Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท : คนเล็กยอดนักเตะ !

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเลือกได้ คงไม่มีใครอยากเกิดมาจน หรือไม่สมประกอบ แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังแย่ หรือโลกกำลังจะล่มสลาย โปรดรู้ และจำเอาไว้ว่า โลกนี้ยังมีคนที่ประสบเคราะห์กรรมแย่ ๆ มากกว่าคุณเสมอ



เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่คุณเกิดมาเป็นยังไง หรือ ต้องพบเจอกับอะไร แต่อยู่ที่คุณจะยอมรับมัน และอยู่กับสิ่งที่คุณเป็น และเจอได้ดีขนาดไหน สำหรับคนกลุ่มนี้ พวกเขาอาจจะไม่ได้เกิดมามีทุกอย่างเพียบพร้อมเหมือนกับคนทั่วไป แต่พวกเขาไม่เคยบ่นว่าโชคชะตา ตรงกันข้าม พวกเขายอมรับ และอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข ที่สำคัญ พวกเขายังพยายามที่จะทำทุกทางเพื่อให้โลกได้รู้ว่า พวกเขาก็มีตัวตนบนโลก และสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ

บราซิล คือ ประเทศที่ให้กำเนิดสุดยอดนักเตะของโลกมายาวนาน แต่วันนี้ สถานที่เดียวกันนี้ จะเป็นสถานที่ซึ่งได้รับการบันทึกว่า จัดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมคนแคระ กับ คนปกติ ครั้งแรกในโลก ถึงแม้จะเกิดมาตัวเล็ก แต่ไม่ได้หมายความว่าใจจะเล็ก ว่าแล้ว ในเดือนม.ค. 2551 กลุ่มนักเตะแคระ 18 คน ในรัฐพารา ก็รวมตัวกันก่อตั้งทีมฟุตบอลคนแคระขึ้น

พวกเขาเรียกตัวเองว่า "ไจแอนเตส ดู นอร์เต" ในภาษาท้องถิ่น หรือ "ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท" ในภาษาอังกฤษ นี่คือทีมฟุตบอลคนแคระทีมแรกของโลก แน่นอนว่า "ไจแอนต์ส" ที่แปลว่า "ยักษ์" ในชื่อทีม (ซึ่งมาจากการเลือกกันเองของสมาชิก) ไม่ได้พูดถึงขนาดของร่างกาย แต่หมายถึงขนาดของจิตใจ และนั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสู้แค่ไหน ส่วนสูงเฉลี่ยของทีมฟุตบอลทีมนี้ไม่ถึง 4 ฟุต นักเตะที่สูงที่สุดของพวกเขามีความสูง 4 ฟุต 7 เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และผู้รักษาประตู ถ้าใครไม่รู้ว่าสูงขนาดไหน จินตนาการเอาว่า เขาสูงไม่ถึงเข่าของ ปีเตอร์ เคราช์ ก็แล้วกัน ขณะที่เตี้ยที่สุดไม่ต้องพูดถึง เพราะอยู่ที่เพียงแค่ 3 ฟุต 3

ตัวตั้งตัวตีสำคัญในการก่อตั้ง "ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท" คือ คาร์ลอส ลูเซนา โค้ชฟุตบอลอาชีพ ซึ่งเป็นคนปกติ ที่มารับหน้าที่เป็นโค้ชให้ทีม ลูเซนา ได้ไอเดียในการฟอร์มทีมนี้ขึ้นมาหลังจากที่เขาเชิญนักฟุตบอลคนหนึ่งในทีม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท มาร่วมซ้อมกับทีมเยาวชนของเขา แล้วพบว่า นักเตะคนดังกล่าวมีฝีเท้า และพรสวรรค์ที่เหลือเชื่อมาก ต่อมาในเดือนม.ค. ของปีนี้ เขาจึงรวบรวมผู้เล่นได้ 18 คน และก่อตั้งขึ้นเป็นทีมอย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยพวกเขาจะตระเวนเดินทางไปเล่นกับบรรดาทีมเยาวชนทั่วประเทศ

เขาบอกว่า สาเหตุสำคัญที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานนี้ เป็นเพราะนักเตะบอกกับเขาว่า พวกเขาอยากก่อตั้งทีมนี้เพราะมีจุดประสงค์หลักคือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของบรรดาคนแคระในสังคม และอยากให้คนทั่วไปเลิกมีอคติเรื่อง "ขนาด" ของร่างกายได้แล้ว



การแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมคนแคระ กับ คนปกติ ครั้งแรกในโลก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2551 ที่สนามบาร์คาเรนัว สเตเดี้ยม ในเมืองเบเลม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ติดกับแม่น้ำอเมซอน โดยทีมคนปกติที่ลงเล่นกับพวกเขาคือทีมท้องถิ่นบาร์คาเรนัว ชุดเยาวชนอายุ 13 ปี

กติกาทุกข้อที่ใช้ในเกมนี้ยึดหลักสากล พวกเขาลงเล่นในสนามขนาดมาตราฐานที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ลงเล่น และประตูก็เป็นขนาดเดียวกับที่ คริสเตียโน โรนัลโด ชอบยิง ส่วนผู้เล่นก็มีฝ่ายละ 11 คนเหมือนที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก เวลาของการแข่งขัน อาจจะนานเพียงแค่ 40 นาที แต่มันคือ 40 นาทีแห่งประวัติศาสตร์ และอาจจะเป็น 40 นาทีที่สำคัญที่สุดสำหรับคนแคระทั่วโลก

ผลการแข่งขัน ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท แพ้ไปตามคาด 2-5 แต่พวกเขาต่อสู้อย่างเต็มที่ และสมศักดิ์ศรียิ่ง นอกจากนั้น มันยังเป็นเกมฟุตบอลในสไตล์บราซิลอย่างแท้จริง เพราะเกมดูสนุกตลอดเวลา มีทั้งการต่อบอลสั้นสลับยาวที่ลื่นไหล และการโชว์ความสามารถเฉพาะตัวให้แฟนๆ ฮือฮาตลอดทั้งเกม

อย่างไรก็ดี นั่นคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะสิ่งที่สำคัญ และมีค่ากว่าก็คือ การที่พวกเขาแสดงให้โลกเห็นแล้วว่า ถึงแม้สภาพร่างกายจะไม่ปกติ แต่พวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ เกมนี้ได้รับความสนใจจากแฟนบอลมากมาย และก็มีการรายงานข่าวไปทั่วโลก ลูเซนา เล่าให้ฟังว่า แฟน ๆ ในสนามทุกคนวันนั้นมีความสุขมาก และบรรดาลูกทีมนักเตะแคระของเขาก็กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลไปเรียบร้อยแล้ว

เรามาเพื่อนำความสุขมาให้ทุกคน และนั่นก็คือเหตุผลทั้งหมดของเราด้วย ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เรานำความสนุกไปให้ที่นั่นด้วยทีมฟุตบอลที่สุดแสนมหัศจรรย์นี้ โค้ชของทีม เผยอย่างสุดปลื้ม ในส่วนของตัวผู้เล่นนั้น มีหลายคนที่น่าสนใจ โดยสตาร์อันดับ 1 ของทีมอย่าง คาเซมิโร ริเบโร ได้โชว์ลีลาการครองบอลลากเลื้อยหลบคู่ต่อสู้อย่างคล่องแคล่วจนได้รับฉายาว่า "วากเนอร์ เลิฟ" ตามชื่อของนักเตะกองหน้าทีมชาติบราซิล

ขณะที่ อันโตนิโอ ดอส ซานโต๊ส นักเตะชื่อดังอีกคน บอกว่า การได้ลงเล่นให้ทีม ทำให้เขามีความสุขมาก เพราะมันทำให้ทุกคนมองเขาด้วยสายตาที่แตกต่างจากตัวตลกกลายเป็นขวัญใจ ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างแท้จริง "ก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกโดดเดี่ยว และไม่มีความสุขในชีวิต แต่ทุกคนในทีมทำให้ผมกลายเป็นอีกคน ผมมีความสุขมาก เนื่องจากผมเคยถูกรังเกียจ เพราะเป็นคนแคระ แต่ตอนนี้ ทุกคนมองผมเป็นขวัญใจของพวกเขา มันทำให้ผมมีความสุขที่สุดแล้วในชีวิต"



เส้นทาง และเรื่องราวที่ผ่านมาของ "ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท" แน่นอนว่า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตรงกันข้าม มันเต็มไปด้วยกรวดหิน และขวากหนาม แต่วันนี้ พวกเขาพิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า ไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาไม่ให้ทำตามความฝันได้ และนับจากวันนี้ พวกเขากำลังจะกลายเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ เมื่อ "กินเนสส์ บุ๊ค" กำลังจะบักทึกเรื่องราวของพวกเขาลงในหนังสือฉบับประจำปีนี้

กินเนสส์ บุ๊ค จะบันทึกว่า ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท คือที่สุดของโลกในแง่ไหนเรายังไม่รู้ แต่นอกจากพวกเขาแล้ว กินเนสส์ บุ๊ค ยังจะต้องบันทึกชื่อของ อดิตยา "โรมิโอ" เดฟ เอาไว้ในฐานะ นักเพาะกายที่ตัวเล็กที่สุดในโลกด้วย

"โรมิโอ" สูงแค่ 2 ฟุต 9 หนัก 9 กิโลกรัม แต่เขาสามารถยกลูกเหล็กน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัมได้ เขาไม่เหมือนคนแคระทั่วไป นั่นคือ รูปร่างได้สัดส่วนเหมือนคนปกติ เพียงแต่เล็กกว่ามาก ศีรษะของเขาก็ไม่ใหญ่เหมือนคนแคระทั่วไป โดยวัดรอบศีรษะได้ 15 นิ้ว และวัดรอบอกได้ 20 นิ้ว หนุ่มวัย 19 ปี เริ่มต้นเพาะกาย เมื่อ 2 ปีก่อน และเชื่อกันว่าตอนนี้ เขาคือคนแคระที่แข็งแรงที่สุดในโลก ซึ่งด้วยเหตุนี้ ทำให้เขากำลังมีชื่อเสียงอย่างมากในเมือง Phagwara ของอินเดีย

เขาเล่าให้ฟังว่า เขาเคยถูกเชิญไปออกรายการทีวีหลายครั้ง และเคยรับเชิญไปขึ้นเวทีประกวดการเต้นต่าง ๆ มาแล้วมากมาย ชื่อเสียงของ โรมิโอ ทำให้เขาไม่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ และเขาก็สามารถยึดการเพาะกายเป็นอาชีพได้ แต่นั่นไม่ใช่จุดหมายปลายทางในชีวิตของเขา เพราะสิ่งที่ โรมิโอ ปรารถนาที่สุดก็คือ การได้เดินทางเยอะ ๆ และต้องการไปแข่งขันที่ลอนดอนพร้อมกับ "เจซซี-บี" ขวัญใจอันดับ 1 ของตนเองสักครั้ง

นวนิยายชีวิตของ โรมิโอ และ ไจแอนต์ส ออฟ เดอะ นอร์ท อาจจะเป็นเรื่องราวของคนตัวเล็ก แต่สิ่งที่พวกเขาทำ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หัวใจของพวกเขาไม่ได้เล็กเหมือนขนาดตัว และพวกเขาก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ด้วยมือของตัวเอง ที่สำคัญที่สุด พวกเขาทำให้พวกเราแล้วว่า ถึงแม้จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่พวกเขาเลือกที่จะเป็นได้....เช่นเดียวกับคุณ ?

ข้อมูลและภาพประกอบจาก


กานต์ พึ่งกัน




Create Date : 27 เมษายน 2551
Last Update : 27 เมษายน 2551 8:21:15 น. 0 comments
Counter : 1519 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.