Hua Hin - Trip

วันหยุด 3 วันช่วงต้นเดือนพฤษภาคมแป๋มไปเที่ยวหัวหินมาค่ะทริปนี้เป็นทริปอุตลุตทัวร์จิงๆ ลุ้นกันสุดๆ เพราะที่พักก็ไม่ได้จอง วัดดวงกันไปเลยว่าดินฟ้าอากาศจะเป็นเช่นไร

ตามไปดูกันเลยดีกว่านะคะ.........เดี๋ยวแป๋มจะพาเพื่อนเที่ยวบ้าง (หวังว่าคงยังไม่เบื่อหัวหินน้า)
เริ่มต้นจากหาข้อมูลที่พักจากเว็บการท่องเที่ยวต่างๆ ในเน็ต พอดีเพื่อนสามีโทรมาเยาะเย้ยว่า "พวกมรึงยังจะไปเที่ยวหัวหินกันอีกรึ เค้าประกาศเป็นเขตภัยภิบัติแล้ว 5555 (มานหัวเราะโคตะระสะใจมันจิง)" แล้วก็วางหูไป ไอ้เราก็ตีโพยตีพาย

ช้านจาไปอะ หยุดตั้ง 3 วันแนะจาให้นอนเฉยๆ ได้ไงฟระ

หาข้อมูลรายงานสภาพอากาศอีกจากกรมอุตุ อีกที เพื่อความแน่ใจตอนเช้าอีกที

โอ๊ะ โอว... พายุขึ้นเหนือไปแล้ว......55555 ไปเที่ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋า แล้วออกเดินทางกันเลยยยย



ต้องเล่าให้เพื่อนๆ ฟังนิดนุง ก่อนว่าสามีเรามีความแค้นฝังใจกับทริปที่เกาะเต่ามาก อยู่ทะเล กินข้าวไข่เจียว กับแกงส้มผัก (ทริปทัวร์สุดถูกที่เพื่อนๆ ของพ่อสามีแนะนำมา) เที่ยวครั้งนี้ก็ตั้งใจว่าจะกินอย่างราชา เอ้ย...กินแต่อาหารทะเลอย่างเดียว.... ซีฟู้ดเท่านั้น ที่เราต้องการ 555555

พอบวกลบคูณหารตัวเลขกันแล้ว เรื่องที่พัก เราก็จะเอาที่ดูดีนิดนึง ไม่แพงมาก และติดทะเล (ถึงแม้จะต้องเดินไปก็เถอะ แค่ด้านหลังเป็นทะเลก็พอ)

หลังจากสอบถาม guru ผู้รู้ (หมายถึง มรึงถามมาเถอะ กรูตอบให้ด้าย) ให้คำแนะนำ ว่า พักที่นี่ดีกว่า "หินน้ำทรายสวย เป็นคำตอบสุดท้าย" (ไม่ใช่ หินสวยน้ำใสนะ โทรถามเค้า เค้าบอกไม่มีที่นี่ มีคนชอบจำผิดบ่อยๆ มันอยู่คนละจังหวัดกันเลย)


หลังจากทะเลาะตบตี หลงทางกันมาตลอด (ไม่เคยมาทั้งคู่) ก็ถึงแล้วจ้า

ไปดูสภาพห้องพักกันนะคะ

นอกระเบียง มีสระว่ายน้ำ ล่อเด็กๆ เด็กเยอะมาก ว่ายกันได้ทั้งเช้า กลางวัน เย็น (เราเป็นพวกคนรักเด็ก....แป๋มรักเด็กค่ะ) ชอบมากกกก

จากระเบียงด้านหลังก็มองเห็นชายหาดแระ...


เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ไปเที่ยวทะเลกันดีก่า ทางโรงแรม มีรถกอล์ฟพาไปส่งถึงชายหาดเรยย.....ระยะทางไม่ไกลประมาณ 500 เมตรเห็นจะได้


และแล้ว เราก็ถึง ทะเล


โอ้ว แม่เจ้า...... ทะเลมืดครึ้ม (สุดยอดพยากรณ์อากาศ) กับสองตายาย ที่ลั้นลา.....ลั้นลา...มากๆ ทะเล๊ ทะเล หลังจากที่ไม่ได้ไปมา เกือบ 10 ปี (ใช้ชีวิตเป็นเด็กดอย อยู่ 10 ปี ช่วงนี้ครายชวนไปเที่ยวภูเขา ป่า เซย์โน ช้านจาไป ทะเลเท่าน้านนนนน)

พอเท้าแตะพื้นทราย.....และน้ำทะเล อืมมมมมมมม....ม่ายได้ฝันอะ แต่....แต่ นั่น ฝนใช่ป่ะ ฝนตกแย้วววววว

ทำไงดีอะ กลับเหอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ บ๊าย บาย

ไปหาอะไรแพงๆ กระแทกปากกันดีฝ่า โฮ๊ะ โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆ
ขับรถเข้ามาในตัวเมือง (ที่พักห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโล) ฝนยังไม่ตก


ท้องน้อยๆ ของเราสองคนร้องจ๊อกๆ แย้ว ไปกินกันเรยยย ร้านกินแหลกค่ะ


บรรยากาศในร้านก่อนฝนตก


หิวจัด ถ่ายรูปมาให้ดูยั่ว น้ำลาย แค่รูปเดียว "ขอโบก อร่อยมั่กมั่ก"


มื้อนี้ แป๋มสั่ง ปลาหมึกผัดไข่เค็ม, ยำรวมมิตรทะเล, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ส้มตำปูม้า, ข้าวเปล่า 2 จาน และก้อน้ำเปล่า 1 ขวด สนนราคา ไม่ถึง 500 บาท เจ้าค่ะ

อาหารอร่อยใช้ได้ แป๋มเป็นคนทานรสจัด แป๋มว่าก็โอเคนะ ถ้าไม่เอาบรรยากาศ มาเพื่อกินก็ใช้ได้เรยหละ

และแล้ว สิ่งที่รอคอยก็มาถึง ฝนตกซะแย้ว

หลังจากกินอิ่มแล้ว ฝนก็ตก กลับมานอน อู๊ดๆๆๆๆ เป็นหมูไปเรียบร้อยแล้ว

อ้าว.....เย็นอีกแระ ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันต่อดีฝ่า

คราวนี้ที่หมายปลายทาง คือ "ตลาดโต้รุ่ง" Let's go ไปต่อกันเรยย ค่ะ

คนเยอะมั่กๆ เดินเบียดกันเลยหละ มีทั้ง นักศึกษา, ครอบครัว, ชาวต่างชาติ มาเที่ยวตลาดกันเยอะแยะ (เราจอดรถด้านหลัง แล้วเดินเข้ามาในตลาด เพราะที่นี่จอดข้างถนนได้ ไม่เหมือนในกรุงเตบ)

เค้าว่ากันว่า ร้านไหนอร่อย ให้ดูจากจำนวนคนเข้าร้าน เราสองคนก็ดู เอาว่าร้านไหนคนเยอะ ก็เข้าร้านนั้นแหละน้า เสี่ยงดวงเอา (บอกแล้วว่าทริปนี้ อุตลุต ทัวร์)

อ้า......เจอแล้ว คนเยอะใช้ได้ ไปกินกันเรยดีกว่า "ร้านไข่มุก ซีฟู้ด ค่ะ"





เป้าหมายคือ อาหารทะเล ช่ายแล้ว สั่งมากินกัน ดีกว่า


กุ้งเผา (น่ากินใช่ม้า) แต่ในเมนูครึ่งกิโล 600 บาท เห็นแล้วลมจะจับ ขอถอนตัวบอกสามีว่า "เอากุ้งแม่น้ำเผาได้ป่ะตัวเอง 200 ถูกกว่าตั้งเยอะ" สามีบอก "อะไรฟระ มาทะเลกินกุ้งแม่น้ำ ได้ไง เดี๋ยวสั่งผัดผักบุ้งไฟแดงซะเรยย เค้าจากิน" ว่าแล้วก็สั่งๆๆๆ


ปลาสำลีเผา (ตัวใหญ่มั่กๆ เนื้อเยอะ เราว่ามันเหมือนปลาซาบะ+ ปลาทู แต่เนื้อเยอะกว่า หวานกว่าหละ)

น้ำลายไหลยัง เช็ดซะน้า........น้ำจิ้มอร่อยมาก แซ่บหลายเด้อ (ปกติน้ำจิ้มซีฟู้ดเค้าจะไม่นิยมใส่น้ำปลากันนะเจ้าค่ะ เพราะจะทำให้มันคาว)



กินจนเหนื่อย คิดดูดิอุตส่าห์เข้าฟิตเนส ลดหุ่นเพื่อไปทะเล แต่คุณสามีเอามาขุนซะหยั่งงั้น

ทั้งหมดที่สั่งมาก็มี ปลาสำลีเผา, กุ้งเล็กเผา, โป๊ะแตก, กรรเชียงปูนึ่ง (ไม่ค่อยอร่อย จืด ไม่แนะนำนะคะ แป๋มคิดว่าเค้าคงนึ่งไว้นานแล้ว ปูไม่ค่อยสดเท่าไหร่ มันเลยไม่หวาน เป็นอย่างเดียวที่ผิดหวัง นอกนั้นอร่อยใช้ได้) ค่าเสียหายในมื้อนี้ ประมาณ 1400 บาท

ปล. โต๊ะข้างๆ เกือบจะรอบตัว เค้าสั่งกุ้งแม่น้ำเผาอ่ะ รู้งี้สั่งมั่งดีกว่า แต่กัว หมูกัด(คุณสามี)

กินอาหารคาวเสร็จแล้วปากก็บอกว่า อิ่ม ๆแต่กระเพาะอาหารคาวเราอิ่ม อาหารหวานยังไม่ได้ตกถึงท้องเรยย เดินในตลาด เจอร้านไอติมกะทิร้านเจ๊นิ คนต่อแถวซื้อกัน (คนที่นี่น่ารัก ไม่มีแย่งกันซื้อ ทุกคนต่อแถวและรอม่ายไหวคิวยาวมายมาย)

เลยไปกินที่นี่แทน ไอศรีมแบรนด์ดัง Swensen's 555 ที่ Hua Hin Market Place แหล่งรวมร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย ที่นี่แต่งร้านสวยใช้ได้เลยหละ

พวกศิวิไล อย่างเราค่อยชื่นอกชื่นใจ นึกว่ามาเดินสยาม แต่ไม่ยักกะมีเด็กสยามซักกะคน ร้าน Swensen'sที่นี่แต่งร้านสวยมากมาย ประตูเลื่อนแบบโค้ง มีโซฟาแดงขาว สำหรับนอนกิน 55555 ชอบมาก

กินไอติมคนละถ้วย พุงกางมากๆ












วันที่สองที่หัวหิน

...ตื่นมาตั้งแต่เช้าพร้อมเสียงเด็กๆ ร่วม 20 คน ร่าเริงใจอยู่ในสระว่ายน้ำ ตื่นเช้ากันจริงๆ (เฮ้อ เสียงสวรรค์เจรงๆ
แป๋มรักเด็กค่า)

ไหนๆ ตื่นแล้วก็ลงไปกินอาหารเช้าที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ อากาศดี๊ดี เลยอยู่ต่ออีกคืน

เย้......เย้ ฟ้าเปิดแล้ว วันนี้อุตส่าห์ใส่ Bikini มาเพื่อเล่นน้ำทะเล ว่าแล้วก็ให้พนักงานโรงแรมขับรถกอล์ฟไ ปส่งที่ชายหาด

ทะเลๆๆๆๆๆๆๆ ได้เล่นสมใจล่ะคราวนี้



ทำสวยก่อนลงทะเล (ถ่ายกับทะเล)

ถ่ายกับชายฝั่ง
มีน้องม้า มาบริการให้ขี่ด้วย (แต่ม้าแอบผอม) เราสงสารม้า รับน้ำหนักตัวของสามีเราไม่หวายยยย....แน่ๆๆ จริงเชียว เพราะคุณพี่แกเกือบได้ยศ นายร้อยแล้วตอนนี้ (ร้อยกิโล...)

รูปคู่......ดีใจอย่างสุดซึ้ง มีคนใจดีถ่ายให้ (ลืมแบกขาตั้งกล้องมาด้วย)

ได้ลงเล่นน้ำแย้ว (กำลังโพสท่าสวยถ่ายรูป ให้เหมือนนางแบบ FHM ดันมีคลื่นซัดเข้ามา น้ำเข้าตรูด.....ฮ่าๆๆๆๆ ภาพเลยออกมาอย่างที่เห็น)



ชิๆๆๆ ผู้หญิงคนนี้ หล่อนเปลี่ยนชุดบ่อยจริงเชียว ฟามจริงแล้วเป็นวันเดียวกัน แป๋มเป็นพวกเครื่องแต่งกายดีเด่น เตรียมมาหลายชุด ช้านต้องใส่ให้หมด ฮ่าๆๆๆ

ไปเที่ยวต่อกันที่จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ

ขับรถขึ้นเขามาเพื่อจะชมวิว อันสวยงามของเมืองหัวหิน ภาพก็ออกมาแบบนี้แหละค่ะ


มีนกยูงด้วย ร้องเหมือนแมวเลย (รูปนกยูงกับถังขยะสีเขียว เข้ากันไหมคะ จะแหย่ให้มันรำแพนหาง โชว์พาว แต่ก็กลัวโดนมันจิกเอา เค้าว่ามันดุ ใจไม่ถึงพอง่ะ กัวนกจิก)


วิวเมืองหัวหิน สวยไม๊ค่ะ (แต่อยากบอกว่า จอดรถแล้วเดินเข้าไป ฝนเพิ่งตกเมื่อคืน เลยค่อนข้างเฉอะแฉะ หน้า ง้องอ ก่อนจะไปถึงจุดชมวิว ไกลโคตะระ แต่ถ่ายรูปมาทำยิ้ม เห็นกล้องไม่ได้ เรานี่)

หลังจากที่ไปชมวิว ขากลับก็แวะที่สถานีรถไฟหัวหิน เค้าบอกว่าสวย เห็นในโบรชัวร์แนะนำ ก็น่าสนใจ ไปชักภาพกันซักกะหน่อยดีฟ่า


มาถึงหัวหิน จริงๆ แล้วค่ะ (ดูหลักฐานได้)

ทำท่ายืนรอรถไฟ (มีคนมารอรถไฟอยู่ด้วยนะคะ เปิดใช้อยู่จริงๆ)

พวกป้าๆ เสื้อเหลืองเห็นแป๋มกับคุณสามีถือขาตั้งกล้องกันมา ถ่ายรูปๆๆๆ แกซุบซิบๆๆ กันใหญ่ เลยถ่ายป้าแกซะเลย

ในสถานีค่ะ

ท้องร้องแล้วหละค่ะ หาที่กินกันดีกว่าน๊า

Let's go ตอนแรกกะจะไปชมวิวที่เขาตะเกียบกัน ขับรถไปเรื่อยๆ แบบคลำทางกันไป มองเขาไปเรื่อยๆ ใช่แน่ๆ (เคยใช้ทฤษฎีนี้ตอนอยู่เชียงใหม่ ขับรถมองดอยสุเทพ มาตลอดทาง รับรองกลับหอถูก ไม่หลงทางแน่นอน ฮิๆๆ)

ผ่าน The Rock, Let's Sea ก่อนถึงจะถึง บ๊าย บาย น้า ไว้คราวหน้าจะมาพักนะจ๊ะ

ถึงเขาตะเกียบ ทางขึ้นเขารถติดมาก ประชาชนมาเที่ยวกันมากมาย ต้องผ่านหมู่บ้านชาวประมงด้วย และแล้ว....ก็จ๊ะเอ๋กับ อาหารทะเล สามีสุดที่เลิฟ ไล่ลงจากรถมาถามราคา และเลือกซื้อก่อนเรย ส่วนตัวเค้าเองก็ไปกลับรถมารอรับ (เห็นแก่กินเจรงๆ ผัวตรู)

มีร้านเล็กๆ ขายอาหารทะเลสด ที่จับมาจากทะเลมาขายกัน ปิ้ง, ย่างกัน เห็นกันจะจะ

ปลาทูแท้ๆ หมดถาด 50 บาทจ้า

ปูม้า และปูม้าลาย (ตัวลายๆ) เป็นๆ ว่ายน้ำกันเห็นๆ โลละ 220 บาท

กุ้งเผาของแป๋ม หมดนี่ 110 บาทค่ะ (ครึ่งกิโล เมื่อคืน 600 โอ้ แม่เจ้า)

ปลาหมึกย่าง ตัวหย่ายๆ ตัวละ 25 บาทค่า

พอคุณสามีหาที่จอดรถ ฮีก็เดินเข้ามา ถาม

สามี "แป๋มสั่งไรไปบ้างอะ"

แป๋ม "กุ้งเผา กะปูม้าลายนึ่ง"

สามี "มันตายยังอะ เอาที่ตายแล้วนะ ดูดิมันยังว่ายอยู่เลย" (ยายกำลังเอาปูม้าของคนอื่นที่กำลังดิ้นใส่ลงไปในหม้อนึ่ง) โล่งอกที่ของเรามันนึ่งสุกแล้ว เราไม่เห็น ไม่เป็นรายยย กินได้

สามี " ยาย เอาหอยแมลงภู่ อีก 1 ถุง, ปลาหมึกปิ้ง อีก 2 ตัว"
แป๋ม "กรูจะกินหมดไหมเนี่ย (คิดในใจ)" (เค้าว่ากันว่าท้องแตกดีกว่าของเหลือ)
สิริรวมทั้งหมด ทายซิค่ะ .......370 บาทถ้วน (โอ้จะซื้อเพิ่มอีกดีไหมเนี่ย....แต่กลัวท้องแตกตายอะ พอก่อนดีกว่า) คราวนี้อร่อยทู้กอย่างค่ะ คอนเฟริม (กลับมากินที่โรงแรม)

สรุปว่าวันนั้นกินของทะเลกลางวัน แล้วก้อเย็น (ยายที่ขายของแกบ่นๆ ว่าคนส่วนใหญ่มาถึงก็จะเอาเลย แต่แกต้องปิ้ง ต้องย่างต้องใช้เวลานาน ถ้าใครจะกิน ต้องรอหน่อยนะคะ ของอร่อยและถูกต้องอดใจรอหน่อยน้า)
ตกเย็นไปตามหาหอยติดหินกัน (ตามเพลง....) ไปตามหากันที่ชายหาดหัวหินกันค่ะ

เปลี่ยนชุดอีกแระ เบื่อผู้หญิงคนนี้จริงจริ๊ง

เจอแล้ว หอยติดหิน (หินข้างๆ นะไม่ใช่ของนางแบบ)

หอยจริงๆ เท่าที่รู้จักก็มีหอยแมลงภู่ กับหอยนางรม หอยอื่นๆ ไม่รู้จักอ่ะ


มีคนเก็บหอยตามโขดหินไปกินกันเยอะแยะเลยค่ะ แป๋มไปลองจับตามหินดูว่ามีหอยจริงๆ หรือเปล่า

ฮั่นแน่ เจอแย้ว....หลังจากพยายามดึงออกมาได้ตั้ง 1 ตัว แต่ก็ปล่อยลงทะเลไปเหมือนเดิม

พอขึ้นจากชายหาดก็ได้เวลาตลาดโต้รุ่งเปิดขายพอดี ไปหาของหวานๆ กินกันซักหน่อย แล้วเราก็ได้ไปกินไอติมเจ๊นิ สมใจ

ขอแนะนำอีกร้านนึงนะคะ อร่อยมั่กมาก....ไม่หวานจนเกินไป เครื่องเคียงอร่อย ใช้ของดีมาก เช่น ข้าวเหนียว, แตงไทย, มะม่วงเชื่อม, มันเชื่อม, ลูกชิด ฯลฯ เข้ากันดีกับไอติมจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอย

แต่....อนิจจัง มันหมดซะแร้ว ถ่ายรูปไม่ทัน ขอโทษด้วยนะค๊าเพื่อนๆ












วันที่สาม วันสุดท้ายแล้ว เก็บข้าวเก็บของกลับกรุงเทพ
ลาแล้วน๊า หัวหิน ว่างๆ จะมาใหม่แน่นอน

ขากลับแวะที่นี่ก่อนค่ะ พระราชวังเก่าสมัยร.5


ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท (เพื่อบำรุงสถานที่)

กฎ กติกา มารยาทของที่นี่ แต่งกายสุภาพ ไม่ใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่า เสื้อสายเดี่ยวหรือแขนกุด ไม่งั้นต้องใส่ผ้านุ่ง กับเสื้อตัวนี้นะคะ

ดีนะนี่ที่ใส่เสื้อเรียบร้อย (กะว่าจะใส่สายเดี่ยวให้เข้ากับทะเลซักกะหน่อย พอดีไหวตัวทันก่อน ไม่งั้นรูปออกมาจะไม่งามงด)

555 นุ่งกุงเกงขาสั้นเหนือเข่า เลยได้ใส่ผ้าถุง เป็นไงค๊า เหมือนคนสมัยโบราณไม๊ ดูเรียบร้อยเชียว (หรือว่าเหมือนแม่บ้าน มากกว่า)

ถ่ายรูปได้แต่บริเวณระเบียงค่ะ เพราะตามห้องต่างๆ เค้าห้ามถ่าย แล้วก็ห้ามเอาขาตั้งกล้องขึ้นไปด้วยหละ

ทำเรียบร้อยหน่อยค่ะ เดี๋ยวโดนดุเอา

ภาพสุดท้ายก่อนจบทริปอุตลุตทัวร์ค่ะ(รูปนี้ตั้งเวลากล้องเอา แล้วรีบวิ่งมาถ่ายค่า)

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมทริปเล็กๆ ของเราสองคนนะคะ ทริปนี้ถือเป็นการฮันนีมูนครั้งแรกของเรา เพราะตั้งแต่แต่งงานสามีไม่ว่างไปเที่ยวเลย สนุกมากๆ ค่ะ

แล้วเจอกันทริปต่อไปนะคะ (ครั้งหน้า อาจจะมาโพสไปเที่ยวสวนจตุจักรให้ชมกัน เพราะเดินทุกอาทิตย์เลย) บ๊าย บายค่า

Create Date : 06 มิถุนายน 2550		8 comments
Last Update : 6 มิถุนายน 2550 23:31:20 น.
Counter : 3039 Pageviews.
Share Tweet