Poetry is wisdom that enchants the heart.
Wisdom is poetry that sings in the mind.
Poetry is not an opinion expressed.
It is a song that rises from a bleeding wound or a smiling mouth......
"If you can't love me, love my poetry."
|
||||
รัตนโกสินทร์
รัตนโกสินทร์
ดุจผืนดินประดับแคว้นแดนสวรรค์ ด้วยดอกไม้หลายหลากฝากสัมพันธ์ เชื่อมความฝันขอบฟ้าอารยชน ดั่งหม้อหลอมใบใหญ่ในโลกกว้าง หลอมศาสน์ร่างวิสัยทัศน์ศรัทธาผล เสรีสิทธิ์รังสรรค์พันผูกคน พระภูมิพลเพื่อยึดมั่นพันผูกใจ ประวัติศาสตร์อีกหน้าจึงจารึก ตกผลึกสำเนียงเสียงสมัย สู่ชีวิตวิญญาณสานเยื่อใย เชื่อมเทศไทยด้วยธรรมเพื่อนำทาง พหุนิยมเปิดรับเธอกับฉัน เทคโนโลยีสัมพันธ์จึงสรรค์สร้าง เทพโลกาภิวัตน์ค่อยจัดวาง เปิดโลกกว้างให้เราคู่รู้จักกัน รัตนโกสินทร์แผ่นดินใหม่ จึงหลอมสองดวงใจให้รักมั่น ตราบกรุงรัตนโกสินทร์สิ้นชีวัน จะงดงามความสัมพันธ์ ฉันรักเธอ- กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานแห่งกาลเวลา
พิซซ่าหน้าลาบร้อย............รสสวรรค์
สะระแหน่ชีสอบสรร.......เสกสร้าง ลาวไทยฝรั่งจีนปัน..................ปรุงแต่ง เติมนอ ผสมศาสตร์เธออาจอ้าง...........อวดพื้นพสุธา พิซซ่าหน้าลาบรส สะระแหน่เนยมะนาว จีนไทยฝรั่งลาว เธอรวมศาสตร์ชาติพันธุ์ มะตะบะใส่ไก่บ้าน กรอบน่าทานแป้งหวานมัน หอมเครื่องเทศสวรรค์ คลุกทูน่าพาเสวย ฉู่ฉี่ปลาแซลม่อน มิอาจเทียบยกเปรียบเปรย ซูซ่าท่าทีเผย กระเพาะช้ำน้ำลายสอ หอมกลิ่นหมูหันเจียน ใจจะขาดน้ำตาคลอ ข้าวเหนียวปั้นคำรอ จะรีบจ้ำกับป่นปลา เกบั๊บกับปลาส้ม ใส่บักนัดจัดจานพา เธอคิดประดิษฐ์มา ประยุกต์อ้างอย่างสร้างสรรค์ เฟรนช์ฟรายเสียงขู่ฟ่อ เพราะเฟรนช์คิสยังติดพัน คิสเจ้าเฝ้ารำพัน เพลินรสลิ้นถวิลถึง ราเม็งต้มยำกุ้ง พริกปรุงป่วนลิ้นอวลอึง เผ็ดมันฉันตะลึง ติดเปรี้ยวหวานปานยิ้มสาว พาสต้าน้ำยาไทย สมุนไพรใช้ดับคาว เส้นนุ่มหนุบหนับยาว เชื่อมโยงรสซดน้ำแกง ติ่มซำเธอทำใหม่ ขนมจีบไส้หมูพะแนง กลิ่นฝอยมะกรูดแทง ทะลวงสิ้นทั้งวิญญาณ มันข้าวบาสมาติ สติหายแทบวายปราณ เห็นพุงกะทิปาน เปรียบห่วงยางข้างเอวเสมอ ก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวพะโล้ ทวนความหลังครั้งแรกเจอ ฉันเกี้ยวเกี่ยวก้อยเธอ ทำแต๊ะอั๋งหวังชิมลอง บาแก๊ตราดไตปลา แสบสันพาน้ำตานอง ร่ำไห้ใจหมางหมอง สะอื้นช้ำจำจากนาง สเต๊กราดแกงส้ม เนื้อผสมรสแกงพลาง เพลิดเพลินเนื้อนุ่มคราง โครมครุบน้องร้องโรมรัน ผัดส้มตำเกี๊ยวซ่า เธอผลัดผ้าพาผ่านผัน โลกเวียนเปลี่ยนปีวัน จึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนคน นวลนางแห่งกาลเวลา ผสมพามนุษยชน เปิดโลกทัศน์จน จะหลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียว ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ส่ง...อานิสงส์สวัสดิ์ด้วย.............ดวงกมล
ท้าย...แห่งภัยพิบัติผล.................ผ่านสู้ ปี...ปรับกลับตรองตน...................ตามเหตุ เก่า...เปลี่ยนผิดเรียนรู้.................แรกซึ้งศึกษา ต้อน...รับทุกข์เทวษสร้าง...........ประสบการณ์ รับ...วิสุทธิ์พุทธสาร...............วิเศษแท้ ปี...หมดมิหมดมาร..................มลายโศก ใหม่...ทุกข์รับกลับแก้.............กลบร้ายกลายเกษม โคลงแรกนัยชีวิต
โคลง...ตลกคำตลาดคล้าย............ตดครู
แรก....แต่งติดขัดดู.....................กระดากด้วย นัย....อุบาทว์บาดในหู...............โหมแหก ชีวิต....กูหวิดม้วย....................หมกม้วยเหม็นโคลง โคลง...จัดความจิตคล้อย..........แจงคำ- แรก ...ต่อรสบทธรรม...........ทิพย์อ้าง ใน....นัยนิพพานนำ................หนุนย่อม- ชีวิต...วิกฤติมล้าง..................หมดมล้างทางโคลง I think therefore I am not
จับลมปราณทั้งปวงในดวงจิต
เขาครุ่นคิดคร่ำเคร่งเพ่งกสิณ มนตร์คาถาท่องจำยังย้ำยิน หวังดวงจินต์แจ่มจ้าคว้านิพพาน เขาผูกติดกับอัตตาสมาบัติ หลงกำหนัดละเลงรุกจึงพลุกพล่าน ยิ่งยึดความสันโดษโชติญาณ ยิ่งดักดานในตัณหาห้วงอารมณ์ ถึงนิพพานไม่ได้ใจจึงทุกข์ กิเลสรุกกระหน่ำลาญผสานผสม จิตยื้อแย้งแย่งหน้ากรรมพาตรม กำเนิดปมเปรอะเปื้อนเลอะเลือนไป สับสนซ้อนแทรกฝ่าสมาธิ ครรลองตริตามเตลิดเกิดสงสัย ตะลึงหลง ตัวกู อยู่ร่ำไป แล้วเมื่อไรจะดับทุกข์รุกราคี เขาจึงหยุดแค้นผิดจิตสงบ กั้นทำนบอหังการมารวิถี เปิดดวงไฟปัญญาดับกาลี ฆ่าความอยากมากมีที่แจกแจง แค่ "คิดเป็น" ครั้งหนึ่ง จึงหยุด "เป็น" ด้วยปัญญาเยือกเย็นซึ่งเร้นแฝง พลังจิตปิดม่านการแสดง รอรับแสงส่องสว่างทางนิพพาน |
เชษฐภัทร
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |