คณะตัวแทนบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเข้าพบ รมว.ศธ. พร้อมยื่นขอความเป็นธรรม ทั้งเรื่องการขอปรับเงินเดือน ระยะเวลาสัญญาจ้าง และกรณีการขอเครื่องราชฯ...
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. มีรายงานว่า รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ ในฐานะเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และคณะตัวแทนบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ เข้าพบ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้ยื่นหนังสือแจ้งข้อมูลความเหลื่อมล้ำเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 165,341 คน มีข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา 33,649 คน นอกจากนั้น เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและบุคลากรประเภทอื่นๆ โดยพนักงานมหาวิทยาลัยมีสัดส่วนที่มากที่สุด เกิดขึ้นจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2542 ที่ให้จ้างพนักงานทดแทนอัตราข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ.2545
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ขอความเป็นธรรม คือ 1. ขอให้มีการปรับเพิ่มอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ในอัตราที่เท่ากับการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อื่นในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีการปรับเพิ่มในปี พ.ศ.2554 จำนวน 2 ครั้ง (8% และ 5%) แต่ปรับเพิ่มให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาในปี พ.ศ.2554 เพียงหนึ่งครั้ง (5%) เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมตลอดจนสร้างขวัญและกำลังใจในการทุ่มเททำงานแก่ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ทั้งสายอาจารย์และสายสนับสนุน
2. ขอให้เพิ่มระยะเวลา สัญญาจ้างของพนักงานมหาวิทยาลัย ที่จ้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินรายได้ เพราะบางมหาวิทยาลัยมีระยะเวลาจ้างเพียง 3-5 ปี ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจทำให้ขาดเสรีภาพทางวิชาการ และการวิพากษ์วิจารณ์ อิสระทางวิชาการ ศักดิ์ศรี และความไม่มั่นคงในอาชีพ รวมทั้งสัญญาจ้างระยะสั้นส่งผลให้การทำธุรกรรมต่างๆ ไม่มีความน่าเชื่อถือ
3. การไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยทั้งจากเงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยเอง ซึ่งตามมติ ครม. ต้องให้ได้รับเงินเดือนในอัตราเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า สำหรับสายวิชาการ และ 1.5 เท่าสำหรับสายสนับสนุน ปัญหานี้เกิดมานานกว่า 14 ปี เพราะรัฐบาลให้งบประมาณเงินเดือนแก่มหาวิทยาลัยจ่ายจริง 1.5-1.7 แต่มหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่ปฏิบัติตาม โดยจ่ายเพียง 1.0-1.5 โดยนำเงินที่ได้รับมาหักไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
4. การขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่พนักงานมหาวิทยาลัย ยังมิได้มีการแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ชัดเจน
5. การได้รับสิทธิประโยชน์ที่รัฐฯ มอบให้มีความเหลื่อมล้ำ พบว่าสิทธิประโยชน์ต่างๆ ยังไม่ครอบคลุมถึงพนักงานมหาวิทยาลัย เช่น เงินรางวัล (เงินพิเศษโบนัส) ที่รัฐบาลมอบให้บุคลากรของรัฐที่สร้างสรรค์ผลงานให้แก่องค์กร โดยผลงานเกิดจากพนักงานมหาวิทยาลัยแต่โบนัสกลับมิได้ถูกจัดสรรแจกจ่ายให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัย
6. สิทธิ์ในการรักษาพยาบาล ที่อยากให้ใช้โมเดลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ได้ทำให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปแล้ว
7. สิทธิ์ในการโยกย้ายมหาวิทยาลัย ที่ยังไม่มีระเบียบชัดเจน