ชาฮัง..ข้าวผัดแบบจีนที่ญี่ปุ่นทำกิน
หัวขะหมองมึนๆซึมๆเซาๆกับเหตุการณ์บ้านเมือง พาลให้คิดเรื่องอัพบล็อกไม่ค่อยออก เอาบล็อกที่อัพไว้(แต่ยังไม่เสร็จ)เมื่อปีมะโว้มาคั่นไปพลางๆก่อน
ห่างหายบล็อกเรื่องปากๆท้องๆไปนานพอควร ที่จริงก็ถ่ายรูปเก็บไว้นานแล้วหละค่ะ แต่ประตูความขยันมันยังไม่เปิด
ป้าเดซี่คนดังเคยบอกว่าเมนูบ้านป้าโซมีแต่พวกแป้งๆเนื้อๆ ประมาณผู้ชายๆกินทั้งนั้น แหงมละค่ะก็บ้านป้าโซมีอยู่ห้าคน พูชายปาเข้าไปสี่หน่อ และที่สำคัญก็คือคนสอนให้ป้าโซทำอาหารตามแต่เมนูถูกปากเขาก็คือพูชายคนที่นอนข้างๆ ก่อนแต่งงานบอกกล่าวกันเอาไว้แล้ว ชั้นทำอาหารไม่เป็นนะ อาหารไทยชั้นยังไม่กระดิก เพราะงั้นอาหารญี่ปุ่น..แค่คิดก็ผิดแล้ว
คนสอนเขาก็จะสอนเฉพาะบรรดาที่เขาอยากกินเท่านั้น พักหลังๆนี่หรอกที่ป้าโซชักปีกกล้าขาแข็งเปิดดุ่ยๆงมๆหาเอาตามเน็ต อาศัยจำภาษาคันจิแค่เครื่องปรุงอาหารไม่กี่ตัวก็มั่วได้
วันนี้มาชวนผัดข้าวกินค่ะ จริงๆกะอีแค่ข้าวผัดนี่ ใครๆก็ผัดกันได้ทั่วบ้านทั่วเมืองเนาะ ไม่รู้อิฉันจะอัพทำซากอะไร เอาน่ะ..ผ่านตาไปถือซะว่าเข้าครัวบ้านป้าโซมาดูว่าทำอะไรกินก็แล้วกัน
เจ้าชาฮังนี่มันก็คือข้าวผัดญี่ปุ่นที่เลียนแบบอาหารจีน จะว่าไปนี่ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ไม่ค่อยจะมีกินซักเท่าไหร่ หมายถึงวัตถุดิบของเขาน่ะไม่ค่อยจะพอกิน เลยทำตัวกลมกลืนกินอาหารต่างๆทั่วโลกได้หมด แต่เอามาปรับปรุงรสชาติให้เข้ากับปากลิ้นของตัวเอง.. ชาฮังวันนี้ขี้มือลุงอีกตามเคยค่ะ จริงๆเคยผัดๆมาก็หลายครั้งหลายครา อร่อยจริงๆมั่ง ฝืนทำเป็นอร่อยมั่งไปตามเรื่อง แล้วแต่โชค มีอยู่วันลุงแกผ่านไปเห็นในเน็ตเข้าว่าอันว่าข้าวผัดยี่ปุ่นยุ่นปี่ที่เขาผัดๆอร่อยกันนั้น มันมีที่มาที่ไป .. ซึ่งจริงๆไอ้ที่มาที่ไปของลุงเขาน่ะ มันก็ไม่ได้อร่อยไปซะทุกครั้ง ถ้าอยากสบายนั่งกระดิกเท้าเล่นเน็ตรอกินอย่างเดียว ก็ต้องพยักเพยิด..
เขาว่ามันอยู่ที่หมูตัวเดียว (ที่ไม่ใช่ยี่ห้อไส้กรอก) หมูเท่านั้นที่จะเสกสรรให้ท่านอร่อยได้ ก็จริงๆนี่คะ ข้าวผัดมันจะมีอะไรเป็นหลักนอกจากข้าว เพราะงั้นรสชาติที่จะทำให้อร่อยหรือไม่อร่อย มันก็ขึ้นอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ประกอบที่ประโคมใส่กันเข้าไป
ตะก่อนชะร่อนไรตอนอยู่เมืองไทยลุงเขาเคยผัดให้กินก็ใส่แค่พวกลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น ไข่ ผงปรุงรส แค่นั้นก็วะว้าวววว..อร่อยเลิศประเสริฐศรีตามประสาคนไม่เคยกิน โอ้..ข้าวผัดญี่ปุ่นมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง คือข้าวผัดที่ผัดโดยคนญี่ปุ่น เฮ่ยย.. พูดไปเรื่อย
เข้าเรื่องค่ะ.. คราวนี้ลุงเขาบอกว่าต้องหมักหมูทิ้งไว้ซักอาทิตย์นึง เป็นหมูสามชั้นเอามาโรยเกลือพริกไทยให้ทั่ว พันแร็พใส่กล่องเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาอาทิตย์นึง พอกลิ่นเน่าๆโชยออกมาค่อยเอามาทำกิน อย่างนั้นแหละอร่อย อ๊าว..ทีปลาสดๆใส่เกลือยังกินกันได้ ทำไมหมูจะกินอย่างนั้นมั่งไม่ได้
อ่ะๆ พูดจริงๆละค่ะ เดี๋ยวเขว ยัยป้านี่มันพล่ามนอกเรื่องอยู่เรื่อย..
หมูสามชั้นที่หมักเกลือ คงคล้ายๆกับเบค่อนมังคะ ? อันนี้ไม่ยืนยันนะคะเดามั่วเอาตามความเข้าใจ แปลกที่มันไม่เน่า.. หรือความเย็นในตู้เย็นมันถึงก็ไม่ทราบ
ไม่มีรูปที่หมักหมูทั้งก้อนมาให้ดูนะคะ ลืมถ่ายเอาไว้ มานึกได้ตอนหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กๆนี่แล้ว จริงๆแล้วต้องหั่นให้เล็กกว่านี่ ลูกมือขี้เกียจอย่างป้าโซอยากกินเร็วๆ เลยได้ขนาดนี้ พ่อครัวบ่นงึมๆ
เครื่องเคราอื่นๆที่หั่นๆเตรียมไว้ก่อนผัดค่ะ กะๆเอาตามใจชอบนะคะ มีแครอท หอมใหญ่ ต้นหอม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กระเทียมสับ ไข่ไก่
ส่วนเจ้าขิงดองแดงๆ นี่ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เอาแต่เนื้อนะคะไม่เอาน้ำที่ดองมา ขิงนี่จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เจ้าตัวเล็กเขาไม่กินขิงดอง เลยต้องผัดแยก แต่สำหรับลิ้นผู้ใหญ่ ป้าโซว่าใส่แล้วอร่อยดี รสชาติเข้มข้นกว่าเดิม
เริ่มผัดละค่ะ.. เอาน้ำมันเคลือบกะทะ หมูสามชั้นที่หั่นเล็กๆไว้แล้วลงผัดให้ออกเกรียมๆหน่อย น้ำมันจากหมูจะออกมาอีก
ผัดหมูให้สีเกรียมๆอย่างนี้ แล้วเอาขึ้นพักไว้
กะทะใบเดียวกันนี่แหละถ้าน้ำมันน้อยเกินไปก็เติมอีกหน่อยเพราะผัดข้าวถ้าน้ำมันน้อยข้าวก็จะดูแห้งไม่น่ากิน แต่ถ้าน้ำมันมากไปก็ดูเยิ้ม..เลี่ยนไม่น่าอร่อยอีกเหมือนกัน เรื่องมากเนอะ..
โยนกระเทียม หอมใหญ่ แครอท ผัดๆกลับๆสองสามทีพอมันซิหลบ กันไว้ข้างๆกะทะ ตอกไข่ใส่แล้วยีๆไข่ให้กระจายตัว เอาหมูที่ทอดพักไว้ตะกี้ใส่ลงไปผัดๆเคล้าๆรวมกัน
ใส่ข้าวสวยที่คดออกมาทิ้งให้เย็นแล้ว จะผัดง่ายกว่าข้าวร้อนๆ ผัดๆให้เข้ากัน
แล้วก็ใส่เครื่องปรุง มีเกลือ พริกไทย ผงปรุงรสสำหรับทำอาหารแบบจีน ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราก็พวกรสดีนั่นแหละค่ะ เหยาะเข้าไป ลุงเขาใส่ซีอิ๊วขาวเข้าไปด้วย
ผัดๆเข้าไป ชิมรสดู ใช้ได้หรือยัง ระวังอย่าชิมจนหมดกะทะ..
รสชาติใช้ได้ ทีนี้ก็ใส่ขิงแดงหั่นละเอียด อยากให้มีสีเขียวก็ต้นหอมซอย คลุกๆข้าวครั้งสองครั้งก็ปิดไฟ พร้อมกิน..
ตักใส่จาน ชาม กะละมัง ตามสะดวก ใครชอบขิงแดงก็ประโคมเข้าไปอีกจนสาแก่ใจคนกิน
อ้ะ..แบ่งกันคนละชาม
ง่วงนอนมากมาย จบห้วนๆอย่างนี้แหละ เจอกันเมนูหน้าค่ะ
Create Date : 17 เมษายน 2553 |
|
27 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2553 17:47:55 น. |
Counter : 5499 Pageviews. |
|
|
|