All Blog
|
SMA ไม่มีคำว่าเสียใจ แม้ในหยดน้ำตา SMA ไม่มีคำว่าเสียใจ แม้ในหยดน้ำตา เพทาย จิรคงพิพัฒน์ 'เทวดาคงมองเห็นศักยภาพของฉัน ท่านจึงส่งบทพิสูจน์ที่ยากกว่าผู้อื่นมาให้' ห่างหายจากการรีวิวหนังสือไปบ้างแต่เล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านแล้วอดไม่ได้จะเอ่ยถึงเพราะแม้จะเล่มเล็กบางอ่านแป๊บเดียวก็จบแต่การได้รับรู้ว่ามีนักเขียนคนหนึ่งก้าวพ้นข้อจำกัดทางร่างกายของตัวเองจนมีผลงานตีพิมพ์ออกมาได้ขนาดนี้มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งอึ้งผสมตื้นตันในความสู้ชีวิตของเธอคนนั้น เธอคนนั้นคือคุณแพรว เพทายจิรคงพิพัฒน์ หรือที่ตัวเรารู้จักเธอคนนี้ในนามปากกา ภาพิมล พิมลภา ต้องขอออกตัวก่อนว่านี่อาจไม่ใช่การรีวิวหนังสือเพราะเราเองเคยติดตามงานเขียนของนักเขียนคนดังกล่าวมาเป็นระยะทักทายพูดคุยกันทางเวบบอร์ดมาก่อน จึงเหมือนเอาหนังสือของคนรู้จักทางอินเทอร์เนทมาเอ่ยถึงเสียมากกว่าด้วยว่าเราเคยตามอ่านนิยายคุณแพรวและทึ่งในความขยันทางงานเขียน ซึ่งคุณแพรวก็บอกตรงๆว่าร่างกายเธอมี ข้อจำกัด บางอย่างทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างคนปกติการเขียนนิยายจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เธอทำได้...ทั้งเพื่อต่อเติมความฝันและหาเลี้ยงตนเอง ตอนนั้นยังไม่เข้าใจนักว่าข้อจำกัดนั้นคืออะไรจนหนังสือเล่มดังกล่าวออกมา พร้อมกระแส Ice-bucket challenge ที่จุดประสงค์เพื่อผู้ป่วย ALS หนังสือเล่าเรื่องราวของตัวเองเล่มนี้ของคุณแพรวจึงได้มีโอกาสออกมาสู่สาธารณะและทำให้เราได้เข้าใจอีกมุมหนึ่งของนักเขียนคนนี้มากกว่าเดิมด้วย ตัวเล่มของหนังสือเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณแพรวตั้งแต่เด็กจนโตด้วยภาษาและการเรียบเรียงแบบง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนว่าโรคที่คุณแพรวเป็นนั้นมีภาษาทางการแพทย์เรียกว่าSMA ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่หายาก กล้ามเนื้อเธออ่อนแรงลงเรื่อยๆจากที่ตอนเด็กยังเคยเดินเหินได้ ต่อมาก็ต้องนั่งรถเข็น ก่อนหน้านี้นิ้วทั้งสิบเคยพิมพ์อะไรได้จนล้มป่วย...ก็กลายเป็นว่าตอนนี้คุณแพรวมีเพียงนิ้วเดียวที่พอจะขยับได้ และนิ้วเดียวนั่นล่ะ...ที่คุณแพรวใช้พิมพ์นิยายความยาวเป็นร้อยๆหน้าออกมาได้ อึ้ง...ทึ่ง...บอกตรงๆว่าอ่านไปแล้วนึกภาพคนกำลังปั่นนิยายด้วยนิ้วเดียว... คนเขียนต้องใช้เวลามากแค่ไหนกันนะกว่าจะเขียนออกมาได้สักหน้าสองหน้านึกถึงตอนอารมณ์ความเป็นนักเขียนพุ่งพล่านแล้วตอนนั้นสมองคนเราจะแล่นได้เร็วมากเราจำได้ว่าตอนมีไฟในงานเขียนนั้นสิบนิ้วที่พิมพ์คอมพ์บางทียังรู้สึกไวไม่ทันความคิดเลยแล้วนี่คุณแพรวมีแค่นิ้วเดียว....ต้องใช้ความอดทนแค่ไหนในการเขียนออกมาได้แต่ละเรื่องแต่ละเล่ม...นับถือจริงๆ สิ่งหนึ่งที่ชื่นชมคือคุณแพรวไม่เคยเอาประเด็นนี้ของตัวเองมาเป็นข้อจำกัดหรือจุดขายเรียกร้องความสนใจ คุณแพรวเป็นคนมีความพยายามเพราะเราเห็นคุณแพรวเขียนนิยายมานานแล้วและนิยายบางเรื่องกว่าจะผ่านพิจารณาก็ไม่ใช่ของง่าย แต่จนถึงวันนี้คุณแพรวก็มีงานเขียนเป็นเล่มของตัวเองหลายเล่มแล้ว ที่สำคัญ...เท่าที่เคยพูดคุยผ่านเวบบอร์ดคุณแพรวเป็นนักเขียนที่อ่อนน้อมถ่อมตน รับฟังความคิดเห็นของทุกท่านพร้อมจะพัฒนาตัวเอง และมีจินตนาการที่ดี (แม้ว่าร่างกายเธอมีข้อจำกัดแต่ใจเธอเป็นอิสระมาก) ความจริงแล้วหนังสือเล่มนี้คุณแพรวเขียนเล่าเรื่องชีวิตตัวเองแบบสบายๆไม่มีมุมไหนรันทดหดหู่ แต่ด้วยความที่คนอ่านอย่างเรา อิน ไปด้วยเพราะบางทีก็เผลอคิดว่าถ้าเราต้องอยู่ในสภาพแบบเธอคนนี้...เราจะยอมรับความจริงกับชีวิตได้ไหมเราจะเข้มแข็งได้อย่างคุณแพรวไหม คิดถึงจุดนั้น...มันรู้สึกเหมือนน้ำตาจะปริ่มเข้าใจแล้วว่าคุณแพรวเป็นคนเข้มแข็งและมองโลกแง่ดีแค่ไหน ความจริงหลังได้เล่มนี้มาก็ได้ส่งกำลังใจให้คุณแพรวไปแล้วแต่ก็รู้สึกว่าอยากจะเอ่ยถึงหนังสือเล่มนี้เพราะปกติแล้วในวงการหนังสือนั้น รู้ๆกันอยู่ว่าการที่นักเขียนหน้าใหม่สักคนจะได้รวมเล่มไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว แต่นี่คุณแพรวก็สามารถฝ่าฟันทั้งอุปสรรคทางกายและทางด่านวรรณกรรมจนมีผลงานรวมเล่มได้ขนาดนี้ความพยายามและกำลังใจของเธอคนนี้ไม่ใช่ระดับธรรมดา ท้ายนี้ดังที่บอกว่านี่อาจไม่ใช่รีวิวหนังสือที่ดีเพราะไม่ได้เจาะลึกอะไรมากมายแต่ที่ขอเอ่ยถึงเล่มนี้เพราะการได้รู้จักอีกแง่มุมหนึ่งของคนเขียน ทำให้รู้สึกถึงแรงบันดาลใจที่จะมีชีวิตต่อไปและสร้างสรรค์งานดีๆต่อไป เพราะในชีวิตคนเรา...ไม่ว่าจะยากดีมีจน มีร่างกายสมบูรณ์หรือมีอะไรขาดตกบกพร่อง...เรามักจะต้องเจอเรื่องราวหนักหนาเข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของเราเสมอ คุณแพรวได้พิสูจน์แล้วว่าเธอก้าวพ้นบททดสอบนั้นได้ดังนั้นตัวเราเองก็หวังว่าจะก้าวพ้นดังเช่นคุณแพรวเหมือนกัน อ่านแล้วนึกถึงเรื่องน้ำตา 1 ลิตร แม้จะเป็นคนละโรคกัน แต่อาการคล้ายกันคือกล้ามเนื้อใช้งานได้น้อยลงเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสจะหามาอ่านค่ะ ชอบอ่านเรื่องแนวนี้อยู่แล้ว
โดย: hiroko วันที่: 24 ตุลาคม 2557 เวลา:1:45:38 น.
เพื่อนหนอนรีวิวเรื่องนี้กันหลายบ้านเลยนะคะ
แต่ pd ทำใจอยู่ แลดูดราม่าสะเทือนซางน้ำตาซึม ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ โดย: Prophet_Doll วันที่: 24 ตุลาคม 2557 เวลา:10:27:23 น.
ขอบคุณนะคะพี่ฝน อ่านแล้วปลื้มมากเลย ขอบคุณที่เข้าใจว่าแพรวไม่ได้พูดถึงโรคก็เพราะไม่อยากให้คนอ่านคิดว่าเป็นงานของคนพิการ อยากให้ชมหรือติเพราะเป็นงานเขียนอย่างที่พี่ฝนแนะนำแพรวเสมอนี่แหละค่ะ
โดย: thezircon (thezircon ) วันที่: 24 ตุลาคม 2557 เวลา:13:51:25 น.
hiroki>> ด้วยตัวหนังสือไม่มีอะไรชวนเศร้าค่ะ คนเขียนเล่าชีวิตตัวเองเรื่อยๆ แต่คนอ่านอย่างเราซึ่งเคยพูดคุยกับคนเขียนผ่านเวบบอร์ดมาก่อนเกิดอาการ "จิ้น" และ "อิน" กับชะตากรรมเธอไปเอง
pd>> ย้ำเลยค่ะว่าตัวหนังสือคนเขียนไม่ตั้งใจกรีดน้ำตาคนอ่านหรอก แต่เราเป็นฝ่ายจิ้นไปเองค่ะว่าถ้าเราเป็นอย่างที่เขาเป็นอยู่...เราจะรับได้และมองโลกแง่ดีอย่างที่คุณแพรวเค้าเป็นไหม แต่ตัวหนังสือดีค่ะ คุณแพรว>> ค่ะ จะพยายามติดตามอ่านงานน้องแพรวต่อไปนะคะ (ปกติจะชอบอ่านรวดเดียวทีละหลายๆ ตอน แต่บางทีก็อ่านทีละตอนๆ แล้วคอมเมนต์น่ะค่ะ) โดย: ณ พิชา วันที่: 25 ตุลาคม 2557 เวลา:21:46:17 น.
ชอบผลงานของผู้เขียนค่ะ แต่เล่มนี้ไม่กล้าอ่านนะคะ
โดย: kunaom วันที่: 26 ตุลาคม 2557 เวลา:14:48:37 น.
|
ณ พิชา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] I think, therefore, I am Link |