Singapore trip ..April 2012 (2)


…ปั่น ๆๆกันต่อ^^ วันนี้ยังพอมีเวลานิดหน่อย รีบมาอัพบล็อกต่อให้จบค่ะ ไม่อยากจะสะสมเป็นดินพอกหางหมู
เช้าวันที่สองที่สิงค์โปร์ เช้านี้ยังคงเที่ยวกัน4 คน เจ้าตัวเล็กกับน้องสาวจะบินตามมาคืนนี้ค่ะ

....เมื่อวานเดินกันจนม่าบ่นขาจนต้องนวดขาให้ก่อนนอน ตื่นมาหน้าตาสดใส ^^ เลยต้องจับนางแบบ
มาถ่ายแบบกันก่อนออกจากโรงแรม ..




…เช้านี้คนนี้ก็อารมณ์ดีเหมือนกัน ^^



…โพสถ่ายกันแต่เช้า ...



…เดินไปเดินมาก็ แถว Clarke Quay เหมือนเดิม..555 ก็พักแถวนี้นี่น่า ^^



…วันนี้พวกเราจะไปBird Park บอกน้องเขยว่าอยากนั่งให้ครบทุกอย่าง วันนี้เลยจัดเต็ม นั่งรถไฟฟ้า ไป2 ต่อแล้วก็ต่อด้วยรถบัส



…ก่อนมาต่อรถบัส ฝนตกหนัก อากาศเย็นเลยหาอะไรหม่ำกัน ปรากฏว่าห้างยังไม่เปิด มีอยู่ร้านเดียวที่เปิด Toast Box เลยแวะชิม ^^





…รอไม่นานค่ะ รถว่างเชียวค่ะ จอดด้านหน้าเลย ^^













…ไปเที่ยวกันค่ะ















…ขากลับฝนหยุดแล้ว แต่ร้อนเชียว นั่งแท็กซี่ มาต่อรถไฟฟ้า ผ่านห้างมีร้านขายข้าวมันไก่ แม่อยากชิม น้องเขยก็จัดไป..^^



…ส่วนอันนี้ตอนไปฮ่องกงชอบมากๆ ก๋วยเตี๋ยวหลอด พอมาร้าน โกปี่เตี้ยม เห็นก็เลยสั่งดู..น้ำจิ้มมันแปลกๆ



..กลับรร. เย็นมีเวลา เดอาขอว่ายน้ำ ส่วนอาม่าก็ขอพักขา รอเวลาคืนนี้จะมีเจ้าภาพชาวสิงค์โปร์พาไปเลี้ยง ^O^



…ตอนเย็นมีเพื่อนน้องเขยพาไปเลี้ยงที่ร้าน JumBo แถว Seafood Republic แถวๆสนามบิน บรรยากาศติดชายทะเล คนเยอะมากกก



..ออเดิร์ฟ มีปลาหมึกทอดกร้อบกรอบ สามรส เด็ด ปลาเส้นทอด ผักบุ้งผัดกะปิสไตล์สิงค์โปร์ ผัดหมี่โกเร็ง แบบอินโดฯ



...ข้าวผัดซีฟู้ดใส่หอยเชลล์ด้วย หมูสะเตะ แล้วก็ จานเด็ด ปูผัดพริกไทยดำ ปูผัดซอสพริก ที่คนที่ไปทานร้านนี้ต้องสั่งทุกโต๊ะ ชอบที่สุดก็หมั่นโถวทอด จิ้มกับ
ซอสพริกอร่อยสุดๆๆ ^ ^



…ส่วนจานนี้ชอบมากเป็นพิเศษ กุ้งทอด ข้าวโอ้ต เป็นรสชาติที่ไม่เคยทานมาก่อน หอมๆกลิ่นวานิลา เนย หวานนิด อร่อยอีกแล้ว ^ ^



...อิ่มพุงกางน้องเขยแยกไปรับตัวเล็กกับแม่ พอกลับที่พัก จัดการเอาเด็ก และผู้ใหญ่นอน ส่วนข้าพเจ้าก็ตะเวณราตรี



…เดินได้แป๊บเดียวก็ต้องกลับเพราะเที่ยงคืนแล้ว ค่ะ -- ‘



…ต่อที่ตอน 3 เลยนะค่ะ ^^..

















Create Date : 23 พฤษภาคม 2555
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 8:36:08 น.
Counter : 1635 Pageviews.

12 comment
Singapore Trip 2012 (วันแรก)


…ทริปสิงค์โปร์..ทริปนี้ถือเป็นทริปบังเอิญจริงๆค่ะ หลังจากไป มานานมากกว่า สิบกว่าปี ^_^ เรียกว่าเป็นทริปตามใจแม่ค่ะจริงๆแล้ว แม่ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ มาสองสามปีแล้วค่ะ หลังจากทริปสุดท้ายที่ไปเที่ยว กระบี่ ภูเก็ต แล้วไปก้นกระแทกตอนนั่งเรือสปีดส์โบ๊ต ครั้งนั้นจำได้ว่าเป็นวิกฤตใหญ่ในครอบครัวเลยทีเดียว คิดว่าแม่คงจะเดินไม่ได้แล้วแน่ๆ

...แต่หลังจากรักษาตัวอยู่เป็นปี พอจะหายจู่ๆก็เป็นงูสวัดอีก แม่เจ็บออดๆแอดๆ มาตลอด ช่วงที่ผ่านมาใครชวนไปไหนก็ไม่ไปทั้งนั้น ก็มีแต่ช่วงน้ำท่วมที่หนีน้ำ (ที่ท่วมไม่ถึงบ้าน) ไปอยู่เชียงใหม่อยู่เป็นเดือน ^ ^

…ก่อนสงกรานต์น้องสาวจู่ก็มาบอกว่า จะพาสองสาว(ตัวแสบ) ไปเที่ยวสิงค์โปร์ ชวนแม่ให้ไปด้วยกัน ปรากฏแม่อยากไป บอกว่าไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว ก็เลยเป็นหน้าที่เราที่จะต้องตามไปดูแลแม่

...ว่าจะไปแบบสบายๆ แต่ก่อนเดินทางหนึ่งวัน ปรากฏว่ามีเรื่องให้ตื่นเต้นซะอีก เพราะเจ้าหลานสาวคนสวยดันเก่ง สอบเข้าสาธิตประสานมิตรได้ แล้วทางโรงรียนให้มอบตัววันที่ 12 แต่พวกเราเดินทางกันวันที่ 11 --‘ ก็เลยนวายกันไปหมด น้องสาวตัดสินใจเปลี่ยนตั๋ว ตั๋วก็เต็มได้ตั๋วBussiness Class แล้วตามไปคืนวันที่ 12 หลังจากพานักเรียนไปมอบตัวเสร็จ ... ...เช้าวันเดินทางจึง เหลือสมาชิก แค่ 4 คนที่เดินทางล่วงหน้าไปก่อน




..ยังเหลือเวลาก็เลย แวะนั่งรอที่ TG lounge



..สองคนพ่อลูก ^^



..กิจกรรมยามว่างของคุณหลานสาว ..นอกเหนือจากเล่นเกม..



^ ^



..ขึ้นเครื่องแล้วคร้า...



…ขอม่าดูหน่อยซิ..เขาให้อารายมา ^^



..เซ็ตเด็ก ..ผู้ใหญ่มีโจ๊กไก่ค่ะ..



…ถึงแล้วนั่งแท๊กซี่ไปเช็คอินที่ โนโวเทล Clarke Quay..



..จะไปไหนกันดี ..เดียวขอเดอาดูแผนที่ก่อน ^^



..อาม่าพึงจะมาถึงเท้ายังไม่เจ็บ..สู้ๆๆ



..Let’s go kha..



…เดินชิวๆกันอยู่แถว Clarke Quay ..



…ด้านหลังมีวิว มารีน่า เบย์วิว


..แม่น้ำสิงค์โปร์ค่ะ..



…ยิ้มให้ปะป๊าหน่อยคร้า ^^



…ต้องเดินข้ามสะพานนี้ทุกวันเลย ..






..ยังไม่ทันไรบอกว่าไม่มีแรงเดินแล้วงะ เลยต้องพักเติมพลังงาน ^^



^O^



…อาม่านั่งรอแบบชิวๆ แถวนี้กลางคืน เต็มไปด้วยแสงสี แหล่งวัยรุ่น ^ ^









…เติมพลังแล้ว ตามมาค่ะ เดอาจะพาไฟล่องแม่น้ำสิงค์โปร์กัน ^_^





…ปะป๊ะเสียตังค์มาดูวิวนะเดอา..- -’



…ก็ได้คร้า..ชมวิวกัน^^








...ชมแม่น้ำสิงค์โปร์กันค่ะ ^___^



…บรรยากาศวันที่ 11/02/2012 อากาศดีค่ะไม่ร้อน ท้องฟ้ามีเมฆไปหน่อย ^ ^





…Behindthe Scenes..



…ไปกันต่อค่ะ จะพาไปขึ้นชิงชายักษ์ค่ะ SingaPore Flyer..



…นั่งอยู่บนชิงช้ายักษ์ ..พี่สาวก็ส่งแมสเสจตื่นเต้นว่า มีประกาศเตือนภัย..สึนามิแถวภูเก็ต - - ’



…ส่วนพวกเราก็บอกว่า มันคงมาไม่ถึงมัง สูงขนาดเนี๊ยะ ^^



…ปิดท้ายวันแรก ก็พากันไปหม่ำบะกุเต๋ ร้านนี้เค้าบอกว่าอร่อยที่สุดแล้วในสิงค์โปร์ ^__^



...เจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ















Create Date : 22 พฤษภาคม 2555
Last Update : 22 พฤษภาคม 2555 17:39:56 น.
Counter : 1348 Pageviews.

10 comment
...........เดี่ยวพม่า 5 จบที่ย่างกุ้ง...............


…หายไปนานเลยค่ะ หนีน้ำกันไปคนละทิศคนละทาง กลับมาอีกครั้งแทบจะเขียนบล็อกไม่เป็นเลย ^_^ หายไป 2เดือนกว่าๆ กลับมานั่งดู
บล็อกตัวเอง เขียนเรื่องราวที่ไปเดินเล่นที่พม่ายังไม่จบเลยค่ะ นานกว่านี้ก็คิดว่าจะจำอะไรไม่ได้ซะก่อน ยิ่งแก่ยิ่งจำอะไรไม่ค่อยจะได้ 555
ก็เลยต้องบันทึกความทรงจำกันสักหน่อย



แผนการณ์........เดี่ยวพม่า…..
Day 1 21Aug 11 : FD 3772 Bkk-Yangon ( 16:50-17:35)
Day 2 22Aug 11 : Yangon –Nyaung u (พุกาม) นั่งเครื่องภายใน สายการบินใหม่ Asian Wings 78 us.(AWM 891 06:15-07:30)
Day 3 23 Aug 11: Bagan เที่ยวในพุกาม
Day 4 24 Aug 11 : Bus to Mandalay มี 3 เที่ยวเวลา (08:00-14:30,15:00-21:00,20:30 ถึงเช้า ) ราคา 7500 k กับ 8500 k ไม่แวะจอดเยอะ
Day 5 25 Aug 11 : เที่ยวในมัณฑะเลย์
Day 6 26 Aug 11 : มัณฑะเลย์ –นั่งรถบัสไป อินเล รถออก18.30 เวลา ถึงเวลา 04.00 am.
Day 7 27 Aug 11: Inle
Day 8 28 Aug 11: Heho - Yangon Asian wingsAW892 ( 09:20-10:30 )เก็บเที่ยวในย่างกุ้ง เข้า Shwedagon pagoda
Day 9 29 Aug 11 : Yangon – Kyaik hto by Train.
Day 10 30 Aug 11 : kyaik hto-Bago- Yangon
Day 11 31Aug 11 : Yangon –Bkk FD 3773 18:05-19:55


สรุปค่าเสียหายทริปนี้

เครื่องบินภายใน 2 ไฟล์ yangon-Bagan 78 us, Inle –Yangon 78 us
ค่ารถจากย่างกุ้งแอร์พอร์ต ไปกลับแอร์พอร์ต หลายเที่ยวเลย อัตราปกติเท่าที่ถามกับคนขับ 5000 k บ้างคันเรียก 6-7000 k
ค่ารถจาก Nuang u airport –ไป Nuang u 5000k, Old Bagan 6000k ,New Bagan 7000 k
ค่ารถม้า เต็มวัน 12000 k ,เฉพาะชมพระอาทิตย์ขึ้น 3000 K
ค่าเช่าจักรยาน ปั่นที่ พุกาม แบบธรรมดา 1000 k แบบใหม่ 1500 k
ค่ารถบัส จาก Bagan – Madalay บริษัท มี 3 เที่ยวเวลา (08:00-14:30,15:00-21:00,20:30 ถึงเช้า ) ราคา 7500 k กับ 8500 k ไม่แวะจอดเยอะ
ค่ารถ จากท่ารถบัส Madalay 5000 k หารกับฝรั่งอีก 3 คน
ค่ามอเตอร์ไซด์เหมาเที่ยว ในเมือง 12000-15000 K ต่อวัน ถามที่โรงแรม
ค่าเรือไป-กลับ มิงกุน 5000 k ท่าเรืออยู่สุดถนน 26
ค่ารถบัสจาก Madalay – Inle …รถเก่า และเหม็นรถออก18.30 เวลา ถึงเวลา 04.00 am.กว่าๆ
ค่ารถ 2 แถวจาก ท่ารถบัส- ยองชเว (11 กม ) 6000 k หารกับฝรั่งสเปน อีก 2 คน
ค่าเรือเที่ยวที่ Inle มีสองแบบ 12000 k ,ถ้าไป Indien ด้วย 15000 ต่อลำนั่งได้ 5 คน
ค่าเช่าจักรยาน ที่ อินเล 1000 ต่อหนึ่งวัน ถ้าเสื้อภูเขา 9000 k ต่อวัน จักรยานคุณภาพดีเยี่ยมเลยค่ะ
ค่ารถจาก ยองชเว- เฮโฮแอร์พอร์ต 17000 หารกับฝรั่ง อีก 3คน
ค่ารถเมลสาย 204 ไป ชเวดากอง 100 kd
ค่ารถเมลสาย 51 จากท่ารถบัส-สุเหร่ 150 k
ค่ารถไฟ ย่างกุ้ง ไจ๊โถ (yangon-kyaik hto) 9 us
ค่ารถสองแถว จากสถานีรถไฟ –คิมบุนแคมป์ 500 k
ค่ารถขนหมู ขาขึ้น นั่งไปกับรถขนของชาวบ้าน คนคุมขอคิด 3000
ค่ารถขนหมูลง นั่งมากับชาวบ้าน 1500 k

...เกร็ดเล็กๆน้อย เราก็ยอมกันไป...

-ลงจากรถบัสที่มัณฑาเลย์ จะคนมารุมให้นั่งแท็กซี่ มีอยู่หนึ่งคนจะถือป้าย Royal Guesthouse จริงๆแล้วไม่ใข่คนของโรงแรม ควรจะตกลงราคาจากคันอื่น เพราะจากความรู้สึกว่าเรียกแพง ตั้ง 5000k

-จากสถานีรถไฟ kyaik hto สามารถเดินไปที่ ตรงตลาดที่รถบัสผ่านไป Bago ได้ สามารถรอขึ้นรถได้ที่หน้าตลาด แถวนั้นจะมีคนหนุ่มจากโรงแรม sea sar มาคอยรับแขกไปส่งโรงแรม พูดภาษาอังกฤษได้ ถ้าให้เค้าเรียกให้จะเสียแพง 5000 K

-ลงรถที่ Bago มีคนขับรถมอเตอร์ไซด์ ชื่อ Myo มาอาสา city tour บอกว่าจะไป แค่ 3 ที่ มุเตา, ไจ๊ปุ่น , พระนอนชเวตาเหลียว คิดไปได้ 12000 k ต่อรองได้ 7000 ยังรู้สึกว่าแพง...

- ค่าเข้าเมือง พุกามจะเก็บตั้งแต่ที่สนามบิน 10 us ได้เป็นบัตรพลาสติกแข็ง มีหมายเลข ถ้าไม่ได้จ่ายต้องไปจ่ายที่โรงแรมเพราะเค้าจะขอ Adminsion No.

-ค่าเข้าเมือง มัณดาเลย์ 10 us จะมีเก็บตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น Inwa , Mandalay Palace , Shwe nandaw เป็นบัตรแข็งเหมือนที่ พุกาม

-เจดีย์มิงกุน ข้างบนไม่มีอะไรเป็นจุดชมวิวอย่างเดียว เสียค่าปีน 3 us

-รถขนหมูบอกว่า ต่างชาติต้องนั่งรถเฉพาะต่างชาติ อ้อนหน่อยในที่สุดก็ให้นั่งรวมกับชาวบ้าน เจอคณะทัวร์ บอกว่าต้องเหมารถขนหมู(ช่วยกันออกเอง)



....ตอนสุดท้ายแล้วค่ะที่พม่าหลังจากเดินทางตะลอนๆไปหลายเมือง ไม่ว่าจะเป็น พุกาม มัณฑาเลย์ อินเล หงสา ไจโถย์ มาเก็บตกที่ย่างกุ้งกัน..
ที่เมืองย่างกุ้ง เที่ยวอยู่สองวัน คือวันที่กลับจากอินเล แล้วอีกวันก็วันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน ...

.....28/12/2011.. หลังจากบินกลับมาจากสนามบินเฮเฮ มาลงที่ย่างกุ้ง วางกระเป๋าที่เกสเฮาส์ ก็ออกตะเวณเมืองย่างกุ้ง เดินหาสถานีรถไฟแวะซื้อตั๋วรถไฟเพื่อจะไป เที่ยวที่พระธาตุอินแขวนค่ะ เสร็จแล้วก็มีเวลาเหลือทั้งวัน เดินเล่นแถวๆหน้าตลาด Bogyoke Aung San หรือ ตลาดสก็อต เดินเล่นแถวถนน Anawarata ย่านคนแขก

เดินไปเดินมา เจอร้านอาหารไทย แล้วก็ร้านอินเตอร์เนต ก็เลยแวะเข้าไปส่งเมลบอกที่บ้านซะหน่อย ว่ายังมีชีวิตอยู่ ^_^ เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง เดินอยู่สักพักก็หารถเมลไปชเวดากองดีกว่าถามสาวพม่าแถวๆนั้น บอกว่าให้นั่งรถเมลสาย 204 …





..หน้าตารถเมล 204 ...ตัวเลยพม่าก็จำกันเอาเองแล้วกันเนอะ ..




....จู่ๆฝนก็ตกโชคดีที่ตกปรอยๆ เดินใส่เสื้อฝน ขึ้นรถเมลจ่ายค่าตั๋วไป 100 จ๊าด ยืนไปสักพักกระเป๋ารถก็ตะโกน “ชเวดาโก่ง ..อ่อ ..ชเวดาโก่ง” รีบกระโดดลงรถแทบไม่ทัน ^_^ตอนลงรถฝนเทลงมาห่าใหญ่ ก็เลยยืนรอจนฝนซา จะเข้าวัดพม่าอย่างที่ผ่านมาหลายวัน ต้องถอดรองเท้ากันตั้งแต่นอกวัด ฝนตกแบบนี้ก็ต้องระวังกันหน่อย เพราะพื้นหินอ่อนพอโดนน้ำแล้วจะค่อนข้างลื่น วันนี้จะเข้าสิงสถิตย์อยู่ ในชเวดากองทั้งวันจนถึงค่ำเพื่อจะได้ คุ้มกับค่าตั๋ว 5 us.

...เมื่อไหร่จะหยุดตกเนี๊ยะ..




....ทั้งๆที่ฝนตกหนัก แต่ด้านในชเวดากอง เต็มไปด้วยพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพุทธศาสนา เดินบันไดขึ้นไปถึงด้านบนก็จ่ายค่าเข้าชม ตามระเบียบ หลังจากนั้นก็หาที่นั่งหลบฝนก่อนดีกว่า ...ฝนหยุดแดดก็ออก..แดดที่ย่างกุ้งแรงมากไม่นานพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำฝนก็แห้งสนิท ^_^











....เดินไปรอบๆมหาเจดีย์ชเวดากอง ไม่รู้กี่รอบ ต่อกี่รอบก็มิรู้เบื่อ ความสวยงามอลังการคงต้องลองไปดูด้วยตาตัวเองสักครั้งค่ะ.. ภายในวัดมีบริการน้ำดื่มฟรีด้วยค่ะ ตอนแรกก็ไม่กล้าดื่มแต่เห็นพวกเด็กวัยรุ่น ช่วยกันถอดล้างเครื่องทำน้ำเย็นก็เลยลองสักหน่อย พอดีน้ำดื่มที่เตรียมไปหมดด้วย ^_^























ยอดมหาเจดีย์ชเวดากอง ถ่ายจากภาพถ่ายในพิพิธภัณท์



ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วค่ะ



ก่อนหนึ่งทุ่มจะได้ ท้องฟ้าแบบนี้ค่ะ









…เดินตั้งแต่บ่ายกลับออกมาก็ดึกแล้ว ก็เลยได้เก็บภาพสวยๆของชเวดากองในตอนค่ำด้วย...ขากลับเดินออกมาอีกด้าน ปรากฏว่าฝั่งนี้จะค่อนข้างเงียบไม่ค่อยมีคนเลย น่ากลัวเหมือนกันเดินออกมาเรียกแท๊กซี่กลับเกสเฮาส์ ปรากฏว่าเค้าไม่ไปค่ะ ก็เลยต้องเดินกลับเข้าไปในชเวดากองอีกรอบ แล้วเดินไปหาทางเดินลงด้านเดิมที่เดินขึ้นมา เห็นป้ายรถเมลก็เลยรถเมลกลับ
มาที่สุเหร่พญา ตอน 2ทุ่มกว่า รถเมลมาจอดอีกด้าน ก็เลยจ้างรถถีบกลับที่พัก ที่Okinawa 500 จ๊าด

วันสุดท้ายที่พม่า ว่าจะไปไหว้พระที่วัดโบตะทาวน์ (Botahtaung Pagoda) อยู่บนถนนสแตรนด์ ดูจากแผนที่ ก็ไม่ค่อยไกลมาก หลังจากเดินตลาดเช้าแถวๆ Beautyland Inn 2 ลองชิม โมฮิงก่า แล้วก็แป้งนาน กับชานมแบบอินเดีย ก็กลับมาหม่ำอาหารเช้าของโรงแรมต่อ แล้วก็เริ่มเดินจากเจดีย์สุเหร่ ตามแผนที่ เลาะริมแม่น้ำ มาเรื่อยๆ ผ่าน โรงแรมสแตรนด์ โรงแรมเก่า
แก่ชื่อดังของพม่า ก็เจอ วัดโบตะทาวน์ เสียค่าเข้าวัด 2 us. ด้านในวิหารสร้างเป็นช่องๆลวดลายบนกำแพง สีทองสวยงามมาก สำหรับให้พุทธศสนิกชนนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม

...แวะไปไหว้นัตโบโบยี หรือเทพทันใจที่มีชื่อเสียง เห็นสาวพม่าลูบมือเทพทันใจลูบแล้วลูบอีก แล้วก็ขออะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่ออก ^_^ เดินมาอีกวิหารเข้าไหว้พระพุทธทองคำ ไหว้เสร็จ เงยหน้า
ขึ้นมาก็เจอกับพี่ปุ๊ก พี่ที่เจอกันวันแรกที่ บนเครื่องบิน ..นั่งคุยกันอย่างน้ำไหลไฟดับ ..ต่างคนก็ต่างเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่ไปเจอกันมา ...








โบโบยีนัต





แถวโบตาทาวน์


...เก็บตกย่างกุ้ง หลังจากคุยกันจนน้ำลายแตกฟอง ^O^ เราก็พากันเดินกลับไปที่พัก อาบน้ำเก็บกระเป๋า แล้วก็ไปหาอะไรหม่ำกันเป็นมื้อสุดท้ายในย่างกุ้ง สรุปว่าเราเลือกร้านอาหารบนตึกซากุระ
ชั้นที่20 ชื่อ Sky Bistro ร้านนี้จะมองเห็นวิวโดยรอบของย่างกุ้ง แล้วก็สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดกองด้วย ชมบรรยากาศก็คุ้มแล้วค่ะ ^O^














…เจอกันใหม่ทริปพม่าหน้าค่ะ...














Create Date : 17 ธันวาคม 2554
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 22:20:10 น.
Counter : 1923 Pageviews.

40 comment
.......เดี่ยวพม่า 4...Kyaikhtiyo..Golden Rock..พระธาตุอินแขวน..


…เช้าวันที่ 28 สิงหาคม 2554 ที่ทะเลสาบอินเล หลังจากเช็คเอ๊าท์ออกจาก มิงกะลาเกสเฮาส์ เดินทางไปสนามบินเฮโฮ เพื่อขึ้นเครื่องกลับมาตั้งหลักที่ย่างกุ้งอีกครั้งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงย่างกุ้ง ระหว่างนั่งเครื่องบินมาก็คิดว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหนดี จะกลับไปพักที่เดิม คือOcean Pearl ก็รู้สึกไม่
ประทับใจเท่าไร ก็เลยตัดสินใจลองไปดูที่ Okinawa ค่าห้องเดี่ยว 10 us.แต่ไม่มีห้องน้ำในห้อง แล้วก็ไม่มีแอร์ด้วย ที่นอนยวบยุบลงไปตามตัว
บรรยากาศมืดๆ แต่ก็เอานะ คิดซะว่านอนแค่คืนเดียว พรุ่งนี้เช้าก็ต้องไปขึ้นรถไฟแต่เช้า

...โปรแกรมวันนี้คิดว่าหลังจากหาซื้อตั๋วรถไฟที่จะไปไจก์โถ พรุ่งนี้ได้แล้ว ก็จะเดินเที่ยวในย่างกุ้ง แถวๆสุเหร่ แล้วช่วงบ่ายก็จะเข้าไปไหว้ เจดีย์ชเวดากองจนถึงค่ำแต่คิดว่าจะเล่าเรื่องย่างกุ้งรวบยอดที่เดียว เพราะมีเก็บเที่ยวหลังจากที่กลับมาจากไหว้พระธาตุอินแขวนแล้วค่ะ...



..Traders Hotel



…ซ้ายมือจะเป็นตึกซากุระ..ที่ขายตั๋วรถไฟจะอยู่ในซอยข้างตึกซากุระ ข้ามถนนไปก็ถึง ก่อนขึ้นสะพาน




...ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินข้ามสะพาน ไปดูสถานีรถไฟซะหน่อย เพื่อจะไปเตรียมตัวเดินมาพรุ่งนี้เช้า จะได้ไม่หลงขวามือเห็นแล้วค่ะ รางรถไฟ





…สถานีรถไฟย่างกุ้ง..



…ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟจะเป็น บริษัทขายตั๋วรถทัวร์ต่างๆ สามารถมาหาซื้อตั๋วได้ที่นี่




…ตี 5 ก็เช็คเอ๊าท์ ออกจากโอกินาว่า ปลุกพนักงานมาเปิดประตู เดินออกมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณเจดีย์สุเหร่ ถนนที่ย่างกุ้งยามเช้าแบบนี้ไม่น่ากลัว
อย่างที่คิดไฟฟ้าสว่างไสว เดินแบบไม่เร่งรีบมาถึงสถานีรถไฟประมาณตีห้าครึ่ง เดินหาของลองท้องตอนเช้า เพราะต้องนั่งรถไฟประมาณ 5 ชั่วโมง
แต่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดีจริงๆ ได้ไมโลส่งตรงจากเมืองไทยติดมือมาหนึ่งกล่อง ราคาแบบเลือดซิบๆ 600 จ๊าด

..สถานีรถไฟยามเช้า..



…เดินข้ามมาที่ชานชลาที่ 4 ดีนะเนี๊ยะที่มีตัวเลขอาราบิคกำกับ..^_^



…ตอนแรกขึ้นตู้ผิด..นั่งไปสักพักโดยพม่าไล่ที่ - -‘



.เดินมาหาเจ้าหน้าที่ พาไปนั่งเลยตู้แรกสุดเลยจ้า..



…หน้าตาที่นั่งแบบ Upper Class …กว้างมากกก แต่เก่าได้ใจจริงๆ..





…หน้าตาตั๋วที่ซื้อมาเมื่อวานนี้ ราคา 9 us



…สภาพตอนใหม่ๆน่าจะดีค่ะ ..



…เริ่มเคลื่อนขบวนแล้วค่ะ ..






…นั่งไปสักพักก็ยิ้มกับตัวเอง (เพราะไม่รู้จะยิ้มกับใคร) ^O^ เมื่อนึกถึงคำพูดของ แหม่มสเปนที่เจอบนรถระหว่างไปอินเล แกบอกว่านั่งJumping Train ไปเที่ยวเมืองสีป่อมา วันนี้ฉันก็ได้นั่งรถไฟกระโดดได้เหมือนกัน สนุกดีนับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ..



…แอบถ่ายสาวพม่า ที่กินได้ตลอดทางยกเว้นตอนหลับ ^_^ คุณเธอเตรียมปิ่นโตเสบียงเพียบ



…ยังไม่พอหนุ่มมาขายยำส้มโอ ก็ซื้ออีก ^_^ ยำกันแบบสดๆๆ


…ขายกันสารพัด..



…ถึงเมือง Kyaikhto เวลา สิบเอ็ดโมงครึ่งตรงเวลา เดินออกมาด้านนอก ขึ้นรถสองแถวไปที่คิมบุนแคมป์ จ่ายไปคนละ 500 จ๊าด



...ไปถึงคิมบุนแคมป์เที่ยงกว่าๆ ฝนตกลงมาหนักมากๆๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดด้วย คนรถบอกให้รอสถานเดียว เพราะมียูมาแค่คนเดียว นึกถึงที่เพื่อน
ๆในพันทิพบอกว่าไปอินแขวนหน้าฝน ต้องทำใจที่จะต้องเหมารถ …แถมหนุ่มสาวสองคนที่นั่งรถสองแถวมาก็ดันบอกว่าจะไปหาที่พักด้านล่างก่อน
นึกว่าจะช่วยหารค่ารถซะหน่อย ..

….นั่งรอแบบไม่มีความหวังเลย..ฝนก็ยังคงตกหนัก บอกคนรถขอขึ้นไปกับรถชาวบ้านที่เขาขนของขึ้นไปได้ไหม แกส่ายหัวดิกบอกว่า ยูต้องนั่งรถของ
ทัวร์ริสเท่านั้น ฉันได้แต่กลับมานั่งรอ .แล้วก็รอ...ผ่านไปครึ่งชั่วโมงได้..หันไปมองเห็นสองหนุ่มสาวที่นั่งสองแถวมาด้วย มาพร้อมกับคนพม่าอีกคน
หลังจากคุยกันอยู่พัก คนรถก็กวักมือเรียกฉันไปหาแล้วบอกว่า จะให้นั่งขึ้นขนของขึ้นไป เพราะ(มองแล้วไม่เห็นอนาคต) ว่าจะมีคนมาเพิ่ม แต่พวกยู 3 คนต้องเสีย 3พันจ๊าด ดีกว่าเหมารถทั้งคัน ^_^

…ในที่สุดก็ได้ขึ้นรถขนหมู ซึ่งเที่ยวนี้ขนสารพัดทั้งคนและข้าวของเครื่องใช้ อัดแบบปลากระป๋อง วิ่งขึ้นเขาไปท่ามกลางสายฝน.. .โดนเหวี่ยงไปเหวียง
มานั่งในที่สุดก็ถึงซะที..




…กิจกรรมยามว่างของ หนุ่มยกสะเหรี่ยง...


..หาอะไรใส่ท้องก่อนจะเดินแบบเป้ขึ้นเขาอีกครึ่งทางที่เหลือ.. กับข้าวง่ายๆมีแกงฟัก ,กับผักอะไรก็ไม่รู้ออกเปรี้ยว..กับน้ำพริกที่ทำเอง ^_^





…จากข้อมูลบอกว่าเดินขึ้นอย่างเดียว ทางเรียบเดินสบายๆประมาณ 45 นาที..





…วิวระหว่างทาง..เดินเหนี่อยเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ ...



…แต่ก็ไม่เร่งรีบอะไร ก็ค่อยๆเดินขึ้นไปเรื่อย ระหว่างทางก็จะมีคนพม่าเสนอตัวแบกสัมภาระให้ตลอดทาง แต่กระเป๋าดิฉันน้ำหนัก แค่ 4 กิโลได้มัง
ค่ะ เพราะว่าเวลาท่องเที่ยวแบบนี้ ฉันจะมีเทคนิคส่วนตัวค่ะ คือจะหาเสื้อผ้าแบบเก่าๆ แบบที่คิดว่าเราจะไม่ใช้อีกแล้วใส่ไป แล้วระหว่างเดินทาง
ก็จะใส่ไปทิ้งไปตลอดทาง ..เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวด้วย ก็เลยไม่อยากจะแบกของหนักๆ ^__^



…อากาศจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาที่เดินขึ้นเขา เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวมีหมอก..



..หอบ แฮ่กๆๆ..












…สวนทางกลับสาวพม่า..


…จู่ๆหมอกก็ลงหนักเลย..


…ยิ้มนี้จ่ายไปพันจ๊าด...


…เดินขึ้นไปถึงเรียกเหงื่อได้ท่วมตัวเหมือนกันค่ะ เข้าพักที่นี่ค่ะ แพงที่สุดแล้วบนนั้น จองผ่านAgent ช่วงโลว์แบบนี้คืนละ 32 us..


…อาบน้ำเสร็จเดินมาไปไหว้พระธาตุอินแขวน บรรยากาศโดยรอบเป็นแบบนี้ค่ะ.



…ระหว่างทางที่เดินมองอะไรแทบจะไม่เห็นเลย แทบวันนี้ด้านบนมองไปรอบตัว มีฉันแค่คนเดียวเอง รู้สึกดีที่เจ้าหนุ่มน้อยเดินตามมาตั้งแต่ตีนดอย
ยังคงเดินตามไปเลิก..แกบอกว่าชอบคนไทยมาก ..เพราะคนไทยชอบให้เงิน ^__^



…ว่ากันว่า หินก้อนนี้เปลี่ยนมุมมองไปมุมไหน รูปทรงของหินก็จะเปลี่ยนไป..



…ไหว้พระไปสองรอบ ถ่ายรูปอะไรก็ไม่ได้เลย เพราะมองไปรอบตัวมีแค่สีขาว เดินกลับลงมาปรากฏหนูน้อยพม่ายังคงนั่งรอ..ไม่รู้จะทำไรดี
ก็เลยชวนบอกว่าไปกินข้าวกันไหม เจ้าหนูบอกว่าเข้าไปไม่ได้...
....สั่งผัดหมี่แบบมังสวิรัติมา 1 จาน 2500 จ๊าด จานใหญ่มาก ก็เลยบอกให้พนักงาน แบ่งใส่ถุงไปให้หนูน้อยพม่าที่คิดว่ายังไงก็ยังคงรออยู่ข้างนอก ..




…อิ่มสบายท้องเดินออกมาข้างนอก ปรากฏว่าฟ้าเปิด บรรยากาศเป็นใจ ก็เลยรีบเดินกลับไปที่ ไจก์ทิโยอีกรอบ..







…ว่ากันว่าหินก้อนนี้มันแขวนลอยอยู่บนอากาศ...



…มีแต่หนุ่มๆเท่านั้น ที่ได้รับสิทธิ์ สัมผัสกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพม่า...



…มุมมอง แบบก้อนกลมๆ..


…หมอกเริ่มลงอีกรอบ..อากาศเริ่มเย็น ไม่ได้เตรียมเสื้อหนาวมาด้วย ก็เลยใส่เสื้อฝนแทน ..ใครที่อยากจะสวดมนต์มีหนังสือสวดมนต์ภาษาไทย
อยู่หลายเล่มเลย น่าจะมีคนไทยนำไปถวายที่วัด...
....รอจนฟ้าเริ่มมืด ก็รีบเดินกลับดีกว่า โชคดีที่เอาไฟฉายอันจิ๋วติดตัวไปด้วย ต้องเดินความระวังมากๆ มองไม่เห็นทางเลยจริงๆ
ตอนนั้นเริ่มรู้สึก....กลัวชะมัดเลย...





…ตื่นเช้า ออกมาทานข้าวเช้าเจอพวกผู้สูงอายุจาก Mcot ที่มาทริปก่อนเกษียนอายุ คุณลุง คุณป้าชวนไปใส่บาตร ที่หน้าเกสเฮาส์ ปรากฏว่าหนูน้อยพม่า
เมื่อวานก็ทำงานแต่เช้า ^_^ เอาข้าวเอย ถั่วต้มเอย จัดเป็นชุดๆมาขาย..คุณป้าบอกว่าเอามาหมื่นหนึ่งก็คงหมด เพราะแก่ขี้สงสาร ^O^
....หลายคนบอกว่า เจอแค่เด็กพม่าของตังค์ แต่เมื่อวานตอนที่ เดินเที่ยวอยู่ หลังจากไหว้พระเสร็จ เจอเด็กๆกลุ่มหนึ่งกลับจากโรงเรียน
เด็กๆเดินถือ กล้วยมาหวีนึงแบ่งกันหม่ำ...พอยิ้มทัก เด็กๆก็ส่งกล้วยให้ฉันหนึ่งลูก แบบอาย ฉันรับมาแล้วขอบคุณเป็นภาษาพม่า “ เจซูตินบาเด๊”
เป็นน้ำใจที่ได้รับจากเด็กบนไจก์ทิโย...
…หลังจากใส่บาตรไปหนึ่งชุด แล้วก็กลับไปจัดการอาหารเช้าแบบสากลที่พม่า..ไข่ดาว 2 ขนมปัง แยม มาการีน และ ชา..ก่อนจะใส่เสื้อฝนเดินลงเขามาตั้งแต่
เจ็ดโมงเช้า..ฝนตกปอยๆ เป็นฝอยเล็กๆ เณรน้อยเดินบินฑบาตรแต่เช้า เสียดายที่ไม่มีของจะใส่บาตร..



…สวนทางกับเด็กๆที่กำลังเดินขึ้นเขาไปเรียนหนังสือ ..



…ก็ยิ้มแบบนี้แหละ..จะไม่หลงรักพม่าได้ไง ^O^



…หนีดีกว่า..


…ด้วยความอยากรู้ว่าเด็กๆเอาอะไรไป กินกันที่โรงเรียน ก็ขอแอบดูข้างในปิ่นโตหน่อย…เจ้าตัวเล็กมีข้าวสวยกับถั่วเหลืองหมักผัดพริก ..ส่วนอีกคน
เป็นเต้าหู้ผัดซอส กับ ข้าวสวย...



…ลงมาข้างล่างรถส่งนักเรียนและคุณครู กำลังจะออกพอดี ..เดินไปทำท่าขอขึ้นรถด้วยคน แต่สาวพม่ายิ้มแบบขำๆ แล้วส่ายหน้า...
แต่ก็ได้ขึ้นรถขนหมูคันต่อมา เป็นชาวกระเหรี่ยงคนเดียวในหมู่ชาวพม่า ^O^ จ่ายไป 1500 จ๊าดเอง..




…เจอกันบล็อกหน้าแล้วกันนะค่ะ มันยาวล่ะ...

















Create Date : 03 ตุลาคม 2554
Last Update : 3 ตุลาคม 2554 20:40:48 น.
Counter : 2496 Pageviews.

26 comment
........เดี่ยวพม่า 3..INLE LAKE ทะเลสาบอินเล....


Myanmar..Inle Lake

…เย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2011 หลังจาก ร่ำลาหนุ่มน้อยพม่าที่พาเที่ยวทั้งวัน มาส่งที่หน้าโรงแรม พนักงานจัดการยกระเป๋ามาให้เรียบร้อย ..เตรียมตัวไปนอนบนรถคืนนี้ การนอนบนรถ ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ประหยัดสำหรับ นักแบกเป้ แต่สำหรับฉันพยายามเลี่ยง เพราะไม่อยากทรมาณ บนรถ ไปตลอดทั้งคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางในเมียร์ม่าร์..แต่ที่มัณฑะเลย์มีรถเที่ยวเดียวที่วิ่งไป Inle..

....สี่โมงครึ่ง รถมารับที่โรงแรม เร็วกว่ากำหนด ตั้ง ครึ่งชั่วโมง เป็นรถสองแถวรถจะวนรับผู้โดยสารทั้งหมดทั้งชาวพม่า และชาวต่างชาติ ที่จอดรถไป ส่งที่สถานีขนส่ง พอไปเห็นรถก็ได้แต่ทำใจให้ยอมรับกับสภาพรถที่เห็น รถเก่ากว่ารถที่วิ่งจาก Bagan มา Mandalay ซะอีก กลิ่นเหงื่อ คราบไคล ค่อนข้างแรง...

....ยิ่งรู้สึกแย่ยิ่งขึ้นเมื่อ เพื่อนร่วมทางข้างๆ เป็นคุณลุงแขกซึ่งตัวใหญ่มาก แกพูดภาษาอังกฤษคล่องเชียว แกพยายามจะชวนคุยด้วย แต่พอรู้ว่าฉันไม่ค่อยอยากจะคุยด้วยเท่าไร ก็หายไปด้านหลังรถ แล้วกลับมาบอกว่าฉันจะไปนั่งด้านหลังกับลูกสาว...เย่ๆ แอบดีใจ ^__^ ขึ้นรถก็หลับเป็นตายเลย ปรากฏว่า ตอนหลังแกโดนพนักงานไล่กลับมานั่งที่เดิม ..แถมนั่งไม่ทันไร หลับปุ๊บก็กรนด้งมาก แบบทิ้งน้ำหนักตัวมาที่ฉันอีก..ฉันก็เอาขวดน้ำที่แจกบนบนกระทุ้งไปหลายหน..คืนนี้ไม่ได้นอนเลย...- -

…บรรยากาศสถานีรถบัสที่เมือง มัณฑะเลย์..



…ร้านอาหารที่แวะให้ทานข้าวระหว่างทาง..แต่ฉันไม่ได้ลองทานค่ะ..



…ถึงท่ารถ ตอนตี 4 กว่าๆ จากท่ารถต้องนั่งรถเข้าไปที่ เมือง ยองชเว เมืองที่เป็นจุดตั้งต้นที่จะเข้าไปที่ทะเลสาบอินเล เหมารถเข้าไปกับสามี
ภรรยาชาวสเปน จ่ายคนละ 2000 จ๊าดค่ะ เข้าพักที่ ที่นี่ค่ะ เค้าแนะนำใน LP



...หน้าเกสเฮาส์ ..ยุงเยอะมากตัวใหญ่ด้วย อาจเพราะช่วงหน้าฝน แต่เจ้าของเกสเฮาส์ฉีดยากันยุงให้ก่อนเข้าห้อง และจุดยากันยุงให้ด้วย เจ้าของเกสเฮาส์น่ารักมากๆ ประทับใจ มากมาย ค่าห้อง 8 us รวมอาหารเช้า ที่นี่ มีให้หลายอย่างกว่าที่อื่น..



...ยองชเว เป็นเมืองเล็กๆ ปั่นจักรยาน 2 ชั่วโมงก็น่าจะทั่ว นี่เค้าเขียนว่า ถนนสายหลัก..อาบน้ำเสร็จ ออกไปเดินเล่นตลาดแต่เช้า หาของกิน
ที่นี่มีแต่ ปาท่องโก๋ กับชาร้อน ทุกร้านเลย..ขายกันอยู่อย่างเดียว..






…เห็นน้ำมันดำเชียว..แต่ก็ตัดใจลองกิน ปรากฏว่าอร่อยยยย...^_^ หม่ำคู่กับชาแบบอินเดีย เข้ากันดีจริงๆ แต่นั่งหม่ำไปแบบไม่มีความสุข
เพราะเจ้าสองตัวเนี๊ยะ..นั่งมองแบบ ตาละห้อยจริงๆ



…เลยต้องสั่งเพิ่มอีก 1 ตัว.



..แล้วก็จะรู้ว่ามันไม่ธรรมดา......หุ หุ..





…รีบกลับเกสเฮาส์ เพราะนัดกับเจ้าของเกสเฮาส์ว่าจะขอ รวมแชร์ (อีกแล้ว) ค่าเรือด้วยคน พอดีมีสาวเค้าจองเรือไว้ จะไปล่องทะเลสาบอินเล
ราคาที่ Mingalar มีสองราคา คือแบบสั้น 12000 และแบบยาว รวมไป INdien ด้วยคือ 15000 ต่อลำ นั่งได้ 5 คน



นั่งไปแป๊บเดียว ข้างหน้าเห็นเมฆดำมาแล้ว... …จัดแจงใส่เสื้อฝนกันใหญ่ แจกร่มด้วย..ปรากฏว่า ฝนตกหนักมาก นั่งก้มหน้าก้มตาไปตลอดทาง เซ็งจิต..



..จนถึงวัดบัวเข็ม..ฝนก็ยังตกไม่เลิก..หนุ่มคนขับเรือบอกว่าให้เข้าไปเดินตลาด เห็นแล้วก็เลยหมดอารมณ์เดิน เพราะมันแฉะมากๆ แถมต้องถอดรองเท้าเดินด้วย ><’ ก็เลยนั่งไหว้พระรอดีกว่า..



..ฝนหยุดตก..ซะทีหน้าวัดบัวเข็ม



..ขนาดช่วงโลว์นะ เรือนั่งท่องเที่ยวยังเต็ม..



...เด็กน้อย..กับสายน้ำ..



..จากนั้นก็พาไปดู สาวพม่าทอผ้าจากใยบัว..



..ขั้นตอนก็เหมือนๆกับที่บ้านเรา ทอผ้าค่ะ..





…สาวๆ ทั้ง4 คน มาจากอเมริกา สอง คนอีกจากสวิส อีกคนจำไม่ได้ สาวๆบอกว่าเบื่อวัดมากๆ ไม่ต้องแวะวัดอีก คนขับเรือก็เลยพาไปที่ทำเครื่อง
ประดับจากเงิน..วิวข้างๆร้าน





…แล้วก็บอกว่าไม่ไปไหนแล้วจะกลับแล้วจะไปปั่นจักรยานดีกว่า ฉันเสียงเดียวก็เลยต้องตามน้ำอีกแล้ว..- -‘ โชคดีที่ขากลับฝนไม่ตก





…ก็เลยได้ภาพชีวิตชาวน้ำ..












…รีสอร์ตที่พี่ปุ๊ก เพื่อนที่เจอที่สนามบินวันแรกไปพัก แล้ววันสุดท้ายมาเจอกัน แกบอกว่าเหมือนติดเกาะ เพราะไปไหนไม่ได้เลย..











...กลับขึ้นฝั่งมา แดดเริ่มออก ตอนนี้ผิวที่แขนเริ่มจะลอกคราบแล้วล่ะค่ะ ก็เลยเข้าไปนอนงีบเอาแรงก่อน เพราะเมื่อเช้ามาถึงก็ออกเที่ยวเลยพอตอนบ่ายก็ออกมาเช้าจักรยาน เค้าคิด 1000 จ๊าด ต่อหนึ่งวัน ต่อลองขอแค่ 2 ชั่วโมง 500 จ๊าด

..ปั่นไปปั่นมา ไม่รู้จะไปไหนดี เพราะเมืองเล็กมากๆ ตอนกลับมาดูรูป อยากจะเขกกระโหลดตัวเอง ที่ไม่ได้วัดดังที่ยองชเว..ชเวเปยัน..เสียดายจัง



...หนึ่งวัน เต็มๆกับหนึ่งคืนที่อินเล.. เช้านี้ต้องรีบเช็คเอ๊าท์ออกแต่เช้า เพราะต้องไปขึ้นเครื่องกลับย่างกุ้ง ไฟท์ 09.20 ต้องไปถึงสนามบิน เฮโฮ 08.20
จากเมืองยองชเวไปถึงเฮโฮ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าแท๊กซี่แพงมาก 17000 จ๊าด แชร์ค่ารถมากัน 4 คน เค้าคิดคนละ 4250 จ๊าด ตลอดทางที่ออกจากยองชเว มาถึงถนนหลัก มีน้ำท่วมทาง บางช่วง ..โชเฟอร์บอกว่า 3ปีถึงจะท่วมแบบนี้สักหน บอกว่า 3-4 วันก่อน ท่วมตลอดทาง ใช้เวลาไปถึงสนามบินตั้ง 2 ชม.

..ก่อนออกก็ต้องลองอาหารเช้าของที่มิงกะลา ก่อน..^O^







…ทานกาแฟ ไข่ดาว ขนมปัง ทุกเช้าตั้งแต่มาพม่า วันนี้เลยขอเลือกเป็นแพนเด้กใส่กล้วย ภรรยาเจ้าของเลยจัดให้ หม่ำแล้วนึกถึง แพนเค้กที่บาหลี^O^




..ตามด้วยกล้วย กับน้ำมะนาว..ที่นี่น่ารักมากๆ มี welcome drink เป็นน้ำมะนาวด้วยนะค่ะ..



..สนามบินเฮโฮ...Heho airport..



…กลับย่างกุ้งกันดีกว่าค่ะ..ขากลับนั่งมากับ สาวญี่ปุ่น เลยได้เพื่อนใหม่มาอีกหนึ่งคน ^__^



...เจอกันบล็อกหน้าค่ะ ...
















Create Date : 19 กันยายน 2554
Last Update : 18 พฤษภาคม 2555 16:13:50 น.
Counter : 2111 Pageviews.

30 comment
1  2  3  4  

never the last
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]