เปิดโลกเรียนรู้ สู่การมีงานทำ
เปิดโลกเรียนรู้ สู่การมีงานทำ
สดจากเยาวชน วิชัย ทาเปรียว
การเรียนรู้มิได้จำกัดอยู่ในห้องเรียน การฝึกอาชีพเสริมให้นักเรียนถือเป็นการสร้างพื้นฐาน โอกาสและทางเลือกให้เด็กๆ หลังจบการศึกษา
เมื่อเร็วๆ นี้ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดงาน "เวทีเสวนาเครือข่ายผู้นำการเรียนรู้สัญจร : ทักษะ ชีวิตสู่โลกของงาน" จัดโดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงใหม่ เขต 2 ที่ห้องประชุม สพป.เชียงใหม่ เขต 2
ตลอดการจัดงานทั้ง 2 วัน นอกจากการเสวนาแล้ว ยังเปิดให้นักเรียนใน 9 โรงเรียนนำร่อง ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองไคร้ โรงเรียนบ้านร่มหลวง โรงเรียนบ้านป่าฮิ้น โรงเรียนป่าจี้วังแดง โรงเรียนบ้านปางห้วยตาล โรงเรียนสบเปิงวิทยาคม โรงเรียนบ้านเมืองกื้ด โรงเรียนบ้านทุ่งโปง และโรงเรียนบ้านศาลา นำเสนอผลงานจากการเรียนรู้และฝึกอาชีพสร้างรายได้เสริมให้กับตนเอง ครอบครัว และโรงเรียน
คุณหญิงกษมากล่าวว่า เป้าหมายการฝึกทักษะต้องให้เด็กเรียนรู้และนำไปปฏิบัติต่อยอดได้จริง รวมทั้งเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์พร้อมกับมีช่องทางในการนำสินค้าออกจำหน่าย กระบวนการเรียนการสอนถือว่าสำคัญ สอนแบบบูรณาการ ฝึกปฏิบัติทั้งในโรงเรียนและนอกสถานที่ รวมทั้งลงทำงานในสถานที่จริงด้วย เปิดโอกาสให้แก้ไขและปรับปรุง ต้องให้เด็กเรียนรู้ผิดถูกและให้โอกาสเด็กด้วย
นายชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเชียงใหม่ "วนัสนันท์" จำกัด ของฝากร้านดังเชียงใหม่ เปิดเผยว่า
"เด็กเกิดจากค่านิยมที่ผิด พ่อแม่สอนลูกว่าให้ตั้งใจเรียนโตมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน สอนผิดตั้งแต่ต้นเพราะไม่ต้องการให้ลูกของตนเองเป็นลูกจ้าง ตนเองมองว่าต้องสอนให้เด็กฝึกการเป็นลูกจ้าง ต้องมีแม้กระทั่งวิชาขายไม่ได้ เรียนรู้และปรับแก้จนขายได้ การเป็นลูกจ้างแล้วเงินเดือนสูงหลักแสนหรือบางคนได้เงินเดือนหลักล้านบาทก็มี"
มาดูที่ผลงานของเด็กๆ กันบ้าง เริ่มที่ น้องไอซ์ จันทร์จิรา พนมไพร นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนบ้านทุ่มโป่ง บอกเล่าถึงผลงานเพนต์ขวดให้มีลวดลายสวยงามหลากสีสันว่า การฝึกทำไม่ยากเพราะมีคุณครูเพ็ญศิริ โสธรประภากร สอนให้เพื่อนๆ ทุกคนตั้งใจทำ ไม่นานก็สามารถนำสินค้าออกโชว์และนำออกจำหน่ายมีรายได้แล้ว
ด้าน น้องสุนีย์ เชอหมื่อ นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนบ้านเมืองกื้ด บอกว่าครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ตนเป็นคนที่ 4 เรียนโรงเรียนเดียวกันหมด ทางโรงเรียนนำครูมาสอนนวดแผนไทย แล้วพี่ๆ ทั้ง 3 คนได้นำความรู้ไปรับงานนวดแผนไทยในเมืองเชียงใหม่ มีรายได้ส่งตัวเองเรียนไปด้วย ตนเองก็เปิดรับนวดที่บ้านด้วย ทั้งยังไปนวดให้นักท่องเที่ยวที่โรงแรม รวี วารี รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่เอื้อเฟื้อให้นักเรียนไปทำงานเพราะเป็นโรงแรมใกล้บ้าน เพื่อนๆ นักเรียนยังไปแสดงฟ้อนรำ เล่นดนตรีไทย รวมทั้งบริการนวดแผนไทย มีรายได้วันละ 300-400 บาท จนครอบครัวของหนู พี่สาวและพี่ชายรวมทั้งหนูรวมเงินกันสร้างบ้านให้แม่ได้ 1 หลังแล้ว
สำหรับ น้องจีน ด.ญ.ชนิดา ดอนมอญ ชั้นป.6 โรงเรียนบ้านร่มหลวง บอกว่าชอบการนวดเหมือนกันเพราะชอบให้คนอื่นสบายตัว ฝึกเรียนมาไม่กี่เดือนก็ทำเป็น อาศัยจดจำท่านวดตามลำดับ จากนั้นก็ลองนวดให้เพื่อนก่อน ต่อมาคุณครูพาไปแสดงผลงานรับนวดโดยตั้งกล่องรับบริจาค จึงมีรายได้เข้าโรงเรียนเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไปค่ะ
ส่วน น้องเอิร์น ด.ญ.อรอุมา บุญแตง ชั้นม.3 โรงเรียนวัดบ้านเหล่า บอกว่า ในหมู่บ้านปลูกต้นชาจำนวนมาก ครูให้นำชามาทำประโยชน์ นอกจากทางบ้านเอาใบชาส่งขายแล้วหนูเอาใบชามาให้ครูนำมาทำอาหาร เมนูอร่อยคือยำใบชา และส่วนหนึ่งนำมาทำหมอนใบชา นับว่ามีประโยชน์หลายอย่าง
"การที่ทางผู้ใหญ่ประชุมเสวนาเพื่อให้โรงเรียนสร้างอาชีพแบบยั่งยืน หลายภาคส่วนมาช่วยนักเรียนนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่พวกหนูจะได้ผลิตสินค้าออกมาแล้วจำหน่ายได้ ที่สำคัญองค์กรเอกชนหลายหน่วยงานรองรับให้นักเรียนเข้าไปประกอบอาชีพด้วย หนูจะตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตและเพื่อมีงานทำค่ะ"
ปิดท้ายที่ น้องแม็ก นายทักษิณ บุญวิริยะไพศาล ชั้นม.1 โรงเรียนป่าแป๋วิทยา บอกว่าทุกวันนี้ตั้งใจเรียนและฝึกอาชีพที่ครูสอนหลายอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์ชากำจัดกลิ่น ยาหม่อง กะละแมใบชา และเย็บผ้า เย็บหมอน เพื่อนนักเรียนฝึกหัดทำเป็นกันทุกคน
"หากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจะสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและนำความรู้ไปสอนคนในครอบครัวเราได้ด้วย ถึงจะเรียนจบไปทำงานอื่นก็ยังนำมาเป็นอาชีพเสริมได้ครับ" น้องแม็กกล่าว
Create Date : 03 ตุลาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 3 ตุลาคม 2556 7:03:35 น. |
Counter : 1002 Pageviews. |
|
|
|