BlogGang.com : : amulet108 :

Google นำร่องค่ายไอทีคืนรัง "Made in the USA"

กลายเป็นเรื่องเล็กที่น่าสนใจมากเมื่อ Google เปิดตัวเครื่องเล่นมัลติมีเดียไร้สายรุ่นใหม่นาม "Nexus Q" เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เหตุผลอยู่ที่ประโยค 'Designed and Manufactured in the USA' เพื่อบอกให้โลกรู้ว่าเน็กซัสคิวนั้นออกแบบและผลิตในสหรัฐอเมริกาทุกขั้นตอน ซึ่งทีมงาน Google ยอมรับว่าเป็นโครงการนำร่องเพื่อดูผลตอบรับในอนาคต

ด้านสื่ออเมริกันระบุยักษ์ใหญ่โลกอิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นผลิตสินค้าแรงงานราคาประหยัดในจีน 'Made in China' กำลังจับตาดูพร้อมประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

     Andy Rubin ผู้บริหาร Google หัวหน้าทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินใจให้กระบวนการผลิตสินค้าล่าสุดอย่าง Nexus Q เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกานั้นยอมรับว่า บริษัทไอทีในสหรัฐฯ นั้นมองข้ามการผลิตในประเทศมานาน ทีมงาน Google จึงตัดสินใจพยายามนำสายการผลิตกลับเข้าประเทศอีกครั้งเพื่อดูผลตอบรับ

อย่างไรก็ตาม Google ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดการผลิตสินค้าไอทีในสหรัฐฯ มากนัก โดยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าโรงงานผลิต Nexus Q นั้นเป็นโรงงานใดในซิลิกอนวัลเลย์ รวมถึงแหล่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ และยืนยันว่า Google ไม่ได้ต่อต้านสายการผลิตในจีนใดๆ

     แน่นอนว่าโครงการนี้ถูกจับตาโดยบริษัทไอทีรายอื่นอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้บริษัทไอทีมีทิศทางชัดเจนในการย้ายสายการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคออกมาจากสหรัฐฯ และพร้อมใจไปยังประเทศจีนซึ่งมีแรงงานราคาถูกมากขึ้นตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐฯ นั้นได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บริษัทไอทีที่โลกรู้กันว่ามีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่จีนนั้นได้แก่ HP (Hewlett-Packard) Dell Apple รวมถึงบริษัทอื่นๆ ซึ่งออกแบบผลิตภัณฑ์และวางแผนการตลาดในสหรัฐฯ แต่ส่งการผลิตไปยังบริษัทรับจ้างผลิตในเซินเจินและจังหวัดอื่นๆของจีนตั้งแต่ยุคปี 90 ซึ่งการที่ Google กลับมาเปิดสายการผลิตในสหรัฐฯ อีกครั้ง จึงมีโอกาสทำให้เกิดการย้อนศรวงจรการผลิตกลับมาในสหรัฐฯ อีกครั้งก็ได้

     ไม่เพียง Google แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง GE (General Electric) และ Caterpillar นั้นเริ่มยกสายการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ เมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ Airbus บริษัทผลิตเครื่องบินสัญชาติยุโรปก็ออกมาให้ข่าวว่ากำลังจะย้ายสายการผลิตเครื่องบินเจ็ตมายังโรงงานในรัฐแอละแบมาเช่นกัน

จากการวิเคราะห์เบื้องต้น พบว่าต้นทุนการผลิตในจีนนั้นเริ่มสูงขึ้น ทั้งค่าแรง ต้นทุนค่าพลังงาน รวมถึงต้นทุนการขนส่งจากโรงงานในจีนล้วนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทไอทีเริ่มกังวลเรื่องความเสี่ยงในการถูกละเมิดสิทธิทางปัญญาในจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นต่อเนื่อง

     ที่สำคัญ ความเร็วในการพัฒนาถือเป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขัน สายการผลิตในสหรัฐฯ ทำให้วิศวกรของบริษัทสามารถขับรถบนทางด่วนเพียง 10 นาทีก็ถึงโรงงาน แต่การผลิตในจีนนั้นวิศวกรต้องใช้เวลาเดินทางถึง 16 ชั่วโมง

สำหรับ Nexus Q เป็นเครื่องเล่นมัลติมีเดียไร้สายที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ICS Google ออกแบบมาให้ Nexus Q เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อกับโทรศัพท์และระบบวิทยุเครื่องเสียงในบ้านสามารถต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นเพลง ภาพยนตร์ รายการทีวี รวมถึงคอนเทนต์อื่นๆ บนร้าน Google เพลย์ (Google Play) รูปร่างของ Nexus Q อยู่ในรูปลูกบอลสีดำ ใช้ซีพียูดูอัลคอร์บนแรม 1GB พื้นที่ความจุข้อมูล 16GB

รายงานระบุว่า ส่วนประกอบในเครื่องเกือบทั้งหมดผลิตในสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิศวกรหลายรายในโครงการ Nexus Q เคยเป็นผู้ก่อตั้งโรงงานผลิตวัสดุโลหะเพื่อการขึ้นรูปพลาสติก โดยโรงงานดังกล่าวมีที่ตั้งในเขตแคลิฟอร์เนียตอนใต้

จุดเด่นของ Nexus Q คือการเป็นเครื่องเล่นที่สามารถสตรีมมิ่งไฟล์ภาพยนตร์และเพลงจากทั้งร้าน Google เพลย์และยูทิวบ์ (YouTube) ได้แบบไร้สาย โดยผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องผ่านอุปกรณ์แอนดรอยด์อื่น โดย Google การันตีว่า Nexus Q คือเครื่องเล่นมัลติมีเดียกึ่งสังคมตัวแรกของโลก เพราะมีคุณสมบัติ 'Guest mode' สำหรับให้ผู้ร่วมงานปาร์ตี้สามารถส่งเพลงจากสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์พกพาของตัวเอง ไปเล่นบนเครื่องเสียงเจ้าของงานได้

Nexus Q สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ครั้งละหลายเครื่องเพื่อเล่นเพลงพร้อมกัน ผ่านบลูทูธและชิป NFC สนนราคา Nexus Q คือเครื่องละ 299 เหรียญสหรัฐ ผู้สนใจสั่งจองได้แล้วที่ร้าน Google Play กำหนดการจัดส่งคือเดือน ก.ค.นี้

Nexus Q เป็นหนึ่งในหลายผลิตภัณฑ์ที่ Google เปิดตัวในงานประชุมนักพัฒนาประจำปี Google I/O ที่ซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา งานนี้ Google เปิดตัว 'Nexus 7' แท็บเล็ตน้องใหม่ล่าสุดที่จับมือกับ Asus ผู้ผลิตสัญชาติไต้หวัน พัฒนาขึ้นโดยใช้หน้าจอ 7 นิ้วระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุด น้ำหนักเครื่องเบาเพียง 340 กรัม ถือเป็นการจู่โจมแท็บเล็ตเจ้าตลาดอย่างไอแพด และแท็บเล็ตราคาประหยัดอย่างคินเดิลไฟร์ ระยะแรกจำกัดการสั่งซื้อเฉพาะออสเตรเลีย แคนาดา อังกฤษ และสหรัฐฯ ผ่านร้าน Google เพลย์ราคา 199 เหรียญสหรัฐ (ราว 6,000 บาท) และสามารถเริ่มจัดส่งในช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้

งานนี้ Google ยังเปิดตัวแอนดรอยด์เวอร์ชันล่าสุด 4.1 ในชื่อรหัสว่า Jelly Bean ซึ่งต่อยอดจากเวอร์ชันปัจจุบันคือ Ice Cream Sandwich ซึ่งถูกนิยามว่าเป็นการทำให้ทุกอย่างลื่นไหล รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า

เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ Google การันตีว่าคีย์บอร์ดเสมือนใน Jelly Bean จะมีความฉลาดและแม่นยำมากขึ้น ระบบสามารถคาดเดาคำต่อไปที่ผู้ใช้จะพิมพ์ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้จะสามารถพิมพ์ข้อความด้วยเสียง อำนวยความสะดวกให้การพิมพ์ทำได้เร็วและสบายโดยที่ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Google จะเปิดอัปเดต Jelly Bean ในอุปกรณ์รุ่นใหม่ภายในเดือน ก.ค.เช่นกัน

การออกอุปกรณ์ใหม่เหล่านี้สะท้อนว่า Google มีความมั่นใจในร้าน Google เพลย์ ที่มีแอปพลิเคชัน เกม และเพลงมากกว่า 600,000 คอนเทนต์แล้วในวันนี้ บนยอดจำนวนอุปกรณ์แอนดรอยด์ซึ่งมีอยู่ในตลาดโลกมากกว่า 400 ล้านเครื่อง

Create Date : 30 มิถุนายน 2555

0 comments

Last Update : 30 มิถุนายน 2555 12:18:25 น.

Counter : 2313 Pageviews.