|
พุทธศาสนสุภาษิต ๑๒.ปกิณณกวรรค คือ หมวดเบ็ดเตล็ด ( ๓ )
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๑๒. ปกิณณกวรรค คือ หมวดเบ็ดเตล็ด ( ต่อ )
อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ อชินิ มํ อหาสิ เม เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ เวรํ เตสํ น สมฺมติ. ผู้ใด ผูกอาฆาตว่า เขาได้ด่าเรา ได้ฆ่าเรา ได้ชนะเรา ได้ลักของของเรา ดังนี้ เวรของผู้นั้นย่อมไม่ระงับ. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๑๕.
อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ อชินิ มํ อหาสิ เม เย จ ตํ นูปนยฺหนฺติ เวรํ เตสูปสมฺมติ. ผู้ใดผูกอาฆาตว่า เขาได้ด่าเรา เขาได้ฆ่าเรา ได้ชนะเรา ได้ลัก ได้ลักของของเรา ดังนี้ เวรของผู้นั้นย่อมระงับ. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๑๕.
อจฺจิ ยถา วาตเวเคน ขิตฺตํ อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ. เปลวไฟที่ถูกกำลังลมพัดดับวูบไป ย่อมกำหนดนับไม่ได้ฉันใด, ผู้รู้พ้นไปแล้วจากนามกาย ดับวูบไป ย่อมกำหนดนับไม่ได้ฉันนั้น. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๙. ขุ. จู. ๓๐/๑๓๖.
อินฺทฺริยานิ มนุสฺสานํ หิตาย อหิตาย จ อรกฺขิตานิ อหิตาย รกฺขิตานิ หิตาย จ. อินทรีย์ของมนุษย์มีอยู่เพื่อประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ คือ ที่ไม่รักษา ไม่เป็นประโยชน์, ที่รักษา จึงเป็นประโยชน์. (ปาราสริยเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๗๒.
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน โลภสฺส น วสํ คจฺเฉ หเนยฺย ทิสกํ มนํ. ผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน ไม่พึงลุอำนาจของโลภะ พึงกำจัดน้ำใจที่ละโมภเสีย. (พุทฺธ) ขุ. ชา. ปกิณฺณก. ๒๗/๓๙๖.
นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺดถ พาลํ อุปจฺจคา อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา. ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนเขลาผู้มัวถือฤกษ์อยู่, ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๖.
น สาธุ พลวา พาโล สาหสํ วินฺทเต ธนํ กนฺทนฺตเมตํ ทุมฺเมธํ กฑฺฒนฺติ นิรยํ ภุสํ. คนเขลา มีกำลัง หาทรัพย์อย่างผลุนผลัน ไม่ดี, นายนิรยบาลย่อมฉุดคนโง่มีปัญญาทรามผู้คร่ำครวญอยู่นั้น ไปสู่นรกอันร้ายกาจ. (มโหสถโพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๒๕.
ปญฺจ กามคุณา โลเก มโนฉฏฺฐา ปเวทิตา เอตฺถ ฉนฺทํ วิราชิตฺวา เอวํ ทุกฺขา ปมุจฺจติ. กามคุณ ๕ ในโลก มีใจเป็นที่ ๖ อันท่านชี้แจงไว้แล้ว, บุคคลคลายความพอใจในกามคุณนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ได้อย่างนี้. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๒๓.
ปรทุกฺขูปธาเนน โย อตฺตโน สุขมิจฺฉติ เวรสํสคฺคสํสฏฺโฐ เวรา โส น ปริมุจฺจติ. ผู้ใด ต้องการสุขเพื่อตน ด้วยการก่อทุกข์แก่ผู้อื่น, ผู้นั้นชื่อว่า พัวพันไปด้วยเวร ย่อมไม่พ้นจากเวร. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๕๓.
ปริตฺตํ ทารุมารุยฺห ยถา สีเท มหณฺณเว เอวํ กุสีตมาคมฺม สาธุชีวีปิ สีหติ. คนเกาะไม้ฟืนเล็ก ๆ พึงจมลงในทะเลฉันใด คนมั่งมีอาศัยความเกียจคร้านก็ล่มจมฉันนั้น. (วิมลเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๐๙.
พลํ จนฺโท พลํ สุริโย พลํ สมณพฺราหฺมณา พลํ เวลา สมุทฺทสฺส พลาติพลมิตฺถิโย. พระจันทร์ พระอาทิตย์ สมณพราหมณ์ และฝั่งทะเล ต่างก็มีกำลัง แต่สตรีมีกำลังยิ่งกว่ากำลัง (เหล่านั้น). (มหาชนก) ขุ. ชา. นวก. ๒๗/๒๖๑.
พหูนํ วต อตฺถาย อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา อิตฺถีนํ ปุริสานญฺจ เย เต สาสนการกา. พระตถาคตเจ้าย่อมเกิดขึ้น เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก คือ สตรีและบุรุษผู้ทำตามคำสอน. (วงฺคีสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๗.
ยตฺถ โปสํ น ชานนฺติ ชาติยา วินเยน วา น ตตฺถ มานํ กยิราถ วสํ อญฺญาตเก ชเน. ในที่ใด ยังไม่รู้จักคนโดยกำเนิดหรือโดยขนบประเพณี เมื่ออยู่ในที่นั้น หมู่คนที่ยังไม่รู้จักกัน ไม่ควรทำความถือตัว. (มหาททฺทรโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๓๑.
เย จ กาหนฺติ โอวาทํ นรา พุทฺเธน เทสิตํ โสตฺถึ ปรํ คมิสฺสนฺติ วลาเหเนว วาณิชา คนใด จัดทำตามโอวาทที่ผู้รู้แสดงแล้ว คนนั้นจักถึงฝั่งที่สวัสดี เหมือนพ่อค้าถึงฝั่งที่สวัสดีเพราะม้าวลาหก. (พุทฺธ) ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๗๑.
เย วุฑฺฒมปจายนฺติ นรา ธมฺมสฺส โกวิทา ทิฏฺเฐ ธมฺเม จ ปาสํสา สมฺปราโย จ สุคฺคติ. คนรู้จักขนบธรรมเนียม ย่อมยำเกรงผู้เฒ่าผู้แก่ ในชาตินี้ก็มีผู้สรรเสริญ ชาติหน้าก็ไปดี. (พุทฺธ) ขุ. ชา เอก. ๒๗/๑๒.
รูปา สทฺทา คนฺธา รสา ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา เอตํ โลกามิสํ โฆรํ เอตฺถ โลโก วิมุจฺฉิโต. รูป เสียง กลิ่น รส ผัสสะ และธรรมารมณ์นั้น ล้วนเป็นโลกามิสอันร้ายกาจ, สัตวโลกหมกมุ่นอยู่ในอารมณ์เหล่านี้. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๑๖๖.
วิเทสวาสํ วสโต ชาตเวทสเมนปิ ขมิตพฺพํ สปญฺเญน อปิ ทาสสฺส ตชฺชิตํ. แม้มีปัญญารุ่งโรจน์อย่างไฟ เมื่อยู่ในต่างประเทศก็ควรอดทนคำขู่เข็ญแม้ของทาส (มหาททฺทรโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๓๑.
อจินฺติตมฺปิ ภวติ จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา. สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้. สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้, โภคะของสตรีหรือบุรุษที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย. (มหาชนกโพธิสตฺต) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๑๖๗.
อชฺฌตฺตญฺจ พหิทฺธา จ เวทนํ นาภินนฺทโต เอวํสตสฺส จรโต วิญฺญาณํ อุปรุชฺฌติ. บุคคลไม่เพลินเวทนา ทั้งภายในทั้งภายนอก มีสติดำเนินอยู่อย่างนี้ วิญญาณย่อมดับ (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๔๗. ขุ. จู. ๓๐/๒๑๘.
อชฺฌตฺตเมว อุปสเม นาญฺญโต ภิกฺขุ สนฺติเมเสยฺย อชฺฌตฺตํ อุปสนฺตสฺส นตฺถิ อตฺตํ กุโต นิรตฺตํ วา. ภิกษุพึงสงบกิเลสและบาปธรรมที่เป็นภายในเสีย, ไม่พึงแสวงหาความสงบจากที่อื่น, เมื่อระงับภายในได้แล้ว สิ่งที่จะพึงยึดถือใหม่ย่อมไม่มี สิ่งที่จะยึดถือไว้จำจะสละจะมีแต่ไหน (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๔. ขุ. มหา. ๒๙/๔๒๕,๔๒๖.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 03 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2556 9:58:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1782 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง
ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|