พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
สาวสายเดี่ยว คนในซอย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเตียงผีสิง

สาวสายเดี่ยว



คนในซอย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเตียงผีสิง

ผม เป็นคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่แถวลาดพร้าวตอนต้นๆ นี่เองครับ อยากจะบอกให้ละเอียดละออก็กลัวจะมีปัญหาตามหลังมาเปล่าๆ คือคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เขาจะต่อว่าต่อขานเอาน่ะซีครับ เผลอๆ อาจโดนตื้บเจ็บตัวก็เป็นได้

แหม! ต้องรอบคอบไว้ก่อนครับ อาชีพอย่างพวกผมน่ะประมาทไม่ได้...ทำให้ต้องระวังไปหมดทุกอย่าง ไม่งั้นแย่เลย ขอบอก!

อ้อ...บ้านช่องลูกเมียก็อยู่ในละแวกนั้นด้วยครับ ไม่อยากเสี่ยง บอกตรงๆ

วัน นั้น ผมจอดรถอยู่ที่คิวปากซอยตอนบ่ายๆ พวกแม่บ้านออกมาซื้อกับข้าว พวกสาวๆ ตามหอพักกับผู้ช่วยแม่บ้านก็มาหาซื้อก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย ส้มตำ ค่อนข้างหนาตา แผงไหนทำอร่อยก็หายห่วง ลูกค้ามุงกันตรึมเชียว

เสร็จสรรพก็เรียกมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกลับเข้าซอย!

ใน คิวเหลือผมคันเดียว ว่าจะซื้อโอเลี้ยงใส่ถุงมาดูดซะหน่อย ก็พอดีเจอคุณป้าคุ้นๆ หน้ากันเรียกมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านมา อ้าว? หมอนั่นมักง่ายไม่เอาไหนเลยแหละ...ก็มันอยู่วินอื่นแท้ๆ แต่ดันรับผู้โดยสารหน้าตาเฉย

ช่างเถอะ! เราอาชีพเดียวกันนี่นา มันคงหาเงินไม่ค่อยคล่องละมั้งถึงต้องทำหน้าทนแบบนี้น่ะ?

สาว เอ๊ะนุ่งขาสั้นใส่เสื้อสายเดี่ยว ขาวเป็นหยวก แถมอกตั้งสะโพกงอนเช้งอีกต่างหาก ออกจากแผงส้มตำได้ก็หันไปเรียกรถรับจ้างนอกวินผมทันที...บ๊ะ! หมอนั่นนิสัยดีแฮะ ส่ายหน้าก่อนจะหันมาทางผมที่อยู่ข้างหลังราว 6-7 เมตร กวักมือเรียกก่อนจะผละไป...ผมรับคนสวยเข้าซอย เธอบอกว่าเขารับไม่ได้หรอก เพราะอยู่วินอื่น...เออ! พวกผมที่นิสัยดีๆ ไม่ใช่ชุ่ยกี่แบบเจ้าคนแรกก็เยอะนะครับ

สาวสวยเดี่ยวกอดเอวผมแน่น เชียว อกอวบๆ อัดแน่นเต็มแผ่นหลัง เล่นเอาอุ่นวาบไปถึงหัวอกหัวใจ เลือดหนุ่มฉีดซู่ซ่า ปากคอแห้งผากไปหมด เฮ้อ...

อาชีพนี้ก็ดีไปอย่าง คุณว่ามั้ย? แฮ่ะๆ ผมพูดเล่นน่ะครับ เพราะคิดถึงลูกเมียที่รอคอยอยู่ทางบ้านแล้วมันคิดได้ เรื่องกิเลสตัณหาเป็นอันว่าตัดทิ้ง...ถ้ายังโสดละน่าดู!

"เข้าซอยนี้ " หรือ "ไปซอยนั้น" เป็นคำสั่งของผู้โดยสาร บังเอิญคนสวยสุดเซ็กซี่เธอไปซอยนี้...คือซอยที่ผมรวมกลุ่มกันอยู่ในหมู่บ้าน คล้ายกับวินย่อยๆ มีร้านชำอยู่ใกล้ๆ แถวนั้นด้วย ตรงหัวมุมมีแคร่ไม้คล้ายๆ เตียงติดรั้วที่ว่างๆ กอไผ่ดกหนาร่มครึ้ม ไม่ต้องกลัวเจอแดดเกือบตลอดวัน

รอ รับคนในหมู่บ้านคึ่กๆ ออกไปทำงาน หรือออกไปซื้อของที่ปากซอยไงครับ...ใครว่างก็พักผ่อนอยู่ที่แคร่นั่น ถ้ามีรถเยอะก็วิ่งรถเปล่ากลับไปที่คิวถนนใหญ่ตามเดิม

สาวสวย คนนั้นบอกให้จอดก่อนถึงชุมทางพวกผมราวสองเลี้ยว...แถวนั้นมีที่ว่างๆ ล้อมรั้วลวดหนามลวกๆ มีทั้งต้นไม้ใหญ่น้อยรกทึบ แถมกลายเป็นที่ทิ้งขยะมหึมาอีกต่างหาก...พวกโต๊ะตู้พังๆ ฝาบ้าน ถังน้ำมัน ทีวีเก่าๆ ขวดและกระป๋องเกลื่อนกลาดไปหมด มองดูแล้ววังเวงใจชอบกล พวกซาเล้ง 3-4 คนที่ตะลอนๆ เข้ามาก็ไม่เห็นมีใครบุกบั่นเข้าไปเก็บสักคน...

เขาลือกันว่าผีดุบรรลัย!

สาว สายเดี่ยวจ่ายเงินให้ผมสิบบาทแล้วเดินบิดสะโพกย้อนกลับไป ผมหันมองบั้นท้ายเหมือนหมามองปลากระป๋องแล้วหักใจบึ่งกลับเข้าไปในชุมทางพวก เรา...

เอ๊ะ! พอเล่าเรื่องนี้ให้พรรคพวกฟัง พี่ม้ากับน้าเตี้ยมองสบตากัน ก่อนจะหันมาจ้องมองผม ทำหน้าพิลึกๆ ทั้งคู่...เอ็งโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ เหรอวะเนี่ย?

ผมหัวเราะลั่น แต่ทั้งคู่ยืนยันว่ามีคนเจอสาวสายเดี่ยวนั่นหลายรายแล้ว ทั้งกลางวันและกลางคืน นั่งรถมาลงตรงนั้นแหละ บางคนหันไปดูก็หายไปแล้ว! บางคนหนักกว่านั้น คือพอถึงที่ไม่ยักจะมีใครซ้อนท้ายมาหรอก ทั้งที่เพิ่งได้ยินคำว่า "จอดนี่" หยกๆ

สาบานได้! ไม่เชื่อ ไม่เคยได้ยิน ผมโดดขึ้นรถห้อไปที่นั่น...เจอแต่กองขยะในที่รกร้าง บ้านช่องแถวนั้นก็ปิดเงียบ ยอดไม้ไหวซ่า เล่นผมขนลุกเกรียวไปทั้งตัว!

ตก ค่ำ ผู้โดยสารคึ่กๆ ชนิดลงปุ๊บ ขึ้นปั๊บ รับเงินจนกระเป๋าตุง ทำให้ผมลืมเรื่องสาวประหลาดซะสนิท...ขนาดสั่งผัดซีอิ๊วหมูของโปรดที่ปากซอย ตอนสองทุ่ม ยังอุตส่าห์มีคนมาเรียกให้ไปส่งถึงแยกเสือใหญ่แน่ะ กว่าจะกลับมากินก๋วยเตี๋ยวได้ก็ร่วมครึ่งชั่วโมง

ว่าจะซื้อขนมบัวลอย เผือกใส่ไข่หวานไปฝากลูกเมีย ก็พอดีมีคุณลุงเรียกให้ไปส่งถึงหมู่บ้านวัฒนานิเวศน์ ซอย 48 โน่น ผมเรียก 30 บาทแกก็ไม่ต่อสักคำ

รายสุดท้ายนี่เข้าซอยประจำของผม เลยแคร่ใต้ร่มไผ่ไปราว 200 เมตรได้...แหม! พี่ม้ากับน้าเตี้ยกำลังนั่งประกบสาวผมยาวอยู่ที่นั่นพอดี สงสัยไก่หลงละมั้งครับ?

ส่งผู้โดยสารเสร็จก็ย้อนกลับทางเก่า แป๊บเดียวเองครับ เสียงร้องโอ๊ยๆๆ ดังมาเข้าหู ปรากฏว่าพี่เตี้ยวิ่งหน้าตั้งไม่คิดชีวิต ร้องแต่ โอ๊ยๆๆ เฮ้ยๆๆ ดูเหมือนจะไม่เห็นรถที่เปิดไฟสว่างจ้าด้วยซ้ำ ดีแต่ผมรีบหยุดรถข้างทาง ตะโกนเรียกชื่อแกดังๆ

"พี่เตี้ยๆ เป็นไรไป? หนีอะไรมา?"

คราวนี้แกได้ยินครับ วิ่งถลามาหาผมอย่างดีอกดีใจ พร่ำแต่ว่า...กูรอดตายแล้ว! โอย...ว่าแต่ไอ้ม้าเป็นไงมั่งไม่รู้?

ผม โกรธวูบ นึกว่ามีนักเลงถิ่นอื่นเข้ามารังแก แต่พี่เตี้ยเกาะรถผมพลางบอกเสียงหอบๆ ว่า...สาวสวยแท้ๆ ไหงกลายเป็นผีตาโบ๋วะ? โชคดีที่ข้าหนีทัน!

เท่านั้นละครับ ผมเรียกพี่เตี้ยซ้อนท้าย บึ่งรถไปถึงแคร่ใต้ซุ้มไผ่...แสงไฟฟ้าข้างถนนส่องให้เห็นพี่ม้ากำลังดิ้น พรวดพราด หลับตาปี๋ ร้องแต่ว่า...ไป๊! ไปให้พ้น...จนเราไปเขย่าตัวแกกระทั่งได้สติ พอลืมตาก็ร้องไห้โฮทันที

อ๋อ...สาวสายเดี่ยวเข้ามาแผลงฤทธิ์ถึงแคร่พักของเราน่ะซีครับ สงสัยว่าจะโดนข่มขืนฆ่าแถวนั้น วิญญาณเฮี้ยนน่าขนหัวลุกจริงๆ บรื๋อส์!!

คอลัมน์ ขนหัวลุก

ใบหนาด   



Create Date : 31 พฤษภาคม 2555
Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 1:14:16 น. 0 comments
Counter : 2996 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.