เ มื่ อ ค รู โ ย ค ะ จะ วิ่ ง ม า ร า ธ อ น ตอนที่ 25 - วอร์มอัพและคูลดาวน์ปรับคลื่นสมองกันก่อน
สวัสดีค่ะ
วันนี้วันที่ 8 เมษายน 2558
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซ้อมน้อยเพราะติดดูแลลูกและสอนครูโยคะ แต่ตอนช่วงที่กำลังนั่งรอลูกซ้อมการแสดงอยู่ก็ได้มานั่งทวนเรื่องคลื่นสมองเพื่อเตรียมสอนครูโยคะ ก็ได้หลักบางประการมาปรับใช้เพื่อช่วยในการซ้อม
จากการสังเกตุตัวเอง จะชอบการซ้อมที่ฟิตเนสช่วง11 โมงเป็นต้นไปจนถึงบ่ายสองโมงกว่าๆ ตอนเช้าจะไม่ชอบตื่นมาวิ่งเท่าไหร่ตอนเย็นก็ยังโอเคกว่าตอนเช้า แต่เช้าๆปั่นจักรยานเบาๆได้อยู่ แต่วันที่แข่งมินิมาราธอนกลับพบว่าไม่มีปัญหาเท่าไหร่ เลยเกิดเป็นคำถามกับตัวเองว่า เพราะอะไร? พยายามจะขุดตัวเองมาซ้อมในตอนเช้า เพราะวิ่งมาราธอนปลายปีก็จะต้องวิ่งแต่เช้า
จากข้อมูลที่มีอยู่ทำให้เราเชื่อมโยงความรู้เข้าด้วยกัน มันเป็นเรื่องของคลื่นสมองด้วย
คลื่นสมองของเรามีหลายแบบ แต่ละช่วงของคลื่นสมองมีไว้เพื่อการทำงานแบบต่างๆของร่างกาย เช่น เวลาที่เราทำงานตามปกติเราจะใช้คลื่นสองในช่วงเบต้า ส่วนช่วงที่เราผ่อนคลายและเริ่มจะหลับจะเป็นคลื่นสองแบบธีต้า และถ้ามันไม่อยู่ในช่วงของมันก็จะทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองแบบที่สอดคล้องกัน เช่น ตอนทำงานแต่กลับมีคลื่นสมองแบบธีต้าก็จะทำให้ง่วงหงาวหาวนอน และถ้ามีคลื่นสมองแบบเบต้าตอนจะนอนก็จะทำให้นอนไม่หลับ
และช่วงของคลื่นสมองเหล่านี้ก็ไม่ควรกระโดดข้ามไปมา เช่น จากเบต้าไปธีต้าเลย หรือจากธีต้าแล้วไปเบต้าทันที เช่น ทำงานและเดินทางกลับถึงบ้านก็ล้มตัวลงนอนเลย แต่ให้นั่งพักแล้วอาบน้ำอาบท่าก่อนจะเข้านอน เขาถึงได้มีการออกแบบไฟในห้องนอนให้สลัวๆนวลๆ เป็นการปรับคลื่นสมองเช่นกัน เพราะถ้าคลื่นสมองกระโดไปกระโดมาบ่อยๆก็จะทำให้เกิดความล้าสะสมได้
เช่นเดียวกับการออกกำลังกายเช่นกัน การวอร์มอัพเป็นการปรับคลื่นสมองให้พร้อมกับการออกกำลังกาย ค่อยๆไต่ขึ้นไป ถ้าเราวอร์มด้วยการเดินหรือวิ่งก็ควรจะวิ่งเหยาะๆเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที เพราะไม่อย่างนั้นเราก็จะรู้สึกเหมือนวิ่งไปแล้วเหนื่อยมาก ส่วนการคูลดาวน์ก็เป็นการค่อยๆปรับคลื่นสมองของเราลงมาให้พร้อมกับการผ่อนคลายหรือเตรียมตัวเองสู่การทำงานอื่นๆ ถ้าเราหยุดออกกำลังกายแล้วไปทำงานที่ต้องใช้สมองทันทีเราอาจจะรู้สึกว่าร่างกายสั่นๆอยู่ทั้งที่หัวใจอาจจะกลับมาเต้นเป็นปกติแล้วก็ได้ เพราะภาวะของร่างกายยังทำงานอยู่ทำให้ไม่สอดคล้องกับการต้องมานั่งโต๊ะทำงานทันที
เราสามารถใช้การหายใจช่วยได้อีกด้วย
ในโยคะอธิบายไว้ในสวรโยคะว่า ถ้าเราต้องการออกกำลังกายแล้วรู้สึกดี ให้ปิดรูจมูกข้างซ้ายแล้วหายใจเข้าออกทางด้านขวาเป็นเวลาสัก 5-10 นาที แล้ววอร์มอัพ ส่วนเมื่อคูลดาวน์เสร็จก็หายใจเข้าออกทางด้านซ้ายสัก5-10 นาที เพื่อปรับมาใช้สมองเพื่อการทำงานหรือการผ่อนคลายค่ะ
ทีนี้พอพิจารณากับตัวเอง ช่วง 10โมงถึงบ่ายสอง เป็นช่วงที่คลื่นสมองปรับเข้าสู่การทำงานของร่างกาย เลยทำให้หมวยรู้สึกดีกว่าเมื่อออกกำลังกายตอนกลางวัน แต่ตอนเช้า แม้ว่าจะทานกล้วยก่อนก็ตามแต่ดูเหมือนว่าจะปรับไม่ทัน ก็คิดว่าน่าจะต้องใช้การหายใจเข้าร่วม แต่เวลาที่ไปแข่งจะต้องไปก่อน และตื่นก่อนเวลาวิ่งนานมาก ทำให้เราค่อนข้างตื่นตัว จึงไม่รู้สึกว่าการเริ่มวิ่งติดขัดมาก
อันนี้ก็เป็นเรื่องของการปรับคลื่นสมองก่อนการวื่งหรือออกกำลังกาย นอกจากนี้เรายังปรับไปใช้กับเรื่องอื่นๆได้อีกด้วยนะ ลองศึกษากันดูค่ะ ^^ ทั้งนี้ใครจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการวอร์มอัพหรือคูลดาวน์เพื่อปรับคลื่นสมองก็ต่างกันไปในแต่ละคนนะคะ ^^
Create Date : 08 เมษายน 2558 |
Last Update : 8 เมษายน 2558 17:15:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 291 Pageviews. |
|
|