กลกาล YURI ญรญ โดยผิงดาว บทที่ ๑
บทที่๑ นาฬิกาสำหรับคนสมัยใหม่คงเป็นเรื่องปกติ ทุกคนมักจะมีนาฬิกาพกติดตัวกันเกือบทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาในรูปแบบใด นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาพกหรือแม้แต่กระทั่งนาฬิกาจากโทรศัพท์มือถือ ในสมัยโบราณนั้นมนุษย์เราใช้ดวงอาทิตย์เป็นเครื่องบอกเวลาในเวลากลางวันใช้พระจันทร์กับดวงดาวเป็นเครื่องบอกเวลาในยามราตรีกาล นาฬิกาเริ่มมีใช้จริงๆจังๆ เมื่อราวๆ สามพันห้าร้อยปีก่อนมีคนหัวใสประดิษฐ์คิดค้นนาฬิกาแดดเพื่อเป็นเครื่องบอกเวลากับมนุษย์เราโดยอาศัยเงาของตัวเข็มที่บดบังแสงอาทิตย์เวลาบนหน้าปัดจะเคลื่อนไปตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ข้อเสียก็คือพระอาทิตย์นั้นไม่ได้อยู่บริเวณเดิมทุกวัน จะเคลื่อนที่ขึ้นๆ ลงๆไปตามจังหวะที่โลกหมุนรอบตัวมัน ทำให้เวลาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเวลา ณ ปัจจุบันจริงๆ บางเดือนพระอาทิตย์อยู่บนขอบฟ้าเกือบถึงสิบสามชั่วโมงส่วนบางเดือนอาจจะอยู่เพียงแค่สิบเอ็ดชั่วโมงหน่อยๆ ชาวกรีกโบราณจึงคิดค้นนาฬิกาน้ำโดยอาศัยภาชนะบรรจุน้ำ ให้เต็มปล่อยให้น้ำไหลลงมาจากพาชนะด้านบน และมีพาชนะด้านล่างสำหรับรองรับน้ำอีกอันหนึ่งระดับน้ำในภาชนะด้านล่างนั้นจะเป็นตัวบอก เวลา ณ ขณะนี้คือเวลาเท่าใด ข้อเสียคือน้ำนั้นระเหยได้ง่าย และต้องอาศัยแรงมนุษย์ ในการนำน้ำกลับไปใส่ในภาชนะแถมในฤดูหนาวน้ำยังกลายเป็นน้ำแข็งอีกต่างหาก ทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากจากนั้นจึงมีผู้คิดค้นนาฬิกาทราย เอาไว้จับเวลานิดๆ หน่อยๆ ไม่ระเหย ไม่เป็นน้ำแข็ง และแล้วนาฬิกาจึงได้พัฒนาขึ้นอีกครั้งตั้งแต่นาฬิกาไขลาน นาฬิกาเขย่า นาฬิกาควอตซ์จนถึงนาฬิกาดิจิตอล ร้านขายนาฬิการ้านหนึ่งเปิดขายมาตั้งแต่รุ่นทวดสืบต่อกันมาจนกระทั่งถึงรุ่นเหลน แม้ร้านจะดูเก่าไปสักนิดหากแต่ผู้ที่รับซ่อมนาฬิกานั้นมีความชำนาญในการซ่อมชนิดที่หาตัวจับได้ยาก แป๊ะเฮงคือชายชราวัยเจ็ดสิบปลายๆเขารับซ่อมนาฬิกามาตั้งแต่สามารถเรียนรู้จากผู้เป็นพ่อของเขาได้ซ่อมทุกชนิดตั้งแต่นาฬิกาตั้งพื้น แขวนผนัง ข้อมือในสมัยก่อนใครที่จะซ่อมนาฬิกาต้องมาที่ร้านเล็กๆตั้งอยู่หัวมุมถนนหน้าปากซอยร้านนี้กันทั้งนั้น ฝากเอาไว้นะแป๊ะเย็นๆ จะมาเอา สาวเจ้าของนาฬิกาเก่าเรือนหนึ่งบอกกับเขา ล่ายๆอั้วจาซ่อมให้ เย็นๆ ลื้อมาเอาปายน้อ หมู่นี้มันรวนๆนะแป๊ะ หนูเขย่ามันทีไร เข็มมันไปรวมกันตอนเที่ยงทุกทีว่าจะเอามาให้แป๊ะดูตั้งหลายวันแล้ว ลืมตลอดเลย หญิงสาวว่า นาฬิกาเรือนนี้เธอได้รับตกทอดมาจากคุณปู่ว่ากันว่าทำตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นนาฬิกาไม่ต้องไขลานอาศัยแรงเหวี่ยงของแขน ทำให้มันเดินได้เรียบไม่เคยรวนแต่เมื่อมันมีอายุยาวนานมาเกือบแปดสิบปี ทำให้ระบบต่างๆ ในตัวมันเริ่มรวนอะไหล่หายาก ซ่อมแต่ละครั้งต้องรอนาน เธอจึงต้องพึ่งความสามารถของแป๊ะเฮงผู้คร่ำหวอดในวงการซ่อมนาฬิกาในละแวกบ้านของเธอ ให้ซ่อมพอใช้ได้ไปพลางๆ ก่อน ลื้อจะไปงานแล้วเหรออาหมวย ค่ะแป๊ะหนูต้องรีบไป วันนี้นัดลูกค้าเอาไว้ ไปนะแป๊ะ ฝากด้วย เจ้าของนาฬิกาเก่ารีบเดินออกไปจากร้านไม่ได้หันไปสนทนากับเจ้าของร้านอีกเลย ชายชราก้มลงมองนาฬิกาเรือนนั้นเขาคุ้นกับมันเป็นอย่างดี ไม่ใช่เพราะเจ้าของนำมันมาซ่อมกับเขาหรอกนะแต่เพราะเขารู้ที่มาที่ไปของนาฬิกาเรือนนี้ต่างหาก ฉันฝากขายหน่อยนะอาตี๋ หญิงสาวคนหนึ่งนำนาฬิกาข้อมือมาฝากที่ร้านหน้าปากซอย เขาไม่คุ้นหน้าคุ้นตาหญิงสาวคนนี่เอาเสียเลยท่าทางของเธอคงจะร้อนเงิน ของที่เอามาฝากขายอาจจะเป็นของที่ขโมยมาก็ได้หรือไม่บางทีหล่อนอาจจะเป็นเจ้าของมันจริงๆ ยุคข้าวยากหมากแพงอย่างนี้ ถ้ารวย ไม่จริงคงไม่คิดเก็บของเก่าเอาไว้กับตัวมีอดีตคนรวยหลายต่อหลายคน นำนาฬิกาเก่าออกมาฝากเขาขาย โหเจ้นาฬิกาแพงอย่างนี้ เจ้จะฝากขายเท่าไหร่ เขามองนาฬิกาเรือนนั้นราคาของมันคงแพงมากมาย คนในซอยนี้จะมีใครซื้อถ้าขายในราคาแพง เอาเถอะฉันตั้งราคาไว้ที่แปดสิบบาท ไอ๊หย่าตั้งแปดสิบ ซื้อข้าวได้ตั้งหลายกระสอบ เขาได้ยินราคาแล้วถึงกับตกใจ น่าตี๋ฝากเอาไว้ก่อน ต่อรองราคากันได้ ไปก่อนนะ เจ้าของนาฬิกาว่าจบจึงเดินออกจากร้านของเขาไป ไม่นานนักเพื่อนรักของเขาเข้ามาในร้าน เฮ้ยตี๋แกจะเอาอะไรหรือเปล่า กันจะไปตลาด ไม่ล่ะเมื่อเช้าม้าซื้อกับข้าวมาแล้ว แล้วนี่ป๋าแกไปไหนวะปล่อยแกเฝ้าร้านคนเดียว เขาชะโงกมองเข้าไปหลังร้านท่าทางจะไม่มีใครอยู่ ป๋าไปซ่อมนาฬิกาบ้านเจ้าสัวเออนี่ แกบอกว่าอยากได้นาฬิกาข้อมือสวยๆ ใช่ไหม มีคนเอามาฝากขาย เขาหยิบนาฬิกาเรือนที่เจ้าของเพิ่งนำมันมาฝากเอามาให้เพื่อนดู เท่าไหร่วะเพื่อนเขาหยิบนาฬิกาเรือนนั้นขึ้นมาดู หน้าปัดของมันแค่ดูก็รู้ว่าทำมาจากเปลือกหอยมุกส่วนขีดบอกเวลานั้น น่าจะทำจากของมีค่าอะไรสักอย่างที่คนทำตั้งใจฝังมันเอาไว้ให้นูนเด่นออกมาจากตัวหน้าปัด ตัวเม็ดมะยมหรือ Crown น่าจะทำจากทองคำ น่าเสียดายที่มัน ไม่มียี่ห้อบ่งบอกว่าเป็นของใคร หากว่ามี มันอาจจะขายได้ราคาดี แปดสิบ โหแพง แม้ปากจะพูดอย่างนั้นเขากลับรู้สึกว่าสมกับราคาที่ผู้ขายนำมันมาฝากเอาไว้จริงๆ กันก็ว่างั้นแหละแพง จะมีใครซื้อ แต่เจ้าของบอกว่าต่อรองราคาได้ กันว่ามันสวยนะ ยังใหม่อยู่เลยแต่ไม่รู้ว่าของยี่ห้ออะไร เหมือนของปลอมๆ อย่างนั้นแหละ ตี๋เจ้าของร้านบอกกับเพื่อนเขา นั่นสิกันก็คิดอยู่เหมือนกันนะที่สำคัญคือใหม่มาก เหมือนไม่เคยใช่มาก่อน ถ้าได้สักสี่สิบพอไหวเงินเดือนกันกำลังจะออก ลดราคาตั้งครึ่งเอางี้ถ้าเจ้าของมา กันจะนัดให้แกต่อรองราคากันเองเลยดีไหม ถ้าได้ก็ดีกันไปตลาดก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะรอกับข้าว เย็นๆ แวะไปที่บ้านสิพ่อกันพาเพื่อนมาเลี้ยงที่บ้าน ถ้าว่างจะแวะไป เออเอานาฬิกาไปด้วยสิ เผื่อเพื่อนพ่อกันจะอยากได้ ไปนะเพื่อนเพื่อนของเขาเดินออกไปจากร้าน เขาจึงต้องนั่งเฝ้าร้านอยู่เพียงลำพังต่อไป งานเลี้ยงง่ายๆที่บ้านเรือนไทยกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแขกที่มางานล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของบ้านทั้งสิ้น บ้านหลังนี้เป็นทหารสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นผู้เป็นทวดนั้นเป็นทหารของพระเจ้าน้องยาเธอตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายสืบเรื่อยมาจนกระทั่งถึงทรงธรรม ผู้เป็นรุ่นล่าสุด เขาเป็นนายทหารยศร้อยเอกแห่งกองทัพไทยมีพ่อเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพล เหตุการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ยุ่งเหยิงยิ่งนักนับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง และดูเหมือนว่ากำลังจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สองญี่ปุ่น แผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาแทรกซึมในไทยมาหลายปี ยังไม่รวมถึงประเทศมหาอำนาจอื่นๆที่คิดจะใช้เมืองไทยเป็นฐานในการบัญชาการรบ เสียงสนทนากันของแขกที่มาในงานคงไม่พ้นเรื่องสงครามที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นั่นสิกระผมว่าถ้าเราเลือกข้างไปเสียแต่ตอนนี้เราคงไม่ลำบากอะไรหรอกครับท่าน ใจผมอยากให้เราเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่เราคงทำอะไรไม่ได้ ญี่ปุ่นเร่งเราเหลือเกินฝ่ายสัมพัธมิตรก็อยากให้เราร่วมด้วย ส่วนฝ่ายอักษะไม่ต้องพูดถึงแทบจะกินเราให้เป็นเมืองของพวกเขาด้วยซ้ำ นั่นสิขอรับสงครามที่ยุโรปเขาว่ารุนแรงนัก กระผมได้ข่าวมาว่าฮิตเลอกำลังระดมพลครั้งใหญ่เห็นท่าว่าครั้งนี้อักษะจะเป็นฝ่ายชนะ เรื่องของสงครามเราคงกำหนดอะไรไม่ได้หรอกนะอยู่ที่ใคร ตั้งรับได้ดีกว่าใคร เฮ้อ...ไปดื่มไปกินกันดีกว่า แม่บ้านผมทำอาหารรอ พวกคุณตั้งแต่กลางวัน เจ้าของบ้านหยุดการสนทนาลงเดินนำพรรคพวกของเขาไปยังที่ตั้งโต๊ะอาหาร สำหรับเขาเวลานี้ยังถือว่าเป็นเรื่องพอรับมือไหวหากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ จะกินจะใช้อะไรคงต้องประหยัด กลียุคคงกำลังจะเกิดกับประเทศงานนี้คงเป็นงานสุดท้ายที่เขาจะจัดเลี้ยงลูกน้องของเขาก่อนที่จะต้องรับศึกหนักซึ่งกำลังจะเกิดกับประเทศ เฮงมางานนั้นตามคำเชิญของเพื่อนเขาเขารู้ดีว่าเขาคงไปไหนไม่ได้ไกล นอกจากไปขลุกอยู่ในครัวงานเลี้ยงนี้มีคนมีอำนาจมากมายมาอยู่รวมตัวกันไทยเชื้อสายจีนอย่างเขาทำอย่างมากแค่เพียงยืนมองอยู่ไกลๆ พ่อของเขาตั้งชื่อเขาว่าเฮงเพราะตอนที่เขาเกิดพ่อกับแม่เริ่มมีฐานะทางบ้านดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆจนมีร้านขายนาฬิกาเป็นของตัวเอง เขาจึงกลายเป็นลูกคนโปรดของบ้านมีเพื่อนรักอยู่เพียงคนเดียวคือทรงธรรม ลูกนายทหารใหญ่ซึ่งบัดนี้เขาเดินตามรอยเท้า เป็นทหารเช่นเดียวกับบรรพบุรุษส่วนตัวของเฮงก็เดินตามรอยเท้าของพ่อเขาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาเช่นกัน อ้าวเฮงนายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่ไปในงาน มาหลบอะไรอยู่ที่นี่หรือว่าจะมีจีบพิกุลกันวะเพื่อน บ้าน่ากันไม่ได้จีบใครทั้งนั้นแหละ กันไม่กล้าเข้าไปในงาน เออนี่กันมีอะไรจะบอก อะไรทรงธรรมจ้องหน้าเพื่อนของเขา นาฬิกาเรือนนี้มียี่ห้อด้วยนะ เฮงล้วงห่อผ้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา ไหนๆยี่ห้ออะไร โอม หืออะไรนะ โอมกันให้ไอ้ซิงค์มันดูให้ บังเอิญว่ากันเอาไปส่องดูกับไฟ เห็นมันสลักเอาไว้บนหน้าปัดเป็นภาษาอะไรไม่รู้อ่านไม่ออก พอดีไอ้ซิงค์มันเข้ามา มันช่วยดูให้บอกว่าเป็นภาษาอินเดียอ่านว่าโอม โอมเหรอแปลกไม่เคยได้ยินชื่อยี่ห้อนี้มาก่อน ทรงธรรมค่อนข้างแปลกใจที่ได้ยินคำอธิบายจากเฮงเพื่อนของเขา นั่นสิแสดงว่าไอ้นาฬิกานี้ต้องเป็นของอินเดียแน่ๆ เลยเพื่อน เอาไปให้พ่อกันดูดีไหมเฮงเผื่อพ่อจะสนใจ ทรงธรรมชักชวนเพื่อนของเขาเข้าไปในงานเลี้ยงนั้นทันที อยากได้หรือไงเรา ผู้เป็นปู่เอ่ยถามหลานชายคนเดียวของเขา ขอรับเจ้าคุณปู่ทรงธรรมบอกกับชายชรา เอาสิปู่ซื้อให้ เท่าไหร่ล่ะ แปดสิบขอรับท่านเฮงบอกราคากับเจ้าของบ้าน อือๆเดี๋ยวให้คนไปเอาเงินมาให้ ไม่แพงหรอก นาฬิกานี่เป็นของดี ปู่ให้เจ้าเป็นของขวัญเลื่อนยศเป็นร้อยตรีเสนาผู้เฒ่าบอกกับหลานชาย ขอบพระคุณขอรับเจ้าคุณปู่ ทรงธรรมก้มลงกราบผู้มีพระคุณสูงสุดของเขา ว่าแต่ใครเอามาฝากขายล่ะเจ้าเฮง เจ้าของบ้านยศเสนาบดีเอ่ยถาม ผู้หญิงขอรับท่านเจ้าคุณท่าทางจะร้อนเงิน กระผมไม่คุ้นหน้าเธอดอกขอรับ ไม่ได้ทันไถ่ถามว่าเป็นใครเธอไปเสียก่อน เฮงตอบไปตามความจริง เอาเถอะถือว่าได้ของดีราคาถูกก็แล้วกัน ลองใส่สิปู่อยากเห็นว่าเข้ากับเจ้าไหมประโยคหลังชายชราบอกกับหลานชาย เขาสอดมือเข้าไปในวงนาฬิกาเรือนนั้นสายของมันน่าจะทำจากโลหะมีค่า แม้จะไม่ได้ทำจากทองแต่ดูดีมีราคากว่าสายนาฬิกาหนังเป็นไหนๆ เรือนนี้ไม่ต้องไขลานด้วยนะขอรับไอ้ซิงค์มันว่าเป็นนาฬิกาเขย่าเฮงบอกสรรพคุณของแพงที่เขาเพิ่งขายให้กับเพื่อนรักไป เหรองั้นก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องมาหมุนทุกวัน แต่มันมีข้อเสียนะขอรับท่าน อะไร มันต้องใส่ทุกวันขอรับเครื่องจะได้เดิน กระผมเพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละขอรับ อ้าวแล้วกันเอาอย่างนี้สิเฮง เจ้าลองไปหาความรู้เรื่องนาฬิกาเขย่าของเจ้าเผื่อว่าไอ้เจ้านาฬิกาเรือนนี้มันพัง เจ้าจะได้เป็นคนซ่อมมันให้กับหลานข้าดีไหมไอ้เฮง ขอรับท่าน นั่นคือสิ่งที่เฮงจำได้หลังจากนั้น เขาเป็นเพียงผู้เดียวที่ซ่อมนาฬิกาเรือนนี้ให้กับทรงธรรม จะว่าไปนาฬิกาเรือนนี้ช่วยชีวิตของทรงธรรมเอาไว้ตอนที่เขา ไปรบเขาถอดนาฬิกาใส่เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ ข้าศึกบุกมาถึงที่ฐาน ลอบยิงเขาไปจังๆหลายนัด โชคดีที่นัดสำคัญที่จะเจาะทะลุหัวใจของทรงธรรม ยิงมาถูกนาฬิกาเรือนนั้นทำให้ทรงธรรมรอดชีวิตมาได้ หลังจากนั้นนาฬิกาเรือนนั้นยังช่วยชีวิตของทรงธรรมเอาไว้อีกครั้งด้วยเหตุคล้ายแต่ต่างกัน เมื่อเขาเข้าป่าไปล่าสัตว์จู่ๆมีเสือตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขา งับที่แขนโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวนาฬิกาเรือนนั้นทำให้เจ้าเสือตัวนั้นไม่สามารถใช้เขี้ยวของมันงับเข้าเนื้อของเขาได้แถมยังไม่มีรอยขีดข่วนอะไรบนนาฬิกาเรือนนั้นเลยสักนิดเขาจึงคิดว่าของสิ่งนี้คือเครื่องลางที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อหลานสาวคนเดียวของทรงธรรมเกิดเขาจึงมอบนาฬิกาสุดรักสุดหวงให้เป็นของขวัญวันเกิดกับเด็กหญิงตัวแดงๆ น่ารักที่ชื่อว่า ทาฬิดา
Create Date : 09 กันยายน 2557 |
Last Update : 9 กันยายน 2557 20:25:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 307 Pageviews. |
|
|