วันวานที่ปีนัง : Part XI
ความเดิมตอนที่แล้ว
เช้าวันสุดท้ายของทริปปีนัง ...มีฝนลงเม็ดปรอยๆ วันนี้เป็นวัน "ตามอัธยาศัย" ใครจะใคร่เก็บตกตรงไหน ก็แยกย้ายกันไป ใครจะนอนรออยู่ที่โฮสเต็ล ก็นอนไป เราลงมากินอาหารเช้า (ของฟรี ต้องกินให้เต็มที่)
อิ่มแล้ว ก็เลยเก็บภาพที่พักเอาไว้หน่อยนึง
เป็นโฮเทลเล็กๆ ปรับปรุงจากอาคารเก่าแบบชิโนโปรตุกีส ในจอร์จทาวน์ ห้องพักจะมีตั้งแต่ 4 เตียงขึ้นไป (เตียง 2 ชั้น) มีล๊อคเกอร์ในห้อง มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แยกต่างหาก
นี่เป็นครั้งแรกที่นอน โฮสเทล นอนเตียงสองชั้น แล้วต้องออกจากห้องพักมาอาบน้ำ ถือว่าประหยัดดี และไม่น่ากลัวอะไร เพราะห้องนี้มีแต่เพื่อนเรา เวลาเราตื่นขึ้นมาอาบน้ำทำธุระ ห้องอื่นๆ ก็ยังไม่ตื่น พอเราเข้าที่พักกัน ห้องอื่นๆ ก็ยังไม่กลับ หรืออาจจะกลับแล้วแต่อยู่ในห้องก็ได้ ตลอดที่นอนอยู่ 3 คืน ได้เห็นเพื่อนร่วมที่พักน้อยมากกกกกก คงเป็นเพราะสไตล์การเที่ยวต่างกัน ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่เราพบคือ เสียงเดินของเพื่อนร่วมที่พัก "ดังมาก" คงเป็นเพราะว่า ที่นี่ดัดแปลงจากอาคารเก่า พื้นเป็นไม้ เวลาเดินก็เลยมีเสียงดัง เพราะพวกอเมริกัน (หรือยุโรป) เขาคงไม่เคยเดินกันเบาๆ บนพื้นไม้มาก่อน
จัดการเก็บสมบัติลงกระเป๋าเตรียมไว้ก่อนออกไปตระเวนรอบเช้า นัดกันว่ากลับมาเจอกันตอน 11 โมงเพื่อเช็คเอาท์ แล้วหาอาหารเที่ยงกิน ก่อนเดินทางไปสนามบิน
เช้าวันสุดท้ายนี้ เราตั้งใจจะไปเดินชม "พิพิธภัณฑ์ (แห่งชาติ) เมืองปีนัง" ....เป็นธรรมดาของเราเอง ที่อยากเรียกรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นที่เราไปเยือน ผ่านพิพิธภัณฑ์ ว่าแล้วก็กางแผนที่ ออกเดิน มีเพื่อนเดินตามมาอีก 1 คน
อากาศยามเช้าสะอาด สดชืืน มีละอองฝนเล็กน้อย ก็เลยไม่กางร่ม (สวมหมวกไว้) เวลาถ่ายรูปจะได้ไม่เกะกะ ผู้คนในเมืองยังหลับไหล เพราะเป็นวันหยุด รถก็น้อย มาคิดดูอีกที อาจเป็นเพราะตัวเราเองที่ไม่ค่อยชอบถ่ายภาพคนรึป่าว เวลาถ่ายรูปอะไร ก็ต้องเลี่ยงให้คนเดินผ่านไปซะก่อน แล้วค่อยกดชัตเตอร์ ....ภาพถ่ายสถานที่ของเราจึงดู "แห้งและไร้ชีวิต"
มันก็อาจจะเหมาะสำหรับเก็บไว้ใช้ในการศึกษา "ศิลปะ สถาปัตยกรรม" ก็เป็นได้ ทำยังไง ก็บอกให้ตัวเองถ่ายรูปติดคนไม่ค่อยได้ซะที ต้องค่อยๆ หัด ค่อยๆ ปรับตัวกันต่อไป เดินมาเรื่อยๆ ก็ผ่านบ้านจีนหลังหนึ่ง ...บ้านนี้เปิดให้เข้าชม (แบบเสียเงิน) อีกเช่นกัน แต่ว่ายังเช้าเกินกว่าจะแวะ และถ้าแวะขากลับ ก็ไม่ทันอีก เลยอาศัยภายภาพจากภายนอกกำแพงแทน
กว่าจะเดินมาถึงพิพิธภัณฑ์ เราก็หยุดถ่ายภาพตึกสวยๆ ไว้อีกหลายภาพ แต่ไม่อยากแปะไว้มากนัก เพราะดูไปดูมาก็คล้ายๆ กันอยู่
เอาล่ะ เดินมาถึงพิพิธภัณฑ์ซะที
ที่นี่ ใช้อาคารเก่ามาจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงความเป็นมาของเกาะปีนัง พร้อมทั้งเรื่องราวในประวัติศาสตร์ช่วงต่างๆ และห้องแสดงศิลปวัฒนธรรม ทั้งของชาวเปอรานากัน ชาวจีน และชาวมลายู มีทั้งเนื้อหา และสิ่งของจัดแสดงประกอบ ที่ทำให้ดูเข้าใจ "ความเป็นเกาะปีนัง" ได้เป็นอย่างดี
รถรางขึ้นเขาปีนัง คันเก่าแก่
ภายในห้องจัดแสดงจะมีเจ้าหน้าที่ประจำห้อง แบบพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร มีบางจุด มีระบบอธิบายด้วยเสียง (ใส่หูฟัง) ด้วย พอเดินมาถึงห้องเล่นเกม ...เราก็เลยไปขัดสมาธิหัดเล่นเกมกับเจ้าหน้าที่ซะ
เคยเห็นเกมลูกเกมแบบนี้มาแล้ว เป็นเกมฝึกสมาธินะ ใช้เวลานั่งเล่นกว่าจะ "ชนะ" ก็นานอยู่ ให้กลับไปเล่นใหม่อีกที คงต้องใช้เจ้าหน้าทีสอนใหม่ เพราะลืมไปแล้วว่ากติกาเป็นยังไง
ถ่ายรูปภายในห้องจัดแสดงไว้เยอะนะ แต่แสงน้อย ภาพไหวเยอะด้วย ก็เลยเก็บไว้ดูเอง ไม่แปะไว้ใน blog ด้วยหรอกนะ
ออกจากพิพิธภัณพ์มา ก็มาเจอคณะทัวร์ชาวจีน นั่งสามล้อเที่ยวเล่นพอดี คงเป็นเส้นทางชมเมืองอ่ะนะ ....
นักเที่ยวขยันเดิน (เพราะงก) อย่างเรา ก็ออกเดินวนกลับที่พัก ไปตามเส้นทางใหม่
และแล้ว ก็ได้พบกับงานศิลปะข้างผนังอีกชิ้นนึง ซึ่งถ้านั่งรถ ก็คงไม่ได้เห็น
โปรดติตตามตอนต่อไป
Create Date : 09 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 9 มิถุนายน 2556 8:14:02 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1965 Pageviews. |
|
|
|