ฮือฮา! ถ่ายติดวิญญาณ 'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' ยันเป็นขาของผู้ตายจริง

ถ่ายติดวิญญาณ

ฮือฮา! ถ่ายติดวิญญาณ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์‘ ยันเป็นขาของผู้ตายจริง

หนุ่มมูลนิธิร่วมกตัญญู ถ่ายภาพติดวิญญาณได้ในพิธีสวดพระอภิธรรมศพเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง หลังเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” เชื่อเป็นขาของผู้ตายจริง ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านภาพชี้ไม่ใช่การตัดต่อ…

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเรื่องฮือฮาเกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียของหมู่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กรณีมีผู้บันทึกภาพถ่ายติดวิญญาณได้ในพิธีสวดพระอภิธรรมศพของเจ้าหน้าที่ มูลนิธิฯ ท่านหนึ่ง จึงติดต่อสอบถามไปยัง นายชลอ เสือกระจ่าง พนักงานกู้ภัย รหัสนคร 58 ได้รับคำตอบว่าเป็นความจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นในพิธีรดน้ำศพ นายนิรันดร์ หรือหมี สร้างพล อายุ 37 ปี อาสาสมัครรหัส ฉก.ใต้ 10 ซึ่งประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิต ขณะขี่รถ จยย.ผ่านถนนบางนาตราด กม.7 ท้องที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เมื่อเช้าวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา

โดย ภาพดังกล่าวมีผู้โพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊กกระจายออกไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นคืนแรกที่มีการตั้งสวดพระอภิธรรมศพ นายชลอ เล่าว่า หลังเกิดเหตุเมื่อศพของนายนิรันดร์ ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จากนั้นญาติและเพื่อนๆ ของผู้ตายก็เดินทางไปรับศพมาทำพิธีรดน้ำ ที่ศาลา 1 วัดด่าน ถนนพระราม 3 ซอย 34 ขณะนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. ระหว่างที่รอนำศพบรรจุใส่โลงปรากฏว่า นายวาทิต เพียรดี เพื่อนอาสาสมัครรหัส บางซื่อ 19 ก็อยากถ่ายภาพคู่กับแท่นวางรูปหน้าศพเก็บไว้เป็นที่ระลึก จึงวานให้ นายนัทธพล ศรีสังข์ อาสาสมัครตัวแทนฐานทุ่งมหาเมฆ นำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพให้ ซึ่งนายนัทธพล ก็กดชัตเตอร์เอาไว้ จำนวน 2 ใบ เพื่อป้องกันภาพถ่ายเสียหายเหมือนที่คนทั่วไปใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพกัน

“เมื่อ อาสาสมัครทั้ง 2 คน เปิดภาพดูก็ต้องตกใจขนลุกซู่สุดขีด เมื่อภาพที่บันทึกไว้ใบแรกนั้นเป็นปกติทุกอย่างแต่ภาพใบที่สอง ที่กดชัตเตอร์เผื่อไว้กันเสีย กลับปรากฏว่ามีขาของชายปริศนาผู้หนึ่งไปยืนอยู่ด้านหลังแท่นวางรูปหน้าศพ ซึ่งภาพที่เห็นมีเพียงแค่ส่วนขานุ่งกางเกงขายาวสีเขียวแก่แบบฟอร์มของ มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ขาข้างซ้ายสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ส่วนที่ขาข้างขวาไม่สวมรองเท้า หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างลงความเห็นตรงกันว่าชายลึกลับที่โผล่มาแต่ขา นั่นคือวิญญาณ นายนิรันดร์ ผู้ตายแน่นอน เนื่องจากรูปร่างเท่ากัน ประกอบกับขณะที่ผู้ตายประสบเหตุสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ และเหลือแค่ข้างซ้ายเท่านั้น ที่ติดอยู่กับศพส่วนข้างขวา ไม่มีใครหาเจอคาดว่า คงมีคันอื่นเหยียบติดล้อไปด้วย หลังจากที่นายนิรันดร์ ถูกรถชนเสียชีวิตแล้ว” นายชลอ กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ที่ ศาลา 1 วัดด่าน ถนนพระราม 3 ซอย 34 เพื่อขอดูภาพถ่ายดังกล่าวให้เห็นกับตา โดยพบว่า นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เจ้าของรหัส ดารา 1 นักแสดงชื่อดังซึ่งเป็นหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วย นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ หรือ นคร 45 เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิฯ ได้พาทีมอาสาสมัครเดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมที่ศาลาเพื่อเป็นเกียรติให้ ผู้ตายและมาพิสูจน์ภาพถ่ายติดวิญญาณที่เกิดขึ้นจำนวนมาก

จากการสอบ ถาม นายนัทธพล ศรีสังข์ อาสาสมัครที่เป็นผู้บันทึกภาพไว้ กล่าวว่า เมื่อวานนี้เดินทางมาร่วมรดน้ำศพ นายนิรันดร์ ผู้ตายในฐานะคนคุ้นเคย ระหว่างที่ใครๆ กำลังสาละวนอยู่กับการรดน้ำศพนั้น นายวาทิต เพื่อนสนิทก็ควักโทรศัพท์ไอโฟน 4 ออกจากกระเป๋ากางเกงออกมาไหว้วานให้ตนถ่ายภาพข้างแท่นวางรูปหน้าศพเพื่อเก็บ ไว้ดูเป็นที่ระลึก หลังจากตนจัดองค์ประกอบภาพแล้ว ก็กดชัตเตอร์จำนวน 2 ครั้ง ติดๆ กัน แล้วนำภาพที่บันทึกไว้มาเปิดดู ก็รู้สึกตกใจอย่างมากที่เห็นขาปริศนามาโผล่ในภาพที่สอง จึงรีบเรียกเพื่อนๆ อาสาสมัครมาช่วยกันดูทุกคนต่างผวาขนลุกซู่ตามๆ กัน โดยทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่า น่าจะเป็นการหยอกล้อเล่นของ นายนิรันดร์ ที่ยามมีชีวิตก็ทำกับเพื่อนฝูงเป็นประจำอยู่แล้ว ตนขอยืนยันว่า ขณะบันทึกภาพไม่มีบุคคลอื่นยืนอยู่หลังแท่นวางรูปหน้าศพ และไม่มีใครเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในบริเวณนั้นอย่างแน่นอน

ด้านนาย บิณฑ์ กล่าวว่า ตนสนิทสนมกับนายนิรันดร์ ผู้ตายมานาน 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมานายนิรันดร์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนทุ่มเททำงานเพื่อสังคมจริงๆ โดยก่อนที่จะมารู้จักตน ก็ทำงานด้านนี้มานานกว่า 15 ปี จนมูลนิธิฯ แต่งตั้งให้เป็นชุดเฉพาะกิจ รหัส ฉก.ใต้ 10 ในวงการอาสาสมัครจะรู้กันว่า ที่มาของรหัสดังกล่าวได้มายากแค่ไหน ที่สำคัญเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทของตนขาดพนักงานตำแหน่งส่งเอกสาร จึงรับนายนิรันดร์ เข้ามาร่วมงานด้วย ทำให้ได้สัมผัสถึงอุปนิสัยที่แท้จริงว่า นายนิรันดร์ คือผู้ให้ โดยไม่หวังอะไรตอบแทนตัวจริงเสียงจริง

“พอทราบข่าวนาย นิรันดร์ ถูกรถชนตายตนและเพื่อนๆ อาสาสมัครก็รีบเดินทางไปจัดการเรื่องรับศพ ส่วนรองเท้าสีดำข้างซ้ายคู่นี้ ตนได้สั่งการให้นำติดกลับมาพร้อมศพด้วย เนื่องจากนายนิรันดร์ รักรองเท้าคู่นี้มาก ไปไหนมาไหนจะต้องสวมเป็นรองเท้าคู่เก่งตลอด เสียดายที่รองเท้าข้างขวาหายไปในจุดเกิดเหตุ ไม่อย่างนั้นจะนำติดกลับมาให้ครบ ส่วนเรื่องภาพถ่ายติดวิญญาณตนดูแล้วเชื่อเกิน 1,000% ว่า ต้องเป็นนายนิรันดร์แน่นอน เพราะคนคุ้นเคยเห็นแล้วต้องจำกันได้ ที่สำคัญตนขอยืนยันว่า ภาพนี้ไม่ได้มีการตัดแต่ง เนื่องจากระหว่างนั้นตนก็กำลังยุ่งอยู่ในพิธีรดน้ำศพผู้ตายด้วย” นายบิณฑ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้นำภาพถ่ายทั้ง 2 ใบ ไปให้อาจารย์ภูวนัย ครุฑาพันธ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีวัฒนาบริหารธุรกิจ ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรการถ่ายภาพและตกแต่งภาพในสถาบัน ให้ช่วยวิเคราะห์ด้วย โดย อาจารย์ภูวนัย เปิดเผยว่า นำภาพดังกล่าวมาดูและปรึกษากับคณาจารย์ในสถาบันแล้วพบว่า ภาพทั้ง 2 ใบ ไม่ได้ถูกตกแต่งจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาก่อน แต่มีจุดสนใจคือเงาด้านหลังเท้าชายปริศนาทั้ง 2 ข้าง หากเป็นวิญญาณจริง จะเกิดเงาให้เห็นหรือไม่ หากให้วิจารณ์ตามทฤษฎีตนคิดว่า อาจมีบุคคลอื่นยืนอยู่ด้านหลังในลักษณะก้มตัวหาของ หรือทำอะไรสักอย่าง แต่ผู้ที่ยืนต้องอยู่ไม่นิ่ง เพราะภาพที่ออกมาขาดูเบลอๆ ด้วย แต่หากผู้บันทึกภาพยืนยันว่า จัดองค์ประกอบภาพสมบูรณ์ โดยดูดีว่าไม่มีใครยืนอยู่ด้านหลังแล้ว ก็อาจเป็นได้เรื่องวิญญาณออกมาปรากฏตัวให้เห็น หากท่านใดสนใจอยากชมภาพดังกล่าวสามารถเข้าไปชมได้ทางเฟซบุ๊ก facebook.com/earn_rku ของนายไพรัช ชูทรัพย์ อาสาสมัครรหัสคู่สาย นคร 58

โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

Create Date : 20 กันยายน 2555

Last Update : 20 กันยายน 2555 2:14:54 น.

0 comments

Counter : 4337 Pageviews.