เสน่ห์สวิตเซอร์แลนด์
สวัสดีครับ ผมมีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับทัวร์ ในรายการแกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ ช่วงวันที่ 21-29 มีนาคม 2566 รวม 9 วัน 6 คืน มีผู้ร่วมทริปนี้ จำนวน 26 คน เดินทางไป-กลับด้วยสายการบินไทย เส้นทางท่องเที่ยวเป็นไปตามลำดับตัวเลขในแผนที่ด้านล่างขอนำความประทับใจมาบันทึกไว้ในวันนี้ครับวันแรก เครื่องการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 970 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 00.35 น. ถึงสนามบินเมืองซูริค (Zurich) เมื่อเวลา 6.30 น.บริเวณสายพานรับกระเป๋าในสนามบินซูริคเริ่มการท่องเที่ยววันแรกในสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศคันนี้ออกจากสนามบินซูริคไปยังเมืองลูเซิร์น (Lucerne) ไปถึงช่วงสาย ๆ ที่ลูเซิร์นอากาศดี ท้องฟ้าใส อุณหภูมิ 8 องศาเซลเซียส กำลังเย็นสบายตอนบ่ายเดินทางไปยังเมือง อินเทอร์ลาเก้น (Interlaken) แวะชมทิวทัศน์สวยงามระหว่างทางถึงเมืองอินเทอร์ลาเก้นแล้วและพักค้างคืนที่เมืองนี้ เพื่อเตรียมตัวขึ้นไปชมยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ยอดเขาที่ไกลที่สุดในภาพ ในวันพรุ่งนี้ครับวันที่สองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันนี้มีแผนจะไปขึ้นยอดเขาจุงเฟรา ออกเดินทางจากเมืองอินเทอร์ลาเก้นแต่เช้า ไปขึ้นเคเบิลคาร์ ที่เมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald)เมืองกรินเดลวาลด์เมื่อมองจากเคเบิลคาร์แล้วต่อด้วยรถไฟไต่เขา เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาจุงเฟรา ที่ได้ชื่อว่าเป็น Top of Europeถึงด้านบนจุงเฟรา มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและกระทำหลายอย่าง นอกเหนือจากธรรมชาติที่สวยงามและอากาศที่หนาวเย็น -1 องศาเซลเซียส รวมทั้งมีหิมะตกประปรายพาสปอร์ตจุงเฟรา เป็นเอกสารที่การรถไฟจุงเฟรามอบให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปยังยอดเขานี้ทุกคน สามารถสแตมป์วันเดือนปีที่ขึ้นไปได้ด้วยตนเองตอนบ่ายเดินทางไปชมปราสาทซิยอง (Chateau De Chillon) ที่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองสวยงามที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา และพักค้างคืนที่เมืองนี้ครับวันที่สามในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามของห้องอาหารเช้าในโรงแรมที่พักเมื่อคืนและทิวทัศน์สวยงามของทะเลสาบเจนีวาแล้วขึ้นรถไฟข้ามเขาไปยังเมืองกีซดาด์ก (Gstaad) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมต่อจากนั้นเดินทางไปยังเมืองโกล เดอ ปิยง (Col Do Pillon) เพื่อนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นยอดเขากลาเซียร์ 3000 ปรากฏว่านั่งรถไปถึงสถานีเคเบิลคาร์แล้วแต่ฝนตกและลมแรงทำให้ขึ้นไปยอดเขาไม่ได้ครับตอนบ่ายเดินทางไปยังเมืองเลคเกอร์บาด (Leukerbad) เมืองที่มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงถึง 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า Wellness นักท่องเที่ยวนิยมไปอาบน้ำแร่แช่น้ำอุ่น เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ คืนนี้ผมพักที่เมืองนี้ครับวันที่สี่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันนี้มีรายการขึ้นเขามาทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ผมออกเดินทางจากที่พักในเมืองเลคเกอร์บาดแต่เช้า ขณะที่มีหิมะตกเล็กน้อย ไปยังเมืองแทรช (Tasch) แล้วนั่งรถไฟต่อไปยังเมืองเซอร์มัท (Zermatt) จากนั้นนั่งรถไฟจากสถานีกอร์นเนอร์แกรท (Gornergrat) ขึ้นเขาสูงไปยังสถานีมาทเทอร์ฮอร์น ความสูง 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามของขุนเขาสลับซับซ้อนที่ปกคลุมด้วยหิมะ และสกีรีสอร์ทที่สำคัญของประเทศกลับลงมาตอนบ่าย เดินชมความงดงามของเมืองเซอร์มัท และวิวยอดเขามาทเทอร์ฮอร์นแล้วนั่งรถไฟกลับไปพักค้างคืนที่เมืองแทรช บริเวณสถานีรถไฟมีป้ายต้อนรับหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วยครับวันที่ห้าในสวิตเซอร์แลนด์ เช้านี้อุณหภูมิในเมืองแทรชที่พัก -1 องศาเซลเซียส หนาวมาก มีหิมะตกประปรายด้วยผมออกเดินทางจากโรงแรมขึ้นรถไฟไปเมืองเซอร์มัท แล้วขึ้นรถไฟสายกลาเซียร์เอ็กเพรส (Glacier Express) จากเมืองเซอร์มัทไปยังเมืองอันเดอร์มัทชมทิวทัศน์สองข้างทางบนเทือกเขาแอลป์ที่สวยที่สุดในประเทศ บางช่วงรถไฟไต่ขึ้นเขาสูงถึง 2,000 เมตร วันนี้มีหิมะตกหนาแน่นไปตลอดทาง น่าประทับใจสำหรับคนไทยอย่างมากรถไฟไปถึงเมืองอันเดอร์มัท (Andermatt) ลงรถไฟเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นนั่งรถโค้ชไปช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าฟ๊อกทาวน์ เอ๊าท์เลทมอลล์ ชายแดนไกล้กับประเทศอิตาลีแล้วเดินทางไปเข้าที่พักค้างคืนที่เมืองซันดริโอ (Sondrio) อิตาลี เนื่องจากพรุ่งนี้จะต้องขึ้นรถไฟสายโรแมนติก "เบอร์นิน่าเอ็กซ์เพรส (Bernina Express)" ที่มีต้นทางอยู่ที่เมืองทิราโน่ (Tirano) ประเทศอิตาลี แต่ปลายทางอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ครับวันที่หกของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ผมออกจากโรงแรมที่พักไปยังเมืองทิราโน่ อิตาลี เพื่อขึ้นรถไฟเบอร์นิน่าเอ็กซเพรส รถไฟสายเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกรถไฟขบวนนี้แล่นผ่านใจกลางเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ด้วยความสูงถึง 2,253 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ผ่านทะเลสาบ อุโมง สะพาน สวยงาม จำนวนมาก ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะสิ้นสุดเส้นทางที่เมืองเซนต์มอริทซ์ (St. Moritz) เมืองตากอากาศและศูนย์กลางสกีระดับโลก ซึ่งวันนี้อากาศหนาวเย็นมากจนน้ำในทะเลสาบเป็นน้ำแข็ง !!!หลังอาหารกลางวัน เดินทางด้วยรถโค้ชไปยังเมืองซูริค บนเส้นทางภูเขาสูงที่มีหิมะตกตลอดทาง ถึงเมืองซูริคแวะชมทิวทัศน์สวยงามริมทะเลสาบกลางเมือง และพักค้างคืนที่เมืองนี้เป็นคืนสุดท้ายวันที่เจ็ดตอนสาย ออกเดินทางไปยังสนามบินซูริคเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 971 เครื่องออกจากสนามบินซูริคเวลา 13.30 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 05.30 น. ในวันรุ่งขึ้น เป็นอันจบทริปนี้โดยสวัสดิภาพครับ.ปล.ภาพปลั๊กไฟที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ควรเตรียม "อแดปเตอร์ปลั๊ก" ไปให้พร้อมหลาย ๆ อัน เพราะซื้อที่นั่นราคาค่อนข้างแพงครับ (อันละ 320-400 บาท)