กลับบ้าน (ขนหัวลุก ใบหนาด)
กลับบ้าน
ขนหัวลุก ใบหนาด
"ชมพู่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวันเผาศพ
ดิฉันเป็นคนถนนระนอง ที่มีถนนสายใหญ่ด้านหน้าคือพระราม 5 ขอไม่ระบุว่าเป็นระนองไหนนะคะ นอกจากมีบ้านเรือนและตึกรามคับคั่ง ผู้คนหนาแน่น ไม่ได้เปล่าเปลี่ยวหรือมีอะไรน่าหวาดกลัวเป็นพิเศษ
จนกระทั่งมีหญิงชราอายุ 70 เศษ ชื่อป้าจันทร์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาล คิดว่าเป็นโรคชรามากกว่าเบาหวานและความดันสูงอย่างที่ลูกหลานบอกกล่าว
คนเราก็เหมือนเครื่องใช้ไม้สอยที่เก่าแก่เข้าก็ต้องซ่อมแซมกัน ระยะแรกก็นานๆ ครั้ง ต่อมาก็บ่อยครั้งเข้าทุกที ไม่ว่าพัดลม ทีวี ตู้เย็นหรือเครื่องปรับอากาศ...ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการซ่อมไม่ไหว คือพัง...จนต้องทิ้งไป ถ้าไม่อยากเก็บให้รกบ้าน
พวกเราที่รู้จักมักคุ้นก็ไปงานสวดอภิธรรมศพที่วัดใกล้บ้าน มีกำหนด 3 คืนแล้วจะทำฌาปนกิจ
คืนแรกก็เกิดเรื่องขนหัวลุกแล้วค่ะ!
ป้าจันทร์เลี้ยงสุนัขพันทางไว้ 3-4 ตัว พวกมันรักใคร่และคอยเคล้าเคลียแทบทั้งวัน แม้แต่ตอนที่แกนอนเจ็บอยู่...กลางคืนพวกมันนอนนอกบ้าน แต่กลางวันป้าจันทร์จะมานอนแซ่วที่เตียงไม้ชั้นล่าง บรรดาเจ้าเล็บงามก็คอยพัวพันอยู่ไม่ห่าง ใครเข้าไปเยี่ยมมักจะโดนมันเห่าจนป้าจันทร์ต้องดุให้มันเข้าไปหมอบอยู่ใต้เตียง
เพื่อนแท้ของมนุษย์นี่เป็นสุนัขจริงๆ ค่ะ แถมยังรักเจ้าของ ภักดีต่อมือที่ให้ข้าวให้น้ำ...ผิดกว่ามนุษย์อีกหลายคนเป็นไหนๆ
น่าแปลกอย่างที่ป้าจันทร์จะรักแต่หมาที่แกเลี้ยงไว้เท่านั้นเอง!
ถ้าเป็นหมาบ้านอื่น หรือหมาจรจัดที่วิ่งไปมาอยู่หน้าบ้าน ป้าจันทร์จะไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย เห็นเข้าเป็นต้องไล่ตะเพิด ไม่ยอมให้เฉียดกรายหรือเข้าประตูรั้ว ส่วนหมาของแกก็ไม่ยอมให้ออกไปเล่นนอกบ้านเด็ดขาด
บางวันมันก็ฉวยโอกาสเล็ดลอดออกไปได้ ถ้าป้าจันทร์รู้เมื่อไหร่แกจะรีบร้อนออกไปเรียกเข้าบ้านทันที
คืนนั้นราวทุ่มเศษ พวกเราฟังสวดเสร็จก็กลับบ้าน มีการพูดคุยกันแบบปลงอนิจจังว่าชีวิตก็เท่านี้แหละ! คนเราเกิดมาก็ไม่มีใครหนีความแก่ ความเจ็บไข้และความตายได้พ้น ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหนก็ตามที
บางคนได้ยินลมพัดยอดไม้เสียงวู่หวิวระคนซู่ซ่า ถึงกับเหลียวหน้าเหลียวหลังล่อกแล่กกลืนน้ำลาย อึกใหญ่
"ผีจะดุหรือเปล่าก็ไม่รู้...ไอ้เรายิ่งขวัญอ่อนอยู่ด้วย"
สาวหนึ่งพูดเสียงสั่นๆ พลางลูบไล้ท่อนแขนตัวเองไปด้วย ทำให้เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดโพล่ง
"ก็รีบหาผัวซี่จะได้ไม่ต้องกลัวผีไงล่ะ!"
เสียงวี้ดว้ายขาดหายไปเมื่อได้ยินเสียงหมาเห่าเบาๆ มาจากประตูรั้วบ้านป้าจันทร์ พอหันไปดูก็เห็นพวกหมาของแกกำลังรุมเห่าพวกเราอย่างทักทาย ตะกุยตะกายประตูรั้ว...ราวกับพวกมันเห็นป้าจันทร์ดิฉันกับเพื่อนบ้านที่ไปฟังสวดมาด้วยกันถึงกับชะงักงันไปชั่วขณะ
อากาศยามค่ำคืนเย็นยะเยือก แสงไฟข้างถนนทำให้บรรยากาศดูวังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก รูปเงาต่างๆ ที่ปรากฏอยู่รอบตัวคล้ายแน่นิ่งไม่ติงไหว มองเผินๆ แล้วชวนให้สงสัยว่าเราอยู่ในโลกของความจริงหรือความฝันกันแน่?
ต่างคนต่างหันมองสบตากัน หน้าตาไม่ค่อยดีทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่ต้องพูดอะไรสักคำก็รู้ว่าเราคิดตรงกัน...
พอดีเสียงเห่าขรมดังมาจากหน้าบ้านถัดไป!
ฝูงหมาจรจัดราว 4-5 ตัวเห่าพลางถอยพลาง ย่อขา หางตก บ่งบอกว่าหวาดกลัวอะไรบางอย่าง...พวกเราเห็นท่าทางทั้งโกรธทั้งกลัว เหมือนที่ป้าจันทร์เคยออกมาไล่พวกมันไม่ผิดเลย
ถ้าไม่ใช่ผีหรือวิญญาณแล้วจะเป็นอะไรล่ะคะ?
บอกตรงๆ ว่าเหตุการณ์ที่ได้พบทำให้ใจเต้นระทึก นึกไม่ออกว่าจะกล้าไปเผาศพป้าจันทร์หรือเปล่า...คิดแล้วขนหัวลุกค่ะ! บรื๋อออ....
Create Date : 29 ตุลาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 29 ตุลาคม 2556 2:39:07 น. |
Counter : 1383 Pageviews. |
|
|
|