ใจโล่งเบา

อาทิตย์ที่ผ่านมารู้สึกใจโล่งเบา ทำอะไรๆก็สะดวก ง่าย สมดังใจไปทุกอย่าง อยากให้ทุกๆวันในชีวิตเป็นแบบนี้

แต่ถ้ามองลึกๆแล้ว ทุกๆสิ่งที่ผ่านมาตลอดอาทิตย์ไม่ได้ปราศจากอุปสรรคหรือปราศจากเรื่องขัดใจ ไม่ถูกใจ แต่ดูเหมือนด้วยพลังของจิตใจเรานี่เอง สิ่งต่างๆกลายเป็นเรื่องง่ายๆ อะไรก็ตามที่ขัดข้อง เราก็ไม่ได้นำมาใส่ใจ มันก็ผ่านพ้นไปอย่างง่ายๆ

วันก่อนเพื่อนที่เคยทำงานอยู่ฝ่ายเดียวกันแวะมากินข้าวกลางวันด้วย เพื่อนคนนี้มีความแปลกอยู่ตรงที่ บางครั้ง มักมองหาข้อบกพร่องของคนอื่น ฟังคำพูดต่างๆที่เขาวิจารณ์คนอื่นแล้ว ทำให้ขัดใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็กลับไม่รู้สึกเหมือนตัวเองต้องแบกความรู้สึกไม่ดีไว้เลยสักนิด ใจของเราไม่หม่นหมองไปด้วย ไม่ทุกข์กับคำพูด ความเห็นของคนอื่น

เพื่อนคนเดียวกันนี้เองก็มีดีอยู่หลายข้อ เป็นคนนิสัยดีอยู่เหมือนกัน คิดอย่างนี้แล้ว ก็ไม่เห็นว่าเพื่อนคนนี้ ตัวแอนนี่เอง และคนอื่นๆจะต่างกันเท่าไร คือต่างคนต่างก็มีความบกพร่องของตัวเองเหมือนกัน ต่างกันไป แอนนี่เอง มีหน้าที่รักษาใจของตัวเองให้ดี ถ้าต่างคนต่างรักษาใจของตัวเองก่อน เมื่อนั้น เราก็จะไม่เป็นภาระของกันและกัน


อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องงาน อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์แรกที่เริ่มสอนงานคุณ Amy จริงๆแล้ว น่าจะเป็นอาทิตย์ที่น่าจะเครียด เพราะนอกจากแอนนี่ต้องแบ่งเวลาทั้งช่วงเช้าให้กับการสอนงานแล้ว ยังต้องทำงานของตัวเองเต็มที่เหมือนเดิม คือ งานเท่าเดิม แต่เวลาทำน้อยลงไปครึ่งๆทีเดียว

น่าประหลาด จิตใจกลับไม่เครียดเลย แล้วงานก็เสร็จซะด้วย ไม่ค้างคา หรือสับสน ทั้งงานเอกสาร ทั้งเรื่องโทรติดต่อประสานงานต่างๆ เรี่องนี้ แปลกที่ทำให้เพื่อนคนเดียวกันนี่ไม่ชอบใจเท่าไร คงเป็นเพราะเพื่อนคนนี้กำลังมีความเครียดอยู่มากนั่นเอง

แอนนี่ทำงานที่นี่มาก็หลายปี รู้ดีว่างานที่ทำค่อนข้างเป็นงานที่มีความเครียดสูง เนื้องานทั้งเยอะทั้งเร่ง แอนนี่เคยเครียดกับงานไปมากมายหลายครั้ง แต่หลังจากได้คุยงานกับเจ้านายช่วง Performance Review แล้ว structure ของงานเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อันนี้คงเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ความเครียดน้อยลง

เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อนแอนนี่ที่เพิ่งย้ายงานเข้ามาส่วนที่แอนนี่ทำ ได้การประเมินผลงานที่ไม่ดีนัก ส่งผลให้มีความเครียดจนกระทั่งไมเกรนกำเริบ แอนนี่พยายามเป็นแรงหนุนที่ดีให้เพื่อน แต่คนแต่ละคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อตัวเองปักใจเชื่อเรื่องใดแล้ว เรามักหาเหตุผลมาสนับสนุนความคิดของเราเองให้มันถูกต้อง ดังนั้น บางทีมันก็ยากเหมือนกันที่เราจะเปลี่ยนความคิดคนอื่น

แต่ถ้าเราเอาเวลาที่คิดจะมานั่งเปลี่ยนความคิดคนอื่นให้เหมือนเรา มาเปลี่ยนความคิดตัวเองไปในทางที่ดี ที่พัฒนาขึ้น อย่างที่่พระท่านว่า ความเห็นชอบ ท้ายที่สุด เราอาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้หลายๆคน โดยที่ไม่ต้องมานั่งพยายามเปลี่ยนความคิดใครเลยก็ได้


คิดได้อย่างนี้แล้วก็รู้สึกโล่งเบาจริงๆ


Create Date : 09 ตุลาคม 2554
Last Update : 9 ตุลาคม 2554 12:04:29 น. 2 comments
Counter : 486 Pageviews.

 
ใช่จ๊ะการที่จะเปลี่ยนคนอื่น ยากยิ่ง
เราไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ เราก็มองส่วนดีที่เขามี
ถ้าเรายังต้องคบหาเขาอยู่ เราก็ต้องเปลี่ยนที่ตัวเรา

คุณเก่งที่มีมุมมองดีๆทำให้เราไม่ต้องเสียเพื่อนไป


โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:12:04:34 น.  

 
เห็นด้วยกับเนื้อหาของบล็อกวันนี้ค่ะคุณแอนนี่
การสังคมกับคนอื่นมันก็หลากแนวนะคะ
แต่เมื่อทำใจเราให้คิดบวกไว้ก่อน อะไรๆก็ลงเอยใน
ทางที่ดีกับทุกฝ่ายค่ะ





โดย: anigia วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:22:35:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

AnnaBanana
Location :
DreamLand United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"To have beautiful lips, say beautiful things; to have beautiful eyes, look at people and see good in them; to stay thin, share meals with somoneone who is hungry." Audrey Hepburn

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add AnnaBanana's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.