The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 

และอื่น ๆ

๑.ทำกับข้าว

ช่วงปิดคริสต์มาสมีเวลาเหลือ ประกอบกับน้องชายอยากลองทำอาหารกันดูสักครั้ง เลยไปซื้อกระทะและอุปกรณ์อื่น ๆ มาทำ...

มื้อที่หนึ่ง - ซื้ออะไรมาก็โยนมันลงไปรวมกันหมดแล้วผัดเข้าไป
มื้อที่สอง - ซื้ออะไรมาก็โยนมันลงไปรวมกันหมดแล้วผัดเข้าไป + ไข่เจียว (มั้ง)
มื้อที่สาม - มันงดงามมาก (เพราะเพื่อนน้องชายเป็นคนทำ อีกสองคนที่เหลือยืนดู) อย่างไรก็ตาม ไม่มีน้ำมันหอยเลยเอาซอสบาร์บีคิวผัดกับผัก รสชาติ...- - (ก็น่าสนใจดีนะ)
มื้อที่สี่ - ผัดข้าวกินเอง

(ระหว่างนี้มีอีกกี่มื้อจำไม่ได้แล้ว แต่มีน้องมาอยู่ด้วยหนึ่งคน เป็นน้องที่ดวงกุดสุด ๆ เพราะน้องก็ทำกับข้าวไม่เป็น)

มื้อที่หนึ่งเมื่อมีน้องมาอยู่ด้วย - น้องหวาดกลัวมากเลยต้มมาม่ามาหนึ่งหม้อ มันก็ดีอยู่หรอก แต่ว่ารีบต้มไปหน่อย กว่าจะได้กินเลยอืดพองเต็มหม้อ (เพิ่มปริมาณสินะ)
อาหารอื่น ๆ มีไส้กรอกผัดกับผัดหน่อไม้เหลือ ๆ ที่ได้มาจากบ้านคุณน้า รสชาติเลยเป็นปรกติเพราะแค่อุ่น
จานที่สาม baby spinach ผัดกับเห็ดเข็มทอง ใส่ซอสหอยนางรมแล้วไม่มีรสเลยราดซอสบาร์บีคิวตาม <<< น้องชายทำ เป็นอาหาร (มั้ง) ที่กินแล้วขำดิ้นสิ้นใจ หยุดหัวเราะไม่ได้ น้องชายบอกว่ามื้อนี้กินเอาฮา

มื้อที่สองเมื่อมีน้องมาอยู่ด้วย - ข้าวผัด (อร่อยดี) ไส้กรอก (ทอดปรกติไม่มีอะไร)
น้องหิ้วผงพะโล้มาให้จากเมืองไทย แต่หลังจากใส่มันลงไปแล้วก็พบบังเกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาพร้อมกันทั้งฝูงว่าใส่ผงพะโล้เฉย ๆ แล้วมันไม่มีรส ดังนั้นจากไข่กะไก่พะโล้จึงกลายเป็นไข่ต้มกะไก่ด้มแทน

by this rate อาหารมื้อที่สามอาจจะเป็นพิซซ่า

...

(ไว้เขียนเรื่องอื่นต่อ)




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2550    
Last Update : 31 ธันวาคม 2550 2:53:00 น.
Counter : 538 Pageviews.  

ร้านหนังสือมือสอง

ร้านหนังสือมือสองมีสองแบบ คือร้านแบบที่ตั้งใจจะเป็นร้านหนังสือมือสองจริง ๆ กับร้านที่ขายของมือสอง (รวมทั้งหนังสือ)

ร้านที่ตั้งใจจะเป็นร้านหนังสือมือสองจริง ๆ มีเต็มถนนชาริงครอส เดินไปเรื่อย ๆ ชี้ไปก็เกือบใช่ทุกร้าน แต่ว่าร้านพวกนี้ยังไม่เคยเข้าจริง ๆ แบบรื้อจริง ๆ จัง ๆ เสียที นอกจากนั้น เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือ "ดูได้" คือว่ามือสองจริงแต่สภาพนิ้ง

แต่ร้านที่ไปประจำคือร้านที่พอร์โทเบลโล หน่าจังเป็นคนพาไป ตอนแรกเห็นบันไดลงใต้ถุน มีป้ายเขียนว่า หนังสือใต้ถุนสิบเพนซ์ทุกเล่ม ยกเว้นจะเขียนบอกไว้ที่ปก ก็ไม่ค่อยจะกล้าลงเพราะไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่สุดท้ายก็ตามหน่าจังลงไปอยู่ดี ปรากฏว่าใต้ถุนนั้นเป็นห้องต่อกันประมาณสามห้อง หนังสือเยอะมาก ไปคราวแรก ๆ อากาศค่อนข้างอับ (อาจถึงขั้นรู้สึกหายใจไม่ออกมาได้ในบางจุด) แต่ไปคราวหลัง ๆ รู้สึกดีขึ้น คิดว่าคงเปิดหน้าต่าง อย่างไรก็ตาม พอเห็นหนังสือก็ลืมตายไปแล้ว เพราะเยอะจัดจนตาลาย ต้องใช้เวลาแสกน ทุกอย่างปนกันมั่วไปหมด มีตั้งแต่เล่มดีมาก นิ้งโคตรแกมาทำอะไรที่นี่ ไปจนถึงเล่มที่ใกล้ชีพิตักษัยจะตายมิตายแหล่

ตั้งแต่นั้นก็แวะไปเรื่อย ๆ เวลารู้สึกเซ็ง ได้หนังสือมาเรื่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีแต่เรื่องสืบสวนยุคกลาง - -'' สงสัยอาจจะกำลังอยู่ในอารมณ์นั้นละมั้ง ไม่ใช่แบบล็อตใหม่ ๆ รุ่นหลังแดน บราวน์ แต่เป็นล็อตเก่า พวกแคดฟาเอล อะไรแบบนี้ จริง ๆ ต้องคิดถึงสมัญญาดอกกุหลาบอยู่แน่ ๆ เลย

ร้านหนังสือมือสองอีกแบบคือแบบที่ไม่ได้ตั้งใจเป็นร้านหนังสือ พวกนี้เป็นร้านขององค์กรการกุศล เช่น oxfam จะรับของมือสองจากชาวบ้านมาจัดวางขาย เงินไปช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก บางร้านจัดหน้าตาดีมากเกือบเหมือนห้างดี ๆ ร้านพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีมุมหนังสือ ที่ไปประจำคือ oxfam สาขาแถวบ้าน กับ trinity hospice ที่เบย์สวอร์เตอร์ หนังสือที่ภาคภูมิใจว่าได้มาได้ไงคือ the Mysterious Flame of Queen Loana ราคา 1.99 ปอนด์ (จาก 7.99) สภาพนิ้งโคตร ๆ

เล่มนี้อ่านง่ายกว่าฟูโกต์เพนดูลั่ม สนุกดี แต่ยังคิดอยู่ระหว่างเล่มนี้กับเรื่อง island before time จะชอบเล่มไหนมากกว่ากัน

คราวล่าสุดไปพอร์โทเบลโล แวะร้านใต้ถุนสิบเพนซ์ ได้หนังสือมา้ห้าเล่มในราคา 1.50 (ราคารวมกันแล้ว) เล่มหนึ่งในนั้นเจ้าของร้านให้ฟรี คือเรื่อง midnight's children ของซัลมาน รัชดี เพราะหนังสือสภาพเยินยับอย่างแรง แต่อยากอ่านมานานแล้ว เจอก็ดีใจ

ชอบหนังสือมือสองตรงที่ไม่รู้ว่าไปถึงร้านแล้วจะเจออะไร เหมือนกับว่าเป็นการหาสมบัติที่น่าตื่นเต้นดี




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2550    
Last Update : 18 ธันวาคม 2550 2:20:18 น.
Counter : 642 Pageviews.  

Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อ

ได้รับต่อมาจากคุณสาวไกด์ใจซื่อค่ะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=pakwan&month=08-12-2007&group=1&gblog=69



Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อคืออะไร?

เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 พวกเราในฐานะคนเขียนบล็อก/เว็บไดอารี่ ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยที่แข็งแรง และพวกเราปรารถนาที่จะทำความดีคนละหนึ่งอย่างเพื่อพ่อหลวงของพวกเรา

Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อ คือการเขียนลงในบล็อกว่าตั้งใจจะทำความดีอะไรหนึ่งอย่างเพื่อพ่อ แล้วส่งต่อไปให้คนอื่นอีก 5 คนเพื่อให้เขียนบล็อกแบบเดียวกัน




กติกา



1. ให้ copy เนื้อหาในหัวข้อ Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อคืออะไร? ที่อยู่ด้านบน และหัวข้อกติกานี้ นำไป paste ลงในบล็อกของคุณ

2. เขียนบอกว่าใครที่ tag มาหาคุณ โดยให้ทำลิงก์ไปยังบทความที่ tag มาหาคุณด้วย เพื่อที่คนที่เข้ามาอ่านบทความของคุณ จะได้ตามไปอ่านบทความของคนที่ tag หาคุณได้

3. เขียนความดีหนึ่งอย่างที่คุณตั้งใจจะทำเพื่อพ่อ ถ้านึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไร ให้เข้าไปดูในเว็บ //www.dogood.or.th

4. ให้ tag ไปหาคนอื่นอีก 5 คนเพื่อให้เขาทำเช่นเดียวกับคุณ โดยให้ทำลิงก์ไปยังบล็อกของทั้ง 5 คนด้วย และถ้าเจ้าของบล็อกเข้ามาเขียนบทความแล้ว ก็ให้แก้ลิงก์ไปที่ตัวบทความเลย คนที่เข้ามาอ่านบทความของคุณแล้วจะตามอ่านของคนที่คุณ tag ไปหา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาว่าบทความอยู่ที่ไหนในบล็อก

5. เข้าไปขอแบนเนอร์โครงการทำดีเพื่อพ่อจากเว็บ //www.dogood.or.th/banner_exchange/ แล้วนำมาติดในบทความที่คุณเขียน

6. เข้าไปแจ้งที่ //blog.macroart.net/dogood/ ว่าคุณได้เขียนบทความทำดีเพื่อพ่อแล้ว

7. ข้อนี้สำคัญที่สุด เมื่อเขียนว่าจะทำดีอะไรแล้ว ขอให้มีความตั้งใจมั่นและลงมือ ทำความดีที่เขียนไว้ให้สำเร็จ สังคมเราจะดีขึ้นเพียงแค่ทุกคน ช่วยกันทำความดี กันคนละเล็กคนละน้อย

###


จขบ.เคยอ่านคำจารึกหน้าหลุมศพของบิชอปท่านหนึ่ง (แน่นอนว่าไม่ได้ไปอ่านที่หลุมจริง ๆ แต่อ่านในหนังสือ) เขาจารึกไว้ว่าอย่างนี้น่ะค่ะ

The following is inscribed on the tomb of an Anglican Bishop in Westminster Abby (1100 A.D.) …

When I was young and free and my imagination had no limits, I dreamed of changing the world.
เมื่อข้ายังเล็ก ไร้ภาระผูกพัน และจินตนาการข้าไร้ขอบเขต ข้าฝันจะเปลี่ยนแปลงโลก
As I grew older and wiser, I discovered the world would not change,
เมื่อข้าเติบโตและฉลาดขึ้น ข้าพบว่าโลกจะไม่เปลี่ยนแปลง
so I shortened my sights somewhat and decided to change only my country.
ดังนั้นข้าจึงลดเป้าหมายลง หวังเพียงจะเปลี่ยนประเทศ
But it, too, seemed immovable.
แต่เป้าหมายนี้ก็เช่นกัน ดูราวกับไม่อาจเปลี่ยนแปลง
As I grew into my twilight years, in one last desperate attempt, I settled for changing only my family, those closest to me, but alas, they would have none of it.
เมื่อล่วงสู่วัยชรา ข้าพยายามดิ้นรนครั้งสุดท้าย ตั้งเป้าหมายไว้เพียงว่าจะเปลี่ยนแปลงครอบครัวและเหล่าผู้ใกล้ชิดข้า ทว่าอนิจจา พวกเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลง
And now, as I lie on my deathbed, I suddenly realize: If I had only changed myself first, then by example I would have changed my family.
ขณะนี้ ข้านอนรอความตาย บัดดลกลับตระหนัก หากเพียงข้าเปลี่ยนตัวเองก่อน กระทำตนเป็นตัวอย่าง ข้าอาจเปลี่ยนครอบครัวของข้าได้
From their inspiration and encouragement, I would then have been able to better my country, and who knows, I may have even changed the world.
และบัดนั้น ด้วยแรงบันดาลใจ และกำลังใจจากพวกเขา ข้าอาจเปลี่ยนแปลงประเทศ
จากนั้น...ผู้ใดจะรู้เล่า ข้าอาจเปลี่ยนแปลงโลกก็ได้

###


จขบ.เชื่อท่านบิชอปน่ะค่ะ

คุณตาของจขบ.ชอบพกแผ่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่มีคำพูดดี ๆ ติดตัว จขบ.ได้แผ่นแบบนั้นมาจากคุณแม่แผ่นหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังพกติดตัวอยู่ ในแผ่นนั้นมีคำเขียนไว้ว่า

I know that happiness come from giving happiness and I will live accordingly. (ฉันรู้ว่าความสุขเกิดจากการให้ความสุข และฉันจะมีชีวิตอยู่เช่นนั้น)

บางทีความสุขอาจจะเป็นคำลอยไปสักหน่อย ต้องใช้ความคิดกับการใคร่ครวญประกอบด้วยเยอะ ๆ บางทีความสุขอาจจะไม่ใช่ความสุขในระยะสั้นเท่าที่ตาเห็น

แต่จขบ.ก็หวังว่าจะตัวเองจะ "มีชีวิตอยู่เช่นนั้น" ให้ได้น่ะค่ะ




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2550    
Last Update : 17 ธันวาคม 2550 19:17:20 น.
Counter : 531 Pageviews.  

...and thus she spake: "Let there be pictures!"

Yeah, Let's!

###

พี่สาวมาทำงาน เลยแวะมาเยี่ยมเยือน นี่เป็นรูปจากกล้องของพี่สาวค่ะ

เป็ดโฟววววววววว ...อร่อยเลิศ และมันเยิ้ม



โคเวนท์การ์เด้น ตบแต่งต้อนรับคริสต์มาส (อากาศก็หนาวอยู่แล้ว ยังจะแต่งให้แลดูหนาวขึ้นอีกแน่ะ ="=)



นี่ก็โคเวนท์



ยังคงโคเวนท์ คุณคนนี้มาแสดงกายกรรม แขวนชีวิตไว้กะผ้าชัด ๆ เก่งมาก ๆ



วิวจากหน้าต่างห้องจขบ. มุมเงย (สว่างตอแหลจริง ๆ ปรกติไม่เป็นแบบนี้หรอก)



ร่างอันถูกสตัฟฟ์ไว้เคารพบูชาของป๋าแบนทัม



ตึกคณะอันเล็กติ่ง และซ่อนอยู่ในมุมลับแล



กระรอกคณะ ยังไม่จำศีลอีกเหรอแก



ฉากหน้าของร้านเกาหลีเถื่อน



...และสไปซี่พอร์ก



ไปดูไลอ้อนคิงกันมา นี่คือโรงละคร Lyceum Theatre ที่แสดง



ไว้จะเล่าเรื่องไปดูละครให้ฟังวันหลังนะ




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2550    
Last Update : 13 ธันวาคม 2550 3:55:43 น.
Counter : 903 Pageviews.  

ฉันจะชงแฝ่อย่างในนิยาย

ก็ไม่ใช่ว่าจขบ.อ่านเรื่องที่มีการชงแฝ่มากหรอกนะ จริง ๆ ที่จำได้แม่น ๆ ว่ามีการชงแฝ่ก็มีแค่สองเรื่องเท่านั้นเอง คือเรื่อง "ดาวในดวงตา" ของคุณ วัน ณ จันทร์ธาร (เล่มนี้ได้มาตอนคนเขียนมาคุยเรื่องเขียนนิยาย ในคลาสการเขียนนิยาย สมัย จขบ.ยังเรียนป.ตรีปู้นนู้น)กับเรื่อง "สัญญารัก" ของพี่จูน

เรื่องดาวในดวงตา พระเอกชื่อคุณน่าน ชงกาแฟอร่อยมาก เคล็ดลับคือใส่เกลือลงไปตัดรสกะต๊อยนึง
เรื่องสัญญารัก ใครเป็นคนชงจำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่าต้องใส่กาแฟคนให้ดีก่อน แล้วค่อยน้ำตาล คนให้ดี แล้วค่อยนมหรือคอฟฟี่เมต (และคนให้ดี)

คือไอ้กาแฟสำเร็จรูปนี่นะ ยังไงมันก็เป็นกาแฟสำเร็จรูปแหละ จะทำยังไงมันก็ยังมีแค่ ใส่เครื่อง ใส่น้ำร้อน คนเข้าไป ถ้าอยากให้หรูดูดีกว่านั้นก็ต้องลงทุนซื้อเครื่องแล้ว ทีนี้ถ้าซื้อเครื่องมาจริง ๆ ก็ไม่แน่ว่าจะกินคุ้มค่าเครื่อง (จริง ๆ แล้วความคุ้มคืออะไร?) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กาแฟในชีวิตจขบ.ก็ไม่ได้เป็นแค่กาแฟมานานแล้ว มันเป็น mark ด้วยว่าตอนนี้เป็นยังไง อารมณ์ไหน และกำลังจะทำอะไร เช่น กาแฟตอนเช้ากินเป็นมาร์คว่าตรูจะตื่น และกาแฟก่อนตั้งใจลงมือทำงานอะไรสักอย่าง แปลว่าตรูจะตะบี้ตะบันทำไปจนกว่าจะรากเลือดท่วมโต๊ะเป็นจิวยี่ กาแฟมีความหมายอื่นมากกว่ากาแฟ เท่า ๆ กับที่ชามีความหมายมากกว่าชา และไวน์มีความหมายมากกว่าไวน์ (แต่จขบ.ไม่ใช่คอชาและคอไวน์)

ชงแบบในนิยายแล้วแปลกไปจากเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ (จขบ.ลิ้นจระเข้) มีแต่ถ้าใส่เกลือมากไปจะเป็นกาแฟหยึยรสพิลึก

แต่เวลาได้ชงด้วย "กรรมวิธี" มันจะทำให้รู้สึกว่าเกิด "พิธีกรรม" ขึ้นมา นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ทำให้รู้สึกว่ามาร์คอัพประจำวันของตูมันแลดูมีความหมายมากขึ้นดี

ป.ล. คนแปล Lady Friday โปรดทราบ ท่านได้ถูก จขบ.ทรยศแล้ว เพราะ จขบ.เกิดไปตบะแตกตอนเจอภาษาอังกฤษเล่มละปอนด์เก้าเก้าที่ร้านมือสอง T^T (แต่ยังไงก็รอฉบับแปลนะคะ)
ป.ป.ล. Inkheart ไม่ค่อยสนุกเลย แถมทำให้คิดถึงป๋าโยอีกต่างหาก (ไม่ใช่ว่าเหมือนกันหรอกนะ แต่มันมี essence บางอย่างที่ทำให้คิดถึง Solitaire Mystery น่ะ)




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2550    
Last Update : 5 ธันวาคม 2550 22:27:01 น.
Counter : 632 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.