|
พุทธศาสนสุภาษิต ๑๒.ปกิณณกวรรค คือ หมวดเบ็ดเตล็ด ( ๔ )
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๑๒. ปกิณณกวรรค คือ หมวดเบ็ดเตล็ด (ต่อ)
อปฺปสฺสาทา ทุกฺขา กามา นตฺถิ กามา ปรํ ทุกฺขํ. เย กาเม ปฏิเสวนฺติ นิรยนฺเต อุปปชฺชเร. กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก ทุกข์อันยิ่งกว่ากามไม่มี ผู้ใดส้องเสพกาม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา เอกาทสก. ๒๗/๓๑๕.
อพฺยาปชฺโฌ สิยา เอวํ สจฺจวาที จ มาณโว อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ เอวํ เปจฺจ น โสจติ. พึงเป็นคนไม่เบียดเบียน (ผู้อื่น) และกล่าวคำสัตย์อย่างนี้ ละไปจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก. (พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๓๒.
อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ อสญฺญโต ปพฺพชิโต น สาธุ ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี โย ปญฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ. คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามเป็นผู้เกียจคร้าน ไม่ดี, บรรพชิตไม่สำรวม ก็ไม่ดี, พระราชาไม่ทรงใคร่ครวญก่อนแล้วทำ ไม่ดี. บัณฑิตมักโกรธ ก็ไม่ดี (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๔๖.
อสาเร สารมติโน สาเร จาสารทสฺสิโน เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ มีจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา. ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ เขามีความดำริผิดเป็นโคจร จึงไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๑๖.
อตีตํ นานุโสจนฺติ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตํ ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ. บุคคลไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ใฝ่หาสิ่งที่ยังมาไม่พึง, ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เพราะเหตุนั้น ผิวพรรณย่อมผ่องใส (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๗.
อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส ลหหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน นิจฺจํ อทฺธุวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ. เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข. (สิงฺคิลโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๔๒.
อิตฺถีธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต จ โย นโร ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ. คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ. ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย. (พุทฺธ) สุ. ขุ. ๒๕/๓๔๗.
อิตฺถี มลํ พฺรหฺมจริยสฺส เอตฺถายํ สชฺชเต ปชา ตโป จ พฺรหฺมจริยญฺจ ตํ สินานมโนทกํ. หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์ ประชาชนนี้ข้องอยู่ในหญิงนี้ ตบะและพรหมจรรย์เป็นเครื่องอาบ ไม่ใช่น้ำ. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๕๒.
อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุํ ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข. ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้ ถูกชรานำเข้าไป เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น มุ่งความสงบ พึงละโลกามิสเสีย. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๗๗.
อุปสนฺโต อุปรโต มนฺตภาณี อนุทฺธโต ธุนาติ ปาปเก ธมฺเม ทุมปตฺตํว มาลุโต. ผู้สงบ เว้นบาป ฉลาดพูด ไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมขจัดบาปธรรมเสียได้ เหมือนลมกำจัดใบไม้ฉะนั้น. (มหาโกฏฺฐิตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๒๖๐.
เอวญฺเจ สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทุกฺขายํ ชาติสมฺภโว น ปาโณ ปาณินํ หญฺเญ ปาณฆาตี หิ โสจติ. ถ้าสัตว์พึงรู้อย่างนี้ ' ชาติสมภพนี้เป็นทุกข์ ' สัตว์ก็ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะผู้ฆ่าสัตว์ย่อมเศร้าโศก. (รุกฺขเทวตาโพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๖.
กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย มนสานาวิโล สิยา กุสโล สพฺพธมฺมานํ สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช. ภิกษุไม่ควรติดในกามทั้งหลาย ควรมีใจไม่ขุ่นมัว ควรเป็นผู้ฉลาดในธรรมทั้งปวง ควรมีสติอยู่ทุกอิริยาบถ. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๑. ขุ. จู. ๓๐/๒๖.
ตานิ เอตานิ ทิฏฺฐานิ ภวเนตฺติ สมูหตา อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว. เห็นอริยสัจแล้ว ถอนตัณหาผู้นำไปสู่ภพได้แล้ว ตัดมูลรกแห่งทุกข์ขาดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีกต่อไป. (พุทฺธ) ที. มหา. ๑๐/๑๐๗.
ทาเนน สมจริยาย สํยเมน ทเมน จ ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ. คนทำกรรมใดด้วยทาน ด้วยความประพฤติสม่ำเสมอ ด้วยความสำรวม และด้วยการฝึกตน ย่อมมีความสุข เพราะกรรมนั้นย่อมไม่ตามเผาผลาญในภายหลัง. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ปกิณฺณก. ๒๗/๓๙๘.
นิทฺทาสีลี สภาสีลี อนุฏฺฐาตา จ โย นโร อลโส โกธปญฺญาโณ ตํ ปราภวโต มุขํ. คนใดมักหลับ มักคุย และไม่ขยัน เกียจคร้าน มีความมุทะลุ ข้อนั้นเป็นเหตุของผู้ฉิบหาย. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๔๖.
ธโช รถสฺส ปญฺญาณํ ธูโม ปญฺญาณมคฺคิโน ราชา รฏฺฐสฺส ปญฺญาณํ ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา. ธงเป็นเครื่องปรากฏของรถ ควันเป็นเครื่องปรากฏของไฟ พระราชาเป็นเครื่องปรากฏของแว่นแคว้น สามีเป็นเครื่องปรากฏของสตรี (พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๘๖.
ธมฺมาราโม ธมฺมรโต ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ สทฺธมฺมา น ปริหายติ. ภิกษุรื่นรมย์ยินดีในธรรม ใคร่ครวญธรรม และระลึกถึงธรรมอยู่เนือง ๆ ย่อมไม่เสื่อมจากพระสัทธรรม. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๖๕.
ปตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต ปสฺสนฺติ วนภูตานิ ตํ พาโล มญฺญเต รโห. ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำความชั่วไม่มีอยู่ในโลก, คนทั้งหลายเห็นเป็นป่า แต่คนเขลาสำคัญที่นั้นว่าเป็นที่ลับ. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๓๑.
น สานกามสฺส ทโม อิธตฺถิ น โมนมตฺถิ อสมาหิตสฺส เอโก อรญฺเญ วิหรมฺปมตฺโต น มจฺจุเธยฺยสฺส ตเรยฺย ปารํ. ในโลกนี้ ผู้ที่ชอบถือตัว ย่อมไม่มีการฝึกตน, ตนมีใจไม่มั่นคง ย่อมไม่มีความรู้ ผู้ประมาทแม้อยู่ในป่าคนเดียว ก็ข้ามฝั่งแห่งแดนมฤตยูไม่ได้ (เทวตา) สํ. ส. ๑๕/๖.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 09 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2556 10:25:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1856 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง
ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|