วันที่ ๔ ไปเที่ยว Keketuo Hai Inter Park

..




วันที่ ๒๗ ก.ย.๕๔
เหมือนเคย นอนดึก ตื่นเช้า แม้ว่าครั้งนี้จะมาเที่ยวกันเองแต่พวกเรา
ก็ทำตัวเหมือนไปกับทัวร์ คือ เวลาตื่น๖.๐๐ เวลาอาหารเช้า๗.๓๐ และ เวลาออกเดินทาง๘.๐๐ ซึ่งไม่เคยออกเดินทางได้ตามเวลาเลย เพราะช่วง
เวลาอาหารเช้าแค่ครึ่งชั่วโมง น้อยไปสำหรับคนตั้ง ๒๒ คน

วันนี้เราจะเดินทางจากเมือง Fuyun ไปเมือง Burqin ระหว่างทางเราจะแวะ
เที่ยว เขอเค่อโหไห่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการ ค่าเข้าชมสถานที่ ๔๙ หยวน และค่ารถ ๔๙ หยวน ต้องนั่งรถเข้าไป ๒
ต่อ อากาศก็หนาวอุณภูมิประมาณ ๖ องศาC ถ้าได้นั่งรถแบบรถกอล์ฟ ลม
ปะทะอย่างจัง ฉันเลือกที่จะนั่งรถตู้เล็กมากกว่าเพราะสู้ลมปะทะไม่ไหว

วิวระหว่างทางจาก Fuyun ไปเมือง ปู๋เอ่อร์จิ้น สองข้างทางจะมีต้นไม้
ชนิดหนึ่งใบกำลังเปลี่ยนสี สังเกตดูน่าจะเป็นต้นไม้ที่ปลูกขึ้นมามากกว่าขึ้น
เองตามธรรมชาติ บางช่วงก็เป็นต้นไม้เล็กๆสีแดงๆ









เมื่อเข้าไปถึงอุทยาน ระหว่างนั่งรถของอุทยานเข้าไปเป็นทางเลียบภูเขา
แต่ไม่สูงชัน อีกข้างหนึ่งเป็นต้นไม้ใบกำลังเปลี่ยนสีที่ขึ้นริมลำธาร สวย
งามทีเดียวหลายคนก็ตื่นตาตื่นใจ เสียงกดชัตเตอร์ดังตลอดเวลา ย้ายที่นั่ง
บ้าง วิ่งไปหน้ารถบ้าง เพื่อเก็บภาพสวยงามให้ได้มากที่สุด เพราะเป็น
บรรยากาศที่บ้านเราไม่มีให้เห็น นี่ยังเป็นส่วนน้อย วันต่อๆไปยังมีแบบ
อลังการงานสร้างที่ธรรมชาติจัดสรรไว้ให้มนุษย์ได้ชื่นชม



รูประหว่างทางก่อนถึงอุทยาน เห็นฝูง แพะ แกะ ก็ตื่นเต้น อยาก
ให้จอดรถถ่ายรูป แต่คนขับบอกว่าจอดไม่ได้ ซึ่งบางที่เราก็จะเห็น
มีรถจอดเพื่อถ่ายรูปนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เรามีกับคนขับรถ







เมื่อลงรถต่อที่สองแล้ว เราก็ต้องเดินไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตร
เพื่อขึ้นเขาชมธรรมชาติ และมีหินก้อนใหญ่รูปคล้ายระฆังคว่ำ











มีชาวบ้านมาขายของ รูปที่เห็นคือโยเกิร์ตนมแพะ และเมื่อออกจาก
อุทยานรถจะมาจอดให้เราลงตรงที่ขายอาหาร ครัวอยู่ภายนอก
และนั่งกินในกระโจม





พวกเราส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องอาหารเพราะอาหารแถบนี้จะใส่
เครื่องเทศ ค่อนข้างมัน และจืดๆ เนื้อสัตว์ก็จะเป็น แพะ วัว เป็น
ส่วนมาก เราจึงไม่กินอาหารที่กระโจม ตกลงออกเดินทางจากอุทยาน
และไปต่อ ระหว่างทาง คนขับรถก็จอดรถหาข้าวกลางวันกิน พวกเรา
ก็ลงไปสั่งก๊วยเตี๊ยวผัด ๔ จานกินกัน เกือบ ๑๐ คน



กว่าจะถึงเมือง ปู๋เอ่อร์จิ้น ก็มืดค่ำ มีสมาชิกบางคนออกไปกินอาหาร
เย็นกัน เพราะมีคนให้ข้อมูลว่าเมื่อมาถึงเมืองนี้ต้องกินปลา แต่ฉันไม่ได้
ไปกินด้วย ได้ความว่าสั่งปลามาสองจาน จานหนึ่งอร่อย แต่อีกจาน
เนื้อปลาเหนียวมาก และที่เขาไปกินปลากันมีตลาดผลไม้ เขาบอกว่า
แตงเมล่อนที่ตลาดนี้หวานมากถึงมากที่สุด ไปกินที่เมืองไหนๆในโอกาส
ต่อไปก็ไม่อร่อยเท่าที่ตลาดนี้เลย เรานอนกันที่ Jiade Hotel
คืนละ ๒๒๐ หยวน สภาพไม่ค่อยดีนัก ดูเก่าๆ ห้องน้ำมีกลิ่น

Create Date : 31 ตุลาคม 2554		4 comments
Last Update : 31 ตุลาคม 2554 19:10:30 น.
Counter : 1018 Pageviews.
Share Tweet