โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
เ มื่ อ ค รู โ ย ค ะ จะ วิ่ ง ม า ร า ธ อ น ตอนที่ 20 - เหลียวมองตนเอง เข้าใจตนเอง

สวัสดีค่ะ


วันนี้วันที่ 17 มีนาคม 2558 ครบรอบ 28 วันของการฝึกอย่างจริงจังในช่วงแรกพอดี ^^


เช้านี้ชั่งน้ำหนัก น้ำหนักลดไป 2 กก. ^^ ฮิ้วววววว


กลับมาทบทวนว่าได้ทำอะไรไปบ้างและรู้สึกอย่างไร แล้วจะปรับอะไรอย่างไร


ต้องบอกกันไว้ก่อนว่า เหตุผลหลักในการฝึกคือต้องการให้รางวัลกับชีวิต ทำในสิ่งที่เคยคิดอยากทำแล้วยังไม่ได้ทำหลายๆอย่าง สิ่งที่หมวยอยากทำแล้วยังไม่ได้ทำหรือยังทำไม่เต็มที่มีอีกหลายอย่าง เช่น ดำน้ำ ไตรกีฬา เทรกกิ้ง ซึ่งดำน้ำเนี่ย...หมวยยังรู้สึกไม่ดีกับการอยู่ในชุดรัดๆและหน้ากาก ส่วนไตรกีฬาก็ยังไม่เคยว่ายออกทะเลไกลๆกับปั่นเร็วๆ 555 ส่วนเทรกกิ้งก็เคยเดินแต่กล้ามเนื้อขายังไม่พร้อมใช้เวลามากกว่าคนอื่นมากมาย ก็วางแผนว่าจะกลับไปอีก แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของเวลาที่ไว้ดูแลลูกด้วย


เรื่องน้ำหนักที่ลดไปก็เป็นสิ่งที่คาดไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องลงแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะถ้ามีเป้าหมายแค่ลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว เมื่อลดไปถึงเป้าที่ต้องการก้อาจจะเลิกปฏิบัติไปก็ได้ เพราะเป้าหมายเพื่อการลดน้ำหนักนั้นสิ้นสุดได้ แต่เป้าหมายเพื่อสุขภาพที่ดีและมีความสุขในชีวิตนั้นทำให้เราทำสิ่งนั้นได้ยาวนาน


ช่วงสี่สัปดาห์หรือ 28 วันที่ผ่านมาก็ค้นพบอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องของอาหารและการบริหารร่างกายต่างๆ


ตอนนี้หมวยฝึกร่างกายเพื่อการวิ่งด้วยการปฏิบัติ 4 อย่างที่ต่างกันอยู่ นั่นคือ วิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ และเวทเทรนนิ่ง 


คุณไม่จำเป็นต้องมาทำตามที่หมวยทำนะ ทั้งหมดที่ทำเพราะว่าโดยความรู้สึกส่วนตัวคือทำสิ่งที่ตัวเองรู้สึกดี หลายครั้งที่อาจจะมีคนแนะนำคุณว่า ถ้าจะวิ่งมาราธอนก็ควรซ้อมวิ่ง ไม่ควรทำอย่างอื่นเพราะจะทำให้การซ้อมหนักไป หมวยเลยยึดหลักที่พอประมาณ เอาสิ่งที่จะต้องทำหลักก่อนและอันอื่นเสริมเข้าไป โดยช่วงที่ผ่านมาหมวยได้สังเกตุตัวเองแล้วก้เอามาปรับโดยเริ่มดูที่ Heart Rate ตัวเองเป็นหลัก พบว่า...


เวลาวิ่ง Heart Rate จะขึ้นไปอยู่ที่โซนสูงๆ เป็นส่วนใหญ่ (ตามรูป) ซึ่งอาจจะยังฝึกซ้อมไม่พอที่จะให้Heart Rate มันต่ำหรืออะไรก็ตาม แต่ตอนนี้มันอยู่ตรงนี้ ^^



เวลาฝึกโยคะ หรือสอนโยคะ จะไปอยู่โซนด้านล่าง ซึ่งถ้าฝึกเองจะอยู่ที่ easy เป็นส่วนใหญ่ และถ้าสอนจะขึ้นมาที่ fat burn บ้าง เพราะต้องทำให้ดูและพูดไปด้วย


หมวยเลยเลือกที่จะเพิ่มการปั่นจักรยานและคุม Heart Rate ให้อยู่ในโซน Fat Burn และ Endurance ซะ เพื่อให้ครบทุกช่วงของการเต้นของหัวใจและให้มีการใช้พลังงานที่ต่างออกไป


และการทำเวทเทรนนิ่งก็เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและเป็นการทำคู่ตรงกันข้ามกับโยคะด้วย โยคะเนี่ย...ถ้าฝึกดีๆก็เป็นเหมือนเวทเทรนนิ่งได้นะคะ แต่ใช้ร่างกายตัวเองเป็นตัวฝึก

ทีนี้อะไรๆก็จะลงตัว เพราะหมวยคิดตามหลักโยคะนะ การทำซ้ำๆนานๆมันทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ง่ายค่ะ จะต้องมีการฝึกเพื่อแก้ท่านั้นๆให้ครบเวลา เช่น ท่ายืนด้วยไหล่ จะมีการล็อกคอ จะต้องแก้ด้วยท่าปลา เป็นเวลา 1/6 ของเวลาที่ทำท่ายืนด้วยไหล่ ทำนองนี้ ดังนั้นเลยมองว่า ถ้าเราวิ่งสัก 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ควรมีการฝึกด้านตรงกันข้ามให้พอๆกันหรืออย่างน้อยคือ 1/6 ของเวลาที่วิ่งก็คืออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็ควรจะฝึกโยคะ (มันมีการพิจารณาหลักอื่นๆด้วย เลยออกมาที่ 1-2 ชั่วโมงนะคะ ^^)

การปฏิบัติในส่วนอื่นก็จะไม่ได้โหมหนัก เพราะยังยึดเรื่องวิ่งกับโยคะเป็นหลัก ดังนั้นก็จะวิ่งตามตารางที่ทำไว้ แล้วโยคะที่ 5-6 วันต่อสัปดาห์ อาจจะมีเวลาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงและความหนัก-เบาก็สลับกันไปด้วยตามแต่สภาพร่างกาย ส่วนปั่นจักรยานแค่ครึ่งชั่วโมงตอนเช้า สักวันหรือสองวัน และปั่นหลังวิ่งเพื่อคลายหัวเข่าประมาณ 10-15 นาที ส่วนเวทเทรนนิ่งก็ยังอยู่แค่สัปดาห์ละวัน-สองวัน และก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเท่านั้น วันนี้กะว่าจะซื้อแป้น TRX มาติดเองซะที รอช่างไม่ไหวละ 555 

ส่วนเรื่องของอาหารและแคลอรี่นะคะ... บอกตรงๆ....ว่าไม่ค่อยได้นับจริงจังหรอก แค่ดูคร่าวๆและก็ไม่ได้อดอาหารเลยค่ะ กินครบทุกมื้อ วันไหนที่รู้สึกว่าไม่ได้หิวมากไม่ได้มีความอยากอาหารยังต้องบังคับตัวเองให้กินเลย เพราะไม่งั้นมันไม่พอกับการซ่อมแซมร่างกาย เมื่อวานยังชวนลูกกินพิซซ่าอยู่เลย ซื้อหนึ่งถาดแถมหนึ่งถาดแต่เป็นแป้งบาง แต่ไม่ได้กินหมดในหนึ่งมื้อนะ พิซซ่าสองถาดซึ่งรวมแล้ว 16 ชิ้น กินกันสองคนแม่-ลูก ได้…4 มื้อ(คงจะหมดตอนกลางวันนี้แหละ) กร๊ากกกกก เอาซะเบื่อไปเลย แต่ดีว่าเป็นแป้งบางก็จะไม่เอียนและแน่นมากค่ะ แต่จะไม่ค่อยกินจุบจิบมาก ยังคงให้รางวัลด้วยไอศครีมและเค้กเป็นบางสัปดาห์ 555 ไว้วันหลังค่อยมาดูเรื่องอาหารกันเนอะ ^^

เช้านี้ปั่นจักรยานเบาๆไปครึ่งชั่วโมงจ้า เดี๋ยวค่อยไปวิ่งต่อ^^


Create Date : 17 มีนาคม 2558
Last Update : 17 มีนาคม 2558 9:43:34 น. 0 comments
Counter : 359 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.