แกะปมโรบินโญ่ การซื้อขายที่มีความหมายมากกว่าเงิน

ในตอนแรก หลายๆคนก็บ่นกันครับ ว่าในซีซันนี้แทบไม่มีการซื้อขายที่เร้าใจ และกระชากอารมณ์เลย

ที่พอจะฮือฮาได้บ้าง ก็อาจจะมีเรื่องดีลโรนัลดินโญ่ไปสู่เอซี มิลาน หรือร็อบบี้ คีน ไปสู่ลิเวอร์พูล นอกจากนั้นก็เป็นการซื้อขายทั่วไป ไม่ถึงกับยิ่งใหญ่ และก็ไม่มีอะไรน่าเซอร์ไพรส์

จนวันเวลาล่วงเข้าสู่ 1 กันยายน วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายฤดูร้อน ทุกอย่างก็กลับพลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง

ภายในเวลาแค่ 1 วัน 24 ชั่วโมงกลับนานกว่าที่เคย มีการแลกหมัดกันอย่างเมามัน การวัดกำลังภายในกันระหว่างสโมสร และสุดท้ายก็มีบทสรุปที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ

โรบินโญ่ นักเตะที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นยอดดาวเตะพรสวรรค์ของทีมบราซิล ย้ายไปสู่ทีมระดับกลางๆอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในเคสของดิมิทาร์ แบร์บาตอฟไปแมนฯยูไนเต็ด ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ แต่โรบินโญ่ไปซิตี้เนี่ยะนะ ? ตลกน่า มันเกิดขึ้นได้ยังไง

ถึงเรือใบจะมีเงินเยอะ แต่เหตุผลแค่นี้น่ะหรอ ที่ทำให้โคตรดาวรุ่งว่าที่บัลลงดอร์อย่างโรบินโญ่จะยอมย้ายมา ทีมที่ได้เล่นยูฟ่าคัพ เพราะสิทธิ์แฟร์เพลย์

วันนี้เราลองมาไล่เรียงกันตั้งแต่แรกดีกว่าครับ ... ว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้ยังไง ดีลนี้มันเริ่มต้นแบบไหน

และสำหรับตัวโรบินโญ่เอง มันอึดอัดใจขนาดทนไม่ได้ที่จะอยู่เรอัล มาดริดขนาดนั้นเลยหรือ?


คนสำคัญ .. จริงหรือ?

ถ้าใครตามติดสถานการณ์โรบินโญ่มาตลอด ตอนนี้จะเห็นได้เลยว่า โรบินโญ่เป็นพระเจ้าสำหรับแฟนๆแมนฯซิตี้ไปแล้ว สำหรับเป้าหมายที่เจ้าของใหม่วางไว้ถึงอันดับ 1-4 แน่นอน เขาจะเป็นคนสำคัญที่ทีมจะขาดไปไม่ได้

และพูดก็พูดเถอะครับ สำหรับ 'การได้เป็นคนสำคัญ' เป็นสิ่งที่โรบินโญ่โหยหามาตลอดตั้งแต่เด็ก

มองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น โรบินโญ่เกิดที่เซา บิเซนเต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านคนจนที่สุดของประเทศ เขามีคุณพ่อเป็นช่างประปา มีคุณแม่เป็นแม่บ้านทำความสะอาด ทั้งคู่แค่หาเงินไปวันๆเพื่อให้เลี้ยงครอบครัวอยู่รอดเท่านั้น

โรบินโญ่เคยบอกว่า พ่อแม่ทำงานหนักมากในแต่ละวัน เขาตื่นมาพ่อแม่ก็ออกไปทำงานแล้ว กว่าทั้งคู่จะกลับมา เขาก็นอนแล้ว เป็นแบบนี้ทุกวัน

การที่ไม่ได้รับความใส่ใจมาตลอด มันทำให้เขารู้สึกว่าอยากกลายเป็นคนสำคัญของใครสักคนบ้าง ...

และในที่สุดเขาก็ได้รับสิ่งนั้น .. จากโลกของฟุตบอล

ด้วยพรสวรรค์อันเอกอุของโรบินโญ่ ทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่เล่นฟุตซอลในวัย 10 ขวบแล้ว ก่อนที่จะย้ายมาเล่นฟุตบอลกับซานโตส และคว้าแชมป์แรกได้ทันทีตอนอายุ 18

ในวินาทีนั้น เขากลายเป็นคนที่โด่งดังคับฟ้าในบราซิล ฝีเท้าของเขาทำให้คนยกย่องถึงเปเล่ เขากลายเป็นบุตรแห่งซานโตสที่ใครๆก็ห้อมล้อม

ดังนั้นมันจะแปลกอะไรครับ ... เมื่อเขาจะทนไม่ได้ พอโดนปฏิบัติอย่างคนละเรื่องตอนอยู่เรอัล มาดริด


ความจริงใจของราชัน

ถ้าใครยังจำเรื่องการซื้อขายของโรบินโญ่ กับเรอัลได้ ตอนนั้นซานโตสเรียกค่าตัว 30 ล้านยูโรสำหรับโรบินโญ่ ซึ่งสำหรับนักเตะโด่งดังขนาดนี้ ราคาก็ไม่ได้ถือว่าแพงเลย

แต่เรอัล ก็เล่นแง่ ยืดเยื้อเรื่องราคาอยู่นาน และสุดท้ายก็ยื่นคำขาดว่าจะจ่ายแค่ 24 ล้านยูโรเท่านั้น มากกว่านี้ก็ไม่เอาแล้ว

คิดดูนะครับ โรบินโญ่อำลาเพื่อนๆ เตะแมตช์อำลาแฟนๆซานโตสที่เขารักไปแล้ว แต่เรอัล ก็ยังไม่สนใจ คือไม่ไยดีถ้าซานโตสไม่รับราคาที่เสนอ ไม่เอาก็ได้

ทำให้โรบินโญ่ จึงต้องทำใจควักเงินของตัวเองอีก 6 ล้านยูโร เพื่อนำไปโปะส่วนที่ขาด จะได้ไปตัดปัญหาไปเสียที

นี่ก็หนึ่งกระทงแล้วนะครับ เริ่มต้นมาก็ไม่น่าประทับใจแล้ว เป็นใครจะไม่น้อยใจครับ ทีอย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ทางเรอัล ประกาศว่าพร้อมจะจ่ายค่าตัว 80 ล้านยูโร แบบไม่อิดออดเลย คนละเรื่องกับเขาที่ต้องควักเนื้อทำให้ทุกอย่างมันจบด้วยตัวเอง

อีกเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน ก็คือเรื่องค่าเหนื่อยครับ ในขณะที่โรบินโญ่ เป็นคนสำคัญสุดๆของเรอัลชุดปัจจุบัน การมีอยู่ของเขานั้นส่งผลให้ทีมวูบวาบขึ้นเป็นเท่าตัว

แต่ค่าเหนื่อยที่ได้รับ เชื่อมั้ยครับว่าอยู่ที่ 2 ล้านยูโรต่อปี หรือประมาณ 30,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น ให้ตายเถอะ น้อยกว่าสตีฟ ซิดเวลล์ ด้วยซ้ำ

โรบินโญ่ กับเอเยนต์ พยายามเรียกร้องขอค่าเหนื่อยที่สมน้ำสมเนื้อมาตลอดหลายปี แต่เรอัล ก็เมินเฉย

ในทางตรงกันข้าม กับผู้เล่นตัวเก๋าอย่างราอูล และคาซิยาส มาดริดต่อสัญญาสัปดาห์ละแสนปอนด์ตลอดชีพไปแล้ว เช่นเดียวกับกูตี ที่ก็เพิ่งได้สัญญาตลอดชีพไปแล้วเช่นกัน

เรื่องบทบาทของโรบินโญ่ในสนาม ไม่ได้ด้อยไปกว่าราอูล และกูตีแน่ แต่การถูกปฏิบัติกลับผิดกัน ราวกับดับเบิล สแตนดาร์ด

นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่สำคัญเช่นกัน ที่โรบินโญ่เริ่มกระด้างกระเดื่อง และไม่อยากจะอยู่ในซานติอาโก้ เบร์นาบิวแล้ว

แต่จุดที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้เขารู้สึกว่าพอกันที กับเรอัล มาดริด ก็คือการที่โดนขวางไม่ให้ไปเล่นโอลิมปิก

ทั้งๆที่เรอัล ก็ไม่มีโปรแกรมการแข่งอะไรที่สำคัญ แต่พวกเขากลับไม่ให้โรบินโญ่ไปเล่นในรายการที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด

เหมือนแกล้งกันชัดๆ

และนั่นก็เป็นชนวนชิ้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของโรบินโญ่สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ

เขาพอแล้วกับมาดริด จะให้ย้ายไปที่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่


เมื่อไม่ไหว ใครจะทน?


เหตุผลที่เรอัล ยอมขายโรบินโญ่ให้ซิตี้ ทางเปแดร็ก มิยาโตวิช ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรกล่าวว่า 'เพราะเป็นเหตุผลทางการกีฬา'

แล้วเจ้าเหตุผลทางการกีฬานี่มันควรจะแปลว่าอะไรล่ะ ? ก็หมายความว่า การมีอยู่ของโรบินโญ่จะทำให้สภาพทีมตกต่ำลง สู้ขายทิ้งไปเสียดีกว่า


ตอนที่เรอัลคาดว่าจะได้ตัวคริสติอาโน่ โรนัลโด้แน่ๆ แล้ว พวกเขาก็ทำอย่างกับโรบินโญ่เป็นของทิ้งของขว้าง เตรียมเร่ขายให้สโมสรอื่นๆ เพราะแน่นอนครับ เมื่อเจ้าโด้จิ๋วย้ายมา ตำแหน่งตัวจริงก็ต้องเป็นของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

ซึ่งทำให้ทางโรบินโญ่ ทั้งน้อยใจ และฉุนขาด ประกาศไม่ขอลงเล่นในศึกซูเปอร์คัพ ที่ปะทะกับบาเลนเซีย

นอกจากนั้นยังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ โจมตีสโมสร โจมตีประธาน โจมตีทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ เขาทำให้ในทีมเรอัล มาดริด แบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน คือฝ่ายที่เห็นว่าเรอัลผิดเพราะปฏิบัติไม่ดีกับโรบินโญ่ก่อน กับฝ่ายที่มองว่าโรบินโญ่ผิดเพราะทำตัวไม่เป็นมืออาชีพแบบนั้น

ตอนนี้สภาพทีมของเรอัล มีปัญหาภายใน และการขัดแย้งทางความคิดแล้ว ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อเกมในสนามอย่างเห็นได้ชัด

ไม่แปลกอะไรครับ ที่เรอัล จะโดนคำสาปเดปอร์ติโบเล่นงาน จนพ่ายในเกมแรกของลา ลีกาทันที

แล้วด้วยสภาพนี้น่ะหรอ ? จะทำให้ทีมผ่านเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกได้สบายๆอย่างเคย อย่าลืมนะว่าคู่แข่งของเขาในกลุ่ม H คือยูเวนตุส โคตรทีมจากกัลโช่ กับ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่ไล่อัดแมนฯยูไนเต็ดมาแล้ว

ดังนั้นตัวปัญหา ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดอย่างโรบินโญ่ ต้องถูกกำจัดไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ก่อนที่ตลาดจะปิดตัวลง

ซึ่งข่าวความขัดแย้งภายในสโมสรนี้ แน่นอนว่าไม่มีทางเลย ที่จะรอดพ้นสายตาของบรรดายอดทีมในยุโรปไปได้

โดยเฉพาะเชลซี ที่หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ยืนยันว่าอยากได้โรบินโญ่มาร่วมทีม

และพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเกมนี้ เป็นต่อเรอัลอยู่หลายช่วงตัวทีเดียว


ศึกประลองกำลังด้วยช่องว่าง 1.5 ล้าน


โรมัน อบราโมวิช เจ้าของธุรกิจพลังงานของรัสเซีย เขามีทรัพย์สินส่วนตัวหลายหมื่นล้านปอนด์ และความสุขที่สุดอย่างหนึ่งของเขา ก็คือนั่งในบ็อกซ์วีไอพีที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ คอยดูทีมออลสตาร์ของตัวเอง ไล่ขยี้คู่แข่งจนกระเจิง

ถ้าคุณมีเงินหนึ่งหมื่นบาท คุณจะเจียดซื้อขนม 32 บาท 50 สตางค์ ที่ชื่อโรบินโญ่ มันคงไม่ใช่ปัญหาใช่มั้ยครับ

สำหรับอบราโมวิชเขาไม่แคร์อยู่แล้วเรื่องเงินแค่นี้

แต่คนที่แคร์ คือซีอีโอ อย่างปีเตอร์ เคนย่อนครับ

สังเกตมั้ยครับว่าการซื้อขายในปัจจุบัน เมื่อไหร่ก็ตามที่นักเตะคนหนึ่ง มีชื่อของเชลซีเข้ามาเกี่ยวด้วย ราคาจะต้องถูกปั่นสูงขึ้นไปกว่าเดิมหลายเท่า

มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อคุณรู้ว่าลูกค้าเป็นเศรษฐีมือเติบ ที่พร้อมจะจ่ายเงินอยู่แล้ว แค่ตั้งราคาไว้แพงอีกนิดคงไม่มีปัญหาอะไร

อบราโมวิชอาจไม่สนใจ แต่เคนย่อนในฐานะผู้บริหารทีม เขาปล่อยให้ความเชื่อนี้ดำเนินต่อไปแบบผิดๆอย่างนี้ไม่ได้ครับ

ความรู้สึกของเคนย่อน อยากให้เชลซี เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ด้วยตัวของตัวเอง ด้วยบารมี ไม่ใช่ด้วยตัวเงินที่มหาศาล

ดังนั้นเขาจึงตั้งกฎในใจหนึ่งข้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมใหญ่ๆอย่างแมนฯยูไนเต็ด หรือเอซี มิลานทำอยู่เป็นประจำ นั่นคือ ยื่นคำขาด ยื่นราคาไป ถ้าคิดว่ามันมากพอแล้ว อีกแค่ปอนด์เดียวก็จะไม่เพิ่มให้

ในกรณีโรบินโญ่นี้ก็เช่นกัน

เรอัล มาดริด ตั้งค่าตัวโรบินโญ่ที่ 32.5 ล้านปอนด์ แต่เชลซีพร้อมจะจ่ายให้ที่ 31 ล้านปอนด์เท่านั้น

ช่องว่างแค่ 1.5 ล้านปอนด์ จริงๆแล้วแทบไม่มีความหมายอะไรเลยกับทั้งสองทีม มันเป็นจำนวนเงินที่น้อยนิดมากๆ แต่ที่ไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน ก็เพราะเรื่องศักดิ์ศรีมันค้ำอยู่ครับ

การที่ทีมราชันชุดขาว ต้องยอมโอนอ่อนให้ทีมอื่นด้วยการลดค่าตัวจากที่เคยบอกไว้ เป็นเหมือนการประกาศว่าตัวเองจนตรอกแล้ว

แต่เชลซีนั้น จังหวะนี้ได้เปรียบเยอะครับ เพราะเขารู้ดีว่า ยังไงเสียจากปัญหาภายในมาดริด ทำให้ต้องปล่อยโรบินโญ่แน่

พวกเขาจะรอไปเรื่อยๆอย่างใจเย็น จนถึงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย แล้วในที่สุดเรอัล มาดริด ก็จะโทรศัพท์มาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อบอกว่าจะยอมลดราคาเหลือ 31 ล้านปอนด์แน่นอน และเชลซีก็จะเป็นผู้ชนะในศึกนี้อย่างแท้จริง

ทว่าหารู้ไม่ สิ่งเดียวที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกมุมหนึ่งของประเทศ

กลุ่มอาบู ดาบี ยูไนเต็ด ที่ว่ากันว่า รวยกว่าอบราโมวิช 20 เท่า ได้เทกโอเวอร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้เรียบร้อยแล้ว

และเจ้าเรือใบสีฟ้าลำนี้ล่ะ ที่จะกลายเป็นหอกข้างแคร่ของเชลซีนับจากบัดนี้ไป


ทำไมถึงเป็นโรบินโญ่ ?


ทันทีที่พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือ 'แฟรงค์ ซินาตร้า' ได้ขายหุ้นเกือบทั้งหมดทิ้งให้กลุ่มธุรกิจอาบู ดาบี ยูไนเต็ด หรือ ADUG

เมื่อ ADUG ก้าวขึ้นมาเป็นบอร์ดบริหารใหม่ แน่นอนครับต้องอยากโชว์ให้แฟนบอลตัวเอง รวมทั้งทีมอื่นๆได้เห็นอยู่แล้ว ว่าพวกเขาทำอะไรได้บ้าง

ต้องลองคิดตามนะครับ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะ 1 วันเท่านั้น เริ่มจากการเทกโอเวอร์เสร็จสิ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม เหลืออีก 24 ชั่วโมงเท่านั้นการซื้อขายจะปิดตัวลง

ทางบอร์ดบริหารใหม่ จึงทำการติดต่อกับมาร์ก ฮิวจ์ส อย่างรวดเร็วตั้งแต่เช้า และคุยกันอย่างเปิดอก ว่าทีมต้องการใครมาเสริมทีมบ้าง

ใครก็ได้ ที่สปาร์กี้อยากได้ ... พวกเขามั่นใจขนาดนั้นว่าเงินถึง

ฮิวจ์ส ลิสต์ชื่อไปทั้งหมด 4 ชื่อให้บอร์ด ซึ่งได้แก่ ดาวิด บีญ่า,รุด ฟาน นิสเตลรอย,มาริโอ โกเมซ และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

สังเกตได้ว่าทั้งหมดเป็นกองหน้าครับ ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะจุดอ่อนของแมนฯซิตี้ในขณะนี้ คือขาดแนวรุกตัวจบสกอร์ ที่ลำพังแค่โจ คนเดียวไม่พอแน่นอน ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ก็ยังเด็กเกินไปที่จะให้มาแบกรับความรับผิดชอบอะไรมากมาย ส่วนเบนจานี่,วาสเซลล์ และโบยินอฟ ไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่รู้จะหายจากอาการบาดเจ็บเมื่อไหร่

บีญ่า,ฟาน นิสเตลรอย,โกเมซ สามคนนี้สโมสรมีจุดยืนชัดเจนคือไม่ขาย แมนฯซิตี้จึงแห้วไป
(และเหตุที่มีข่าวว่าทีมเรือใบ ซื้อขายแบบสะเปะสะปะ ก็เป็นเพราะแบบนี้ล่ะครับ )

ส่วนเบอร์บาตอฟเป็นคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด และสเปอร์สก็ยอมรับค่าตัว 34.5 ล้านปอนด์ที่ซิตี้ยื่นให้แล้ว เหลือเพียงแค่ติดต่อเจ้าตัวให้มาเซ็นสัญญาให้ได้ภายในกำหนดเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น


แต่ปัญหาก็คือ ติดต่อเบอร์บี้ไม่ได้ ทั้งฝ่ายแมนฯซิตี้ และฝ่ายสเปอร์ส ต่างพยายามกันเต็มที่ แต่ก็หาตัวเบอร์บาตอฟไม่พบ โดยไม่รู้ว่าอยู่ไหน

แล้วเบอร์บาตอฟอยู่ไหน? ตอนนั้นเขาปิดโทรศัพท์มือถือ และไปที่แคร์ริงตัน สนามซ้อมของแมนฯยูไนเต็ดไงครับ เพราะหัวใจของหัวหอกบัลแกเรียมีเพียงแค่แมนฯยูไนเต็ดเท่านั้น

ซึ่งเมื่อตัวนักเตะไม่อยากเซ็นสัญญากับเรือใบ แมนฯซิตี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลยครับ นอกจากรอเบอร์บาตอฟเปลี่ยนใจ ซึ่งดูแล้วก็ยากจริงๆ

เวลาขมวดเข้ามาเรื่อยๆ เข้าสู่ช่วงเย็นแล้ว ตอนนี้เวลาซื้อขายก็เหลือแค่ 6-7 ชม.เท่านั้น แต่แมนฯซิตี้ ที่มีเงินมหาศาลยังไม่สามารถซื้อใครได้เลยแม้แต่คนเดียว

ทางบอร์ดบริหารได้ติดต่อกลับมาหาฮิวจ์ส อีกครั้ง โดยถามว่า ถ้าไม่ได้เบอร์บาตอฟ เปลี่ยนเป็น โรบินโญ่แทนล่ะจะได้มั้ย?

มาร์ก ฮิวจ์ส นั้นแน่นอนครับว่าอยากได้โรบินโญ่ขาดใจ แต่เขาเชื่อว่าเรอัล มาดริดไม่มีทางที่จะปล่อยออกมา อย่างไรก็ตามทางอาบู ดาบี ยูไนเต็ด ที่มีเส้นสายอยู่ทั่วโลก พวกเขารู้ข่าวเชิงลึกครับ พวกเขารู้ดีว่าโรบินโญ่มีปัญหาอยู่กับเรอัล

ในขณะที่ตอนนี้ทางเรอัล จริงๆกำลังจะจนแต้มแล้วครับ เพราะต้องยอมเสียหน้าให้เชลซีแล้ว เนื่องจากไม่มีทางให้โรบินโญ่อยู่กับทีมต่อไปแน่นอน ขนาดแบรนด์ ชุสเตอร์ ยังออกมาขอร้องประธานสโมสรเลยครับ ว่าให้ขายไปซะ

บอร์ดเรือใบเห็นช่องรีบติดต่อกับเปแดร็ก มิยาโตวิชทันทีสอบถามถึงว่าจะเป็นไปได้มั้ยที่จะขายโรบินโญ่ให้แมนฯซิตี้ ซึ่งมิยาโตวิชตอบกลับมาครับ ว่าถ้ามีเงินถึง 32.5 ล้านปอนด์ ไม่ว่าทีมไหนก็ยอมขายได้ทั้งนั้น

แมนฯซิตี้ยอมจ่ายทันทีโดยไม่มีต่อรอง สำหรับเรอัล มาดริด นี่เหมือนสัญญาณช่วยชีวิต พวกเขาตอบตกลงอย่างง่ายดาย เหลือเพียงแค่ว่า โรบินโญ่จะตอบตกลงกับทีมระดับยูฟ่าคัพอย่างแมนฯซิตี้มั้ย?

ทางตัวโรบินโญ่เอง เขาก็อยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนเช่นกัน ใจก็ไม่อยากอยู่สเปนต่อไปแล้ว แต่จะให้ย้ายไปอยู่ทีมระดับเล็กลงเนี่ยนะ มันจะคุ้มกันหรอ

แต่บอร์ดของซิตี้ ได้ยืนยันถึงจุดยืนว่า จะพาทีมไปแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้ในฤดูกาลนี้ พร้อมทั้งให้ค่าเหนื่อยโรบินโญ่มหาศาล ซึ่งหลายสื่อระบุว่าราวๆแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่บางฉบับก็บอกว่า มากถึง 160,000 ปอนด์ขนาดนั้นเลย

ซึ่งว่าไปแล้วสองเรื่องดังกล่าวมันก็ดึงดูดความสนใจไม่น้อย

ยิ่งในแมนฯซิตี้ มีผู้เล่นบราซิลอยู่แล้วทั้งโจ และเอลาโน่อยู่ ก็น่าจะช่วยเขาในการปรับตัวได้พอสมควร

สถานการณ์บีบคั้น โรบินโญ่เองก็รู้ว่าเรอัล กับเชลซี จะตกลงกันไม่ได้แน่ และเขาก็ไม่ขอทนอยู่กับมาดริดไปอีกครึ่งปีแน่ๆ ดังนั้นทางออกกับแมนฯซิตี้จึงเป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด

สุดท้าย ดีล มหัศจรรย์ราคา 32.5 ล้านปอนด์ก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี

โรบินโญ่แฮปปี้ได้ย้ายออกจากมาดริด

แฟนบอลแมนฯซิตี้แฮปปี้ได้นักเตะระดับโลกมาเสริมทีม

บอร์ดแมนฯซิตี้แฮปปี้ได้แสดงให้โลกเห็นว่าพวกเขามีเงินมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้

เรอัล มาดริดแฮปปี้ ที่ขจัดปัญหาออกจากทีมได้

ในขณะที่เชลซี ถึงไม่ได้ตัวโรบินโญ่ ก็แฮปปี้เช่นกัน ที่ไม่ยอมเสียจุดยืนของตัวเองจนวินาทีสุดท้าย

สรุปแล้วในการซื้อขายอันชุลมุนนี้ ก็จบลงด้วยดี ถึงจะไม่ใช่ทุกคนที่แฮปปี้ แต่คนส่วนใหญ่ได้แฮปปี้ มันก็โอเคแล้ว

ก้าวต่อไปของเจ้าหนูโรบินโญ่


ไม่มีใครรู้ครับ ว่าโรบินโญ่ จะปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้ดีแค่ไหน

จะเป็นเหมือนเฟอร์นันโด ตอร์เรส ที่ปรับตัวได้อย่างเร็วตั้งแต่ซีซันแรก หรือเป็นเหมือนอัลเบิร์ต ลูเก้ ที่ดับอนาถไปสนิท

ต้องมาคอยดูกันครับ เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

แผนการเล่นคร่าวๆ ทีมเรือใบ คงใช้หมากกองหน้าสองคนอย่างเคย มี โรบินโญ่ กับ โจ เป็นคู่หน้า ส่วนแผงกลางสี่คนน่าจะมี เปตรอฟ,เอลาโน่,ไอร์แลนด์ และชอว์น ไรท์ ฟิลลิปส์

ดูจากรายชื่อแล้ว ก็นับว่าน่ากลัวใช้ได้ ไม่แพ้ทีมระดับท็อปโฟร์สักเท่าไหร่

ซึ่งบททดสอบว่าพวกเขาจะเป็นของจริงหรือไม่ คือเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกที่จะกลับมาเล่นหลังเกมทีมชาติ

เหมือนสวรรค์เล่นตลก แมนฯซิตี้ จะเปิดซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียมปะทะกับเชลซี ทีมที่ตามจีบโรบินโญ่มานานนับเดือน แต่ก็ต้องผิดหวัง

ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร โรบินโญ่จะทำให้เชลซีเสียดายมากแค่ไหนที่ไม่ได้ตัวเขามา หรือเชลซีจะแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้โรบินโญ่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับทีม

วันเสาร์ที่ 13 กันยายนรู้กันครับ

เจ้าของหมายเลข 10 คนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

'โรบินโญ่'

จะเป็นคนให้คำตอบด้วยตัวเขาเอง

จาก //www.soccersuck.com

Create Date : 06 กันยายน 2551		2 comments
Last Update : 6 กันยายน 2551 13:18:42 น.
Counter : 1301 Pageviews.
Share Tweet