเลยว่า มาเชียงใหม่ตั้งกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ แต่ยังไม่เคยขึ้นมาบนดอยอินทนนท์นี้เลย น่าอายจริงๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ไม่นาน เพราะข้างบนนี้หนาวมากๆ ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2553 อุณหภูมิแค่ 15 องศา ไม่ได้เตรียมตัวมาเลย มีแต่เสื้อยืดบางๆ กับเสื้อคลุมกันแดดกันลมอีก 1 ตัวแค่นั้นเอง เดินไปก็หนาวสั่นไป แถมยังมีไอน้ำหยดลงมาตลอดอีก เก็บรูปไว้หน่อย "หมุดหลักฐานจุดสูงสุดแดนสยาม" ว่าวันนี้เราได้มาเยือนที่นี่แล้ว จะไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ดอยอินทนนท์ก็ไม่ไหว ลงมาที่นี่เลยดีกว่า "พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" เสียค่าเข้าอีกคนละ 40 บาท เผื่อเป็นการทำนุบำรุงสถานที่ อุตส่าห์เตรียมเสื้อสีแดงมาอย่างดี กะว่าจะถ่ายรูปคู่กับพระมหาธาตุให้แจ่มแจ๋วเต็มที่ แต่ดูสิ เจอหมอกหนามาปกคลุมอีกแล้ว "พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" กองทัพอากาศและพสกนิกรชาวไทยได้สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ. 2535 สำหรับผู้สูงอายุหรือคนที่แข้งขาไม่ค่อยดีไม่ต้องห่วงเลย ด้านในมีบันไดเลื่อนไว้คอยให้บริการ แต่แย่หน่อยตรงที่ขาลงไม่มีนี่สิ ต้องเดินลงบันไดเอาเอง แต่เอาน่า อย่างน้อยๆ ก็น่าจะสบายกว่าตอนเดินขึ้นอ่ะนะ ด้านในมีสวนสวยๆ ให้เดินเล่น และถ่ายรูป ถ้าฟ้าแจ่ม อากาศเปิด คงจะได้รูปสวยๆ มาไม่น้อย "พระมหาธาตุนภเมทนีดล" กองทัพอากาศและพสกนิกรชาวไทยร่วมกันสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ. 2530 เดินวนอยู่ด้านบนได้ไม่นาน ก็ต้องรีบลงมา ทนความหนาวเย็นไม่ไหวจริงๆ ยังดีว่าตอนก่อนจะกลับฟ้าเปิดมานิดนึง เก็บรูปพระมหาธาตุนภเมทนีดลแบบชัดๆ มาได้นิดหน่อย พอจะหันไปถ่ายรูปพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริหมอกก็ลอยมาปกคลุมซะงั้น อย่างนี้คงต้องหาโอกาสไปถ่ายรูปแก้ตัวอีกสักรอบ ช่วงขากลับก็แวะตลาดระหว่างทางก่อน ดูสิว่ามีอะไรขายบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นพืชผักบนดอย พวกซาโยเต้ ลูกพลับ แครอท และดอกไม้เมืองหนาว ช่วงที่ลงจากดอยอินทนนท์เพื่อกลับเข้ามาในเมือง เพื่อนบอกว่า "ส้มตำหนองคาย" ร้านนี้อร่อยมาก แต่จำไม่ได้ล่ะว่าอยู่ตรงแยกไหน จำได้คร่าวๆ ว่า เป็นแยกที่เค้าจะเข้าไปล่องแพกันแน่ะ มื้อเที่ยงยามบ่ายๆ สั่งไปแค่ไม่กี่รายการเอง "ส้มตำมั่วซั่ว แหนมหมก ปีกไก่ย่าง และคอหมูย่าง" "ส้มตำมั่วซั่ว" อร่อยดี แต่เผ็ดน้อยไปหน่อย บ่ายนี้ฝนตกอีกแล้วเหรอเนี้ย ทำไมปีนี้ไปเที่ยวไหน เป็นต้องเจอฝนตลอด วันแรกมาถึงเชียงใหม่ก็โดนต้อนรับด้วยน้ำท่วมตรงทางออกสนามบินเลย รอฝนซาสักนิด ออกมาหาข้าวเย็นกินที่แถวหน้า มช. ดีกว่า "ร้านสวนนม" วนรถหาซะตั้งนาน จนในที่สุดทนไม่ไหว โทรถามดีกว่า แทนที่จะโทรถามตั้งแต่ตอนแรกนะ จะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมันรถ ตกแต่งร้านสไตล์เก๋ๆ แนวเด็กวัยรุ่น (รุ่นเราเลย ^^) เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มเย็น 2 แก้ว "ชาเขียวนม" หอมหวานชื่นใจ กับ "น้ำมะขาม" เปรี้ยวปรื้ดโดนใจ เค้าบอกว่า ถ้ามาที่นี่ให้ลองชิม "มันบด" ของร้านนี้ดู เพราะเค้าทำเอง และแยกน้ำเกรวี่ต่างหาก เผื่อใครไม่ชอบ จริงๆ แล้วยังสั่ง "มาม่าตาหลนกับสเต็กหมู" ไปอีก แต่รูปออกมาดูไม่ได้เลยอ่ะ ตอนแรกๆ เห็นชื่อ "มาม่าตาหลน" ก็แปลกใจว่าเป็นยังไง พนักงานบอกว่า เป็นมาม่าสูตรพิเศษของร้าน สั่งมาลองซะหน่อย มันก็คือมาม่าต้มยำที่ใส่ไข่ลงไปคนๆ กับแครอท ข้าวโพด และถั่วลันเตา เหมือนกับที่ทำกินเองที่บ้านเลย เดี๋ยวบ่ายๆ ก็ต้องไปหาซื้อของฝากกลับบ้านแล้ว ช่วงเช้าไม่รู้จะไปไหนดี เอาแบบที่ยังไม่เคยไปแล้วกัน ในที่สุดก็ตกลงปลงใจมาที่ "กฤษฏาดอย" ครั้งหนึ่งเคยได้ยินชื่อเรื่องความงามของที่นี่ แต่วันนี้มาถึงแล้วรู้สึกไม่ประทับใจเลย หรือว่า เราเดินเที่ยวไม่ทั่วเองหว่า.... เสียดายค่าเข้าตั้ง 40 บาทแน่ะ ช่วงนี้มีเทศกาลโหวตกันอีกแล้ว ครั้งนี้จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในหัวข้อ "กินเที่ยวทั่วไทย สไตล์บล็อกเกอร์" ซึ่งสามารถร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 ขอแรงโหวตหน่อยนะคะ "เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา" คลิ๊กได้เลยจ้า
Create Date : 06 กันยายน 2553 |
Last Update : 7 กันยายน 2553 15:13:22 น. |
|
87 comments
|
Counter : 3159 Pageviews. |
|
|
เห็นอาหารแล้วหิวได้อีก หิวแคปหมูอะ อยากทานชาเขียวนม น่าทานมากๆ