เดินทอดน่อง ท่องย่านจีน : Part V
ความเดิมตอนที่แล้ว
ทิ้งช่วงไปนาน กลับมาเดินเที่ยวย่านตลาดน้อยกันต่อ ตอนนี้เราออกจากบ้านโซวเฮงไถ่ หรือบ้านคุณนายดวงตะวันกันแล้ว พ้นจากซอยบ้านก็จะเจอชุมชนเล็กๆ ที่ไม่ปรากฎชื่อเสียงเรียงนาม ยังคงมีผู้อยู่อาศัยกัน แถวนี้แต่เดิมมีโรงเผาถ่านด้วย และทีท่าเรือสำหรับขนส่งลำเลียงถ่านออกขาย ปัจจุบันไม่ได้ "ทำถ่าน" อีกแล้ว กลายเป็น "เพิง" ที่อยู่ของบรรดาพ่อค้าแม่ขายแถวๆ นี้แหละ
รถคลาสสิกคนนี้ ก็จอดอยู่ตรงนี้มาชั่วหาตาปี ไม่ขยับเคลื่อนขายไปไหน กลายเป็นภาพสัญลักษณ์ของพื้นที่ ใครผ่านมาเที่ยว ก็ต้องถ่ายรูปกลับไปทุกที
ส่วนบ้านหลังนี้ วิทยากรบอกว่าเป็นบ้านเดิมของคุณสุเมธ ตันติเวชกุล สมัยเด็กๆ ท่านก็วิ่งเล่นอยู่แถวตลาดน้อยเช่นกัน
เดินไปอีกนิด เลี้ยวขวาอีกหน่อย คณะเดินเที่ยวก็เข้าถึงพื้นที่ของศาลเจ้าโจวซือกง ศาลเจ้าชื่อดังและเก่าแก่ประจำย่าน
ศาลเจ้าโจวซือกง หรือวัดซุนเล่งยี่ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และสำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่งของชาวจีนฮกเกี้ยนในประเทศไทย สร้างขึ้นประมาณปีพ.ศ.2347 ประดิษฐานพระเซ่งจุ๊ยจ้อซือ เป็นเทพเจ้าประธานของศาลเจ้า
นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าอื่นๆ ที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือ เช่น สามสิบหกเทพเจ้า เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิบ เจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อเสือ พระสังกัจจายน์ ลักษณะสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นแบบปลายราชวงศ์ชิง แม้จะมีการซ่อมแซมหลายครั้ง แต่ก็ยังคงรักษาแบบอย่างเดิมไว้ มีงานตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบและการเขียนสีที่สวยมากๆ ละเอียดละออ ประณีตบรรจงสุดๆ
เราก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าภาพกระเบื้องนั้น เล่าเรื่องอะไร ได้ดูดูความงดงามด้วยทึ้ง แต่ตุ๊กตาประดับหลังคา เสือขาว-มังกรเขียว ที่ด้านในนั้น เป็นเรื่อง "ไซอิ๋ว" ด้านนึง อีกด้านก็ไม่รู้อีกตามเคย
ของแบบนี้ ต้องดูให้มาก อ่านให้มาก แล้วสักวันหนึ่งจะเข้าใจตำนาน ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม อย่างทะลุปรุโปร่งไปเอง นอกจากตุ๊กตาประดับ และการประดับกระเบื้องตกแต่งจะงามแล้ว งานแกะสลักไม้ก็งดงามไม่แพ้กัน
ดื่มด้ำ ฟังตำนาน (ที่เราจำ) จนได้เต็มอิ่มสมองกันถ้วนหน้าแล้ว ก็ได้เวลาแยกกันไปเติมเต็มกระเพาะซะที บางกลุ่มก็ไปเดินหาอะไรกันในตลาดน้อย บางคนก็จะตรงเข้าเยาวราช เรากับเพื่อนยืนอยู่ใกล้ๆ กับเจ้าของ guest house ด้านหลังศาลเจ้า เธอก็ชวนขึ้นไปชมวิวแม่น้ำด้านบนกันก่อน ...ก็ใจง่ายเดินตามเธอไป
River View Guest House นี้ ปรับปรุงใหม่ สะอาดสะอาด แต่ลิฟท์ตัวเล็ก และเรามันพวกใจร้อน เลยเดินขึ้นบันไดไป ....แค่ 8 ชั้นเอง จิ๊บๆ ระหว่างเดินขึ้น ก็ดูวิวภายนอกไปด้วย ก็เลยเก็บหลังคาบ้านเก่าของคุณสุเมธมาด้วย
เดินขึ้นมาถึงชั้นบนสุด ปรับปรุงเป็นร้านอาหารด้วย เข้าท่า เข้าทาง เมื่อยได้ที ก็เลยปักหลัก ชมวิวไป กินข้ามื้ือเที่ยงไปซะ เอาให้อิ่ม เรายังต้องเดินในภาคบ่ายกันต่ออีกหลายจุด
ดูไปดูมา เราว่าวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มองจากตึกนี้ สวยดีนะ อาจจะสวยกว่าตึกที่ทำงานของเราซะอีก
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2556 |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2556 9:02:08 น. |
|
5 comments
|
Counter : 3574 Pageviews. |
|
|
|
มีอีกมากมุมที่ยังไม่มีใคร
เคยเห็น กล้วก็ ผมด้วย
กรุงเทพฯ กว้างใหญ่เหลือเกินครับ