เปลี่ยนตัวเองใหม่ในห้านาที ได้เลยค่ะ
เมื่อคืนหาหนังสือที่ขนมาจากเมืองไทยอ่านเล่นก่อนนอน มีหลายๆเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน หาไปหามาไปได้เล่มเดิมที่เคยอ่านไปแล้ว เปิดๆดูแล้วเกิดติดใจได้ไอเดีย ได้อะไรที่เราเคยอ่านแล้วลืมไปแล้วตั้งนาน หนังสือชื่อ "เปลี่ยนตัวเองใหม่ใน 5 นาที " เขียนโดย คะมิโอะโอกะ โทะเมะ เป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อหนังสือเตะตา อะไรจะทำง่ายๆขนาดนั้น ผู้เขียน เล่าเทคนิคหลายๆอย่างที่เราทำได้ด้วยตัวเอง เหมือน quick fix ทำแล้วช่วยปรับชีวิตให้สดใส ความจริงหลายๆอย่างในชีวิตเรา ไม่ต้องคอยเปลี่ยนอะไรที่ยิ่งใหญ่ แต่แค่ก้าวเล็กๆ สิ่งเล็กๆน้อยที่เราทำหรือคิด ก็มีผลยิ่งใหญ่กับตัวเราและคนรอบข้างได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่น เริ่มทำงานยากหลังจากทำงานง่ายๆหนึ่งชิ้น "ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเริ่มจากเรื่องง่ายๆที่ไม่ซับซ้อนก่อน นักกีฬาทุกประเภทต้องเริ่มจากการฝึกวิ่ง นักเปียนโนต้องเริ่มจากการฝึกสเกลที่สุดแสนจะน่าเบื่อ...และถ้าเป็นเรื่องงานล่ะก็ อาจต้องเริ่มจากเช็คอีเมลล์หรือสะสางใบเสร็จ...แต่ทำเรื่องง่ายๆก่อนลงมือทำงานได้แค่เรื่องเดียวนะ ไม่งั้นจะติดจนวางมือไม่ได้ พอทำงานง่ายๆเสร็จแล้ว อาจรู้สึกอยากทำงานที่ไม่ค่อยยาก แต่ขอให้ตั้งใจลงมือทำงานชิ้นยากเลย จุดนี้คือจุดสำคัญเหมือนเวลาที่ดื่มเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยแล้ว ต้องกินอาหารจานหลักต่อเลย ไม่กินผักหรือซุปก่อน..." อ่านถึงตอนนี้แล้ว ทำให้ย้อนคิดไปถึงทฤษฏี Eat Your Frog ของฝรั่ง คือให้เราเริ่มจากสิ่งที่เราไม่อยากทำ ไม่ต้องการเผชิญหน้าก่อน เพราะมันจะเป็นตัวที่สร้างความกังวลให้แก่เราทั้งวัน ถ้าทำให้เสร็จไปซะแล้ว มันจะมีผลทางจิตวิทยาตรงข้ามกับเวลาที่เรามัวหมกเม็ดไปเรื่อยๆ ต่อไปจะได้ทำสิ่งอื่นๆ ดีกว่าเอาเวลามากังวลหรือคอยผลัดวันประกันพรุ่งในสิ่งที่เราไม่อยากทำไปเรื่อยๆ สองวิธีนี้เหมือนต่างกัน แต่จริงๆใช้ได้ทั้งสองอย่างเลย เวลาแอนนี่ต้องโทรหาใครที่เราไม่อยากติดต่อเรื่องงานนะ รู้ๆว่ามันจะมีปัญหา ลำบากใจต่างๆ แอนนี่จะโทรหรือจัดการเรื่องนั้นซะก่อนเลย เพื่อเราจะได้มีเวลา และพื้นที่ในใจเหลือสำหรับงานอื่นๆต่อไป แต่เมื่อเข้าเรื่องเอกสาร บางทีแอนนี่จะเลือกทำอะไรที่ง่ายๆไปก่อน เพราะเวลาหนึ่งชั่วโมง เราอาจทำงานง่ายๆเสร็จไปสามชิ้น ในขณะที่ต้องใช้เวลา สามชั่วโมงในการทำงานยากๆให้เสร็จชิ้นเดียว เพราะฉะนั้น ก็จะดูว่าจะทำอะไรก่อนหลังดี ถ้างานอะไรที่มันชัดเจน ง่ายๆ จะทำให้เสร็จๆในทันใด เพื่อจะได้เหลือเวลาและกำลังในการทำงานยากๆต่อไป ถ้าเริ่มที่งานยากๆเลย บางทีมันหมดพลังซะก่อน เหอ เหอ บางทีก็สลับงานยากกับงานง่าย การใช้ชีวิต บางทีในเรื่องง่ายๆเราก็ต้องมีทักษะเหมือนกัน อีกตัวอย่างที่ชอบ "นับ ความโชคดี ของตัวเอง " "ขณะที่เดินผ่านร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านในยามวิกาล จู่ๆป้ายที่อยู่หน้าร้านก็ส่องแสงสว่างขึ้นมา ถือเป็นความโชคดีแบบไม่คาดคิด อย่างน้อยก็ต้องมีเรื่องโชคดีเกิดขึ้นวันละหนึ่งครั้ง แต่เรามักมองเลยผ่านช่วงเวลานั้นไป เพราะเราไม่ได้นั่งเฝ้ารอให้เรื่องดีๆ เกิดขึ้น อย่างนี้ถึงได้เรียกว่า โชคดีมากๆยังไงล่ะ...มานับความโชคดีเล็กๆแบบนี้ดีกว่า เวลาโชคดีแบบนี้ให้ตะโกนว่า โชคดีจริงๆ ออกมา แต่ถ้ากลัวคนข้างๆได้ยิน จะแอบพูดในใจก็ได้นะ...ถึงเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ทำให้ดีใจได้ค่ะ" อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า วันๆหนึ่งเรามีอะไรให้นับว่าตัวเรานั้นโชคดีมากกกกมายยยย เพียงแต่เราต้องมีความพอใจในตัวเอง และมองโลกในแง่ดี รักชีวิตของตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ รักสิ่งรอบตัว คนรอบตัวให้มากๆ วันนี้ไปเดินเล่นกับเพื่อนช่วงพัก ได้ชมใบไม้ต้นไม้เปลี่ยนสี สวยงามจริงๆ ขับรถกลับบ้านก็ผ่านทะเลสาบที่พวกต้นไม้ใบไม้สองข้างทางเปลี่ยนสี อากาศเย็นสบายสดชื่น อิสระเสรี กลับมาทำงานก็ทำงานเสร็จตามที่ต้องการ กลับถึงบ้านแล้ว คุณสามีช่วยกันทำแกงเขียวหวานกิน แถมแอนนี่มีปลาทูทอดกับน้ำพริกกะปิเหลือจากเมื่อวานหนึ่งตัว ที่ลืมไปแล้ว นี่แหละ ความโชคดีเล็กๆน้อยในชีวิตของวันนี้ เปลี่ยนตัวเอง เริ่มที่ข้างในนั่นเองนะ
Create Date : 05 ตุลาคม 2554
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 9:51:06 น.
4 comments
Counter : 1043 Pageviews.
โดย: toy IP: 86.135.9.23 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:18:30:21 น.
โดย: nampalo76 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:21:00:33 น.
โดย: nampalo76 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:21:01:23 น.
โดย: far_sexy1 วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:23:35:58 น.
Location :
DreamLand United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
"To have beautiful lips, say beautiful things; to have beautiful eyes, look at people and see good in them; to stay thin, share meals with somoneone who is hungry." Audrey Hepburn