All Blog
|
โดมิโนแสงดาว / แพรพลอย โดมิโนแสงดาว / แพรพลอย อุดมคตินั้นก็เหมือนดวงดาวแม้แตะต้องไม่ได้ แต่ช่วยนำทางเราสู่จุดหมายได้ อนรรฆและแทนดาว สองหนุ่มสาวที่ไม่รู้จักกันมาก่อน # # # ลุ้นระทึกเหมือนนั่งดูหนังแอคชั่นหักหลังกันทุกเม็ดจนหยดสุดท้าย หนังสือเล่มนี้การันตีด้วยรางวัลชมเชยโครงการวรรณกรรมแว่นแก้วส่วนตัวแล้วที่อยากอ่านเรื่องนี้เพราะดูจากโครงเรื่องแล้วรู้เลยว่านี่เป็นแนวที่เราชอบแนวการเมืองประเทศโลกที่สามที่สับสนในวังวนอำนาจ และโดมิโนแสงดาวก็ได้เล่าเรื่องราวอันเข้มข้นของการแย่งชิงอำนาจอย่างชัดเจน เริ่มต้นบทแรกกับการพบกันของสองหนุ่มสาวที่กำลังจะเดินทางไปประเทศเล็กๆที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมืองคนเขียนก็สามารถดึงให้คนอ่านเดินทางตามกันไปอย่างง่ายดายด้วยการเล่ากระชับแต่สละสลวย ชวนให้อยากรู้ว่า ซีนินทาวน์ มีสภาพเป็นอย่างไรแล้วสองหนุ่มสาวชาวไทยจะพบเจออะไรบ้าง แพรดาว นักเขียนสาวผู้มีอุดมการณ์ท่ามกลางแผงนิยายที่เต็มไปด้วยนิยายรักหวือหวางานเขียนของเธอจึงถูกค่อนแคะว่าขายไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ท้อเดินทางไปหาข้อมูลเขียนหนังสือถึงประเทศเพื่อนบ้าน งานนี้เธอต้องแท็คทีมกับ อนรรฆนักเขียนสารคดีหนุ่มฝีปากกล้า แม้ตอนแรกเขาจะไม่อยากเดินทางกับผู้หญิงตัวบางๆแต่สุดท้ายก็จำยอม ทั้งคู่จึงเดินทางไปยังซีนินทาวน์ด้วยกัน ซีนินทาวน์ ประเทศเพื่อนบ้านที่ปกครองด้วยรัฐบาลทหารมาชั่วนาตาปีมีความเป็นอยู่ค่อนข้างล้าหลัง มีกลุ่มก๊กทางการเมืองอันแตกแยกเป็นฝักฝ่ายที่เป็นประเด็นหลักในเรื่องคือการแก่งแย่งอำนาจปกครองในตัวเมืองใหญ่ ส่วนประเด็นชนกลุ่มน้อยชายแดนบ้างแต่ไม่ใช่ประเด็นหลักขับเคลื่อนตัวเรื่องแต่อย่างใด อย่างที่โปรยไว้ว่านิยายเรื่องนี้ทำให้คนอ่านเห็นภาพเป็นหนังแอ็คชั่นเพราะเริ่มต้นจากตัวพระเอกนางเอกถูกใส่ไคล้เป็นแพะรับบาปทางการเมืองจากนั้นเรื่องราวก็มะรุมมะตุ้มเพราะมีการหลบหนี การต่อสู้แย่งชิง การยึดอำนาจการลอบฆ่า ฯลฯ สถานการณ์ต่างๆ ช่างบีบคั้นโดยมีตัวละครต่างชาติอย่างพระเอก-นางเอกที่จะต้องเอาตัวรอดให้ได้ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกือบจะเรียกว่าสงครามกลางเมือง นานแล้วที่ไม่ได้อ่านนิยายที่มีรสชาติอย่างนี้ ตอนอ่านเหมือนได้อ่านงานสารคดีชิ้นงามที่พาไปพบประเทศแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมืองและทหาร(คุ้นๆ กับประเทศนี้เหมือนกันนะ) คนเขียนเล่ารายละเอียด้วยภาษาสละสลวยเข้าใจง่ายการเล่าไม่มากไม่น้อยไป กลมกล่อม ทำให้คนอ่านรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปที่นั่นด้วยตัวเองได้ลุ้นกับเหตุการณ์พลิกผัน ได้ซาบซึ้งและผูกพันกับผู้คนและเรื่องราวจนกระทั่งเรื่องเดินถึงจุดจบ แน่ใจว่าคนเขียนได้บ่มเพาะการอ่านและมุมมองมามากพอจึงเขียนออกมาจนทำให้รู้สึกว่าซีนินทาวน์ เป็นประเทศจริงอันซุกซ่อนระหว่างไทย-พม่า ได้อย่างน่าทึ่งตัวละครแต่ละตัวมีการเอาตัวรอดของตนนักการเมืองและทหารในเรื่องอาจจะฝักใฝ่อำนาจแต่หลายตัวละครก็มีแนวคิดที่น่าสนใจเพราะบ้างแก่งแย่งเพื่ออำนาจตน แต่บ้างก็ทำเพราะคิดว่านี่คือผลประโยชน์ของคนในชาติ พระเอกนางเอกของเรื่องเป็นคนนอกสถานะจึงเป็นตัวประกอบมากกว่าจะแสดงภาพการเมืองของที่นี่ได้ชัดเจน แต่ตัวละครหลากหลายมากมายกลับดูมีสีสันซึ่งถ้าถามว่าชอบแนวคิดใคร กลับชอบแนวคิดอินเลชายหนุ่มผู้เป็นบุตรชายคนเล็กของท่านผู้นำทหาร เพราะเป็นแนวคิดของนักปกครองที่ดีในเชิงหลักการแม้ว่าคาแรกเตอร์เขาจะถูกสร้างมาให้อ่อนแอไปสักนิด แต่ถ้าปรับให้เข้มแข็งจะสามารถกลายพระเอกที่น่าเกรงขามมากเพราะปูมหลังครอบครัวน่าสนใจ จุดสะดุดของหนังสือเล่มนี้สำหรับเราแล้วมีเพียงนิดเดียวคือชื่อตัวละครและสถานที่นั้นตรงกับบุคคลและสถานที่ที่มีจริงในประวัติศาสตร์การเมืองพม่าจึงทำให้คนอ่านอย่างเราเกิดการสับสนบ้างเล็กน้อยขณะอ่าน (เพราะยังติดภาพลักษณ์บุคคลจริงหรือชื่อสถานที่ซึ่งมีจริงในพิกัดทางภูมิศาสตร์)แต่เมื่อตั้งสติอ่านต่อก็ละวางในจุดนี้ได้และเพลิดเพลินกับเรื่องราวห้ำหั่นกันต่อไป แต่เมื่อจบเรื่องราวก็รู้สึกว่าได้อะไรดีๆ จากหนังสือเล่มนี้มาก ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องดีๆ อย่างนี้ออกมารู้สึกได้ว่าคนเขียนตั้งใจอย่างมาก ชอบที่นางเอกกล่าวว่า อุดมคตินั้นก็เหมือนดวงดาว แม้แตะต้องไม่ได้ แต่ช่วยนำทางเราสู่จุดหมายได้ หนักแน่นและกินใจมากค่ะ ปล. ชอบอีกจุดคือนางเอกเรื่องนี้เป็นนักเขียนที่มีอุดมการณ์ถึงอายุจะขึ้นเลขสามแล้ว แต่เธอก็ยังมีความน่ารักสดใสและมองโลกแง่ดีทำให้คนวัยนี้รู้สึกกระชุ่มกระชวยว่าสามสิบกว่าก็ยังแจ๋วนะเออ(แถมยังเป็นนางเอกที่มีฮาเร็มหนุ่มๆ มารุมตอบเพียบ ตบมือรัวๆ) เพิ่งเข้ามาเจอค่ะคุณฝน ขอบคุณมากๆเลยนะคะ :)
โดย: แพรพลอย IP: 171.5.76.117 วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:16:48:07 น.
|
ณ พิชา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] I think, therefore, I am Link |
อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจดีค่ะ