แนะใช้โมเดลผลิตครูของสิงคโปร์เป็นแบบอย่าง - สพฐ.ปรับหลักสูตร ให้ม.3 ฝึกอาชีพช่วงปิดเทอม
นายกฯ แนะ ใช้โมเดลผลิตครูของสิงคโปร์มาเป็นแบบอย่าง หาแนวทางการผลิตครู ให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ชี้แก้ปัญหาเด็กไม่นิยมเรียนสายอาชีพ โดยให้ สพฐ.จัดกระบวนการให้เด็กรู้เส้นทางอนาคต 4 แนวทาง อาจให้เด็ก ม.3 ฝึกงาน 2 สัปดาห์ เริ่มเทอม 2 ปีนี้ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 - นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งถึงการผลิตครูว่า จากการไปดูงานที่สิงคโปร์เห็นว่ามีหน่วยงานที่ดูแลการผลิตครูเพียงแห่งเดียว ในขณะที่ไทยมีสถาบันอุดมศึกษาหลากหลายแห่ง แต่การที่มีหลากหลายแห่งก็ควรจะมีเพียงมาตรฐานเดียวในการผลิต ที่ประชุมองค์กรหลักจึงมอบคุรุสภาไปพิจารณา ซึ่งคุรุสภาก็ได้แจ้งที่ประชุมในเบื้องต้นว่าได้เตรียมพัฒนาไว้แล้ว หลังจากที่ได้มีการประชุมเพื่อพัฒนากรอบมาตรฐานสมรรถนะครูในอาเซียน (High Officials Meeting on the Development of Regional Competency Framework for Teachers in Southeast Asia) เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล ดังนั้น คุรุสภาจะเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดกรอบการผลิตครูให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แจ้งสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งที่ผลิตครูได้ดำเนินการตามกรอบที่คุรุสภากำหนด อาจเป็น 4 หรือ 5 ปี แต่จะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศต่อไป นายกรัฐมนตรีได้ปรารภเพิ่มเติมด้วยว่า สิงคโปร์มีเส้นทางการเรียน (Education Path) สำหรับนักเรียนได้เลือกเรียนตามความถนัดตั้งแต่ต้นอย่างชัดเจนทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ที่ประชุมจึงมอบให้ สพฐ. พิจารณากระบวนการให้เด็กทุกคนรู้เกี่ยวกับ Education Path ใน 4 ขั้นตอนที่สำคัญ คือ ให้มีการจัดระบบการแนะแนวที่เหมาะสม ให้ สพฐ.จัดทำหลักสูตรเสริมให้เด็กมีประสบการณ์ทำงาน (Work Experience) โดยเริ่มจากนักเรียนชั้น ม.3 ทุกคน ต้องไปเรียนรู้หรือฝึกงานหรือค้นหาอาชีพในสถานที่เด็กสนใจ เพื่อให้เด็กทดลองด้วยตัวเองก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบในเส้นทางอาชีพนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสาขาวิชานั้น ๆ ต่อไปในอนาคต โดยคาดว่าจะเริ่มต้นได้ภายในภาคปลาย ปีการศึกษา 2560 ให้มีระบบเสริมอาชีพในโรงเรียน เช่น - โครงการห้องเรียนกีฬา ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ รับผิดชอบดำเนินการในขณะนี้ โดย รมว.ศึกษาธิการ ได้ขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่จากปัจจุบันซึ่งมี 4 แห่ง คือ ภาคเหนือ ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม, ภาคใต้ ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ จ.กระบี่, ภาคกลาง ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จ.สมุทรสาคร ซึ่งอาจขยายเพิ่มห้องเรียนกีฬามากกว่า 1 ห้องเรียนก็ได้ โดยคำนึงถึงคุณภาพเป็นสำคัญ - โครงการห้องเรียนดนตรี ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ รับผิดชอบโครงการห้องเรียนดนตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้ทำการเปิดรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี, โรงเรียนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส และโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา ให้โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นโรงเรียนที่สอนอาชีพให้มากขึ้น ที่มา thaitribune
Create Date : 05 พฤษภาคม 2560 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2560 9:57:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 322 Pageviews. |
|
|