|
พุทธศาสนสุภาษิต ๔.กิเลสวรรค คือ หมวดกิเลส ( ๓ )
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๔. กิเลสวรรค คือ หมวดกิเลส (ต่อ)
ตณฺหาย อุฑฺฑิโต โลโก ชราย ปริวาริโต มจฺจุนา ปิหิโต โลโก ทุกฺเข โลโก ปติฏฺฐิโต. โลกถูกตัณหาก่อขึ้น ถูกชราล้อมไว้ ถูกมฤตยูปิดไว้ จึงตั้งอยู่ในทุกข์. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๕๕.
นนฺทิสมฺพนฺธโน โลโก วิตกฺกสฺส วิจารณํ ตณฺหาย วิปฺปหาเนน สพฺพํ ฉินฺทติ พนฺธนํ. โลกมีความเพลิดเพลินเป็นเครื่องผูก มีวิตกเป็นเครื่องเที่ยวไป เพราะละตัณหาเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกไว้ทั้งหมด. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๕๕.
นิทฺทํ ตนฺทึ สเห ถีนํ ปมาเทน น สํวเส อติมาเน น ติฏฺเฐยฺย นิพฺพานมนโส นโร. คนที่นึกถึงพระนิพพาน พึงครอบงำความหลับ ความเกียจคร้าน ความท้อแท้, ไม่พึงอยู่ด้วยความประมาท ไม่พึงตั้งอยู่ในความทะนงตัว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๘.
นิราสตฺตี อนาคเต อตีตํ นานุโสจติ วิเวกทสฺสี ผสฺเสสุ ทุฏฺฐีสุ จ น นิยฺยติ. ผู้ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง ย่อมไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว, ผู้เห็นความสงัดในผัสสะทั้งหลาย ย่อมไม่ถูกชักนำไปในทิฏฐิทั้งหลาย. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๐. ขุ. มหา. ๒๙/๒๖๔,๒๖๒.
ปุราณํ นาภินนฺเทยฺย นเว ขนฺติมกุพฺพเย หิยฺยมาเน น โสเจยฺย อากาสํ น สิโต สิยา. ไม่พึงเพลิดเพลินของเก่า ไม่พึงทำความพอใจในของใหม่ เมื่อสิ่งนั้นเสื่อมไป ก็ไม่พึงเศร้าโศก ไม่พึงอาศัยตัณหา. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๘.
มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก ชราย ปริวาริโต ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณ อิจฺฉาธูปายิโต สทา. สัตว์โลกถูกมฤตยูขจัดแล้ว ถูกชราล้อมไว้ ถูกลูกศรคือตัณหาเสียบแล้ว ถูกอิจฉาคุกรุ่นแล้วทุกเมื่อ. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๕๕.
มานุเปตา อยํ ปชา มานคนฺถา มานวินิพฺพทฺธา ทิฏฺฐีีสุ พฺยารมฺภกตา สํสาร นาติวตฺตติ. หมู่สัตว์นี้ประกอบด้วยมานะ มีมานะเป็นเครื่องร้อยรัด ถูกมานะมัดไว้ ทำความแข่งดีเพราะทิฏฐิ ย่อมล่วงสงสารไปไม่ได้. (พุทฺธ) ขุ. อุ. ๒๕/๑๙๓.
มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ มูฬฺโห ธมฺมํ น ปสฺสติ อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โมโห สหเต นรํ. ผู้หลงย่อมไม่รู้อรรถ ผู้หลงย่อมไม่เห็นธรรม ความหลงครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น. (พุทฺธ) ขุ. อิติ. ๒๕/๒๙๖. ขุ. มหา. ๒๙/๑๘.
ยสฺส นตฺถิ อิทํ เมติ ปเรสํ วาปิ กิญฺฺจนํ มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ นตฺถิ เมติ น โสจติ. ผู้ใดไม่มีกังวลว่า นี้ของเรา นี้ของผู้อื่น ผู้นั้นเมื่อไม่ถือว่า เป็นของเรา จึงไม่เศร้าโศกว่าของเราไม่มี ดังนี้. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๙. ขุ. มหา. ๒๙/๕๓๔.
โยธ กาเม อจฺจุตฺตริ สงฺคํ โลเก ทุรจฺจยํ น โส โสจติ นาชฺเฌติ ฉินฺนโสโต อพนฺธโน. ผู้ใดข้ามพ้นกามในโลกและเครื่องข้องที่ข้ามได้ยากในโลก, ผู้นั้นตัดกระแสตัณหาได้แล้ว ไม่มีเครื่องผูก, ชื่อว่าไม่เศร้าโศก ไม่ยินดี. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๙. ขุ. มหา. ๒๙/๕๒๗.
โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี. ผู้ใดไม่รู้ ย่อมก่ออุปธิ ผู้นั้นเป็นคนเขลา เข้าถึงทุกข์บ่อย ๆ เพราะฉะนั้น ผู้รู้เห็นแดนเกิดแห่งทุกข์ จึงไม่ควรก่ออุปธิ. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๔. ขุ. จู. ๓๐/๘๐,๘๑
ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โลโภ สหเต นรํ. ผู้โลภ ย่อมไม่รู้อรรถ ผู้โลภย่อมไม่เห็นธรรม, ความโลภเข้าครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น. (พุทฺธ) ขุ. อิติ. ๒๕/๒๙๕. ขุ. มหา. ๒๙/๑๗.
วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ วนโต ชายตี ภยํ เฉตฺวา วนญฺจ วนถญฺจ นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว. ท่านทั้งหลายจงตัดป่า (กิเลส) อย่าตัดต้นไม้, ภัยย่อมเกิดจากป่า ภิกษุทั้งหลาย ! พวกท่านจงตัดป่า และสิ่งที่ตั้งอยู่ในป่าแล้วเป็นผู้ไม่มีป่า เถิด (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๕๒
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 26 มกราคม 2556 |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2556 8:27:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2934 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง
ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|