เรื่องราวผู้หญิงกับการเดินทางด้วยหัวใจ 2 ล้อ (มอเตอร์ไซด์) รวมถึงการท่องไปในโลกกว้างด้วยวิธีการอื่นๆ คลอเคล้าด้วยคนตรีไพเราะหลากหลายรูปแบบ เรามาผจญภัยด้วยกันนะคะ
มารู้จัก "โบท็อกซ์ - Botox" อย่างละเอียดกันดีกว่า



- โบท็อกซ์ คือ อะไร ?

"Botox" (โบท็อกซ์) เป็นชื่อทางการค้า (trade name)  มีชื่อเต็มๆ ว่า Botulinin Toxin ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง คือ Clostridium botulinum (คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม) ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษแก่มนุษย์ หากได้รับในปริมาณมากๆ เช่น จากอาหารกระป๋องที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อตัวนี้ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้  จากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน  ผู้ป่วยจึงหยุดหายใจ


- โบทอกซ์ หรือ โบทูลินัมท็อกซ์ซิน ออกฤทธิ์อย่างไร 

สารนี้จะออกฤทธิ์ยับยั้งการนำกระแสประสาทที่ส่งมายัง กล้ามเนื้อ บริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง เกิดการคลายตัว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว ผิวหนังด้านบนของ กล้ามเนื้อนั้นก็จะเรียบและไม่มีรอยย่น ส่วนการทำงานด้านอื่นๆ ของเส้นประสาทเป็นปกติ เช่น การรับรู้ความรู้สึกต่างๆ เป็นปกติ ไม่ได้ทำกล้ามให้เนื้อถูกทำลายไปอย่างที่เข้าใจกัน จริงๆ แล้ว Botulinum toxin มีทั้งหมด 7 ชนิด ตั้งแต่ A-G แต่ Type A เป็นชนิดที่ออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดในมนุษย์ ในท้องตลาดจึงมีแต่ Type A

- ประโยชน์ทางการแพทย์ ?

แพทย์ทราบมานานหลายสิบปีแล้วว่าหากฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อในปริมาณน้อยๆ โบทูลินั่ม ท็อกซินจะทำให้กล้ามเนื้อ "คลายตัว" ดังนั้นในยุคแรกๆ จักษุแพทย์จึงนำโบทูลินั่ม ท็อกซิน มาฉีดรักษาโรคตาเหล่  ตาเข และโดยบังเอิญจากการฉีดรักษาในบริเวณรอบดวงตานี้เอง ก็ทำให้แพทย์พบว่าริ้วรอยบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากหว่างคิ้วและรอบดวงตาดีขึ้นด้วย 

ในยุคต่อมาจึงมีการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อประโยชน์ในด้านความสวยงามตามมาอย่างแพร่หลาย และมีเทคนิควิธีการที่ต่างๆ กันออกไป มีการนำมาฉีดเพื่อทำให้หน้าเรียวลง  ยกกระชับผิวหนัง ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ตลอดจนรักษาอาการปวดศีรษะ ปวดเกร็งต้นคอ และอีกหลายกรณี ในประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวมีการฉีดกันเป็น ล้านๆครั้ง ต่อปี


- ผลของการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน ?

โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำผู้รับการรักษาอายุเท่าใด สุขภาพพื้นฐาน การใช้ชีวิต การดูแลส่วนบุคค ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงอาจนับได้ว่าเป็นข้อดี เพราะหากผลที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ในที่สุดก็จะค่อยๆ หายไปเองได้ ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดี  ถูกใจก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ 


- โบท็อกซ์ อันตรายหรือไม่ ?
จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมาก ในต่างประเทศ พบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต มื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม


- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ? 

ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก  กลืนอาหารลำบาก  หน้าไม่สมมาตร หรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด  ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์ และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง


- เมื่อเกิดผลข้างเคียงแล้วจะทำอย่างไร ?

ดังที่ได้กล่าวแล้วตอนต้นว่าผลจากการฉีด โบทูลินั่มท็อกซิน นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นเดือน ดังนั้นผู้รับการรักษาจึงใจเย็นๆ และค่อยๆ รอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้  ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นกรณีไป


- โบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ ?

จะพูดถึงแต่ยี่ห้อของ Botulinium Toxin Type A นะคะ จริงๆ แล้ว Botox มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ และมาจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน สเปน แต่ที่มีเข้ามาในประเทศไทย ที่ได้คุณภาพ, หาต้นตอได้จริงๆ (มีตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้อง) และที่สำคัญคือ ผ่าน อย.ประเทศไทย มีดังนี้ 1. Botox (Allergan, USA), 2. Dysport (Ipsen, Ireland), 3. Neuronox (Medy-Tox Inc., South Korea), 4. BTXA (HUGH, Hong Kong), 5. Botulax ( or Regenox, Zentox : Hugel Pharma, South Korea), 6 Nabota (Daewoong, South Korea), 7 Xeomin (Merz, German)


ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ที่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้มีตัวตนมีเวปไซด์แน่นอนที่หาเจอตอนนี้แต่ไม่มีขายในประเทศไทย ได้แก่ Bocouture (Merz, German), AZZALURE (Galderma, USA), VISTABEL เป็นอีกยี่ห้อของบริษัท Allergan (USA)ใช้ชื่อนี้ออกขายในประเทศแถบยุโรป


ส่วนยี่ห้ออื่นๆ เหนือจากนี้ หมอพยายามหาที่มาที่ไปอย่างเต็มที่ คิดว่าสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาเว็ปไซด์ของบริษัทได้



- ดื้อต่อโบท็อกซ์ คือ อะไร และ มีจริงไหม ?

ดื้อต่อโบท็อกซ์ คือ การที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโบท็อกซ์ ทำให้ฉีดเข้าไปแล้วไม่ได้ผล เพราะภูมิคุ้มกันของเราทำลายสารโบท็อกซ์ทิ้งไปหมด เกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีการฉีดติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยปริมาณมาก ซึ่งพบได้น้อยมาก จากวารสารทางการแพทย์เคยมีรายงานว่าพบในคนไข้ที่มีประวัติการฉีดมากกว่า 200 ยูนิตต่อครั้ง ติดต่อกันหลายครั้ง ซึ่งมักเป็นผู้ป่วยด้วยโรคที่มีการเกร็งค้างของกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เช่น ผู้ป่วยพิการทางสมอง ซึ่งต้องใช้ปริมาณมากในการฉีดแต่ละครั้ง 


จากการฉีดเพื่อการเสริมสวยนั้น มีรายงานในผู้ป่วยที่มีการฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินเท่านั้น ซึ่งในชีวิตการทำงานของตัวหมอเอง ยังไม่เคยพบเลยซักราย


- เมื่อดื้อต่อโบท็อก แล้วจะฉีดอีกได้ไหม ใช้อะไรทดแทนได้ ?

เพราะโบทอกซ์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็น Type A เมื่อแพ้หรือมีการดื้อต่อโบทอกซ์ สามารถใช้ Botulinum toxin Type  B ทดแทนได้ (Myobloc)


- เราควรเลือกใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? ของแต่ละประเทศต่างกันอย่างไร ?

ควรเลือกใช้โบท็อกซ์ที่มีคุณภาพที่เชื่อถือได้ นั่นก็คือเลือกยี่ห้อที่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้นั่นเอง ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้นคงจะรู้แล้วนะคะ ว่าเลือกใช้ยี่ห้ออะไรได้บ้าง


ถ้าเอาคำตอบจากใจจริงๆ ว่าควรใช้โบท็อกซ์ของอเมริกา หรือ อังกฤษ หรือ เกาหลี ... ดีกว่ากัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมานะคะ ไม่ต่างกันหรอก ความต่างที่มีคุณไม่รู้สึกหรอก ของอเมริกาอยู่ได้นานกว่านิดหน่อย อาจจะสักเดือนนึง หรือ ของอังกฤษลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้เร็วกว่า แต่เอาเข้าจริง คนไข้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกความเชื่อกับเงินในกระเป๋าแล้วล่ะ


 ใครอยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับโบท็อกโดยละเอียด ลองเข้าไปอ่านได้ที่นี่ Wikipedia.org



ประโยชน์ในด้านความงามของโบท็อกซ์ในปัจจุบัน


1 ลดเลือนริ้วรอยบนในหน้า ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เพราะสีหน้าของคนเราที่เปลี่ยนไป เกิดจากการขยับตัวการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม ซึ่งจะทำให้เกิดรอยตีนกา และ รอยย่น รอบ ดวงตา (crow’s feet), การขมวดคิ้ว ลบ รอยย่น บริเวณ หน้าผาก (forehead line) รอยย่น ระหว่าง คิ้ว (glabella) , รอยย่น รอบปาก (perioral fold) และ ร่องแก้ม เป็นต้น รวมไปถึงลำคอ (platysma) ได้อีกด้วย





2 การปรับโครงหน้า (ลดกราม) กล้ามเนื้อกรามเป็นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เมื่อเราฉีดโบทอกไปยับยั้งการทำงานของกล้ามนื้ไปสักระยะ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน ก็จะมีขนาดเล็กลง ทำให้มุมกรามของเราเล็ก จึงมองเห็นหน้าเรียวลงได้





3 ลดขนาดน่อง



4 ปรับรูปคิ้ว ลักษณะของคิ้วที่เป็นอยู่ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงต้านกันตามหลักกายวิภาค เราสามารถออกแบบให้การยับยั้งกล้ามเนื้อในบางจุด ก็จะสามารถทำให้รูปคิ้วเปลี่ยนไปได้





5 ลดปริมาณเหงื่อที่รักแร้และผ่ามือ


ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์


  1. เป็นสารที่ปลอดภัย เพราะสามารถสลายไปเองด้วยร่างกายของเราทั้งหมด ไม่ตกค้าง

  2. ใช้เวลาในการฉีดเพียง 5 – 10 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ

  3. ไม่ต้องพบกับข้อเสียจากการ ผ่าตัด เช่น บวม, ปวดแผล, มีแผลเป็น หรือ ข้อแทรกซ้อนอื่นๆ ที่รุนแรง

  4. ใช้ยาปริมาณเพียงเล็กน้อยในการฉีด และใช้เข็มที่มีขนาดเล็กที่สุดในการฉีด ซึ่งจะรู้สึกเหมือนมดกัดเท่านั้น

  5. เห็นผลเร็ว เพียงไม่กี่วันคุณจะรู้สึกได้ว่า ริ้วรอย หายไป

  6. ใช้ได้ผลดีเท่าๆ กัน ทั้ง ผู้หญิง และ ผู้ชาย

  7. สามารถนำไปใช้ร่วมกับ คอลลาเจน ฟิลเลอร์ หรือ เลเซอร์ ได


ข้อห้ามในการฉีดโบท็อกซ์


  1. มีปัญหาแพ้โบท็อกซ์ หรือ โปรตีนอัลบูมิน

  2. ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร

  3. มีความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้ออยู่แล้ว เช่น มัยแอสทีเนีย myasthenia gravis หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอื่น  

  4. เลือดออกง่ายผิดปกติ

  5. ยาบางตัวมีผลต่อโบท๊อกซ์ เช่นยากลุ่มยาแอนติไบโอติกส์ ควินิน


การดูแลหลังฉีด 


  1. ภายหลังฉีด ควรอยู่ในท่านั่ง หรือยืนประมาณ 4 ชม. เพื่อกันการไหลของยาไปที่อื่น 

  2. ใช้กล้ามเนื้อ คือขมวดคิ้ว บ่อยๆให้ยาจับกับตัวรับดีๆ 

  3. อาจมีจ้ำเลือดเล็กๆไม่ตองทำอะไร 

  4. ไม่ควรอบซาวน่า, การทำเลเซอร์ หรือ การให้หน้าโดนความร้อน 1 สัปดาห์ ไม่งั้นโบท็อกซ์จะสลายก่อนจะออกฤทธิ์เต็มที่ เสียดายของนะจะบอกให้ 

  5. ห้ามนวดหน้าแรงๆ หรือ ทำทรีตเม้นท์ด้วยเครื่องที่เกี่ยวกับการผลักยา 2 สัปดาห์ เพราะอาจจะผลักโบท็อกซ์ให้ลงไปลึกเกินกว่าที่ต้องการ ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้ เช่น หนังตาตก เป็นต้น

  6. ใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ

  7. อาจมีอาการตึงหนักหน้าใน 3-4 วันเป็นปกติ ไม่ต้องกังวล หายไปใน 1-2 สัปดาห์ ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 5 วัน เต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์ 





Create Date : 16 มีนาคม 2553
Last Update : 7 สิงหาคม 2560 19:23:54 น. 0 comments
Counter : 12135 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

blue passion
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




มีหัวใจไว้เดินทาง ค้นหาความหมายของชีวิต เพื่อเติมเต็มให้กับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างการเติบโต วิธีการในการเดินทางมีมากมาย แต่ ณ วันนี้ ขอเลือกสองล้อเป็นพาหนะในการนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง

Site Meter

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add blue passion's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.