เรื่องราวผู้หญิงกับการเดินทางด้วยหัวใจ 2 ล้อ (มอเตอร์ไซด์) รวมถึงการท่องไปในโลกกว้างด้วยวิธีการอื่นๆ คลอเคล้าด้วยคนตรีไพเราะหลากหลายรูปแบบ เรามาผจญภัยด้วยกันนะคะ

สรุปหนังสือ ... ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี



ถ้าไม่ได้เผชิญกับภาวะอดอยากหรือความหนาวเหน็บ ยีนที่ช่วยให้รอดขีวิตก็จะไม่ทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น การกินอย่างอิ่มหนำสำราญกลับทำให้ร่างกายแก่ชรา อัตราเกิดลดลง และภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
 
"ยีนเซอร์ทูอิน ช่วยฟื้นฟูเซลล์ ช่วยต่ออายุขัย"
 
เดิมทีสมมุติฐานมีอยู่ว่า ยิ่งเราหิว ความสามารถในการอยู่รอดยิ่งทำงานและจะทำให้เรากลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง
 
“เคล็ดลับของการมีสุขภาพดีคือการกินให้อิ่มแค่ประมาณ 60%”               
 
กินวันละมื้อ คือ มือเย็น ตื่นเช้าให้ดื่มแค่น้ำดหรือทานผลไม้นิดหน่อย ถ้าหิวระหว่างวันให้ทานผลไม้หรือคุกกี้ที่ทำจากแป้งสาลีโฮลวีตในประมาณเล็กน้อย
 
เมื่ออยู่ในสภาวะอดอยาก จะทกให้ “ยีนอดออม” ทำงานอย่างเต็มที่
 
ให้ฟังเสียงร่างกายตัวเอง
 
ชาโกะโบ มีสารซาโปนินมีฤทธิ์ทำให้ไขมันเป็นกลาง โดยจะย่อย เมื่อดูดซึมแป้งกับโปรตีนที่จำเป็นแล้วขับคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย หรือ เมื่อเข้าไปในเลือดก็จะขับคอเลสเตอรอลชนิดเลวในเลือดออกจากร่างกาย โกะโบมีสารประกอบหลักคือโพลีฟีนอล ปัจจุบันเมื่อพูดถึงสารเรสเวอราทรอล ซึ่งเป็นสารประกอบโพลีฟีนอลอีกชนิดที่เป็นสารประกอบที่พบมากในไวน์แดง ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
 
ไขมันลื่นที่อยู่ใต้ผิวหนังของปลาจะอุดมไปด้วย EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexanoic Acid) ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาภาวะผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้ดีมาก
 
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ทำให้เซลล์ในเส้นเลือดเสียหายเทียบเท่ากับตอนสูบบุหรี่ 4 มวน พิษร้ายของน้ำตาลดังกล่าวเรียกว่า “ภาวะน้ำตาลเป็นพิษ” และเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ขนมหวานที่มีน้ำตาลมากมากจะทำให้ค่าคอเลสเตอรอลสูงขึ้น โดยภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะเข้าโจมตีตับอ่อนอย่างรุนแรงก่อน แล้วจึงทำลายเบตาเซลล์ของกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอฮานส์ ในตับอ่อน ถ้าอินซูลินทำงานอยู่เรื่อยๆ ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงแต่ไขมันในช่องท้องจะค่อยๆถูกเก็บสะสมเอาไว้จนอ้วนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเช่นนั้นร่างกายจึงทำลายเบตาเซลล์นั่นคือที่มาของโรคเบาหวาน
 
ความลับและประสิทธิภาพของท้องร้อง
1 ฮอร์โมนโมติลิน (Motilin)) หลั่งจากลำไส้เล็กส่วนต้น เพื่อกระตุ้นให้กระเพาะอาหารบีบตัว
2 ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) จะหลั่งจากกระเพาะอาหารต่อมาเมื่อไม่มีอาหารในกระเพาะ ส่งผลต่อ Hypothalamus ให้ร่างกายเกิดความอยากอาหาร ขณะเดียวกันก็ออกฤทธิ์ที่ต่อมใต้สมองทำให้หลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ททำให้กลับเป็นหนุ่มสาว
3 ยีนในร่างกายจะเริ่มฟื้นฟู ในขณะที่กำลังหิว “ยีนเซอร์ทูอิน” ที่มีสมญาว่ายีนต่ออายุขัยหรือยีนที่ทำให้อายุยืน จะแสดงประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไขบางประการนั่นคือ “ความหิว” โดยยีนนี้จะช่วยสแกนยีนในร่างกายอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งค่อยๆฟื้นฟูส่วนที่เสียหาย
4 ฮอร์โมนมหัศจรรย์จะเผาผลาญไขมัน เมื่อหิว แต่ไม่มีอาหารตกถึงท้องร่างกายจะนำไขมันที่สะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นสารอาหาร โดยเซลล์ไขมันจะหลั่ง ฮอร์โมน Adiponectin ซึ่งจะช่วยป้องกันภาวะผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัวและทำความสะอาดภายในเส้นเลือด
5 เมื่ออิ่มแล้วเราจึงต้องมีกลไกระงับความอยากอาหารนั่นก็คือฮอร์โมน Leptin นโดยจะหลั่งหลังจากกินอาหารเข้าไปประมาณ 20-30 นาที มันจึงถูกเรียกว่าฮอร์โมนอิ่ม บางครั้งเลยถูกเรียกว่าฮอร์โมนผอม.
 
หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนความคิดในการกินเป็นมื้ออาหารไปจนหมดสิ้น คือให้กินเมื่อหิว  ซึ่งถ้ามันยังขัดแย้งต่อความรู้สึก ก็คือให้กินหนักๆ หลักๆ เพียงวันละหนึ่งมื้อ ซึ่งแนะนำเป็นมื้อเย็น และกินเพียง 60% เพื่อประทังความหิวนั้น เพื่อให้ร่างกายไม่ได้รับอาหารมากเกินไป โดยระหว่างวันที่รู้สึกหิวให้ทานเป็นผลไม้หรือคุกกี้ที่ทำจากแป้งโฮลวีต เพื่อกระต้นให้ยีนแห่งความอดอยากถูกกระตุ้นให้ทำงานตลอดเวลา

หลังจากอ่านหนังสือแนวนี้ในช่วงนี้หลายเล่ม โดยในหลายๆ เล่มนี้มักเขียนโดยแพทย์ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเรารู้กันอยู่แล้วว่าคนญี่ปุ่นนั้นอายุยืน ความพ้องกันที่สรุปได้ มีดังนี้

1 กินให้น้อยกว่าที่เราอยาก คือ ให้กินแค่ 80% ของความรู้สึกอิ่ม สามารถทานได้ทุกอย่างที่อยากกิน แต่หให้เลือกกินอาหารอย่างสมดุลย์
2 ใช้ชีวิตให้เป็นเวลา เพื่อให้ระบบนาฬิกาชีวภาพในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุลย์อยู่เสมอ
3 การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ต้องหนักจนเกินไป
4 การมีจิตใจและทัศนคติที่ดี รู้ปล่อยวางความเครียด

เป็นข้อสรุปที่เราต่างก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ไม่ทำ ขอใช้คำว่าไม่ทำมากกว่าทำไม่ได้ เพราะเรายังไม่มีความตั้งใจกันพอ อาจจะเพราะเราคิดว่าเรายังอายุน้อยหรือยังมีเวลาในชีวิตอีกเยอะ แต่อะไรๆ ก็เกิดขี้นได้เสมอ สุขภาพที่ดีมาจากการปฏิบัติตัวอย่างต่อเนื่อง มาดูแลสุขภาพอย่างตั้งใจกันนะคะทุกๆ คน 

ใครสนใจอ่านหนังสือเต็ม --> https://s.lazada.co.th/s.RePVB ส่งต่อให้อ่านกันในราคาเบาๆ ค่ะ




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2566    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2566 23:31:05 น.
Counter : 376 Pageviews.  

สรุปหนังสือ ... ไม่ว่าใครก็สุขภาพดีได้เหมือนคุณหมออายุ 101 ปี



“ทำอย่างไรจึงแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า

และปฏิบัติหน้าที่แพทย์ได้จนถึงอายุขนาดนี้”นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อใครหลายคนได้พบเจอกับ ‘นายแพทย์ทะนะกะ โยะชิโอะ’ ที่ยังคงไม่เกษียณอายุการทำงานของตนเอง ทั้งยังมีชีวิตแจ่มใสและกระฉับกระเฉง แม้เขาจะมีอายุ 101 ปีทะนะกะ โยะชิโอะ ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ตรวจรักษาคนไข้อยู่ที่ Dr. Chen Clinic หากนับช่วงเวลาเขาได้ทำงานในฐานะแพทย์มารวม ๆ แล้วเกือบ 76 ปี ด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ที่มีทำให้เขาสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า “สิ่งที่ทำให้มีสุขภาพดีมาจนถึงปัจจุบันก็เพราะกิจวัตร 45 ประการที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน”

(จากหนังสือไม่ว่าใครก็สุขภาพดีได้เหมือนคุณหมออายุ 101 ปี)

กิจวัตร 45 ประการที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกวันยิ่งทำยิ่งสุขภาพแข็งแรง
1 รูปแบบชีวิตที่มีระเบียบแบบแผนคือกุญแจสู่ความสดใสแข็งแรง
การเข้านอนตรงเวลาทุกวัน ตื่นนอนเป็นเวลาทุกวันส่งผลให้ระบบประสาทซิมพาเทติกกับระบบประสาทพาราซิมพาเทติกสลับบทบาทหน้าที่กันได้อย่างลื่นไหล การกินอาหารตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ทุกวันจะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยและการดูดซึม

2 เดินเล่นวันละ 30 นาที

3 อาบแดดวันละ 15 เพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อมและโรคมะเร็ง
เหตุผลข้อที่ 1 แสงแดดช่วยปรับนาฬิกาชีวิตให้เดินถูกต้องตามที่ควรจะเป็น
เหตุผลข้อที่ 2 แสงแดดเพิ่มปริมาณการหลั่งสารสื่อประสาทภายในสมองที่มีชื่อว่าเซโรโทนิน ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสภาวะจิตใจให้มั่นคงเช่นการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก
เหตุผลข้อที่ 3 ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีซึ่งเป็นวิตามินเพื่อการชะลอวัย
เหตุผลข้อที่ 4 เมื่อร่างกายได้รับแสงแดดอุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้นและระบบภูมิต้านทานจะทำงานกระฉับกระเฉงมากขึ้น

4 นอนกลางวันให้เป็นนิสัยความเหนื่อยล้าจะไม่ถามหา การนอนหลับเป็นเวลาสั้นๆในช่วงกลางวันช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนพร้อมคืนความสดชื่นให้ร่างกายซึ่งดีกว่าการนอนหลับตอนกลางคืนประมาณสามเท่า โดยการนอนกลางวันที่ดีไม่ควรเกิน  30 นาทีโดยประมาณเ พราะถ้านอนมากกว่านี้ร่างกายจะเข้าสู่ช่วง Non-Repid Eye Movment (Non-REM) หรือ การหลับลึกซึ่งจะกลายเป็นสาเหตุให้ตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่น

5 บริหารร่างกายทุกเช้า

6 การออกกำลังระดับเบาส่งผลดีต่อร่างกายมากที่สุด การออกกำลังกายเกินระดับความพอดีเป็นสาเหตุทำให้อนุมูลอิสระ ที่มีมูลเหตุจากออกซิเจนเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนส่งผลเสียต่อเซลล์และกลไกการทำงานของร่างกาย

7 หมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอว่าหลังค่อมหรือไม่

8 ปลูกฝังกิจวัตรที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายลงในชีวิตประจำวัน ถ้าอยากเปลี่ยนกิจวัตรด้านลบสู่กิจวัตรด้านบวก กุญแจสำคัญอยู่ที่วิธีการตั้งเป้าหมาย คืออย่าตั้งเป้าหมายสูงจนเกินไป หัวใจสำคัญของการตั้งเป้าหมายคืออย่าลืมยินดีอิ่มเอมหรือเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมใหม่เหล่านั้น

9 กินผักให้ได้มากกว่าสิบห้าชนิดในแต่ละวัน เน้นผักเป็นอาหารหลักในมื้ออาหารคือรากฐานของการสร้างสุขภาพที่ดี

10 ขจัดสนิมภายในร่างกายด้วยการกินผัก
ประการที่หนึ่ง ป้องกันโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน
ประการที่สอง ลดสารอนุมูลอิสระที่มีมูลเหตุจากออกซิเจนซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิดสนิมภายในร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี แคโรทีนอยด์ โพลีฟีนอล เบต้าแคโรทีน สารประกอบซัลเฟอร์
ประการที่สาม ผักแม้จะกินในปริมาณมากก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแคลลอลี่

11 “ กินผักก่อน” ช่วยลดไขมัน คือกินผักก่อนเป็นอันดับแรกในมื้ออาหาร เส้นใยอาหารมีบทบาทในการชะลอการดูดซึม แป้งและน้ำตาล ป้องกันไม่ให้ค่าน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงกระทันหัน ยับยั้งไม่ให้อินซูลินหลั่งออกมามากเกินไปและลดอัตราการดูดซึมไขมันในร่างกาย

12 กินเนื้อสัตว์ให้เต็มที่อยากกินแค่อาหารเบาท้อง กรดอะมิโนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับร่างกายเพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เองต้องได้รับอาหารประเภทเนื้อสัตว์เท่านั้น หากอยากมีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาวก็อย่ายึดติดกับอาหารเบาท้องที่ต้องลดปริมาณเนื้อสัตว์แบบสุดโต่งมากนัก

13 อาหารหมัก เช่น โยเกิร์ต ชีส เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในลำไส้ของคนจะมีแบคทีเรียอยู่ซึ่งมีทั้งชนิดดีและไม่ดี โดยสมดุลของแบคทีเรียที่กล่าวมานี้ส่งผลอย่างมากต่อร่างกาย เมื่ออายุเพิ่มขึ้นแบคทีเรียชนิดดีจะลดจำนวนลงขณะที่แบคทีเรียชนิดไม่ดีจะเพิ่มขึ้น การเอาใจใส่เลือกกินอาหารที่มีสรรพคุณปรับแก้สมดุลของกลุ่มแบคทีเรียในลำไส้ตามอายุที่เพิ่มขึ้นจึงมีความสำคัญมาก ทุกท้องถิ่นทั่วโลกล้วนมีอาหารหมักซึ่งปรุงจากวัตถุดิบเฉพาะถิ่น นั่นคือหลักฐานที่ยืนยันว่าอาหารหมักเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ

14  ต้องกินผลไม้ทุกวันแม้เพียงน้อยนิด

15 เติมแคลเซียมซึ่งเปรียบเหมือนรากฐานของร่างกายให้เพียงพอ วิตามินดีทำหน้าที่กระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ วิตามินเคช่วยให้แคลเซียมเกาะติดกับกระดูก แมกนีเซียมช่วยกระตุ้นเซลล์ออสทีโอบลาสต์ นกระดูกซึ่งมีค่าความหนาแน่นของมวลกระดูกสูงถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของร่างกาย

16 เพิ่มน้ำมันมะกอกในอาหารเพื่อป้องกันความเสื่อมชรา
น้ำมันแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ประกอบด้วยน้ำมันประเภทกรดไขมันอิ่มตัวกับประเภทกรดไขมันไม่อิ่มตัว

  • น้ำมันประเภทกรดไขมันอิ่มตัว มีมากในเนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่จะจับตัวเป็นไขเมื่ออยู่ในอุณหภูมิปกติ
  • น้ำมันประเภทกรดไขมันไม่อิ่มตัว ส่วนใหญ่มีอยู่ในน้ำมันพืช น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย ซึ่งจะไม่จับตัวเป็นก้อนในอุณหภูมิปกตินิยมเรียกว่า “น้ำมัน” ในกลุ่มน้ำมันประเภทกรดไขมันไม่อิ่มตัวยังมีกรดไขมันที่เรียกว่า กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่หลายคู่ (Poly-unsaturated fatty acid : PUFA) กรดไขมันชนิดนี้มีความจำเป็นต่อร่างกายแต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้บ้างก็เรียกว่า “กรดไขมันจำเป็น” เชียร์ประตู ซึ่งยังแยกย่อยออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ประกอบด้วย กรดไขมันกลุ่ม Omega-3 ได้แก่ Alpha Linoleic acid และ Omega-6 ได้แก่ Linoleic โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมในการกินคือ 1:4 
  • น้ำมันมะกอกมีโครงสร้างของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (mono unsaturated fatty acid)และอุดมด้วยกรดไขมันโอเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันกลุ่ม Omega-9 มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ

17 ฟื้นฟูเซลล์สัปดาห์ละครั้งด้วยซุปสมุนไพร ร่างกายของเราถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่กิน ด้วยเหตุนี้สุขภาพของแต่ละคนจึงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่ากินอะไรและกินอย่างไร

18 ดื่มชาเขียวตอนพักผ่อน
ชาเขียวมีสารพฤกษเคมีชื่อ คาเทชิน ซึ่งเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์สูง ส่วนกาแฟมีสารพฤกษเคมีชื่อ กรดโครเจนิก นทำหน้าที่ลดการอักเสบในร่างกาย ปรับค่าน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนในชาวฝรั่งมีสารพฤกษเคมีชื่อ ทีฟลาวิน ช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์เสื่อมสลายอันเป็นต้นเหตุของโรคกระดูกพรุน

19 ฝึกเลี่ยงของหวานให้เป็นนิสัย ไม่กินจุบจิบเพราะเป็นต้นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นลงรวดเร็วและกระเพาะอาหารต้องรับภาระหนัก

20 วัยกลางคนถึงวัยสูงอายุอย่าจำกัดคาร์โบไฮเดรตจะดีกว่า

21 ลดเกลือแล้วเพลิดเพลินกับรสชาติที่แท้จริงของอาหาร การบริโภคเกลือมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูง การกินอาหารรสอ่อนต่อเนื่องจากช่วยให้ประสาทสัมผัสด้านการรับรสไวขึ้น มากเกินก็ไม่ดี น้อยเกินก็ไม่ดี ให้จำไว้ว่าหัวใจสำคัญของการลดเกลือรสเค็มอยู่ที่ความพอดี

22 งดขนมปังและขนมที่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะกรดไขมันชนิดทรานส์จะเร่งให้ค่าคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีเพิ่มสูง

23 หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เพราะมีวัตถุปรุงแต่งอาหาร เช่น วัตถุกันเสีย สารกันเชื้อรา สีสังเคราะห์สำหรับประกอบอาหาร วัตถุให้ความหวานสังเคราะห์ แม้ไม่ส่งผลเสียใหญ่หลวงต่อร่างกายก็จริง แต่หากบริโภคต่อเนื่องเป็นเวลานานดังกล่าวมันจะสะสมในร่างกายและส่งผลเชิงลบในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งขึ้นมา จึงควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

24 ดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตรช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
            ร่างกายของเราประกอบขึ้นด้วยน้ำมากถึง 55-65% น้ำจึงมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตมนุษย์ ไม่กินอาหารขอแค่มีน้ำ เรายังดำรงชีวิตต่อไปได้นานเกือบเดือน เมื่อขาดน้ำการไหลเวียนเลือดติดขัด การทำงานของกระบวนการสร้างและสลายจะลดลง กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ  เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน โรคลมแดด ในกรณีที่น้ำในร่างกายลดลงอย่างฉับพลันมากถึง 20% ก็สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ทันที
            แต่การดื่มน้ำปริมาณมากรวดเดียวก็ก่อให้เกิดระดับความเข้มข้นของเกลือแร่ในร่างกายลดลงฮวบฮาบ จนเกิดภาวะ Water intoxication ได้ซึ่งก็เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน

25 เพิ่มผลลัพธ์การรักษาโดยบูรณาการศาสตร์แพทย์แผนตะวันตกกับแผนตะวันออกเข้าด้วยกัน

26 รักษาโรคซึ่งยารักษาไม่หาย ด้วยการกระตุ้นพลังบำบัดตามธรรมชาติของตนเอง

27 ขอบคุณประสบการณ์เฉียดตายจากอาการป่วย ประสบการณ์ป่วยหนักของผู้เขียนทำให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของความเป็นแพทย์ของตนเอง

28 เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายตอนอายุ 89 ปีแต่หายสนิทแล้วกลับมาแข็งแรงกว่าเดิม ผู้เขียนได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นมะเร็งตับ ระดับความรุนแรงคือระยะที่ 5 หรือระยะสุดท้าย ผู้เขียนตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด ผู้เขียนกล่าวว่าอย่าเพิ่งท้อถอยแม้จะตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งให้ลองทำสิ่งที่ทำได้ก่อนจนสุดความสามารถ

29 กินยาเท่าที่จำเป็น สิ่งที่ช่วยปกป้องร่างกายของเราก็คือพลังบำบัดตัวเองตามธรรมชาติที่อยู่ในร่างกาย เพราะฉะนั้นควรเชื่อมั่นในพลังนั้นให้มาก โดยหันมารักษาหรือดูแลสุขภาพด้วยการคิดว่าจะทำอย่างไรให้พลังบำบัดตัวเองตามธรรมชาติแข็งแกร่งขึ้นได้ นการพึ่งพายารักษาโรคมากเกินไปเป็นสาเหตุให้พลังบำบัดตัวเองตามธรรมชาติถดถอย

30 อย่ามองข้ามสัญญาณเตือนจากอาการเล็กๆน้อยๆ เราจำเป็นต้องเฝ้าสังเกตร่างกายอย่างละเอียดจึงจะพบอาการผิดปกติที่แสดงออกมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ส่วนใหญ่มักปรากฏทางของเสียจากร่างกาย ผิวหนัง ลิ้น ตา เล็บ เสียง กลิ่นตัว ลักษณะอาการทั่วไป พูดอีกอย่างคือ ร่างกายกำลังส่งสัญญาณว่า “รู้ตัวได้แล้ว ให้รีบรักษา”

31 จุดพ้องของคนที่อายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีของคนโอกินาวะ มี 3 ข้อ ข้อแรก อาหารการกิน ที่เน้นผักปลาและสาหร่าย ข้อสอง หมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย ข้อสาม ตระหนักถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่

32 สุขภาพใจ เชื่อมโยงโดยตรงกับ สุขภาพกาย
            ความเครียด จะกระตุ้น ให้มีการหลั่งฮอร์โมนดีนารีนและคอร์ติซอลมากเกินไป ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติต่างๆ ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง หากสลัดความเครียดแล้วมองโลกด้านบวก ฮอร์โมนแห่งความสุขต่างๆ ได้แก่ เซโรโทนิน ออกซิโตซินและโดพามีน จะถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมา

33 ยิ่งตามใจร่างกายยิ่งแก่เร็ว การใช้ชีวิตโดยที่ร่างกายไม่ต้องรับภาระใดๆไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยต่อเนื่องนานวันกลับทำให้อาการหลงลืมเร็วขึ้นกระบวนการสร้างและสลายถดถอยเนื่องจากไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ภูมิคุ้มกันโรคลดลง ป่วยง่าย ร่างกายของผู้สูงวัยแก่ชราลงได้ในพริบตาเมื่อปล่อยตามใจดังนั้นอย่าเลือกหนทางสบายเป็นอันขาด

34 เคล็ดลับกระชุ่มกระชวยอย่างต่อเนื่อง คนเราจะดูแก่กว่าอายุจริงหรืออ่อนเยาว์อยู่เสมอล้วนขึ้นอยู่กับการจัดการอารมณ์และความคิดหากความรู้สึกยังคงอ่อนเยาว์กระปี้กระเป่าต่อให้ร่างกายภายนอกแก่ชราลงแล้วแต่คนรอบข้างย่อมมองว่าคุณเป็นคนแข็งแรงกระชุ่มกระชวย วิธีคิดไม่เพียงแค่สร้างความกระชุ่มกระชวยให้แก่ชีวิตแต่ยังส่งผลดีต่อการบำบัดอาการเจ็บป่วยอีกด้วย

35 หลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ของคำพูดว่า “หัวเราะไว้ไม่ไร้สุข” การยิ้มช่วยให้เรามองโลกในด้านบวกมากขึ้นอีกทั้งดีต่อสุขภาพด้วย และการยิ้มยังช่วยส่งเสริมภูมิต้านทานของร่างกายให้เพิ่มขึ้น หากระยะนี้คุณสังเกตตนเองแล้วพบว่ายิ้มน้อยลงให้ลองฝึกยิ้มและหัวเราะประมาณ 3 นาทีทุกวันเชื่อเถอะว่าการปฏิบัติเช่นนี้บ่อยๆจะก่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายจนรู้สึกได้แน่นอน

36 ความเครียดระดับเล็กน้อยดีต่อร่างกาย การเผชิญกับความเครียดในระดับเล็กน้อยบางกลับส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจมากกว่าโดยให้คิดว่าชีวิตย่อมมีความเครียดเป็นธรรมดา ความเครียดเหมือนเครื่องย้ำเตือนว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีรับมือกับความเครียดเหล่านั้นอย่างชาญฉลาดตามแบบฉบับของตนเองให้พบ

37 ดำเนินชีวิตโดยรู้จักคำว่า “ความพอเหมาะพอดี” ในทุกเรื่อง นประโยคนี้อาจฟังดูธรรมดาแต่ประโยคสั้นๆนี้กลับมีแก่นแท้ของการเป็นเจ้าของสุขภาพใจและกายที่ดีซ่อนอยู่ นสิ่งที่เรียกว่าความต้องการนั้นไม่มีขอบเขตสิ้นสุดเราจึงต้องขีดเส้นไว้ในใจก่อนว่าควรพอเพียงเท่านี้ตามหลัก “รู้จักพอ”

38 กิจกรรมสนุกสนานช่วยป้องกันอาการหลงลืมได้ดีกว่าการฝึกสมอง ผู้เขียนกล่าวว่าการฝึกสมองให้ผลลัพธ์ได้ดีระดับหนึ่งแต่ไม่น่าสนุกซักเท่าไหร่ การหากิจกรรมสร้างสีสันทำและมุ่งมั่นกับสิ่งนั้นต่อเนื่องน่าจะเป็นหนทางป้องกันการหลงลืมซึ่งให้ผลลัพธ์ดีกว่าการพยายามฝึกสมอง นการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นเป็นนิจและค้นพบความปิติคุณค่าของการมีชีวิตจากกิจกรรมเหล่านั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้เขียนยังใช้ชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้โดยไม่เกิดอาการหลงลืม

39 หงุดหงิดเมื่อไรขาดทุนเมื่อนั้น อย่าเสียเวลากับความโกรธ กรณีที่ทำอย่างไรก็ปรับเปลี่ยนอารมณ์ไม่ได้สักทีให้ลองคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายที่นำความหงุดหงิดโมโหมาให้การทำเช่นนี้อาจช่วยให้เข้าใจแนวคิดของอีกฝ่าย แม้บางประเด็นเป็นเรื่องที่ทำใจยากยอมรับ แต่อย่างน้อยคงพอลดทอนความขุ่นเคืองลงได้จนเกิดความรู้สึกว่า  “ที่แล้วก็แล้วไป” ดีกว่าเก็บไว้จนกลายเป็นความเครียด

40 ตั้งปณิธานกับตัวเองทุกวันว่าว่า  “สู้ต่ออีก 10 ปีนับจากวันนี้”  เป้าหมายเปรียบเหมือนสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ดังนั้นการรู้จักวางเป้าหมายอย่างชาญฉลาดตามแบบฉบับของตนเองจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการค้นหาความหวังในชีวิตและการดำเนินชีวิตด้วยมุมมองด้านบวก เป้าหมายเป็นแรงผลักดันให้เกิดความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่

41 กล้าที่จะท้าทายกับสิ่งที่ยังไม่รู้จนกว่าจะตาย ตราบใดที่ไม่สูญเสียพลังของการมองโลกในแง่บวกและความรู้สึกฮึดสู้พร้อมลงมือท้าทายกับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของลมหายใจความเป็นไปได้ย่อมไม่หนีหายไปไหน

42 ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว ในทุกวันผู้เขียนจะดำเนินชีวิตอย่างเต็มกำลัง พร้อมด้วยความหวังและการตระหนักถึงคุณค่าของการมีชีวิต เมื่อใช้ชีวิตทุกวันอย่างเต็มความสามารถแล้ว ต่อให้วันหนึ่งความตายมายื่นกะทันหันก็พร้อมน้อมรับโดยไม่มีอะไรค้างคาใจ  ความตายเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติรูปแบบหนึ่ง

43 ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง ผู้เขียนยังคงปฏิบัติงานอยู่จนถึงทุกวันนี้ทั้งที่อายุเกิน 100 ปีแล้ว การมีอยู่ของคนไข้คือแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้ก้าวเดินบนเส้นทางวิชาชีพแพทย์ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เพราะมีคนไข้จึงมีผู้เขียน นเพราะมีคนไข้ผู้เขียนจึงได้เป็นแพทย์ จึงไม่แปลกที่ผู้เขียนจะรู้สึกขอบคุณคนไข้ทุกคน ทุกคนมีบทบาทของตนเอง งานทุกชนิดล้วนขาดไม่ได้สำหรับโลกใบนี้ บทบาทหน้าที่ทุกประเภทไม่มีคำว่าเล็กหรือใหญ่  เพราะฉะนั้นลองย้อนพิจารณาดูว่าเรามีหน้าที่อะไรบนโลกใบนี้ ได้รับบทบาทใด ต้องปฏิบัติสิ่งใด ดีหรือไม่ดีนั้นอาจช่วยให้คุณตระหนักถึงคุณค่าและความปิติในการมีชีวิตอยู่ขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ ทุกคนต่างมีชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกขอบคุณ

44 เมื่อทำดีที่สุดแล้วที่เหลือก็ปล่อยให้ฟ้าเป็นผู้ลิขิต เมื่อเจอสถานการณ์เลวร้ายขอให้ทำทุกอย่างจนสุดความสามารถ  เพียงตั้งมั่นกับแนวคิดนี้หนทางเบื้องหน้าย่อมไม่มืดมน เมื่อพบความทุกข์จงอย่าฝืน แต่เลือกที่จะทำให้ดีที่สุดแล้วปล่อยวาง

45 มองไปยังสิ่งที่ “ทำได้” แทนการจมปลักอยู่กับสิ่งที่ “ทำไม่ได้” จงมุ่งให้ความสนใจกับสิ่งที่ตัวเองทำได้มากกว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ คิดพิจารณาสิ่งต่างๆด้วยใจที่เปิดกว้างและอยู่กับทัศนคติด้านบวก

ใครสนใจอ่านหนังสือเต็ม --> https://s.lazada.co.th/s.ReOss ส่งต่อให้อ่านกันในราคาเบาๆ ค่ะ
 




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2566    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2566 23:32:54 น.
Counter : 83 Pageviews.  

สรุปหนังสือ ... กู้ร่างกลับฉบับชะลอวัย...ในบทยาลดน้ำหนัก





























หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหลักเกี่ยวกับกับการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ขอนำในเรื่องของอาหารเสริมและยาลดน้ำหนักมาสรุปไว้ในที่นี้ เพราะในปัจจุบันเราใช้สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยกันเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่หลักการง่ายที่สุดคือการกินอาหารที่ไม่มากกว่าการที่ร่างกายใช้งาน เพื่อไม่ให้น้ำสิ่งที่เรากินเข้าไปเก็บสะสม โดยในคนที่อ้วนแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือการมีวินัยที่จะคุมปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปให้น้อยกว่าเดิมลงไปอีก ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้นำอาหารส่วนเกินที่สะสมออกมาใช้เพื่อให้เราผอมลงนั่นเอง หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงหลักการลดอาหารในแบบต่างๆ การออกกำลังกายที่ถูกวิธีและเหมาะสมในแต่ละบุคคล

อาหารเสริมลดน้ำหนัก
1 กลุ่มที่เพิ่มระดับการเผาผลาญของร่างกาย  (increase in energy expenditure) eg.

  • Caffeine ในกาแฟ
  • Capsaicin ในพริก
  • EGCG ใน  (Epigallocatechin Gallate คือคาเทชินชนิดหนึ่ง) [Catechin อ่านว่า คาทาคิน]
  • Evodia ชื่อสามัญของพืชจำพวก Rutaceae ซึ่งมีลักษณะคล้ายสนเทศ ใช้ใน Traditional Chinese Medicine
2 กลุ่มที่ลดความอยากอาหาร (Appitite Suppressant Effect) eg.
  • สารสกัดจากส้มแขก (garcinia cambpgia) สารออกฤทธิ์คือ HCA
  • สารสกัดจากต้นกระบองเพชร (Hoodia gordanii, Caralluma fimbriata)
  • สารสกัดจากโสม (Panax Ginseng)
  • สารสกัดจากชาเขียว (Epigallocatechin Gallate : EGCG)
3 กลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์ที่ช่วยย่อยไขมันบริเวณลำไส้เล็ก (Lipase Inhibitor Effect) eg.
  • Oristat
  • Chaitosan ได้จากเปลือกกุ้ง กั้ง ปู
  • สารสกัดจากเมล็ดลูกซัด (Fenugreek seed extract)
  • สารสกัดจากกระเจี๊ยบแดง (Hibiscus sabdariffa)
  • รวมถึงสารสกัดจากชาต่างๆ
4 กลุ่มที่ยับยั้งการเพิ่มปริมาณและจำนวนของเซลล์ไขมัน (Regulatory affect on adipocyte differentiation) eg.
  • สารสกัดจากส้มแขก (garcinia cambpgia) สารออกฤทธิ์คือ HCA
  • Capsaicin ในพริก
  • สารสกัดจากขมิ้นชัน
  • กรดไขมันโอเมก้า 3 (Docosahexaenoic acid : DHA)
  • krill oil
  • สารสกัดจากโสม (Panax Ginseng)
5 กลุ่มที่กระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
            อาหารเสริมกลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นการสลายไขมันผ่านการทำงานของโปรตีนโมเลกุลเล็กๆชนิดหนึ่งในร่างกายที่ชื่อว่า (adenosine monophosphate activated protein kinase : AMPK) ซึ่งกระตุ้นโปรตีนนี้ให้ทำงานมากขึ้นจะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้นและยังเพิ่มการนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์อื่นๆได้อีกด้วย eg.
  • L-carnitine
  • Quercetin [อ่านว่า ควอเซทิน] ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์
  • สารสกัดจากขมิ้นชัน
  • สารสกัดจากชะเอมเทศ
  • สารสกัดจากถั่วเหลือง
6 กลุ่มที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนที่สัมพันธ์กับโรคอ้วน
  • กลุ่มที่เพิ่มความไวของฮอร์โมนอินซูลิน (insulin sensitivity)
ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ได้แก่ แร่ธาตุโครเมียม แมกนีเซียม สังกะสี วาเนเดียม ไบโอติน กรดแอลฟาไลโปอิก
  • กลุ่มที่เสริมการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์ (thyroid hormone support)
ช่วยให้ฮอร์โมนไทรอยด์มีการผลิตและทำงานได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่เ ซเลเนียมไ อโอดีน โสมอินเดีย และกรดอะมิโนไทโรซีน
  • กลุ่มที่เสริมสร้างการทำงานของฮอร์โมนต่อมหมวกไต (adrenal hormone support) ได้แก่ ดีเอชอีเอ (DHEA)
7 เส้นใยอาหาร (Dietary fiber)
            เส้นใยอาหารจะช่วยให้เราอิ่มนานลดความอยากอาหาร เป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้และทำให้การขับถ่ายดีขึ้น มีทั้งเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้และที่ไม่ละลายน้ำ มีข้อมูลว่าการกินเส้นใยอาหารช่วยลดน้ำหนักได้เช่นเส้นใยอาหารจากกลัวกัม (Galacto mannans) ไซเลียมฮัสค์ ซึ่งสกัดจากเยื่อหุ้มเมล็ดของต้นเทียนเกล็ดหอย กูโคมาแนนที่สกัดจากหัวบุก และแพคตินจากแอปเปิ้ล

8 กลุ่มที่ลดการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสที่บริเวณลำไส้ (Carbohydrate blocker)
  • สารสกัดจากถั่วขาว (Pheseomin ใน Phaseolus Vulgaris) ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอมไซม์อะไมเลสจากตับอ่อน ทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลกลูโคสได้น้อยลง
9 ลดการสะสมไขมันในร่างกาย ช่วยสลายเซลล์ไขมัน
  • CLA (conjugated linoleic acid) คือชุดสารเคมีที่พบในกรดไขมันไลโนอิก ซึ่งมีในผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อวัว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน เนย ชีส

โดยสรุปอาหารเสริมลดน้ำหนักเหล่านี้ให้ผลทางวิทยาศาสตร์เพียงไม่มาก แต่ถ้าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอ้วนแล้ว การใช้อาหารเสริมก็อาจไม่เพียงพอ ต้องใช้ยาเข้าช่วย ไปดูกันค่ะ ว่ามียาอะไรบ้างที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย
 
ยาลดความอ้วนที่มีใช้ในปัจจุบันมีตัวไหนบ้าง

            ปัจจุบันมียาลดน้ำหนักที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(USA FDA) 5 ชนิดได้แก่
  • อย่าลดการดูดซึมไขมันที่ลำไส้ได้แก่ Oristat เช่น ยา Xenical และ Alli รับรองในปี 2542
  • ยาที่ออกฤทธิ์เหมือนสารสื่อประสาทซีโรโตนินแต่มีความแรงกว่า (select team of serotonin to see receptor) ทำให้ลดความอยากอาหารลง ได้แก่ Locaserin รับรองในปี 2555
  •  ยาที่เพิ่มการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้ลดความอยากอาหารได้แก่ ยาผสมระหว่างphentamine extended release ร่วมกับ Topiramate extended release(Phantomime/Topiramate ER) เช่น ยา Qsymia รับรองในปี 2557
  • ยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งและเพิ่มการทำงานของสารสื่อประสาทบางชนิดทำให้ยาลดความอยากอาหารได้แก่ Naltraxone extended release ร่วมกับ Bupropion extended release (Naltraxone/Bupropion ER) เช่นยา Contrave รับรองในปี 2557
  • ยาที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนในระบบทางเดินอาหาร (Glucagon-like peptide 1 or GLP-1) โดยจะออกฤทธิ์ในหลายๆกลไก คือกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อน ทำให้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ โดยการยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน จากตับอ่อน ซึ่งจะไปออกฤทธิ์ที่เซลล์ตับ ลดความอยากอาหาร ทำให้การเคลื่อนที่ของอาหารจากบริเวณกระเพาะและลำไส้ช้าลง (slow gastric emptying) จึงส่งผลให้อิ่มได้นาน ยา ที่กล่าวมานี้คือ Liraglutide (Saxanda), Semaglutide (Ozempic) 2 ตัวนี้เป็นแบบฉีด ส่วน Oral Liraglutide (Rybelsus) เดิมยากลุ่มนี้ใช้รักษาคนไข้โรคเบาหวาน แต่ภายหลังเริ่มมีการใช้ พบว่าสามารถลดน้ำหนักได้ดี จึงถูกพัฒนาเป็นยาหลักในการรักษาโรคอ้วนในปัจจุบัน  แต่ยาในกลุ่มนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูง

ท้ายที่สุดนี้ การจะลดน้ำหนักให้ประสบความสำเร็จ ต้องอาศัยวินัยในเบื้องต้น การควบคุมอาหาร การเลือกทานอาหารที่ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีการเผาผลาญที่ดีและเป็นปกติ โดยอาจจะใช้อาหารเสริมหรือยาเข้าช่วย แต่ในท้ายที่สุดแล้วการปรับเปลี่ยนพฤติการกรรมการใช่ชีวิตในทางที่ดี จะช่วยส่งเสริมให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักในระยะยาวได้ตลอดไปค่ะ

ใครสนใจอ่านหนังสือเต็ม --> https://s.lazada.co.th/s.RePSY ส่งต่อให้อ่านกันในราคาเบาๆ ค่ะ




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2566    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2566 23:34:52 น.
Counter : 109 Pageviews.  

ว่าด้วยเรื่องงานสัปดาห์หนังสือ

ตามปกติของทุกปีสมัยเด็กๆ ยุคแรกๆ ของงานสัปดาห์หนังสือจะจัดอยู่รายรอบกระทรวงศีกษาธิการ เดินแบกหนังสือกันเหงื่อไหลไคลย้อย สมัยนั้นการออกบูทจะมาเป็นสำนักพิมพ์ต่างๆ และร้านหนังสือเก่า เดิมทีสมัยนั้นการหาซื้อหนังสือแปลกๆ นั้นทำได้ยากกว่าปัจจุบันมาก สำหรับหนอนหนังสืออย่างฉัน จะเก็บเงินไว้จำนวนหนึ่งและตั้งหน้าตั้งตารองานสัปดาห์หนังสือในทุกๆ ปี ต่อมาย้ายมาจัดที่ศูนย์สิริกิต เป็นฮอลขนาดใหญ่มีระบบปรับอากาศ ทำให้การช้อปหนังสือสนุกขึ้นไปอีก เรียกว่าเดินแบกกันหลังแอ่น

แต่ในช่วงที่เติบโตขึ้นง่วนกับการเรียนและจนกระทั่งทำงาน ก็ร้างราการไปเดินงานสัปดาห์หนังสือไปหลายปี กับความรู้สึกที่ว่าเด็กรุ่นใหม่ๆ อ่านหนังสือน้อยลง จากข่าวและการที่ร้านหนังสือปิดตัวลงไปมากมาย

ในปลายปี 65 ฉันได้มีโอกาสได้กลับไปเดินงานสัปดาห์หนังสืออีกครั้ง เพราะได้ยินว่าศูนย์สิริกิตที่สร้างใหม่นั้นเสร็จแล้ว และงานได้จัดที่นั่น ซึ่งเป็นที่เดิม พบว่ามีคนไปเดินงานเยอะมาก มีทุกวัย สำหรับคนรักหนังสือในรูปแบบรูปเล่มนั้นก็ชื่นใจยิ่งนัก ไม่รู้เพราะโควิดหรือเปล่านะ ที่ทำให้คนกลับมาอ่านหนังสือกันมากขึ้น ถึงแม้ว่ารูปแบบของบูทจะเปลี่ยนไป คือ ไม่มาเป็นสำนักพิมพ์เหมือนก่อน แต่เป็นร้านหนังสืออิสระหลากหลายยี่ห้อ ทำให้หนังสือเรื่องเดียวกันในบางเล่มที่ดูน่าจะเป็นที่สนใจ ก็จะมีขายแทบจะทุกร้าน ถามว่าเราในฐานะผู้ซื้อได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะถ้าตาดีก็จะเจอร้านที่ลดราคาสูงกว่า แต่ถ้าซื้อไปแล้วเจอถูกกว่าก็เจ็บใจอยู่ไม่น้อย ถ้าถามว่าการเดินในงานจะได้หนังสือแปลกๆ เหมือนเดิมไหม คำตอบคือไม่ เพราะเด๋วนี้หาในอินเตอร์เน็ทได้ง่ายกว่า บางร้านสั่งออนไลน์ก็ได้ส่วนลดเท่ากับที่มาในงาน หรือแถมอาจจะหาซื้อทางออนไลน์ได้ในราคาถูกกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นสิ่งที่ได้จากการเดินงานแฟร์ก็คือรสชาดความสนุกของการได้เดินเลือกชมและอาจจะได้พบปะกับผู้เขียนในดวงใจ เหมือนกับที่คราวนี้ฉันได้ผู้เขียนนามปากกากิ่งฉัตร นามนี้ฉันอ่านนิยายแทบจะทุกเล่มเลย 

ปีหน้าจะไปอีกไหม ถ้าไม่ขี้เกียจจนเกินไป ก็ไม่แน่ แต่ที่แน่ๆ การตั้งหน้าตั้งตารองานประจำปีแบบที่เคยเป็นอย่างใจจดใจจ่อมันหายไปหมดเสียแล้ว 

หวังว่าหนังสือในแบบรูปเล่มจะยังคงอยู่ไม่หายไป จากใจของคนที่ชอบลูบคลำสัมผัสและดมหนังสือ 




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2566    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2566 22:43:17 น.
Counter : 116 Pageviews.  

ฤ หนังสือจะตายจากโลกนี้ไป

เขาว่า (ใครก็ไม่รู้) บอกว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัดต่อวัน คงไม่ไใช่แค่คนไทยหรอก ฉันคิดว่าจริงนะ ที่เราอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัดต่อวัน แต่เราอ่านข้อความเยอะกว่าเดิม และมากกว่า 7 บรรทัดต่อวันเป็นแน่ เพียงแต่มันเปลี่ยนจากหนังสือ ไปอยู่ในแพลตฟอร์มอื่นก็เท่านั้นเอง

จั่วหัวแบบนี้ จริงๆ ต้องใช้คำว่าหนังสือแบบกระดาษมากกว่า หนังสืออาจจะไม่ได้ตายไปอย่างที่เราคิด หนังสือในรูปแบบกระดาษสำหรับเด็กในยุคปัจจุบันอาจมีความคุ้นชินน้อยลง เพราะใน รร ก็เปลียนรูปแบบการให้การบ้าน สื่อการสอนที่ได้รับแปรเปลี่ยนเป็น powerpoint ไม่ก็หนังสือในรูปแบบ Ebook 

แต่สำหรับคนที่โตมาในยุคหนังสือที่ยังคงเป็นกระดาษ การสัมผัสรูปลักษณ์ของหนังสือผ่านโสตประสาทในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบปกหนังสือ สัมผัสของเนื้อกระดาษที่เราต้องใช้นิ้วในการจับลูบไล้เพื่อเปลี่ยนไปยังหน้าถัดไป กลิ่นของกระดาษที่โชยมาแตะจมูก มันให้อารมณ์ได้หลากหลายรูปแบบ

จริงๆ ฉันเป็นคนหนึ่งที่บ้าหนังสือเอามากๆ ฝาห้องฝั่งหนึ่งของห้องนอนฉัน ค่อยกลายเป็นตู้หนังสือในที่สุด แต่จะบอกความลับให้ว่า ฉันอ่านได้ไม่ถึง 50% หรอก แต่ก็ยังเพียรพยายามซื้อไม่ขาด ทุกครั้งที่ไปเดินตามร้านหนังสือ ฉันสามารถจมจ่อมได้เป็นวันๆ เล่นนั้นก็อยากอ่านเล่นนี้ก็อยากอ่านไปเสียทั้งหมด

ฉันเขียน Blog ใน Bloggang มากว่า 10 ปีแล้ว แต่น่าแปลกใจที่ฉันไม่เคยมี Group Blog  ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันพลาดไปได้อย่างไร แต่ช่างมันเถอะ เริ่มวันนี้ยังไม่สาย ฉันมีความตั้งใจว่าอยากจะอ่านหนังสือให้มากขึ้น มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้เบื่อและขี้เสือก เราต้องหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลา ฉันคิดว่าการอ่านหนังสือเป็นการฆ่าเวลาที่มีประโยชน์ มากกว่าการเล่นเกมส์หรือเล่น Social ตามติดชีวิตคนดังที่ฉันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว 

ต่อไปนี้ทุกครั้งที่ฉันอ่านจบ 1 เล่ม ฉันมาเล่าให้ฟัง ว่าหนังสือที่ฉ้นอ่านเป็นอย่างไรนะ




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2563    
Last Update : 9 ตุลาคม 2563 3:21:30 น.
Counter : 878 Pageviews.  


blue passion
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




มีหัวใจไว้เดินทาง ค้นหาความหมายของชีวิต เพื่อเติมเต็มให้กับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างการเติบโต วิธีการในการเดินทางมีมากมาย แต่ ณ วันนี้ ขอเลือกสองล้อเป็นพาหนะในการนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง

Site Meter

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add blue passion's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.