ซินจ่าว ฮานอย ปี 53 (วันที่ 1-ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ)
เดินออกจากโรงแรม มุ่งหน้าไปทะเลสาปคืนดาบก่อนเลย

อากาศเย็นๆ แต่ไม่ถึงกับหนาว ไม่รู้ว่าหมอกหรือควัน ทำให้บรรยากาศดูมัวๆ นิดนึง

คุณแฟนแอบเคืองใจนิดนึงที่ถ่ายรูปมาแล้วภาพไม่ชัด

ก็โทษฟ้าโทษฝนกันไป เอิ๊กกกก

เดินเลาะริมทะเลสาปจนเห็นสะพานแดง ประชาชนแสนแปด เยอะมากกกก

มีพ่อค้าปั้นน้ำตาลขายด้วยค่ะ คิดถึงสมัยเด็กๆ เลย เราชอบร้องให้พ่อซื้อให้ ^^

คุณยายขายข้าวโพดปิ้งที่ริมทะเลสาปคืนดาป

แม่เราเห็นแล้วสงสัยนักหนา.....ถ้ามีออเดอร์ 10 ฝัก คุณยายจะปิ้งทันมั้ยเนี่ย

แม่เริ่มเป็นห่วงกิจการข้าวโพดปิ้งของคุณยาย






ข้ามฝั่งไปจองตั๋วละครหุ่นกระบอกน้ำก่อนค่ะ

ได้รอบห้าโมงเย็น ราคาคนละ 40,000 ดอง

แล้วก็ข้ามกลับมาเดินริมทะเลสาปกันต่อ

เดินเที่ยวมาเรื่อยๆ ตั้งใจมาดูสวนดอกไม้ที่ทางโรงแรมแนะนำมา

เจอศิลปินข้างทางด้วยอ่ะ






เดินมาเรื่อยๆ เจออะไรก็ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยแบบไม่รู้ความหมาย

ถึงแล้วค่ะ สวนดอกไม้ที่ทางโรงแรมภูมิใจนำเสนอ

เค้ากำลังซ่อมแซมต้นไม้ ดอกไม้

สวนทิวลิปที่ประชาชนชาวเวียดนามมุงดูกันแน่นขนัด !?#*??!!

เล่นเอาเราอึ้ง....แล้วขำๆ กันเลยค่ะ

อ้ายเราก็คิดถึงงานดอกไม้บานที่เชียงรายบ้านเฮา คิดว่าจะแนวๆ นั้น

แต่ก็ดีค่ะ ได้เที่ยวงานดอกไม้บรรยากาศฮานอย แปลกไปอีกแบบ

แอบคิด.....ดอกไม้เท่านี้ คนที่นี่ยังตื่นเต้น เจองานดอกไม้บ้านเรามีหวัง อึ้งๆๆ






บรรยากาศทั่วๆไป มีขบวนรถถีบด้วยค่ะ จอดแน่นิ่งให้เราถ่ายรูป

สวนดอกไม้..... อะไรก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แปลกดี

เจอนักท่องเที่ยวตัวน้อยชาวเกาหลี

แม่เราเห็นปุ๊บ รีบเข้าไปถ่ายรูปประหนึ่งว่าเจอดาราเกาหลีเชียว

แอบเม้าท์.....แม่เป็นสาวกซีรียส์เกาหลีตัวจริงเสียงจริงค่ะ ^^

ปล. ในรูปไม่ใช่แม่เรานะคะ เป็นคนอื่นค่ะ ถ่ายติดเค้ามาเฉยๆ






จากนั้นเราก็เริ่มเดินกันต่อค่ะ

เดินวนรอบทะเลสาปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านไอติม Fanny ด้วย

แต่ไม่ได้ข้ามถนนไปซื้อ เพราะเพิ่งกินไอติมหมดไปตากี้นี้เอง

เดินตามแผนที่ไปจุดที่ 3 กันค่ะ เราจะไปเที่ยวโบสถ์กันต่อ

หาไม่ยากเลย ชื่อถนนในแผนที่หาง่ายมาก เดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว

ไปถึงโบสถ์ปิดค่ะ แป่วววววว






เดินต่อกันไปเรื่อยๆ ผ่านร้านเฝอชื่อดังด้วย ที่เคยมีใครมาโพสท์ไว้น่ะค่ะ

เดินเข้าไปถาม เค้าบอกว่าของหมดแล้ว ร้านจะปิดแล้ว

แม่กับน้าเลยบอกว่า งั้นเราเดินกลับโรงแรมกันก่อนแระกัน

จะได้พักขา เก็บแรงไว้เดินต่อที่ถนนคนเดินคืนนี้กันต่อค่ะ




หลังจากพักที่โรงแรมพอหายเหนื่อยกันแล้ว

เราก็เริ่มกางแผนที่ไปเที่ยวกันต่อค่ะ

จุดที่ 4 คือ ร้านบุ๋นชา......






เดินออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้าย จุดสังเกตุหัวมุมถนนเป็นร้านแว่นตา

เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนน H.Gai ครอบครัวเราเรียกว่าถนนห่างไกลค่ะ

เดินมาได้นิดเดียวจะเจอสี่แยก เราข้ามถนนเพื่อเดินเข้าถนน H.Hom

ถนนเส้นนี้มีแต่ร้านขายสีเต็มไปหมดเลย จนสุดถนนค่ะ (ไม่กี่สิบเมตรเอง)

เลี้ยวซ้ายอีกทีจะเดินบนถนน H.Quat เดินต่อไปอีกนิดจะถึงแยกถนน H.Manh

หัวมุมถนนเป็นร้านขายเครื่องดนตรี เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณตึกแถวคูหาที่สอง

เจอแล้วค่ะ ร้านที่เราตามหาตามลายแทง บุ๋นชา ร้าน Dac Kim อยู่ซ้ายมือเลย

คนเต็มร้านเลย พนักงานที่ร้านให้เราเดินขึ้นไปชั้นสอง

เค้ามาถามว่าเรามากันกี่คน บอกไปว่า 6 คนค่ะ

เค้าก็เสิร์ฟมาเลยทีเดียว 6 ชุด คือหมูย่างกับน้ำซุป จัดไปคนละชุด

หมูย่างอยู่ในน้ำซุปนะคะ ไม่ใช่น้ำมัน

น้ำซุปให้มาอีกถ้วย มีมะละกอชิ้นเล็กๆ แล้วให้เราเติมพริกกับกระเทียมเอง

รสชาติหอมๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ดีค่ะ เราชอบมั่กๆๆๆ

ผักให้มาเป็นถาดๆ เติมได้เรื่อยๆ ไม่คิดเงิน

ขนมจีนก็เติมได้เรื่อยๆ ค่ะ ไม่คิดเงินเหมือนกัน

เครื่องเคียงอีกจานคือ ปอเปี๊ยะทอด

แอบมองโต๊ะอื่นๆ เค้ากินเป็นก๋วยเตี๋ยวเลย

แบบว่าตักใส่ในถ้วยน้ำซุปแล้วตักกินเลย

แต่บ้านเราไม่ถนัด ก็เลยใช้วิธีเอาผักมาห่อหมู (คล้ายๆกินแหนมเนืองบ้านเรา)

ใส่ขนมจีนลงไปในผัก ตักน้ำซุปราดลงบนห่อผักอีกทีแล้วค่อยเอาเข้าปาก

อืมมมม......อร่อยมากมาย กินกันพุงแทบแตก

กินกันไม่หมดอ่ะ เห็นโต๊ะข้างๆ เค้ามากันสองคนแต่สั่ง 1 ชุด

ถามพนักงานว่าสั่งแบบนั้นได้ไหม พนักงานบอกว่าได้

เราก็เลย.....โอเช ไว้พรุ่งนี้สั่ง 3 ชุดพอ

มากัน 6 คนสั่งคนละชุดกินไม่หมดอ่ะ เสียดาย ^^

ค่าเสียหายมื้อนี้ 360,000 ดอง ประมาณ 720 บาท เฉลี่ยคนละ 120 บาทแน่ะ

เหมือนจะแพง แต่สำหรับครอบครัวเรา คุ้มนะคะ เพราะรสชาติอาหารดีมากๆๆ






หลังจากอิ่มท้องกันแว้วว เราก็เดินต่อจากจุดที่ 4 ไปยังจุดที่ 5

คือ โรงละครหุ่นกระบอกน้ำกันค่ะ ใกล้ถึงเวลาที่เราได้จองตั๋วละครไว้แล้ว

บัตรถูกฉีกไปแล้วเรียบร้อย ได้ที่นั่งแถวบนสุดเลยค่ะ

ไม่ไกลเท่าไรนัก อยู่สูงสุด มองเห็นชัดดี

ในโบรชัวร์ที่แจกตรงทางเข้าจะบอกถึง การแสดงในแต่ละชุด แต่ละช่วงค่ะ

เข้าไปด้านใน พอถึงเวลา 17.00 น. การแสดงก็เริ่มขึ้น

เป็นการแสดงดนตรีของเวียดนาม ฟังคล้ายๆ ดนตรีจีนเหมือนกันนะ

การแสดงแต่ละชุดเริ่มแล้วค่ะ เวลาในการแสดงทั้งหมดประมาณ 45 นาที

การแสดงเริ่มไปได้ไม่ถึง 10 นาที.....เราหลับอ่ะ....

ภาพในกล้องทั้งหมด คุณแฟนถ่ายเอง ตื่นตอนจบการแสดงพอดี

กลุ่มเราประทับใจในการแสดงของที่นี่นะคะ

(ยกเว้นเรา.....ที่หลับไม่รู้เรื่อง เอิ๊กก)

แม่บอกว่า น่าเสียดายเนาะที่ของบ้านเรา ละครแบบนี้ราคาค่อนข้างแพง

ไม่งั้นคงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

(ที่นี่บัตรราคา 40,000 ดอง เป็นเงินไทยก็ประมาณ 80 บาทเอง ถูกกว่าตั๋วหนังอีก)






ดูละครเสร็จ เราก็เดินกลับโรงแรมค่ะ

ก่อนถึงโรงแรม แวะซื้อเค้กด้วย ที่ร้านเบเกอรี่ใกล้ๆ มุมถนน (จุดที่ 6)

เค้กชอคโกแลต ชิ้นละ 15,000 ดอง (30 บาท)

มูส ชิ้นละ 12,000 ดอง (24 บาท)

เอแคลร์ กล่องละ 15,000 ดอง (30 บาท)

ขนมราคาไม่แพง รสชาติ.....ธรรมดามาก โอเคสุดคงเป็นเค้กชอคโกแลตค่ะ






จากนั้นเราก็เริ่มถ่ายเทของใช้ในกระเป๋า เอากระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ติดมาด้วย

ก็เลยเอาเงิน + กล้องตัวเล็กติดตัวไปด้วย นอกนั้นเก็บของไว้ในตู้ในห้องพักค่ะ

เราไปเดินช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินกันต่อ (จุดที่ 7)

เราไปเดินกันตอนทุ่มกว่าๆ ร้านค้าเพิ่งเริ่มจะตั้งขายกัน

รู้สึกว่า ถนนคนเดินทางไปตลาดดองซ่วน (ถนน H.Dao)

จะเปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์นะคะ คล้ายๆ ถนนคนเดินบ้านเราตามเมืองท่องเที่ยว

คนทยอยเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่แล้ว แม่กับน้าๆ จะช้อปกันกระจาย

ส่วนเรากับคุณแฟน สนใจแต่ของกิน อิอิ

ผลไม้....รองก้นถ้วยแล้วมีไอติมราดบนผลไม้

รสชาติหวานมันมากกก เราไม่ชอบอ่ะ ชอบกินไอติมเปรี้ยวๆ แบบเชอร์เบท

เจอไอติมที่นี่เลยขอบาย ราคาถ้วยละ 15,000 ดอง (30 บาท)

ขนมอะไรไม่รู้ แม่บอกว่าหน้าตาคล้ายขนมบ้านเราเลย

อันนี้หน้าตาสดใส แม่สนใจซื้อมาชิมชิ้นละ 10,000 ดอง (20 บาท)

พอกินไปแล้ว แม่บอกว่า ขนมชั้นบ้านเราดีๆ นี่เอง ^^






เดินไป เดินมาที่ถนนคนเดิน คุณแฟนได้กระเป๋าตังค์มาใบนึง

ราคา 120,000 ดอง (240 บาท)

ตอนแรกแม่ค้าบอกราคาที่ 150,000 ดอง ต่อเหลือ 100,000 ดองเค้าไม่ยอม

ก็เลย โอเช แสนสอง ก็แสนสอง

ซื้อพวงกุญแจฝากพี่ๆ น้องๆ ที่ทำงาน

ต่อราคาได้ 10 อัน 42,000 ดอง ตกอันละ 4,200 ดอง (8 บาท)

เจอตะเกียบไม้ สวยดี หักคอแม่ค้าเพราะซื้อของหลายอย่างที่ร้านนี้

เค้าบอกมา 10 คู่ 50,000 ดอง เราต่อ 25,000 ดอง (50 บาท)

ตอนแรกแม่ค้าไม่ยอม แต่แม่กับน้าๆ ซื้อของที่ร้านนี้กันเยอะ

เค้าก็เลยโอเช

สรุปแล้ว คืนนั้น แม่กับน้าๆ ช้อปกันกระจาย

ในขณะที่เราได้ของมาแค่นี้เอง ^^

ระหว่างที่รอแม่กับน้าซื้อของ เรากับคุณแฟนเดินไปซื้อไส้กรอกมากิน

ที่นั่นมีขายทั่วไป เหมือนลูกชิ้นปิ้งบ้านเราเลยอ่ะ เห็นขายอยู่ตามท้องถนน

ไม้ละ 10,000 ดอง รสชาติโอเคนะคะ เราชอบ อร่อยดี

ราดซอสพริกเผ็ดๆ หอมๆ อยู่ฮานอย 3 วัน กินไส้กรอกเล่นทุกวันเลยอ่ะ ^^

ตอนที่ช้อปปิ้งกันที่นี่ พอเริ่มดึก คนเริ่มเยอะมากก

กลุ่มเราขนาดระวังตัวกลัวถูกกรีดกระเป๋ากันนะคะ แต่ยังไม่วายโดนเข้าจนได้

แม่โดนล้วงกระเป๋าค่ะ กระเป๋าตังค์ฝากไว้ที่เราเลยไม่หายไป

แต่ซองแว่นตา แม่ใส่ในกระเป๋าผ้าลักษณะคล้ายกระเป๋าตังค์

แม่เสียบเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว ระหว่างที่เลือกซื้อของ คนก็เยอะ

เลยโดนดึงไปตอนไหนไม่รู้ตัว แม่เลยเศร้าใจไปจิ๊ดนึง

แต่ยังดีที่ใส่แว่นอยู่ อันที่หายไปเป็นแว่นตาสำรองของแม่

แต่ก็นั่นแหล่ะ.....คุณนายก็บ่นกระปอดกระแปดว่าเสียดายจริงๆ






ช้อปปิ้งจนขาลากกันแล้ว เดินกลับโรงแรม อาบน้ำนอนดีกว่า เก็บแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้ต่อค่ะ

ปล. ภาพปักที่หัวเตียง ชอบจังเลยอ่ะ




Create Date : 11 มกราคม 2553
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 17:30:23 น.
Counter : 993 Pageviews.

0 comment
ซินจ่าว ฮานอย ปี 53 (วันที่ 1)
วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2553.....

ชีพจรลงเท้าตั้งแต่ต้นปี

ลากกระเป๋าเดินทางขึ้นแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ตีสามกว่าๆ

นัดกับน้าๆ ไว้ที่สนามบิน เราจะไปเที่ยวฮานอยกันค่ะ ^^

เรื่องของเรื่องมาจากโปรของแอร์เอเชีย ทำให้ครอบครัวเราจองตั๋ว

ไปกลับฮานอยรวมภาษีสนามบินทุกสิ่งอย่างในราคา 1,680 บาท

เช็คอินที่เค้าท์เตอร์แอร์เอเชียตอนตีสี่กว่าๆ คนเยอะเหมือนกันค่ะ

แลกเงินไทยให้เป็นเงินดอลล่าห์ประมาณสองหมื่นกว่าบาท

ได้ตังค์ $ 600 (rate 33.64 บาท/$)

เช็คอินเรียบร้อยแล้ว ครอบครัวเราทั้ง 6 คนก็ไปตรวจเอกสารที่ ตม. กันค่ะ

เอกสารเรียบร้อย เดินเข้าไปข้างในเจอสัญลักษณ์นี้เลยค่ะ.....

เลี้ยวขวาไป Duty Free โลด

เข้ามาข้างในแล้ว คนยังน้อยๆ อยู่เลย

เดินดูของใน Duty Free ชิลๆ แป๊บนึง ไม่ได้ช้อปอะไรเลยค่ะ

เก็บตังค์ไว้เที่ยวก่อนดีกว่า เดินไปรอที่ gate กันดีกว่าค่ะ






เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยแล้วก็นั่งเม้าท์รอเวลากันที่ gate

ได้เวลา 6.55 น. พนักงานแอร์เอเชียก็เรียกให้เข้าแถวตรงเวลาเลยค่ะ ^^

เมฆเยอะมากก เหมือนเราอยู่บนสำลีเลย

ไม่เคยขึ้นเครื่องบินท่ามกลางเมฆหนาขนาดนี้เลยนะเนี่ย

อยู่บนเครื่องบิน แอร์เดินมาแจกเอกสารให้กรอกข้อมูล

เพื่อไปยื่นที่ ตม.เวียดนามค่ะ มีกรอกรายละเอียดตัวเรานิดหน่อย

เช่น ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ ไฟล์ทที่บิน โรงแรมที่พัก อะไรทำนองนั้น

เกือบสองชั่วโมงก็เข้าเขตประเทศเวียดนามแล้วค่ะ






ประมาณแปดโมงเช้าถึงสนามบินนอยไบ

เดินลงจากเครื่องไปตามงวงช้าง เข้าไปตรวจเอกสารที่ ตม.

เจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่ยิ้มแย้มเลย หน้าตาเฉยสนิท ต่างจาก ตม.บ้านเราจริงๆ

พอตรวจเอกสารเรียบร้อย เราก็เดินไปรับกระเป๋ากันค่ะ

จากนั้นก็เดินไปหน้าสนามบิน เรียกแท็กซี่เพื่อเข้าเมืองฮานอย

ที่ประตูด้านหน้ามีจุดเรียกแท็กซี่คล้ายๆ สุวรรณภูมิบ้านเราเลย

ก่อนมา หาข้อมูลจากในบอร์ดนี้มาแล้วว่า วิธีเข้าเมืองมีหลายวิธี

ที่นิยมกันพอสมควร คือ นั่งรถเมล์เข้าเมือง

แต่การมาเที่ยวครั้งนี้ของเราเป็นทริปครอบครัว แม่กับน้าๆ มาด้วย

เรากับคุณแฟนเลยตัดสินใจเหมาแท็กซี่ดีกว่าค่ะ

มีป้ายบอกราคาชัดเจนว่า ถ้ารถใหญ่ 7 ที่นั่งราคา $16

แพงกว่าราคาที่เราได้ข้อมูลมานะนี่ เพราะมีข้อมูลว่าราคาจะอยู่ที่ $12-$15

แต่ช่างมันเถอะ เพราะอยากเข้าเมืองเร็วๆ

ที่นี่ขับรถกันตามใจฉันมากๆ นั่งอยู่บนแท็กซี่มีลุ้นตลอด

ที่สำคัญ.....ได้ยินเสียงแตรรถตลอดเวลา

สัญลักษณ์เมืองฮานอยเค้าเลยค่ะ ได้ยินเสียงปิ๊บ ปิ๊บ จนชินหูกันไปเลย

วิวสองข้างทาง อากาศดูแห้งๆ คงเพราะเรามาเที่ยวหน้าหนาวของเค้าอ่ะค่ะ

ข้ามสะพานแม่น้ำแดงแล้วค่ะ แสดงว่าจะเข้าตัวเมืองฮานอยแล้ว

สนามบินนอยไบห่างจากตัวเมืองฮานอยประมาณสามสิบกว่ากิโล






รถแท็กซี่มาส่งที่ถนนทางเข้าโรงแรม ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบชั่วโมง

เพราะรถวิ่งไม่เร็วค่ะ รู้สึกเหมือนกับว่ากฎหมายของเค้ากำหนดไว้

เราจองโรงแรมกับทาง Hotel club ไว้ก่อนที่จะมาที่นี่

โรงแรมแรก คือ Golden Sun ได้ห้องพัก 2 ห้อง คือ แม่กับน้าๆ พัก

และโรงแรมที่สอง คือ Morning Star ได้ 1 ห้องพัก คือ ห้องเรา

โรงแรมอยู่ตรงข้ามกันค่ะ ใกล้ทะเลสาปคืนดาบจิ๊ดเดียว เดิน 2 นาทีถึงทะเลสาป

ยืนตรงป้ายถนน มองย้อนกลับไปเห็นมุมทะเลสาปแล้วค่ะ ตรงหลังคาสีแดงๆ

พอหันหลังให้ทะเลสาป จะเดินเข้าถนนหน้าโรงแรมที่พัก

เห็นป้ายชื่อโรงแรม Morning Star เลยค่ะ ป้ายขาวๆ ที่อยู่ด้านขวามือ

หาง่ายมากๆ เดินเข้าถนนนี้ยังไม่ถึงสิบก้าวเลย






ตรงกันข้ามของโรงแรม Morning Star คือ โรงแรม Golden Lake

ท่าทางสะอาดสะอ้านดีเหมือนกันค่ะ แต่เราไม่ได้จองที่นี่ ^^

ถัดจากโรงแรม Golden Lake คือ โรงแรม Loyalty

ถัดจากโรงแรม Loyalty ก็เป็นโรงแรม Golden Sun แล้วค่ะ

เราจะเข้าไปเช็คอินที่นี่กันก่อน ส่งแม่กับน้าๆ ให้พักผ่อนล้างหน้าล้างตากันค่ะ






ห้องพักของแม่กับน้าๆ อยู่ชั้นสองห้องติดกัน ที่นี่มีลิฟต์นะคะ

แต่เราพักชั้นสองก็เลยเดินขึ้นไปพักแทน ห้องเล็กๆ แต่ตกแต่งได้สวยดี

ห้องตกแต่งด้วยสีเขียว เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตากันก่อนค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบตามโรงแรมทั่วไป ห้องน้ำสะอาดดีค่ะ

พนักงาน Golden Sun ให้กรุ๊ปเราไปทานมื้อเช้าได้ฟรีค่ะ เพราะมากันแต่เช้า

เราบอกว่า เราพักที่นี่ 4 คนนะ เพราะห้องพักที่นี่ไม่พอสำหรับกลุ่มเรา (6 คน)

เราเลยต้องแยกไปพักที่ Morning Star

พนักงานที่ Golden Sun บอกว่า น่าเสียดายนะเพราะที่ Morning Star ราคาแพงกว่า

ใช่ค่ะ ที่ Golden Sun เราจองมาในราคา $25 ต่อห้อง

แต่ที่ Morning Star ราคา $30 ต่อห้อง

ห้องอาหารอยู่ชั้น 7 ลิฟต์ที่นี่มีแค่ชั้น 6 อีก 1 ชั้นเดินขึ้นบันไดไปค่ะ

วิวห้องอาหารเห็นทะเลสาปคืนดาบด้วย

เราก็เลยได้นั่งกินกาแฟที่นี่ฟรีไปด้วย ^^






ส่งแม่กับน้าๆ พักผ่อนที่ห้องพักก่อน

ส่วนเรากับคุณแฟนเดินกลับไปที่โรงแรมของเราเพื่อเช็คอินกันค่ะ

เปิดประตูโรงแรมเข้ามาเจอโซฟาสีแดง เช็คอินห้องพักกันค่ะ

มีเน็ตให้เล่นฟรีด้วย 2 เครื่องที่ล็อบบี้ข้างล่าง

หยิบนามบัตรโรงแรมติดมือมาก่อน กันหลงทาง

ด้านหลังนามบัตรมีแผนที่ของโรงแรม ได้พักห้อง 401 ค่ะ

ประตู กลอนของโรงแรมดูแน่นหนาดี ใช้ได้ๆ

มีชั้นวางรองเท้า + รองเท้าแตะเตรียมไว้ให้ 3 คู่ค่ะ

ภายในห้องพักค่ะ ทีวี LCD ด้วยอ่ะ ห้องกว้างดีค่ะ ไม่อึดอัด ชอบๆ

มุมประตูที่เปิดไปที่ระเบียงห้องได้ มองไปที่มุมด้านเตียงนอน

เตียงนอนชัดๆ ค่ะ มีภาพปักที่หัวเตียงด้วย สวยมาก

มีตู้เสื้อผ้าวางอยู่ข้างๆ เตียงนอนด้านนึง ด้านประตูทางเข้าห้องพักค่ะ

บนฝ้าเพดานมีดาวแปะอยู่ด้วย สวยเชียว






ไปสำรวจห้องน้ำที่นี่ดีกว่าค่ะ

เปิดประตูห้องน้ำเข้ามา ด้านซ้ายเป็นชักโครก

ด้านขวามือเป็นอ่างล้างหน้า ของใช้พื้นฐานโรงแรมเตรียมให้นะคะ

แต่ที่เห็นตรงอ่างล้างหน้า ของๆ เราเตรียมไปเองค่ะ ^^

ที่นี่มีไดร์เป่าผมให้ด้วย ชอบๆ

ของที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ค่ะ

สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน คอนคอนบัด หมวกคลุมผม

ผ้าขนหนู ไดร์เป่าผม อ่างอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้พร้อม






เดินออกมาชมวิวที่ระเบียงห้องค่ะ

มองไปทางขวามือเห็นโรงแรม Golden Sun ที่อยู่เยื้องๆ กัน

ตรงที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหน้าโรงแรมค่ะ

ลืมบอกไปค่ะ ปลั๊กไฟที่นี่ใช้เหมือนบ้านเราเลยนะคะ สบายเลย

เก็บข้าวเก็บของเรียบร้อยดีแล้ว

เราก้อเตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อค่ะ

ลงลิฟต์ไปที่ล็อบบี้ข้างล่าง ฝากกุญแจห้องพร้อมพาสปอร์ต

จริงๆ แล้วทางโรงแรมขอพาสปอร์ตเรามากรอกข้อมูลที่พักแล้วคืนให้เลย

แต่ได้ข้อมูลมาว่า ที่นี่โดนล้วงกระเป๋ากันเยอะ

เราเองก็ไม่แน่ใจในความปลอดภัยซักเท่าไร ก็เลยฝากพาสปอร์ตไว้ที่โรงแรมเลย

พอเดินไปที่ Golden Sun เพื่อไปรับแม่กับน้าๆ

คุยกับพนักงานที่โรงแรมว่า เราพักที่นี่ 2 คืน ส่วนคืนที่ 3 ยังไม่ได้จองโรงแรมเลย

เพราะตอนที่แพลนทริปค้างที่ฮานอย 2 คืน แต่ก่อนมาที่ฮานอยถูกเปลี่ยนไฟล์ท

ก็เลยทำให้เราต้องค้างที่นี่ 3 คืนแทน ทาง Golden Sun เช็คว่าคืนที่ 3 มีห้องหรือป่าว

ปรากฎว่าไม่มี สุดท้ายไปๆ มาๆ ทาง Golden Sun เดินไปคุยกับ Morning Star ได้ความว่า

ให้กรุ๊ปเรา (แม่กับน้าๆ) ย้ายจาก Golden Sun ไปพักที่ Morning Star ตั้งแต่คืนแรกเลย

แล้วทาง Morning Star จะล็อคห้องคืนที่ 3 ให้กลุ่มเรา

ซึ่งเราต้องจ่ายห้องพักที่แพงขึ้น ( Morning Star $30 / Golden Sun $25)

เราก็อึ้งๆ ปรึกษากับคุณแฟนอยู่ ทาง Golden Sun เลยบอกเราว่า

ทาง Golden Sun จะจ่ายส่วนที่เพิ่มให้กลุ่มเราเอง แต่เราซื้อทัวร์ไปฮาลองเบกับเค้านะ

ในราคา $22 ต่อคน เราขี้เกียจคิด ขี้เกียจต่อราคาก็เลยโอเค

ย้ายของแม่กับน้าๆ มานอนที่ Morning Star กันหมดเลยค่ะ

สุดท้ายแล้วเลยได้นอนที่เดียวกันทั้ง 3 ห้องพัก และ 3 คืนเลย ก็สะดวกดี ^^

ระหว่างที่ย้ายข้าวย้ายของกัน เราก็แพลนทริปของเราต่อค่ะ

ได้แผนที่มาจาก Golden Sun






คำอธิบายในแผนที่ที่เรามาร์คไว้เป็นจุดๆ

* = โรงแรม Morning Star

1 = ข้างทะเลสาปคืนดาบที่ฮานอยจัดสวนดอกไม้ฉลองวันปีใหม่

2 = ร้านไอติมในตำนาน

3 = โบสถ์เก่าเมืองฮานอย

4 = ร้าน dac kim บุ๋นชาที่อร่อยมากๆๆๆๆ

5 = โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ

6 = ร้านเบเกอรี่

7 = ทางเข้าถนนคนเดินตอนกลางคืนตลอดเส้นทางไปตลาดดองซ่วน

8 = ถนนของฝากโดยเฉพาะแหล่งรวมขายผ้าไหม (คุณนายแม่ถูกใจนักหนา)

9 = ร้านขนมหวานข้างทาง (ผลไม้ราดนมข้นโปะน้ำแข็งไส)

10 = สะพานแดงและวัดเนินหยก

รูปแผนที่อีกทีค่ะ พยายามหามุมถ่ายให้ชัดๆ ที่สุดแว้ววว

ได้เวลาเดินเที่ยวตามแต่ละจุดกันแล้วค่ะ....






ลืมเล่าไปค่ะ ตอนมาถึงที่สนามบินนอยไบ

ก่อนออกจากสนามบินเราไปแลกเงินดองกันก่อนค่ะ

แลกไป $250 ได้เงินมา 4,619,750 ดอง ( rate 18,479 ดอง/$ )

วุ้ยยย รวยเป็นเศรษฐีนีกันไปเลย พกเงินเป็นล้านๆ ฮ่ะ ^^






แยกเงินเก็บกับคุณแฟนสองคน แบ่งกระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อย

เผื่อโดนล้วงจะได้ไม่หมดตัว เอิ๊กก

ของใช้ที่จำเป็นสำหรับเราในทริปนี้นอกจากเงินก็สองสิ่งนี้เลยค่ะ

แผนที่และเครื่องคิดเลข พร้อมลุยแล้วค่ะ ^^




Create Date : 11 มกราคม 2553
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 17:29:56 น.
Counter : 1405 Pageviews.

0 comment
เตรียมตัวไปฮานอย
วันพุธที่ 30 ธันวาคม 52.....

ที่ออฟฟิศวันนี้เงียบเหงามากกกก

พี่ๆ น้องๆ ไปเที่ยวปีใหม่กันหมดแว้วว

ในขณะที่เรากับคุณแฟนยังคง.....มาทำงานเช่นเดิม

จัดการธุระงานการที่บริษัทให้เสร็จช่วงเช้า

พอตอนกลางวันก้อรีบบึ่งไปรับชุดครุยที่ปิ่นเกล้า

บ่ายๆ เคลียร์งานการบนโต๊ะ เอกสารรอให้เซ็นต์อยู่เต็มตระกร้า

จนเวลานี้.....เพิ่งจะเสร็จงาน

โทรคุยกับแม่เรื่องพาสปอร์ตว่าเรียบร้อยหรือป่าวว

เพราะเราจะไปเที่ยวฮานอยกันหลังปีใหม่

หลังจากที่สอยตั๋วโปรโมชั่นของ Air Asia ได้ในราคาไปกลับ 1,796 บาท/คน

ทริปฮานอย.....จึงเริ่มต้นขึ้น.....อย่างไม่ตั้งใจ........



Create Date : 30 ธันวาคม 2552
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 17:29:29 น.
Counter : 474 Pageviews.

1 comment
1  2  

chicken demon
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]



Friends Blog
[Add chicken demon's blog to your weblog]