ผจญไต้ฝุ่น @ Hong Kong : Part VIII
ความเดิมตอนที่แล้ว
ดูท่าทางแล้วเรื่องเล่าจากทริปฮ่องกงของเรา คงจะมีจำนวนตอนมากกว่าทริปอื่นๆ ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เจอฝน เจอไต้ฝุ่น ไปไหนก็ไม่ได้มาก แผนการเที่ยวก็ไม่มี แล้วยังถ่ายรูปยากอีก แต่ปรากฎกว่า นั่งจัดการทำรูป ไปๆ มาๆ ก็มองเห็นว่า รูปถ่ายกลางสายฝนก็สวย รูปถ่ายที่มีหมอกปกคลุมก็สวย เรียกได้ว่า สวยไปหมด ....เพราะเชื่อ (เอาเอง) ว่าน้อยคนจะเที่ยวตอนมีไต้ฝุ่นโจมตีอย่างเรา
พอถึงวันที่ 2 ก็เป็นวันที่ไต้ฝุ่นอูตอร์เคลื่อนตัวไปอีกนิด แต่อิทธิฤทธิ์ยังคงอยู่ ฮ่องกง ไม่ได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการแต่อย่างใด พอตื่นมาเจอแสงแดด -บ้าง- ก็เลยดีใจ
รีบจัดการอาบน้ำแต่งตัว ...วันนี้ตั้งใจจะไปไหว้พระใหญ่ แล้วค่อยแยกย้ายตามอัธยาศัย เพื่อน 2 คนซื้อบัตรดิสนีย์แลนด์ไว้แล้ว หากอากาศดีพอ ก็จะแยกเที่ยวในช่วงกลับจากไหว้พระ เพราะอยู่ในเส้นทางเดียวกัน ส่วนอีกคน ก็จะกลับเข้าเมืองมาช้อป ...รายนี้ตั้งใจมาเพื่อช้อปสินค้ามาขายอยู่แล้ว แหม..กำหนดการสุดยอดมาก ...แต่จะบรรลุรึป่าว ก็คอยติดตามไป
เช้านี้ เริ่มต้นกันมื้อเช้ากันด้วย "ติ่มซำ" มาถึงฮ่องกงทั้งทีไม่กิน ไม่ได้ แต่พวกเราไม่ไปกินอาหารร้านเดิม ...เรื่องอะไรจะซ้ำ ออกจากที่พักคราวนี้ ขอเลี้ยวขวาบ้าง เดินไปเรื่อยๆ ตามหาร้านในหนังสือคู่มือ ...ไม่เจออีกตามเคย ก็เลยแวะร้านที่เคยเดินผ่าน เมื่อวานนี้ ไม่ไกลจากที่พัก
ป้ายหน้าร้านบ่งบอกว่า ที่นี่มีติ๋มซำ ดูจากเมนูแล้วก็หลากหลายอยู่นะ แต่ราคาเริ่มต้น 20 HKD ไม่ใช่ 4 HKD อย่างที่อ่านรีวิวเจอ เรามาตั้ง 4 คนกลัวอะไร ยังไงก็ใช้ระบบ American share อยู่แล้ว ...สั่งเลย วิธีการสั่งก็คือ จิ้มภาพในเมนู .... ง่ายจะตาย
ร้านนี้ คนแน่นร้านแต่เช้า และเป็นร้านที่ทัวร์พาลูกค้าแวะด้วย เห็นเดินเข้ามาเป็นชุดๆ หลายกลุ่มอยู่ คนพื้นที่ก็มากินร้านนี้ ส่วนใหญ่จะสั่งประเภทก๊วยเตี๋ยวและข้าว มีติ่มซำมาเสริม ไอ้ที่สั่งแต่ติ่มซำเป็นหลัก ก็พวกเราเองนั่นแหละ พนักงานยกเข่งมาวาง ขนมจีบ ฮะเก๋า ซี่โครงนึ่ง ซาลาเปา ขนมผักกาด อีกเข่งคืออะไรจำไม่ได้ แล้วก็มีซุปสาหร่ายมาไว้ซดและเติมความอุ่นในช่องท้อง อร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง จนต้องเรียกพนักงานมาสั่งซ้ำด้วย เราชอบ "ขนมผักกาด" ที่สุดเลย มีเนื้อหัวไช้เท้าเป็นชิ้นบางๆ ไม่ได้มีแต่แป้งแบบที่กินในบ้านเรา มื้อนี้ ก็หารกันไปคนละ 60 HKD อิ่มสบายท้อง
ออกเดินมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟฟ้า เราจะข้ามไปเกาะ Lantau กัน
คนบนท้องถนน ยามเช้า เดินกันขวักไขว่เช่นเคย เสียงสัญญานเตือนให้เร่งข้ามถนน เมือไฟคนข้ามเป็นสีเขียว ดังเร่งเร้าให้เร่งรีบทุกครั้ง มาถึงในสถานี ที่รีบ ก็เดินตามทาง ส่วนที่ไม่รีบ ก็ใช้บริการทางเลื่อน ^^ และในสถานีนอกจากมีร้านขายของแล้ว ก็ยังไม่จุดบริการอินเตอร์เนทและ wifi free ด้วย
จากสถานี East Tsim Sha Tsui บ้านเรา เรานั่งสายสีแดงมาเปลี่ยนเป็นสายสีเหลืองที่ Lai King แม้ว่าสถานีนี้จะใหญ่ มีทางเดินกวาง และมีทางเข้าทางออกเยอะมาก แต่ด้วย "ป้ายบอกทาง" ที่ชัดเจน และป้ายบอกติดเป็นระยะๆ ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่ฮ่องกง ไม่ยากลำบากนัก แม้จะพูดคุยกันไม่ค่อยเข้าใจ เพราะใช้คนละภาษา แต่ป้ายก็มีภาษาอังกฤษให้เราชี้ๆ จิ้มๆ ถามได้
นั่งรถออกจากเขตเมือง ไปยังชานเมือง ไม่ได้เห็นแต่อุโมงค์หรอกนะ พอถึงช่วงข้ามเกาะจากเกาลูนไปลันเตา เราก็ได้เห็นวิวทิวทัศน์บ้าง ...เขาลูกนี้คงเป็นที่ตั้งฮวงซุ้ยประจำเกาะ พื้นที่กว้างใหญ่ มองเห็นป้ายวิญญาณเบียดเสียด เต็มไปหมด
มองดูแล้ว นึกถึงฉากในซีรีย์ฮ่องกง หลายเรื่องคงมาถ่ายทำที่นี่ ...เดาอีกตามเคย
ที่อยู่อาศัยของคนเป็น ก็อยู่กันเบียดเสียดเช่นกัน ...ดูอย่างในตึกที่พักของเราก็ซอยได้หลายห้อง พอออกมาเดินตามถนน ก็เห็นแต่ตึกสูง ออกมานอกเมือง ก็ยังมีตึกสูงอีก
เส้นทางนี้วิ่งเร็ว จอดน้อย .... และเป็นสายที่วิ่งไปดิสนีย์แลนด์ ผู้คนที่ขึ้นมาใหม่ ก็เลยเป็นครอบครัวและมีเด็กๆ ที่ดูตื่นเต้น ...จนเราก็ตื่นเต้นอยากแวะเที่ยวบ้าง พอผ่านสถานี Sunny Bay กลุ่มครอบครัวก็ลง รถโล่งและเงียบลงเยอะ สถานีสุดท้าย Tung Chung ถึงแล้ว คนที่มาถึงที่นี่แบ่งเป็น 2 พวก คือ พวกอยากช้อปกับอยากไหว้พระ เพราะที่นี่ มีห้าง City Gate Outlet ขายสินค้าแบรนด์เนมในราคาเอาท์เลท ...เราแวะเข้าห้องน้ำกัน
ยังไม่ช้อปตอนนี้ เพราะตั้งใจไปไหว้พระกันก่อน ...สภาพอากาศ ณ จุดนี้ คือ ลมแรงมาก แต่ไม่มีฝน
โดยทั่วไป การขึ้นไปไหว้พระใหญ่นั้น บริษัททัวร์จะพาลูกทัวร์ใช้บริการ Hong Kong Nong Ping 360 Cable Car
แต่เพราะอากาศแปรปรวนด้วยอิทธิฤทธิ์ของพายุไต้ฝุ่น กระเช้าไฟฟ้าก็ปิดบริการชั่วคราว
อีกทางหนึ่งนั้น ก็คือนั่งรถเมล์ ขึ้นเขา จากคู่มือก็ใช้เวลาเดินทางราวๆ หนึ่งชั่วโมงได้
พอจัดการกับตัวเองกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินหาท่ารถ
และนี่คือแถวของนักท่องเที่ยว ทั้งประเภทเที่ยวเองและประเภทมากับบริษัททัวร์ ยาวเหยียด และไม่ขยับ
ไหนๆ พวกเราก็เดินทางมาด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม ก็ตกลงใจต่อแถวกัน
คำนวณเวลาขึ้น เวลาเดินเที่ยว และเวลาลงมา เพื่อนร่วมทางเราก็เลยตัดใจ ยกเลิกการเที่ยวดีสนีย์แลนด์ไปซะ
กลับเมื่องไทย ก็ปล่อยขายบัตรออนไลน์กันไป
รออยู่นานมาก รถเมล์สาย 23 มาทีละคัน ก็จัดผู้โดยสารขึ้นไปได้ราวๆ 50 - 60 คน
รอจนเพื่อนเราอีกคนถอดใจ ขอกลับเข้าเมืองไปช้อปปิ้ง
คล้อยหลังเพื่อนคนนั้น ก็มีรถเสริมเข้ามาให้ใจชื้น อีกราว 2-3 คัน
แถวผู้โดยสาร ก็เลยขยับไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น และในที่สุดพวกเรา 3 คน (ที่เหลือ) ก็ได้ขึ้นไปนั่งบนรถซะที
มองจากภายนอก รถเมล์ดูคันเล็กนะ แต่ปรากฎว่า ทำที่นั่งแบบ 3 + 2 ก็เลยจุผู้โดยสารได้เยอะ และไม่รู้สึกว่าเบียดกันด้วย
ค่าโดยสาร ก็จ่ายด้วยบัตร Octopus สะดวกสบาย ง่ายดาย
วิวทิวทัศน์ที่มองเห็นผ่านกระจก มัวเล็กน้อย ด้วยหมอกหนา สลับฝนพรำบางช่วง
เส้นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว เลี่ยวไปมา คล้ายๆ กับตอนที่นั่งรถจากเชียงใหม่ไปเมืองปาย
นอกจากต้นไม้เขียวๆ แล้ว ยังมองเห็นวิวทะเลด้วย ซึ่งเราว่า ถ้านั่งกระเช้าข้ามไป คงไม่เห็นอะไรแบบนี้
เมื่องกำลังขยายตัว เราจะเห็นการก่อสร้างและการปรับปรุงในหลายๆ จุดสำคัญ แม้กระทั่งบนเกาะแห่งนี้
ผ่านหมู่บ้านสลับทิวไม้ และแล้วในที่สุดก็ถึงจะหมายปลายทาง ท่ามกลางหมอกหนา โปรดติดตามตอนต่อไป
| Create Date : 01 ตุลาคม 2556 |
| Last Update : 1 ตุลาคม 2556 21:15:48 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 1450 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [
มาเยี่ยมชม มาทักทาย
มาขอเกาะเป้แฝงตามเที่ยวไปด้วยนะครับ ก็อ่านบทบรรยายพร้อมชมภาพตามไปตลอกก็เหมือนได้ตามเที่ยวไปด้วยจริง ๆ เลยครับ ผมว่าคุณนัทเลือกภาพกับเขียนบทบรรยายได้สอดคล้องกันดีเลยครับ อ่านไปชมภาพตามไปผมเพลินเลยครับ ผมว่าในหลาย ๆ บล็อกที่ผ่านคุณนัทถ่ายภาพออกมาได้โอเคนะครับ ได้เห็นโฟกัสสำคัญของสิ่งที่กำลังเล่าถึงอย่างครบถ้วนครับ ผมชอบนะครับ
ว่าแล็วก็ต้องรีบกดโหวตให้ด้วยครับ
+++++
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
นัทธ์ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
+++++
อิอิ