...ขณะนี้ยังมีบุคคลอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีความตั้งใจจริง มีศรัทธาขวนขวายหาความรู้เป็นวิชาชีพใส่ตน แต่ประสบปัญหาไม่มีความรู้พื้นฐานและไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาวิชาชีพระดับต่างๆ ได้ หากมีช่องทางช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ ให้มีความรู้วิชาชีพที่เขาปรารถนาย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ....” พระราชกระแสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2518

หลายท่านคงจะเห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ โรงเรียนพระดาบส ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและทำให้เราได้ทราบว่า พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานโครงการ “พระดาบส” เพื่อพสกนิกรผู้ยากจนและด้อยโอกาสทางการศึกษา ผมเห็นแล้วรู้สึกดีใจมากที่ภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนโครงการดีๆของพระองค์ท่าน จึงอยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักโรงเรียนพระดาบสมากขึ้น

ผมรู้จักโรงเรียนพระดาบสเพราะเคยมีโอกาสพูดคุยและถ่ายทำรายการโทรทัศน์ครอบจักรวาลกับท่านองคมนตรีกำธน สินธวานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิพระดาบส เมื่อหลายปีมาแล้ว จึงรู้ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนแห่งนี้พอสมควร

โรงเรียนพระดาบสก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนประเดิม รับศิษย์รุ่นแรกจำนวน 6 คน โดยไม่กำหนดพื้นฐานความรู้ เข้าพักอาศัยและเล่าเรียนวิชาช่างไฟฟ้าและช่างวิทยุ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ณ บ้านไม้สองหลังของสำนักงานทรัพย์สิน

ส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนในปัจจุบัน อยู่ที่ถนนสามเสน ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติ การเรียนประสบความสำเร็จดี สามารถซ่อมวิทยุได้ในเวลา 9 เดือน จึงได้เปิดการสอนวิชาอื่นๆเพิ่มเติม

เมื่อก่อตั้งโรงเรียนพระดาบสแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งมูลนิธิพระดาบสขึ้นภายหลัง เพื่อกำกับดูแลงาน โดยพระราชทานเงิน 5 ล้านบาทเป็นทุนประเดิมจัดตั้งและทรงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ โดยมี  สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำรงตำแหน่งรองประธานกิตติมศักดิ์  พันเอกหญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์  เป็นเลขาธิการ มูลนิธิ และ ดร.สมยศ เจตนเจริญรักษ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบสคนปัจจุบัน  เปิดสอน 8 สาขาวิชา คือ วิชาชีพช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างซ่อมบำรุง การเกษตรพอเพียง ช่างไม้เครื่องเรือน ช่างเชื่อมและช่างวิชาชีพเคหบริบาล มีผู้เรียนสำเร็จแล้ว 33 รุ่น จำนวน 1,250 คน

หลายคนสงสัยว่าทำไมโรงเรียนแห่งนี้จึงชื่อ พระดาบส ผมขอคัดลอก พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตั้งชื่อโรงเรียนแห่งนี้คือ “...กิจการของโรงเรียนพระดาบสเป็นลักษณะกุศลสงเคราะห์ ตามสภาพอย่างโบราณกาลที่เหล่ามานพผู้มีความเพียร ที่ตั้งใจใฝ่เรียนรู้ ดั้นด้นไปในป่าเขา

แสวงหาพระดาบสหรือพระฤาษีฝากตัวเป็นศิษย์ปรนนิบัติท่านจนได้รับเมตตา ถ่ายทอดศิลปวิทยาโดยไม่ปิดบังและไม่หวังผลประโยชน์ใด เปรียบเทียบโรงเรียนพระดาบสเสมือนป่าสังเคราะห์ที่มีดาบสอาสา คือ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีกุศลเจตนาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่ศิษย์ที่ขยันหมั่นเพียร ตั้งใจใฝ่รู้ เคารพเชื่อฟังครู ประพฤติดี ดูแลโรงเรียนและที่พักอาศัยเป็นอย่างดี จนศิษย์มีความรู้และทักษะในการประกอบสัมมาชีพ และเป็นคนดีของสังคม...”

โรงเรียนพระดาบสรับนักเรียนเข้าเรียนปีละประมาณ 150 คน โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกและสอบสัมภาษณ์ผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจหาความรู้ให้เข้าเรียนตามสาขาที่สนใจเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพราะศิษย์พระดาบสทุกคนจะได้รับพระราชทานทุนการศึกษาเป็นค่าเล่าเรียน อุปกรณ์การเรียน อาหารและที่พักเหมือนนักเรียนประจำ งบประมาณค่าใช้จ่ายคนละ 80,000 บาท เมื่อมาคำนวณค่าใช้จ่ายที่โรงเรียนพระดาบสจะต้องดำเนินการตลอดปี เป็นเงินหลายสิบล้านบาท มูลนิธิพระดาบสจึงต้องระดมหาเงินทุนมาสนับสนุนกิจการของโรงเรียน ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธามาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

การเรียนการสอนของโรงเรียนพระดาบส นอกจากจะสอนวิชาชีพต่างๆ โดยครูที่เป็นดาบสอาสาผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เฉพาะวิชาชีพแล้ว ยังได้ไปฝึกงานในสถานประกอบการจริง และต้องเรียนวิชาพื้นฐานอื่นๆ ทั่วไป รวมทั้งทักษะชีวิต เพื่อหล่อหลอมให้เป็นคนดีมีความรู้ มีจิตสาธารณะและดำรงตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้นกิจวัตรประจำวันของศิษย์พระดาบสที่จะต้องปฏิบัติทุกคนคือ ตื่นแต่เช้าออกกำลังกาย

ทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียน มาช่วยกันหุงหาอาหารประจำวันก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อ ก่อนเข้าชั้นเรียนและก่อนนอนจะต้องกล่าวคำปฏิญาณตนเพื่อปลูกจิตสำนึกที่ได้มาเป็นศิษย์พระดาบสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นจะเคารพธงชาติ มีการอบรมหน้าเสาธงจึงจะเข้าห้องเรียนได้ ตกเย็นก็จะมาช่วยกันปลูกผักสวนครัวสำหรับใช้ทำอาหาร

ศิษย์พระดาบสยังต้องฝึกอบรมเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม ระเบียบวินัย กิริยามารยาทและปลูกฝังแนวคิดจิตอาสา เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ดำรงชีวิตอย่างเหมาะสมและมีคุณค่า สำนึกในความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รู้จักตอบแทนคุณแผ่นดินเพื่อเป็นคนดี ศรีดาบส ศิษย์พระดาบสที่จบออกไปล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จในชีวิต ประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวด้วยความสุจริต บางคนยังกลับมาเป็นครูสอนศิษย์รุ่นน้องและออกไปช่วยเหลือสังคม

ในส่วนของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้เล่าให้ผมฟังว่า บริษัท พีทีจี ก่อตั้งมา 20 กว่าปีแล้ว โดยประกอบธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปคุณภาพสูง มีคลังน้ำมันใหญ่ 8 แห่ง ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันกว่า 700 สาขา บริการน้ำมันครอบคลุมทุกภาคทั่วไทย ช่วยให้คนในชุมชนมีงานทำและเป็นเจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมัน นอกจากนี้ยังตอบแทนสังคมด้วยการเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมและโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนบริษัทฯ เติบโตเจริญก้าวหน้ามีความมั่นคง จึงอยากจะตอบแทนคุณแผ่นดินโดยการเติมพลังให้กับแผ่นดิน ด้วยการสร้างวิชาชีพแก่ผู้ด้อยโอกาสให้ได้ศึกษาหา ความรู้และมีวิชาชีพติดตัว สามารถดำรงชีวิตและดูแลครอบครัวได้อย่างเป็นสุข จึงได้จัดทำโครงการเพื่อสังคมระยะยาว “พีทีเติมพลังสัมมาชีพ” โดยบริจาคเงินสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาแก่ศิษย์พระดาบสรุ่นปี 2557 ทั้งรุ่น (150 คน) เริ่มต้นจากมอบเงินทุนตั้งต้นจำนวน 2 ล้านบาท และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 56 ลูกค้าที่เติมน้ำมันพีที 1 ลิตร จะมีส่วนในการบริจาคเงิน 5 สตางค์เข้าสมทบทุนโรงเรียนพระดาบส ซึ่งคาดว่าจะได้เงินทั้งสิ้น 17 ล้านบาท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม 2556

นอกจากนี้พีทียังได้วางแผนโครงการระยะยาวคือ ในปีที่ 2 จะสนับสนุนเครื่องมือสำหรับการเรียนการสอน เพื่อให้ศิษย์พระดาบสลงมือปฏิบัติและมีความคุ้นเคยกับเครื่องมือที่ทันสมัย ในปีที่ 3 จะสนับสนุนการสอนวิธีคิดในการทำธุรกิจเพื่อเป็นรากฐานในการวางแผนสร้างธุรกิจของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ และสุดท้ายอยากผลักดันขยายศูนย์โรงเรียนพระดาบสให้กระจายอยู่ทุกภูมิภาค เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาได้เรียนใกล้บ้าน

ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยที่อยากมีส่วนร่วมในการบริจาค โดยเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีทีทั่วประเทศ ท่านสามารถเติมพลังสัมมาชีพให้ศิษย์พระดาบสได้อย่างยั่งยืน หรือจะบริจาคโดยตรงที่มูลนิธิพระดาบสและโรงเรียนพระดาบส หมายเลขโทรศัพท์ 0–2282–7000 และ 0–2281–0377

มาร่วมสร้างกุศลสงเคราะห์ เติมพลังแผ่นดินด้วยการสร้างวิชาชีพให้ผู้ด้อยโอกาส สามารถมีอาชีพติดตัว เพื่อดำรงชีวิตและดูแลครอบครัวได้อย่างเป็นสุขกันเถอะ.......สวัสดี.