เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วจะเป็นช่วงสอบกลางภาคของน้องๆ เราก็ส่งกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน
สัปดาห์นี้ก็คงจะเป็นสัปดาห์ที่ประกาศคะแนน
วันนี้ (25 ก.ค.) ก็มีน้องแฟนคลับคนนึงเขียนเฟรนด์ชิปมาหา ด้วยความที่ว่าน้องลงชื่อ เราก็เลยรู้ว่าใคร เลยทักไปตอบเป็นการส่วนตัว
เราตอบไปว่า "เรื่องสอบตก ไม่ต้องบอกพ่อกับแม่ก็ได้ครับ รอถึงสอบปลายภาคก่อน สอบปลายภาคอาจไม่ตกนะ เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ"
เราไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้จะเห็นด้วยกับเราไหมนะ แต่เราตอบในมุมมองของคนที่ก็เคยสอบตกและไม่กล้าบอกพ่อ
ตอนนั้นของเราเป็นสอบปลายภาค เราตกวิชาคณิตศาสตร์ ตอน ม.2 เราไม่แน่ใจว่าตอนที่เราสอบตกในครั้งนั้น เราได้บอกพ่อกับแม่ไหม แต่เรื่องนี้เราเคยเล่าให้แม่ฟังตอนโตว่าวันที่รู้ผล เราร้องไห้เลย เพราะเป็นวิชาที่พ่อเราถนัด แต่เราไม่เคยให้พ่อสอน เหมือนจะเคยให้สอนอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความที่เรียนกับพ่อแล้วเครียด เราก็เลยหาวิธีการของเราเองในการทำการบ้านให้รอดไปในแต่ละครั้ง
ในสมัยเรา มันจะมีคำพูดอยู่ประโยคหนึ่ง คือ สอบได้เป็นเรื่องตลก สอบตกเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ถ้าคุณไปเรียนอยู่ในห้องคิงที่มีแต่คนเก่งๆ แล้วถ้าคุณอยู่ในครอบครัวที่ตั้งความหวังไว้ว่าลูกจะต้องสอบผ่านนะ ได้คะแนนดีๆ นะ มันจะกดดันมากๆ ทำให้คิดไปว่าถ้าพ่อแม่รู้เรื่องสอบตกจะเป็นยังไง
เรายังโชคดีที่เราคุยกับแม่ได้ในทุกๆ เรื่อง แต่อย่างที่บอกเราจำไม่ได้ว่าเราบอกแม่เรื่องเราสอบตกในตอนนั้นไหม แต่เมื่อโตขึ้นเราได้เล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง
แม่ก็จะบอกว่าสอบตก เราก็สอบซ่อมได้ แล้วครูโรงเรียนมัธยม เขาก็ไม่อยากรั้งเด็กไว้หรอก ยังไงเขาก็ให้เลื่อนชั้นอยู่ดี ถ้าเขาเห็นความตั้งใจและความพยายาม
แล้วแม่ก็จะบอกเราเวลาเราเจอปัญหาว่าเราจะผ่านมันไปได้ ไม่มีปัญหาไหนที่เราผ่านไปไม่ได้
สอบตก อกหัก โดนเพื่อนแกล้ง เราก็ผ่านมันมาได้
แม่จะบอกว่าปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้กลุ้ม
เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ เราจะมองว่าสอบตกเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องธรรมดาจริงๆ แต่ถ้าเราอยู่ในวัยเรียน วัยรุ่นก็จัดว่าเป็นปัญหาที่หนักอยู่ ถ้าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวไม่เข้าใจก็จะผ่านไปได้ยาก
เราอยากให้คนที่เป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอบรับฟังและเข้าใจลูกให้มากๆ เพราะพวกเขาต้องการอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกำลังใจจากคนในครอบครัว