การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก...มันเพิ่งเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น!!! : โดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ม



การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้น ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อและเป็นภัยคุกคามที่สร้างความหายนะให้เกิดขึ้นทั่วโลก และในการโจมตีทางไซเบอร์ในครั้งนี้ เป็นการปล่อยไวรัส โดยถ้าคอมพิวเตอร์เครื่องใดติดไวรัสนี้ ก็จะทำให้ไม่สามารถเปิดไฟล์ในคอมพิวเตอร์ได้ จนกว่าจะยอมจ่ายค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์

นักวิจัยด้านความปลอดภัยในสหราชอาณาจักร พยายามขัดขวางการแพร่กระจายของไวรัสดังกล่าว หลังจากที่แฮกเกอร์ได้ปล่อยไวรัสเวอร์ชันใหม่ที่องค์กรรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ พยายามอย่างมากที่จะกำจัดและหยุดการแพร่กระจาย

Rob Wainwright หัวหน้าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหภาพยุโรป หรือ Europol กล่าวกับ CNN ว่า "เราสามารถถอดรหัสไวรัสตัวนี้ได้ในที่สุด แต่ตอนนี้ยังมีภัยคุกคามเกิดขึ้นอยู่และเรากำลังหาทางกู้คืนระบบให้กลับมาใช้ได้ดังเดิม" ซึ่งเขาเสริมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงวิเคราะห์ไวรัสดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ที่จะรับผิดชอบการโจมตีในครั้งนี้

ศูนย์รักษาความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ยังไม่มีการโจมตีรูปแบบใหม่เพิ่มจากที่เกิดขึ้น แต่การติดไวรัสบางชนิดยังตรวจไม่พบและการติดไวรัสที่มีอยู่อาจจะแพร่กระจายภายในเครือข่ายได้ต่อไป

​Wainwright กล่าวว่าลักษณะของการโจมตีครั้งนี้ "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ในขณะที่มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อแล้วมากกว่า 200,000 รายใน 150 ประเทศทั่วโลก ซึ่งองค์กรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทั่วโลก ต่างใช้เวลาในการพยายามกู้คืนข้อมูลหลังจากถูกโจมตีโดยไวรัสที่พยายามจะเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์จนกว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะยอมจ่ายค่าไถ่ให้

โรงพยาบาล บริษัทใหญ่ๆ และหน่วยงานภาครัฐ ต่างอยู่ในกลุ่มผู้ที่อาจได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความมันคงปลอดภัยทางไซเบอร์ได้กล่าวว่า การโจมตีหลักมีเป้าหมายไปที่รัสเซีย ยูเครน และไต้หวัน แต่โรงพยาบาลในสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยในประเทศจีนและบริษัทระดับโลกเช่น Fedex (FDX) รายงานว่าพวกเขาก็ถูกโจมตีแล้วเช่นกัน

​Steven Mnuchin เลขานุการกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในที่ประชุมในประเทศอิตาลีว่า การโจมตียังคงเป็นสิ่งเตือนใจให้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่เราจะต้องปกป้องโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของโลก

​นอกจากนี้ Wainwright แห่ง Europol ยังได้เน้นย้ำว่าเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ต่างมีความอ่อนแอต่อการโจมตีและองค์กรต่างๆควรนำมาเป็นบทเรียน โดยเรียนรู้จากอุตสาหกรรมการธนาคารที่ดูเหมือนจะหนีจากการโจมตีระดับโลกครั้งนี้ได้ โดยมีธนาคารอยู่ไม่กี่แห่งที่ได้รับผลกระทบ เพราะพวกเขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์อันเจ็บปวดของการเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งสำหรับอาชญากรรมในโลกไซเบอร์มาโดยตลอด

ransomware ที่ชื่อ WannaCry ได้ล็อคไฟล์ในคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสและเรียกร้องให้ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์จ่ายเงินค่าไถ่ เพื่อที่จะสามารถกู้คืนข้อมูลจากการติดไวรัสดังกล่าว ซึ่งในการโจมตีนี้ มีสาเหตุเกิดจากการรั่วไหลของเครื่องมือสอดแนมของ NSA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว

หน่วยงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยหลายแห่งทั่วโลก ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว โดย Wainwright กล่าวว่า Europol ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจของการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งการโจมตีโดย ransomware ครั้งนี้ ดูเหมือนเป็นความผิดทางอาญาทั่วไปมากกว่าหวังผลทางการเมือง

WannaCry ก่อให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ทั่วโลก โดยองค์กรด้านบริการสุขภาพแห่งชาติถึง 16 แห่งในสหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบ และโรงพยาบาลบางแห่งต้องยกเลิกการนัดหมายผู้ป่วยนอกและแจ้งให้มีการหลีกเลี่ยงการใช้แผนกฉุกเฉินหากเป็นไปได้ ส่วน ​Barts Health ซึ่งดำเนินกิจการโรงพยาบาล 5 แห่งในกรุงลอนดอน ยังคงประสบกับปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ใช้การไม่ได

ในประเทศจีน บริษัทด้านการรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต Qihoo360 ได้ออกประกาศเตือนว่าจะมีโรงเรียนและนักศึกษาจำนวนมากในประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก ransomware ชื่อ WannaCrypt และสื่อของรัฐได้รายงานว่าระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลที่สถานีบริการน้ำมันบางแห่งใช้งานไม่ได้ จนทำให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินสดแทนการใช้ธุรกรรมทางออนไลน์

บริษัทระดับโลกหลายแห่งได้ให้ข้อมูลว่า พวกเขายังคงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง อย่างเข่น Fedex ที่กำลังประสบกับการแทรกแซงระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่เกิดจากมัลแวร์ และนอกจากนี้ บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่สองแห่งคือ Telefónica ของสเปน และ Megafon ของรัสเซียก็ถูกโจมตีเช่นเดียวกัน และรวมถึง บริษัท Nissan ในสหราชอาณาจักรด้วย

กระทรวงมหาดไทยของรัสเซีย ได้ออกมายอมรับว่าถูกโจมตีจาก ransomware ด้วยเช่นกัน ส่วนในสหราชอาณาจักร Michael Fallon เลขาธิกากระทรวงกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาปฏิเสธว่า เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหราชอาณาจักรไม่ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์แต่อย่างใด

​Matthew Hickey ผู้ก่อตั้งบริษัทดูแลเรื่องความปลอดภัย Hacker House เห็นว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก และแสดงให้เห็นว่าหลายองค์กรไม่ได้มีการอัพเดทซอฟต์แวร์อย่างที่ควรจะทำกัน

ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฮกเกอร์ใช้เครื่องมือที่หลุดจาก NSA ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงระดับชาติของสหรัฐฯ เพื่อโจมตีคอมพิวเตอร์ต่างๆทั่วโลก และที่สำคัญ หลายประเทศทั่วโลก ยังไม่มีการป้องกันในระดับชาติที่เพียงพอ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอนในอนาคต

ที่มา thaitribune




Create Date : 20 พฤษภาคม 2560
Last Update : 20 พฤษภาคม 2560 21:03:29 น. 0 comments
Counter : 218 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.