+-+-+-+-+-+เที่ยวสัปดาห์หนังสือ โดยไม่ต้องเข้าไปในงานสัปดาห์หนังสือ+-+-+-+-+-+-+
update 9/4/09 8PM.
+-+-+เที่ยวสัปดาห์หนังสือ โดยไม่ต้องเข้าไปในงานสัปดาห์หนังสือ+-+-+
อนุญาตให้งงกับหัวข้อเรื่องได้ 1 นาที
เนื่องจากโดยนิสัยส่วนตัวแล้ว ผมชอบซื้อหนังสือลดราคา (อย่างที่เคยเขียนไว้ใน tag คราวที่แล้ว)
แม้ว่าจะเจอหนังสือที่อยากซื้อ อยากอ่านแบบสุดๆ ตอนนั้นเดี๋ยวนั้นเลย แต่ถ้าไปเจอมันอยู่ในร้านหนังสือที่ขายในราคาเต็มและผมไม่มีบัตรสมาชิก ผมก็มักจะรอไปซื้อที่งานหนังสือหรือไม่ก็ร้านที่ผมมีบัตรลดเสมอ (ไม่งั้นก็ยืนอ่านฟรีในร้านเลย....ความโฉดเฉพาะตัว ห้ามเลียนแบบ)
ที่ทำแบบนี้ได้ ไม่ใช่ว่าเป็นคนใจเย็นหรอกนะครับ แต่เพราะกองหนังสือในตู้ที่ผมซื้อมาดองแล้วยังไม่ได้อ่านมีมากมายก่ายกองเหลือเกิน ขนาดที่ว่า ถ้าโลกนี้จะไม่มีการผลิตหนังสืออีกแล้ว (แบบหนัง Farenheit 451) ผมก็ยังจะมีหนังสือไว้ยังชีพต่อไปได้อีกหลายปีเลยล่ะครับ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ไม่ว่าหนังสือเล่มนั้นจะน่าอ่านขนาดไหน พอคิดถึงหนังสือดองกองมหึมาประมาณ 50 เล่มแล้ว ไม่ว่าหนังสือเล่มใหม่เรื่องไหน น่าอ่านแค่ไหน ต่อให้เป็นหนังสือรวมภาพน้องพอลล่าในชุดว่ายน้ำก็เหอะ ก็เข้าข่ายรอได้สำหรับผมเสมอ
แม้จะรู้ว่า การซื้อหนังสือในสัปดาห์หนังสือแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ยอมซื้อในร้านหนังสือ ถือเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเสียให้กับวงการหนังสือหลายอย่าง นอกจากจะทำให้ร้านหนังสือเล็กๆ อยู่ยาก สำนักพิมพ์ตั้งราคาสูงเกินจริงเผื่อนำไปลดราคา ระบบร้านหนังสือเสียสมดุลแล้ว ยังส่งผลให้เหล่าสำนักพิมพ์แห่กันออกหนังสือแค่ในช่วง สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เท่านั้น ผมจึงอดทึ่งกับอุดมการณ์ของคุณมกุฏ อรดีแห่งสำนักพิมพ์ผีเสื้อที่ว่า จะไม่มีหนังสือของสำนักพิมพ์ผีเสื้อขายในงานนี้เด็ดขาด ไม่ได้
แต่ของอย่างนี้ เข้าตำราว่า ผิดถูกรู้หมด แต่อดไม่ได้ คือรู้ว่าไม่ดี แต่ก็ขอซื้อหนังสือในงานนี้ต่อไป ตราบใดที่ผมยังอยู่ในสภาพเบี้ยน้อยหอยน้อยแบบนี้
แต่พอมาปีนี้ การไปสัปดาห์หนังสือแห่งชาติกลายเป็นเร่องยุ่งยากสำหรับผม เพราะผมเพิ่งย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่เชียงใหม่ จะให้นั่งรถทัวร์เชียงใหม่-กทม.เพื่อไปงานนี้โดยเฉพาะเลยก็ดูเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปหน่อย แถมร้านหนังสือในเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้านนายอินทร์ สุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ ร้านสามัญชนก็พากันลดกระหน่ำ ร้านเล่าก็ออกบัตรสมาชิกลด 10% มาอีก ก็เลยตกลงใจว่า ซื้อหนังสือที่เชียงใหม่ก็น่าจะได้เหมือนกันล่ะน่า อย่าถ่อไปถึงโน่นเลย
แต่เนื่องจาก Its written (ขอกระแดะเป็น Slumdog Millionaire หน่อยนะ 555) ทำให้น้องสาวของผมโทรมาบอกว่า "จะไปงานหนังสือ แล้วช่วงวันหยุดยาวจะมาหาที่เชียงใหม่ จะเอาอะไรไหม" โอ้ว อย่างซี่มันต้องถอน ก็เลยต้องจัดไป อย่าให้เสีย... ด้วยความเกรงใจกลัวว่าจะแบกมาหนัก ผมเลยกะว่า ฝากให้น้องซื้อหนังสือมาให้ 10 เล่มพอ (นี่แกเกรงใจแล้วใช่ไหมเนี่ย...) โดยตรวจสอบดูในอินเตอร์เนทคร่าวๆ ว่ามีหนังสือเล่มไหนออกแล้วก็บอกชื่อหนังสือกับสำนักพิมพ์คร่าวๆ ให้น้องไปตามหาเอาเองตามยถากรรม
และเผื่อมีเล่มไหนหลุดรอดหูรอดตา ผมจึงบอกให้น้องไปดูที่บู๊ทของสำนักพิมพ์เจ้าประจำที่ผมชอบซื้อบ่อยๆ ซึ่งมีรายนามดังต่อไปนี้
-openbooks -a book -มติชน -วงกลม -สามัญชน -สารคดี -วินทร์ เลียววาริณ -นายอินทร์ -ฟ้าเดียวกัน -Alternative Writers -เนชั่น -ระหว่างบรรทัด
แล้วโทรเช็คดูว่า มีหนังสืออะไรที่น่าสนใจออกใหม่บ้าง
และแล้วหนังสือที่ผมฝากซื้อก็มาอยู่ในมือผมแล้วตอนนี้ (แต่ตังค์ค่าหนังสือยังไม่อยู่ในมือน้อง...แถวบ้านเรียกแอบชิ่ง) เรามาดูกันดีกว่าว่า รายนามหนังสือผู้โชคดี (หรือเปล่า?) มีอะไรบ้าง
มาดูที่แรกกันเลยดีกว่า
1. Openbooks Review No.1 (Summer 2009) ผู้เขียน: รวมผู้เขียน บรรณาธิการ: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
Bookazine (พ็อคเก็ตบุ๊คที่ออกเหมือนแมคกาซีน) ฉบับปฐมฤกษ์ เนื้อหาเกี่ยวกับแวดวงวรรณกรรม กำหนดออกปีละ 2 ครั้ง แม้จะแอบหวั่นใจกับ bookazine ของสำนักพิมพ์นี้ เพราะชอบหยุดทำกลางคันทุกที อย่างเช่น openhouse, open dragon แต่เห็นว่าเนื้อหาน่าสนใจ เพราะเนื้อหามีทั้งเรื่องคุณรงค์, กนกพงศ์ฯลฯ แถมน้องบอกว่ารูปเล่มสวยมาก เลยต้องซื้อเก็บไว้
2. ผู้นำ อำนาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่ ผู้เขียน: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ชอบตั้งแต่ลงในนิตยสารค.คนแล้วครับ ปกติผมชอบไปยืนอ่านคอลัมน์นี้ในค.คนฟรีตามแผงหนังสือ (คู่กับคอลัมน์คนในหนังของคุณธิดา ผลิตผลการพิมพ์) แต่เนื่องจากเจ้าของร้านหนังสือชอบส่งสายตาอำมหิตมาให้ ผมเลยอ่านแบบไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไร สุดท้ายเลยอ่านแบบรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เร่องบ้าง แย่จริงๆ (ยังมีหน้าไปว่าเขาอีกนะเรา) พอเขาทำเป็นรวมเล่ม เลยถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะซื้อเก็บไว้ เป็นหนังสือที่เขียนดีมาก แต่ผมเป็นคนชมใครไม่เก่ง เลยขอยกเอาคำนำของคุณสฤณี อาชวานันทกุลมาลงไว้ในที่นี้แทน
คุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา หรือที่ผู้เขียนเรียกด้วยความภาคภูมิใจว่า พี่โญ เป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องการเมืองและนักการเมืองที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง ในบรรดานักเขียนไทยทั้งหมดที่ผู้เขียนรู้จัก พี่โญมีความสามารถอย่างน่าอัศจรรย์ในการมองและเชื่อมร้อยบริบทต่างๆ ใน ภาพใหญ่ ของสังคม เข้ากับ ภาพเล็ก ในระดับ ความเป็นมนุษย์ ของนักการเมืองแต่ละคน ตลอดจนอธิบายปฏิสัมพันธ์ระหว่างความเป็นมนุษย์กับอํานาจ อีกทั้งยังทําให้เรื่องที่สลับซับซ้อนอย่างการเมืองเป็นเรื่องเข้าใจง่ายและอ่านสนุก ด้วยลีลาและชั้นเชิงทางภาษาที่หาตัวจับยาก ในเมื่อบริบทต่างๆ ที่แวดล้อมการเมืองย่อมแปรเปลี่ยนไปเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง การลงแรงจารึกบริบทเหล่านี้ไว้ในหน้ากระดาษ จึงทําให้ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่ เป็นอิสระจากพันธนาการของเวลา คือหยิบมาอ่านเมื่อใดก็เข้าใจเมื่อนั้น ในทางกลับกัน การฉายภาพให้เห็น ความเป็นมนุษย์ ของนักการเมือง ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ทางการเมืองไม่น้อยไปกว่าบริบทระดับสังคม ก็ช่วยให้เราสําเหนียกถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของอํานาจ และแยกแยะได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้นว่า ใครสมควรเป็น ฅ.คนข้างฝา ที่ควรค่าแก่การเคารพทุกยุคสมัย
3. ทางโลก: สุรา ความรัก และนักสู้ประชาธิปไตย ผู้เขียน: วรพจน์ พันธุ์พงศ์
สมัยก่อนชอบหนังสือของคุณวรพจน์มาก แต่ปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนรสนิยม เริ่มเบื่อหนังแนวลุ่มลึกกับชีวิต หันไปชอบแนวเสียดสี ตลกร้าย ช่วงหลังเลยไม่ค่อยได้อ่านงานของเขาเท่าไร แต่ก็ยังตามซื้อหนังสือของเขาเก็บไว้ทุกเล่ม ตอนแรกลังเลอยู่นานพอสมควรว่าจะซื้อเล่มนี้ดีไหม เพราะจากการลองไปเปิดหนังสือเล่มนี้อ่านที่ ร้านเล่า พบว่า หนังสือเล่มนี้โปร-พธม.ซะจนน่าขนลุก แถมเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ปาไปค่อนเล่ม จะหนีไปอ่านเรื่องกินเหล้า เดินป่า ความรักก็ไม่ค่อยมีให้อ่านเท่าไร แต่สุดท้ายก็ยังซื้อมาอ่านอยู่ดี ตามภาษาคนรักใคร่ (ในตัวอักษร)
4. จุดไฟในสายลม ผู้ให้สัมภาษณ์: วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เรียบเรียง: อธึกกิต แสวงสุข
อ.วรเจตน์เป็นอาจารย์ที่ยึดมั่นในหลักการเสมอ ในยุคที่หลักการโดนดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับหลักกู คำพูดของอาจารย์จึงเป็นความเห็นที่ควรรับฟัง เป็นที่น่าดีใจที่ทาง openbooks ใจปล้ำ รวมรวมคำพูดของอาจารย์ที่กระจัดกระจายออกมาเป็นรูปเล่มให้ได้อ่านกันแล้ว
5. ในพระปรมาภิไธย ประชาธิปไตย และตุลาการ ผู้เขียน: ปิยบุตร แสงกนกกุล
สังเกตว่า ช่างนี้ trend หนังสือชื่อยาวกำลังมาแรง (เหมือนกับชื่อไทยของหนังทุกวันนี้ที่ไม่รู้จะยาวไปไหน...) เนื้อหามุ่งวิจารณ์ตลก.ภิวัฒน์ (ผู้เขียนเขาย่อของเขาแบบนี้) เนื้อหาส่วนใหญ่เน้นเรื่องกฏหมายโดยตั้งใจเขียนให้คนทั่วไปอ่านรู้เรื่อง (แต่ก็ยังแอบมึนๆ อยู่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีความรู้ด้านนี้บรรจุอยู่ในสมองผมเลยแม้แต่น้อย) ปกสวย สื่อความหมายดี สังเกตว่าเล่มก่อนของอาจารย์ปิยบุตรปกสีเหลือง คราวนี้เป็นสีฟ้า เลือกสีได้ชวนคิดดีมาก
จากที่ตั้งเป้าหมายว่า จะซื้อแค่ 10 เล่ม มาบู๊ทเดียว ล่อไป 5 เล่มแล้ว เจริญจริงๆ เลยผม...
เป้าหมายต่อไปคือ สำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด (เนื่องจากไม่มีรูปสำนักพิมพ์ เลยขออนุญาตใช้รูปจากบลอกคุณ Grappa มาแทนโลโก้สำนักพิมพ์นะครับ)
6."เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน" Firefly, Barn Burning and other stories รวมเรื่องสั้นของฮารูกิ มูราคามิ ชุดแฟนคลับรวมหัวลำดับที่ 1/3 ผู้แปล: ปาลิดา พิมพะกร , วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา,ธนรรถวร จตุรงควาณิช ,นฆ ปักษนาวิน และโตมร ศุขปรีชา
ชื่อเรื่องชนะเลิศ... แม้จะเป็นแฟนคลับมูราคามิขั้นเตาะแตะ และมีคนบอกว่ามูราคามิเขียนเรื่องยาวดีกว่าเรื่องสั้น อีกทั้งราคาก็ค่อนข้างสูง แต่พอเห็นว่าเป็นมูราคามิ ชื่อไทยที่สุดแสนอลังการ ชื่อคนแปลที่อยู่ในระดับรวมดาวหนุ่มสาวสยาม หน้าปกที่ไม่รู้มันคืออะไร...แต่ชอบ (ขอยืมชื่อหนังสั้นพี่เต๋ามาใช้หน่อยนะ) ก็เลยตัดสินใจซื้อเลยโดยไม่ลังเล แต่ก่อนอ่านเล่มนี้ ขอกลับไปเคลียร์ Norwegian Wood ให้เรียบร้อยก่อน อ่านค้างมาจะครบ 5 เดือนแล้ว
7.The Catcher in the Rye จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น ผู้เขียน: J.D. Salinger ผู้แปล: ปราบดา หยุ่น
เล่มนี้ชื่อหนังสือรองชนะเลิศ ฮ่าๆๆๆ ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้ว เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เมื่อก่อนเคยอยากอ่านมาก จนเกือบคิดจะซื้อเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาอ่าน แต่พอหันไปดู Harry Potter ฉบับภาษาอังกฤษที่หยิบมาอ่านอยู่ 50 หน้าแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ให้ฝุ่นจับอยู่บนชั้นหนังสือแล้ว เลยสำเหนียกถึงความเกียจคร้านในการอ่านหนังสือภาษาต่างด้าวของตัวเอง เลยล้มเลิกความคิดนี้ไปโดยปริยาย แต่พอคุณปราบดามาแปลให้แบบนี้ ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว จะได้รู้สักทีว่า หนังสือที่เคยสั้นสะเทือนโลกทั้งใบเล่มนี้ จะเป็นอย่างไร
มุ่งหน้าไปที่บูทต่อไปเลยดีกว่า
กะจะมาซื้ออ่าน กับฟ้าเดียวกันเล่มใหม่ซะหน่อย แต่ยังไม่ออก คาดว่าคงจะตกเดือนอีกตามเคย เลยซื้อหนังสือของนักเขียนคนโปรดที่ออกมารวดเดียว 2 เล่ม
8.อ่านผิด 9.ในเขาวงกต ผู้เขียน: มุกหอม วงษ์เทศ
อันนี้หน้าปกชนะเลิศ ฮ่าๆๆ ตอนแรกนึกว่าคุณประชา สุวีรานนท์ออกแบบให้ แต่ที่ไหนได้คุณมุกหอมแกออกแบบทั้งปกและรูปเล่มเอง ซึ่งรูปเล่มข้างในก็ดูพิถีพิถันมาก
ผมเป็นแฟนคลับคุณหมอมฮุก-มุกหอมมานานแล้ว เช่นเดียวกับที่เป็นแฟนคลับคุณคำผกาและอ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล แต่หนังสือคุณคำ ผกากับอ.เสกสรรค์ ผมใช้หลักใช้ดีช่วยบอกต่อ แต่หนังสือคุณมุกหอมนี่ ไม่เคยและไม่ค่อยกล้าแนะนำใคร เฉพาะทางเกิน คนที่ชอบก็ชอบไปเลย คนที่ไม่ชอบก็จะอ่านแล้วแทบอยากเขวี้ยงทิ้ง (ความรู้สึกเดียวกับเมื่อครั้งแนะนำการ์ตูน คุโรมาตี้ ให้กับเพื่อนๆ)
เธอไม่ออกหนังสือใหม่มาเกือบ 3 ปี แต่พอจะออก ก็เล่นออกทีเดียว 2 เล่ม รวมกันความหนาเกือบ 800 หน้า ซึ่งคิดดูแล้ว ถือเป็นเรื่องสาหัสมากกว่าจะอ่านให้จบได้ เพราะหนังสือของเธอต้องละเมียดในการอ่านสุดๆ ไม่งั้นงง กับสำนวนเธอแน่นอน (ผมใช้เวลาอ่าน เล่นแร่แปรธาตุ หนังสือสุดหนาเล่มก่อนของเธอ เทียบเท่ากับเวลาที่ใช้อ่านหนังสือธรรมดา 4 เล่ม)
ได้ข่าวว่า เธอไม่ได้เขียนลงในมติชนแล้ว และมีข่าวแว่วๆ มาว่าเธอจะเลิกเขียนหนังสือ ก็ได้แต่ขอให้เธอเปลี่ยนใจ คุณอนุสรณ์ ติปยานนท์ เคยให้สัมภาษณ์ใน GM ว่า เขายินดีจะมอบพลังงานในการเขียนหนังสือของเขาทั้งหมดให้คุณมุกหอม เพื่อให้กลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ผมอยากจะบอกว่า แบ่งของผมไปด้วยสิครับ (แต่คงเป็นพลังงานที่น้อยน่าดู แหะๆ)
+-+-+-+-+-+บู๊ท 4-Letter Word+-+-+-+-+-+-+
เห็นชื่อบู๊ทนี้ ใช่แล้วครับ เป้าหมายของผม ก็จะเป็นใครไปได้ ไม่ต้องวุ่นวายเก็บไปคิด แค่นึกสักนิดก็คงรู้กัน เขาก็คือ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร หรือ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" คนนี้นี่เอง!
10.Lifescan มากกว่าที่ตาเห็น ผู้เขียน: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
หลังจากปีที่แล้ว ไปทักทายกับคุณหมอถึงที่ ปีนี้ถึงผมไม่ได้ไป แต่ผมก็ส่งน้องสาวผมไปแทน (น้องสาวผมเป็นหมอเหมือนกัน ไม่รู้จะเคยเดินสวนกันตามงานประชุมหรือเปล่า) ปรากฏว่า ไปหาแล้วไม่เจอ (หรืออาจเจอแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครก็ได้ เพราะคุณหมอชอบทำตัวกลมกลืนกับคนในบู๊ทมาก) เลยอดได้ลายเซ็นมาโดยปริยาย
ตอนนี้ผมอ่านเล่มนี้จบแล้ว รู้สึกว่าดีและลงตัวกว่า 3 เล่มแรก และแอบหวังให้เขียน Lifescan เล่มสองออกมาอีก
ครบ 10 เล่มแล้ว แต่อย่านึกว่ายุทธการผลาญทรัพย์นี้จะยุติลงง่ายๆ ไปที่บู๊ทต่อไปเลยดีกว่า
+-+-+-+-+-+บู๊ทสามัญชน +-+-+-+-+-+-+
11.บุตรธิดาแห่งดวงดาว ผู้เขียน: เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
รวบรวมมาจากคอลัมน์ในนิตยสารค.คน (อีกแล้ว) บทความในเล่มนี้ คล้ายๆ กับในหนังสือ ผ่านพบไม่ผูกพัน บวกกับ ฟองเวลา ซึ่งเป็นหนังสือที่ต้องละเมียดอ่านทั้งคู่ ตอนนี้ผมอยู่ในอารมณ์หยาบกร้าน จึงขอเก็บเล่มนี้ไว้ก่อน รอหัวใจกลับมาละเมียดอีกครั้ง ค่อยหยิบมาอ่านละกัน (อนุญาตให้วิ่งไปอ้วกได้ ฮ่าๆๆ)
หลังจากเจอแต่บู๊ทคนน้อยๆ แล้ว ก็ได้เวลาไปบุกตะลุยบู๊ทคนเยอะๆ บ้าง นั่นก็คือบู๊ทของ A book นั่นเอง
ก่อนจะเข้าไปในบู๊ท น้องผมบอกว่า ต้องยืนทำใจอยู่ข้างนอกประมาณ ครึ่งนาที เพราะคนเยอะมาก บูทแทบแตก ยังกับแจกฟรี เนื่องจากในตอนนั้น คุณนิ้วกลมกำลังมาแจกลายเซ็น ก็เลยบอกน้องว่า ฝากขอลายเซ็นคุณนิ้วกลมให้ด้วย พอโทรกลับไปเช็คข่าวคราวความคืบหน้าอีกที น้องบอกว่า ไม่รู้ว่านี่ นิ้วกลม หรือ ดองบังชิงกิ เพราะต่อคิวนานมาก กว่าจะได้ลายเซ็นมา ต้องยืนรอประมาณ ครึ่งชั่วโมงเพราะแถวยาวมาก แถมแต่ละคนก็หยิบหนังสือมาให้คุณนิ้วกลมเซ็นคนละ 3-4 เล่ม น้องบอกว่าดีที่คุณทรงกลด บางยี่ขันไม่อยู่ ไม่งั้นบู๊ทอาจถึงขั้นถล่ม ฮ่าๆๆ
สุดท้าย ได้หนังสือจากบู๊ทนี้มา 3 เล่มดังนี้
12.ปอกกล้วยในมหาสมุทร ผู้เขียน: นิ้วกลม
อ่านคร่าวๆ แล้วรู้สึกว่านี่คือ หนังสือคุยกับประภาส ในแบบฉบับของนิ้วกลม
13. ABC Vol.3 ปิ่นโต ผู้เขียน: รวมผู้เขียน บรรณาธิการ: ภูมิชาย บุญสินสุข
หลังจากผิดหวังจาก ABC เล่มก่อนหน้านี้ (Vol.2-Change) ตอนแรกคิดว่าจะเลิกซื้อเล่มนี้แล้ว แต่พอลองพลิกเล่มนี้ผ่านๆ แล้วรู้สึกว่ามันน่าอ่านกว่าเล่มก่อน อีกทั้งเห็นชื่อคนเขียนหลายคนน่าสนใจ ทั้งคุณฮิมิโตะ ณ เกียวโต คุณนวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ คุณสิริยากร เลยตัดสินใจซื้อมา อ่านแล้วชอบกว่าเล่ม 1 เล่ม 2 แต่สงสัยผมจะไปติดภาพ Bookazine จาก openhouse ที่เนื้อหาแน่นเอี๊ยดเลยทำให้อ่าน Bookazine ที่เนื้อหาดูโหวงๆ เล่มนี้แล้วไม่ค่อยอิ่มเท่าที่ควร
14.เล็ตซึโก! ซาราริมัง ผู้เขียน: บองเต่า
ชอบไปอ่านงานเขียนของเขาในบลอกอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นชาวบลอกเหมือนกัน ผมเลยชอบอุดหนุนหนังสือที่ฐานะเป็นญาติคีย์บอร์ด (เลียนแบบสำนวนญาติน้ำหมึกของคุณรงค์ วงษ์สวรรค์) เผื่อผลบุญจะเหนี่ยวนำ ให้ได้ออกหนังสือกับเขาบ้าง แหะๆๆ
มาต่อกันที่สำนักพิมพ์นี้กันต่อเลยดีกว่า
15.จุดหมายที่ปลายเท้า (ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ สุข 13) ผู้เขียน: หนุ่มเมืองจันท์
เนื่องจากหนังสือชุดนี้ ออกทุกงานหนังสืออยู่แล้ว เลยทำให้ไม่ต้องไปสืบอะไรมาก ไปถึงหยิบเลย
16.รากหญ้าสร้างบ้าน ชนชั้นกลางสร้างเมือง ผู้เขียน : นิธิ เอียวศรีวงศ์
แม้มุมมองบางอย่างของอ.นิธิจะไม่ค่อยตรงกับผมสักเท่าไร แต่หนังสือเล่มนี้ก็ยังมีคุณค่าในฐานะที่อาจารย์เป็นนายของภาษา และสามารถมองวัฒนธรรมของคนไทยได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
มาต่อที่นี่กันเลย
17.จักรวาล 1x1 เมตร ผู้เขียน: ม.ย.ร. มะลิ
เพิ่งสังเกตว่า ผมมีผลงานของเธอครบทุกเล่ม (ขนาดเล่มแรกๆ ของเธออย่าง แก้ผ้าอาบน้ำ ผมยังมีเลย) พอเล่มใหม่ของเธอออกมา ก็เลยต้องขอสะสมให้ครบเซ็ทซะหน่อย (เคยมีคนบอกผมว่า หน้าตาแบบผมไม่น่าอ่านหนังสือคุณม.ย.ร.เลย...ไม่รู้ว่าชมหรือด่าเนี่ย) เนื้อหาเกี่ยวกับผู้คนหลากหลายอาชีพที่ใช้ชีวิตอยู่ในซอยทองหล่อ เป็นหนังสือที่อ่านง่าย สบายหัว ไม่ซับซ้อน (ที่สุดแล้วในบรรดาทุกเล่มที่ซื้อมา) เหมาะกับช่วงเวลาที่ต้องการพักหัวจากหนังสือคุณมุกหอม วงษ์เทศมาก
นอกนั้นก็เดินไปบู๊ทอื่นๆ บ้าง แต่ยังไม่มีเล่มไหนน่าสนใจ สุดท้ายเลยขอจบการเดินไว้แต่เพียงเท่านี้ ราตรีสวัสดิ์...
สรุป
สุทธิแล้ว ได้หนังสือมาทั้งหมด 17 เล่ม (รวมกับที่มีอยู่ตอนนี้เป็น 77 เล่มพอดี) คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 13 ปี 7 เดือนกว่าจะอ่านหมด (ตอนนั้น ก็คงเป็นปี 2022 ปีที่ซึนามิจะท่วมโลก อย่างที่คุณทรนง ศรีเชื้อบอกไว้)
เก็บตก
-ตอนนี้อ่านจบไป 3 เล่มแล้วคือ Lifescan, จักรวาล 1x1 เมตร และจุดหมายที่ปลายเท้า (มีแต่เล่มอ่านง่ายๆ) ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าพอใจมากสำหรับยอดนักดองหนังสืออย่างผม
-เกือบได้ซื้อหนังสือคุณวินทร์ เลียววาริณแล้ว แต่เนื่องจากคุณวินทร์เขียนหนังสือเร็วมาก จนตามอ่านไม่ทันแล้ว (บุหงาปารียังไม่ได้เริ่มอ่านเลย คุณวินทร์ออกบุหงาตานีมาอีกแล้ว) เลยขอหยุดพักไว้ก่อน
-อยากซื้อ ดอกไม้ใต้โลก ของคุณทรงกลด บางยี่ขันเช่นกัน แต่ไม่ซื้อด้วยเหตุผลเดียวกับข้างบน คือ ยังอ่านต้นไม้ใต้โลก ผลงานเรื่องก่อนของเขาไม่จบเลย
-ไม่ได้ซื้อ วิชาสุดท้าย ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน 2 แต่ไม่ได้เป็นเพราะเหตุผลข้อข้างบน (เพราะอ่านเล่ม 1 จบแล้ว) แต่เพราะมีเพื่อนซื้อ แล้วกะว่ายืมเพื่อนอ่านฟรีดีกว่า
-ไม่ได้ซื้อระยะทางอันห่างใกล้ของนิ้วกลมและพิมปาย เพราะหนังสือหมด (ของเขาแรงจริงๆ)
-หลังจากนี้ อาจจะยังไม่ได้อ่านหนังสือใหม่เท่าไร เพราะต้องเคลียร์ ข้างหลังโปสการ์ด ของหลานเสรีไทย (136) ที่หนา 800 กว่าหน้า, หนังสือคุณมุกหอม วงษ์เทศ, หนังสือคุณฮารูกิ มูราคามิ และช่อการะเกดให้จบก่อน (แต่ละเล่ม ไม่ค่อยเข้าพวกกันเท่าไร แต่อ่านให้จบยากพอๆ กัน ฮ่าๆ)
*****************************
ใครมีความคิดเห็นอย่างไร ซื้อหนังสือไปกี่เล่ม อ่านหนังสือเล่มไหนจบไปแล้ว มาเม้นต์บอกกันได้นะครับ
Create Date : 09 เมษายน 2552 |
|
27 comments |
Last Update : 9 เมษายน 2552 21:55:41 น. |
Counter : 2346 Pageviews. |
|
|
|
แล้วตอนนี้อ่านไป 4 เล่มแล้ว
ถือว่าประสบความสำเร็จจริงๆ 555