ซึ่งบริษัทเราเป็น Associate Member ได้สิทธิ๋ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุม 2 ท่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ล้อหมุนเช้าตรู่ จากหน้าโรงแรม Inter Continental มุ่งหน้าหัวหิน
ทริปนี้ มีทีม See Town ช่วยจัดด้วย ก็เลยมีการแวะเที่ยวระหว่างทาง
จุดแรกก็หยุดไหว้พระกันที่ วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) จังหวัดเพชรบุรี
พอรถจอด มองออกนอกหน้าตา ก็เจอศาลาเล็กนี้ก่อนเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาไว้ทำอะไร เป็นมาอย่างไร
ที่แนๆ คือ พอลงจากรถบัสกันได้ ก็วิ่งหาห้องน้ำกันก่อน เพราะอั้นมานานแล้ว
ออกจากห้องน้ำมองเห็นยอดเจดีย์ ไม่ใช่ทรงระฆังคว่ำที่เห็นจนชินตา ไม่แน่ใจว่าเป็นศาสนาสถานของวัดนี้ หรือว่าอยู่บนพระนครคีรีกันแน่
ก็ไม่รู้จะถามใคร ...ตั้งเป็นคำถาม ถามตัวเองไว้ในใจ เอาไว้มีโอกาส ค่อยมาหาคำตอบภายหลัง
เรามีเวลาไหว้พระเที่ยวชมวัดนี้เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ....ทำเวลาหน่อยดีกว่านะ
ว่ากันถึงเมืองเพชรบุรี เป็นถิ่นของช่างฝีมือ ทั้งงานแทงหยวกกล้วย งานปูนปั้นในวัดต่างๆ ก็งามขึ้นชื่อ
เราก็สอดส่ายสายตามองหา ก็มาเจอะเอา หอไตรกลางน้ำ เข้าซะก่อน
ไม่ใช่ปูนบั้นสวย แต่เป็น งานแกะสลักไม้ที่หน้าบัน ...สวย
ส่วนงานปูนปั้น ก็มายืนดูที่หน้าบันโบสถ์นั่นแหละ ...เดาว่า โบสถ์นี้ คงบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่อ่ะนะ
สังเกตดีๆ จะเห็นว่า ลักษณะของช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ของหอไตรกับโบสถ์นั่น ต่างกัน
ประมาณว่า เป็นงานศิลปะที่สร้างขึ้น "คนละยุคสมัย"
ก็ว่ากันไป ตามตำรางานสถาปัตยกรรมไทยละกัน ...เรายังไม่แตกฉาน ถือว่า "ลองจับสังเกต" เท่านั้นเอง
เข้าไปกราบนมัสการพระประธานในโบสถ์ก่อน
ปกติเวลาเข้าวัด เราจะยึดกราบพระประธานของโบสถ์เป็นหลัก เพราะถึอว่าเป็นประธานใหญ่ของวัด
ส่วนพระสำคัญที่ใครต่อใครนิยมกัน บางทีก็เป็นพระสำคัญในพระวิหาร ซึ่งเราก็สนใจนะ แต่ไม่เน้น
ดังนั้น เพื่อนร่วมคณะหลายคนจึงมุ่งตรงไปกราบพระนอนก่อน ....เราก็เลยเข้ามานั่งพินิจพิเคราะห์ชมงานศิลปะในโบสถ์แบบสบายๆ
จากนั้นก็เข้าไปกราบนมัสการ "พระนอน" พระประจำวันเกิดเราเอง อธิษฐานให้การเดินทางปลอดภัย การประชุมราบรื่น
แล้วจึงมาเดินหามุมถ่ายรูปงามๆ แต่ไม่สามารถจริงๆ มุมกล้องมันไม่ได้อย่างทีใจอยากได้
เก็บมาแต่แบบมุมแคบๆ เท่านั้น
และที่สำคัญ ในพระวิหารหลังนี้ มีแผ่นสังกะสีมุงหลังคาที่รัชกาลที่ 5 พระราชทานไว้ด้วย
เนื่องจากเดิมนั้น องค์พระตากลมตากฝนอยู่นาน พระองค์จึงโปรดฯ ให้สร้างพระวิหารครอบองค์พระไว้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ก็มีวิหารเล็กๆ ภายในพระภาพ "พระพุทธฉาย" หรือเงาพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่
ที่หน้าบันวิหารหลังนี้ ก็มีงานปูนปั้นประดับกระจกสี สวยงามเช่นกัน
หมดเวลาชมวัดแล้ว กลับมาขึ้นรถแล้วเดินทางกันต่อ
ยังคงแวะเที่ยวในเขตจังหวัดเพชรบุรีอยู่
จุดหมายต่อมาคือ พระรามราชนิเวศน์ หรือ พระราชวังบ้านปืน
รัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างขึ้นเป็น "พระตำหนักสำหรับแปรพระราชฐาน" แต่มาสร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6
เป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกเต็มรูปแบบ มีตุ๊กตากระเบื้องฝรั่งสวยๆ ประดับตกแต่งอยู่ภายใน
บางห้องมีลวดลายตกแต่งด้วยลายจีน ...แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ก็ไม่มีภาพมาให้ชม
มีมัคคุเทศก์น้อย นักเรียนมัธยม นำชม อธิบายเล่าเรื่องความเป็นมาในการก่อสร้าง
ลักษณะศิลปะที่ตกแต่งอย่างฉะฉาน ...คล่องแคล่ว แป๊บเดียว ก็เดินชมจนทั่ว
ภายในนั้นมีลมโกรก พัดผ่านตลอดเวลา สมกับเป็นสถานที่สำหรับ "พักร้อน" จริงๆ
ตอนออกมาขึ้นรถ เพื่อเดินทางต่อ ในสนามก็กำลังมีพิธีสวนสนามของทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำกัน
เดินแถวอำลาท่านนายพล....เป็นแถวเป็นแนว สวยเชียว
เราส่งสายตาอำลานายทหาร ออกจากค่ายทหารแห่งนี้ มุ่งหน้าไปรับประทานอาหารกลางวันริมแม่น้ำเพชรบุรี
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล.