Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๑๕ เพื่อนทรยศ

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง
ตอนที่ ๑๕ เพื่อนทรยศ

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักครับ มาถึงตอนนี้กระผมก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขออนุญาตย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่พ่อพลายแก้วเพิ่งจากเมียไปทัพนะขอรับ

ทางกรุงศรี ฯ แม่พิมก็เกิดวิปริตขึ้นมาอย่างหนัก มีอาการคิดถึงสามีจนเกินขนาดจนถึงขั้น " หลงใหลเพ้อพูดจนผีลง " ทีเดียวแหละขอรับ

ก็เป็นทุกข์เป็นร้อนกันไปทั้งบ้าน จนท่านยายศรีประจัน ต้องเร่งไปปรึกษา หลวงตาจู วัดป่าเลไลย ท่านว่าไว้ในฉบับหลวงดังนี้ขอรับ

ครานั้นจึงท่านขรัวตาจู
พิเคราะห์จับยามดูหาช้าไม่
ครั้นดูรู้ประจักษ์ก็ทักไป
ออพิมพิลาไลยนี่เคราะห์ร้าย

มันตกลงที่นั่งนางสีดา
เมื่อทศพักตร์ลักพาไปสูญหาย
ถ้าแม้นไม่จากผัวตัวจะตาย
ถ้ายักย้ายแก้ไขไม่เป็นไร

ผลัดชื่อเสียพลันว่า วันทอง
จะครอบครองทรัพย์สินทั้งปวงได้
โรคนั้นพลันจะคลายหายไป
หาบรรลัยไม่ดอกสีกายาย ฯ


เป็นอันว่าแม่พิพิลาไลย ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น วันทอง อันเป็นที่รู้กันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความมัวหมองในวงวรรณคดีไทย มาตั้งแต่บัดนั้น

คราวนี้จะได้เล่าความถึงนายขุนช้างตัวแสบ ศัตรูเก่าของพ่อพลายแก้ว ตั้งแต่เพ็ดทูลให้เจ้าชีวิตส่งมันไปทัพอันตรายแล้ว ก็ยังไม่สาแก่ใจ จัดการดำเนินแผนการต่อไปอย่างแยบยล คอยชมกันต่อไปสิครับพ่อแม่พี่น้อง ว่าอ้ายผู้ร้ายในนิทานเรื่องนี้มันสุดที่จะร้าาาาา...ยยย...จริง ๆ

เริ่มต้นด้วยการให้บ่าวไพร่ ไปเก็บกระดูกผีไม่มีญาติจากป่าช้า มาใส่หม้อใหม่เตรียมไว้ แล้วก็รีบแต่งตัวอุ้มหม้อไปหาท่านยายศรีประจันที่บ้านทันที

ครานั้นจึงโฉมเจ้าขุนช้าง
ทำครวญครางอู้อี้แล้วยี่หน้า
น้ำตากระเด็นเป็นเม็ดเช็ดน้ำตา
เอาหม้อกระดูกมาตั้งลงไว้

นี่คือกระดูกออพลายแก้ว
ลาวแทงเสียแล้วเขาเอามาให้
พระยาเชียงทองมันสองใจ
เข้าด้วยเชียงใหม่แล้วกลับมา

ทำเป็นเข้าด้วยออพลายแก้ว
ยกทัพมาแล้วถึงกลางป่า
หยุดพักหลับนอนมาหลายครา
ครั้นเวลาพลบค่ำลงรำไร

พระยาเชียงทองย่องมาแทง
เลือดแดงตลอดจนปอดไหล
ร้องขึ้นอึงมี่มันหนีไป
ออแก้วก็สิ้นใจไปไม่ช้า

บ่าวมาถึงกรุงก็ติดคุก
หลายคนทนทุกข์อยู่หนักหนา
อ้ายมากฝากหม้อกระดูกมา
ว่าแล้วทำหน้าเป็นทุกข์คลาย

อายุมันสั้นเท่านั้นแล้ว
คิดคิดถึงออแก้วก็ใจหาย
ไม่พอที่จะกล้าอาสาตาย
ให้แม่พิมเป็นหม้ายอยู่เอกา ฯ


โกหกชั้นครูทีเดียวแหละขอรับ ขนาดนี้แล้วแม่ศรีประจันทำไมจะไม่เชื่อ ก็ตกอกตกใจกันใหญ่ไปเท่านั้น แต่แม่วันทองผู้ภรรยาก็ยังไม่ปักใจเชื่ออยู่ดี เนื่องด้วยยังมีต้นโพธิ์อธิษฐานที่ปลูกไว้คู่กันอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งยังใช้เป็นประจักษ์พยานได้ จึงยังเถียงแม่อยู่ ทั้ง ๆ ที่ใจตัวเองก็แป้วเต็มทีแล้ว

ข้างแม่ยายศรีประจันก็ยิ่งกรอกหูว่า ในบทพระอัยการนั้น ถ้าผัวตายกลางศึก ก็ให้ยึดเมียไปเป็นหม้ายหลวง หนักข้อเข้าไปอีกนะขอรับ นั้นก็ยิ่งทำให้แม่พิม...ประทานโทษ...แม่วันทอง...ก่นโศกร้องไห้เป็นการใหญ่ไปกว่าเดิมอีก

ปรากฏว่าได้ แม่สายทอง ขอรับ คราวนี้กลายเป็นคนดีกลับเป็นคนเตือนสติแม่วันทองว่า อย่าเชื่อข่าวที่เขานำมาบอกง่าย ๆ เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นเล่ห์กลอะไรบางอย่างของนายขุนช้างเป็นแน่ แม่วันทองยังจำได้หรือไม่ว่าครั้งเมื่อก่อนแต่งงานนั้น อ้ายช้างมันเพียรพยายามมาขอน้องอยู่อย่างไร มันคิดว่ามันมีเงินฟาดหัวเราเสียอย่างแล้วจะข่มเหงอย่างไรก็ได้ น้องเองก็เคยได้ทุกข์ถูกแม่เฆี่ยน ร้อนถึงพี่ต้องไปปรึกษาหารือพ่อเณรแก้วจนกระทั่งพี่ถูกปล้ำ...เอ๊ย...จนพ่อเณรร้อนผ้าเหลืองรีบสึกมาแต่งงานกับเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวไป นั่นไง แต่มันก็ยังมาตามรังควานเพ็ดทูลพระเจ้าอยู่หัว ให้ส่งผัวเธอไปรบที่เมืองไกลจนได้ มาบัดนี้แล้ว ผัวเธอไปรบยังไม่ทันเท่าไร มันก็รีบแล่นมาบอกแม่ว่าผัวเธอตาย ทั้ง ๆ ที่เรา...เอ๊ย...เธอก็รู้ฝีมือดีอยู่ว่า พ่อพลายแก้วนั้นเขาเก่งขนาดไหน....แล้วอย่างนี้...เธอยังจะเชื่ออ้ายช้างมันอยู่อีกหรือ...

ว่าแล้วก็ชวนกันแอบไปหาหลวงตาจู ผู้เปลี่ยนชื่อพิมพิลาไลยเป็น ชื่อใหม่ว่า วันทอง นั้นเอง ให้ท่านทำนายให้รู้แจ้ง พอเล่าความให้หลวงตาท่านฟังแล้ว ท่านก็ว่าดังนี้ตามฉบับหลวงขอรับ

ครานั้นจึงท่านขรัวตาจู
พิเคราะห์จับยามดูหาช้าไม่
ยามสูรย์ยามจันทร์ก็มั่นใจ
เห็นไม่เป็นไรก็ว่ามา

ทักทายตามที่ยามตรีเนตร
ใครบอกเหตุโกหกอย่าเชื่อหวา
ผัวเอ็งมีชัยได้พารา
ข้าศึกเป็นจุณวิจุณไป

ได้ทั้งพัสดุเงินทอง
ข้าวของผู้คนเป็นไหนไหน
หน่อยหนึ่งก็จะมาอย่าตกใจ
เอ็งอย่าเชื่อใครใครไปวุ่นวาย ฯ


เมื่อได้ยินคำรับรองจากหลวงตาดังนั้น ทั้งสองสาวก็ค่อยคลายใจแต่พอกลับไปเล่าให้แม่ศรีประจันฟัง แม่ก็กลับทำโบ๊ะเบ๊ะไม่รู้เรื่องเอาเสียดื้อ ๆ งั้นแหละ

ครานั้นท่านยายศรีประจัน
สั่นหัวว่ากูไม่เชื่อหวา
ทายยามตามเล่ห์เวลา
มันจะสู้ตาเห็นได้อย่างไร

อวดว่าดูแน่อุแหม่ลูก
ลางทีมันหาถูกสักนิดไม่
เอ็งอย่าพาซื่อเชื่อถือไป
พวกไพร่ติดคุกอยู่ทุกคน

เขาจะเก็บเอาไปเป็นหม้ายหลวง
จะกอดเข่าเหงาง่วงลงกลางร่น
ไม่มีใครติดตามด้วยความจน
ผ่อนปรนเสียเถิดอย่ารำคาญ

ออแก้วใช่แม่ไม่รักใคร่
มันบรรลัยไม่กลับมาถึงบ้าน
ขุนช้างมันชั่วแต่กระบาล
ถึงหัวล้านหัวเหลืองเครื่องในดี ฯ


เอ..ตอนนี้กระผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนักดอกครับ ว่าที่ว่าเครื่องในดี นั้น เป็นอย่างไร...

แม่วันทองได้ฟังแม่เลอะเทอะดังนั้นจึงร้องห่มร้องไห้เสียมากมาย แล้วก็กล่าวอ้างถึง โพธิ์อธิษฐาน ที่เคยปลูกร่วมกันครั้งเมื่อพลายแก้วไปทัพ แต่แม่ศรีประจันก็กลับโวยวายหาเรื่องเสียมากมายว่า ทางไกลเหลือเกิน ไปไม่ไหวหรอกอะไรทำนองนั้น

แม่วันทองจึงได้แต่ร้องไห้รำพันต่อว่า จนแม่ศรีประจันเกิดโมโหเดือด คว้าไม้มาเฆี่ยนตีกันจนเสียงลั่นบ้านไป

แต่ในที่สุดก็สงสารลูก จึงทิ้งไม้ลงปลอบว่าจะไปดูด้วยกัน แล้วก็ร้องไห้กันอีกยกหนึ่ง

เฮ้อ...เกิดมาเป็นแม่วันทองนี้กระผมว่าน่าลำบากใจจริง ๆ เลยนะขอรับ ไหนจะมีแม่ที่อารมณ์ไม่อยู่กะร่องกะรอยอย่างนี้ ไหนยังจะต้องเผชิญชะตากรรมนักหนาสาหัสไปยิ่งกว่านี้ในภายภาคหน้า อย่างเช่นแม้แต่คราวนี้

เนื่องจาก พอจะไปดูต้นโพธิ์ขึ้นมาจริง ๆ ก็ให้มีอุบาทว์เหตุขึ้นมาอีก

ครานั้นจึงโฉมเจ้าขุนช้าง
ความสมัครรักนางไม่เหือดหาย
อยู่บ้านรำคาญใจไม่สบาย
ลอบมาบ้านท่านยายศรีประจัน

ได้ยินเสียงอึงคะนึงห้อง
แกตีวันทองร้องสนั่น
แล้วกลับยินยอมพร้อมใจกัน
จะไปดูโพธิ์สำคัญที่มั่นใจ

ขุนช้างฟังสังเกตตำแหน่งที่
แล้วรีบรี่กลับมาหาช้าไม่
ครั้นถึงบ้านเรียกหาพวกข้าไท
สั่งให้ไปผูกเอาช้างมา

ขุนช้างวางขึ้นบนหลังช้าง
จอบเสียมเตรียมวางมาหนักหนา
รีบรัดตัดมุ่งข้ามทุ่งนา
พอรุ่งถึงท่าบางลางพลัน

ปลงช้างดูทางสังเกตได้
ก็รีบข้ามน้ำไปขมีขมัน
พบโพธิ์ปลูกเรียงไว้เคียงกัน
ใบนั้นเขียวพุ่มชอุ่มตา

จับต้นกลางกระโชกโยกให้หนัก
เดชะอารักษ์เขารักษา
ด้วยพลายแก้วตั้งสัตย์ปัฏิยา
กันจอบเสียมมีดพร้าให้ผิดไป

แต่ว่าต้นโพธิ์ยังอ่อนนัก
โยกหนักใบหล่นไม่ทนได้
ใบหดเหี่ยวหยองดังต้องไฟ
ขุนช้างกับบ่าวไพร่ก็กลับมา ฯ


พอแม่ลูกได้เดินทางไปเห็นผลงานของนายขุนช้างประจักษ์ตาดังนั้นก็ยิ่งตกใจใหญ่ ขากลับจนมาถึงบ้านแล้วก็ยังกอดคอกันร้องไห้จนจะเป็นประสาทตาย แล้วแม่ศรีประจันก็จัดแจงเตรียมบีบบังคับ จะยกแม่วันทองให้กับนายขุนช้างตามความตั้งใจเดิมทันทีโดยไม่ฟังเสียงแม้ว่าแม่วันทองจะไปขอคำรับรองจากหลวงตาจูอีกครั้งหนึ่งก็ตาม

ฝ่ายนายขุนช้างได้ใจใหญ่ จึงขออนุญาตแม่ศรีประจันจัดแจง รื้อเรือนหอ ของพลายแก้วลงถวายวัดแล้วปลูกของตนขึ้นใหม่ จนกระทั่ง แม่ทองประศรี มารดาของพลายแก้วมาพบเข้า ก็เลยมีเรื่องโวยวายกันใหญ่โต

ท่านยายทองประศรีได้ฟังว่า
เจ็บใจหนักหนาจนตัวสั่น
เป็นไรเป็นไปได้ดูกัน
นบอกกล่าวท่านทั้งสองนาย

แน่เฮ้ยอียายศรีประจัน
กูว่าเท็จอย่าให้ทันตะวันบ่าย
เพราะกูสมัครรักลูกชาย
ออพลายกูห้ามมันไม่ฟัง

มันเพิ่งรุ่นเล็กเป็นเด็กหนุ่ม
กลัดกลุ้มไม่คิดดูหน้าหลัง
หลงรักวอนวิงเอาจริงจัง
กูจึงเซซังมาตามใจ

ถึงเอ็งจะพรากจากออพลาย
กูหามีความเสียดายสักนิดไม่
ด้วยพืชพรรณมันไม่น่าจะอาลัย
นี่ซังตายว่าไว้พอเป็นที

ว่าแล้วก็ลงจากเรือนพลัน
วันทองวิ่งถลันตามทองประศรี
ศรีประจันฉวยไม้ไล่ต้านตี
ฉุดวันทองรี่ขึ้นบนเรือน

ทองประศรียื้อยุดฉุดชิงกัน
ศรีประจันเรียกข้ามากล่นเกลื่อน
พวกศรีประจันมากลากขึ้นเรือน
ทองประศรีหน้าเฝื่อนโกรธกลับไป ฯ


แต่ในที่สุด พิธีแต่งงานระหว่างนางวันทองกับขุนช้างก็ถูกจัดขึ้นจนได้ ทั้ง ๆ ที่ก็มึนตึงกันไปหมด และทั้ง ๆ ที่ขรัวตาจูก็ออกปากห้ามอีกแรงหนึ่งก็หามีใครฟังไม่

ก็เลยมีการชุลมุนกันเป็นการใหญ่ทีเดียวแหละขอรับ ถึงกับต้องฉุดกระชากกันเข้าไปในหอแน่ะขอรับ

นางวันทองร้องแซ่พ่อแม่เอ๋ย
ข้าไม่เคยพบเห็นเช่นนี้นี่
เขาไม่รักอ้ายล้ายมาพาลตี
คนไม่อายอายผีบ้างเถิดรา

ยังส่งเสียงเถียงคำไม่ตกฟาก
แกฉวยเชือกกระชากมาจากฝา
มัดมือยื้อโยงขึ้นหลังคา
เอาไม้มาตีกลมระดมไป

จะเข้าหอฤาไม่ให้เร่งว่า
มิบอกมาแล้วแม่หาแก้ไม่
นางวันทองร้องดิ้นจะสิ้นใจ
พี่สายทองไปไหนไม่เข้ามา

ช่วยด้วยเถิดจะม้วยในครั้งนี้
ขอโทษน้องทีเถิดพี่ขา
สายทองได้ฟังหลั่งน้ำตา
วิ่งมาชิงไม้มิให้ตี

แม่อย่าหักด้ามพร้าด้วยหัวเข่า
ตกนักงานข้าเจ้าอย่าจู้จี้
ฉันจะช่วยปลอบหล่อนให้อ่อนดี
ทำไมที่จะเข้าหออย่าท้อใจ

ว่าแล้วแก้มัดที่มือน้อง
พาเข้าในห้องยังร้องไห้
สายทองรีบล้นไปฝนไพล
ทาหลังไหล่ลูบที่แนวตี

นางวันทองบ่นไปถึงพลายแก้ว
จะตายแล้วฤาจะอยู่ไม่รู้ที่
ถ้าพ่อตายลางร้ายคงจะมี
ทำไมที่จะเข้าหออย่าท้อใจ ฯ


แต่จนแล้วจนรอด นางวันทองก็ยังไม่ยอมเข้าหออยู่ดี

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ ลองคิดดูสิขอรับว่า ถ้าในสถานการณ์ที่กำลังชุลมุนอยู่อย่างสุด ๆ นี้ แล้วพ่อพลายแก้วที่ชนะศึก ก็เกิดกลับมาพอดี อะไรจะเกิดขึ้น... อ้อ...อะไรก็ไม่สำคัญเท่า ตะแกดันพาเมียเมืองเหนือกลับมาเสียด้วยสิ

ท่ามันยุ่งแน่...พบกันคราวหน้าขอรับ.

##############################

...
...




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2550
3 comments
Last Update : 29 ธันวาคม 2550 13:46:06 น.
Counter : 960 Pageviews.

 

Happy New Year 2008

 

โดย: Liege 29 ธันวาคม 2550 16:01:34 น.  

 



 

โดย: กวินทรากร 30 ธันวาคม 2550 17:21:50 น.  

 



ขอบพระคุณ สำหรับ
ความปรารถนาดี
ในวันปีใหม่
ที่กระผมได้รับ
อย่างตื้นตันใจยิ่ง
จากท่านสหาย ทุกท่าน

ที่กระผมได้รับ
จาก ทุกทิศ ทุกสื่อ
แล ทุกดวงใจ

ขอบพระคุณยิ่ง
ขอรับ.


 

โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.195.102 2 มกราคม 2551 23:51:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.