การแสดงพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของ Kia ในไทย ด้วยการเผยโฉม 2 รุ่น และเป็นรถยนต์ที่โดดเด่นในการปฏิวัติด้านการออกแบบของแบรนด์ Kia งานวิศวกรรมยานยนต์ระดับโลก และเทคโนโลยีไฮบริดระดับสูง
จากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ผลิตภัณฑ์ Kia สามารถดูแลและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อปีที่ผ่านมียอดส่งมอบไม่น้อยกว่า 2 ล้านคัน และจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 27% จากปี 2009

Kia Picanto K1 เป็นรถขนาดกระทัดรัดที่แนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยได้รับการออกแบบและการปรับโครงสร้างให้โดดเด่น บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง และความสมบูรณ์แบบ
ด้วยความยาวที่กว้างกว่ารุ่นเดิม การขยายระยะฐานล้อ ทำให้ Kia Picanto K1 5 ประตู แฮตช์แบ็ค เป็นทางเลือกที่ดี โดยคาดจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในประเทศไทย และเป็นหนึ่งสำหรับคู่แข่งที่สำคัญในตลาดรถยนต์กลุ่มนี้
ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความยาวขนาด 3.6 เมตร ของ Picanto K1 มีการปรับเปลี่ยนจาก “ความน่ารัก" และ “ความเป็นมิตร” เป็น “หนุ่มสาว” และ “หล่อ” ด้วยการออกแบบเพื่อการใช้งานจริง ดูดีและเซ็กซี่ในทุกสัดส่วน ทั้งการออกแบบเพื่อแสดงให้เห็นพละกำลัง Picanto K1 นับเป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของรถในเซกเมนต์ดังกล่าว
ภายในห้องโดยสารของ Picanto K1 จะเสนอความสะดวกสบายแบบเดียวกับรถระดับหรู ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งมายมาย นับเป็นครั้งแรกสำหรับรถในเซกเมนต์นี้ การคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพ และอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่นำเสนอในพรีเมียมพรีเมี่ยม ภายในตกแต่งสไตล์สปอร์ต เท่ห์ทันสมัย และหรูหราในทุกความต้องการของลูกค้า
Picanto K1 มีประสิทธิภาพสูง จากเครื่องยนต์ “Kappa” ที่ทรงพลังของ Kia ในไทย ได้นำเข้าเครื่องยนต์ Kappa ขนาด 1,250 ซีซี 87 แรงม้าพร้อมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 105 กรัม

หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอเมริกา Kia ได้นำรถยนต์ซีดานไฮบริด “Optima K5 Hybrid” จัดแสดงให้คนไทยเป็นครั้งแรก โดย Kia ได้ยกระดับและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อ Kia เข้าสู่ยุค “EcoDynamics” ด้วยการบุกเบิกเทคโนโลยีไฮบริดระบบใหม่ ในรถยนต์ซีดานที่มีความยาวขนาด 4.85 เมตร อันนำไปสู่การผลิตรถยนต์ Kia ในอนาคต
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2011 Kia จะเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์รุ่นดังกล่าว ซึ่ง Optima K5 Hybrid เป็นการปฏิวัตินวัตกรรมใหม่อย่างแท้จริง โดยการพัฒนาเครื่องยนต์ระดับไฮบริด (เครื่องยนต์เบนซิน และมอเตอร์ไฟฟ้า) 209 แรงม้า และแรงบิด 265 นิวตัน-เมตร ดังนั้น รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Kia จึงเป็นการผสมผสานประสิทธิภาพ เร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 9.2 วืนาที และความเร็วสูงสุดที่ 195 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ผนวกกับความเป็นผู้นำด้านการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ด้วยความสำเร็จในปรับปรุงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 40.7% ซึ่งต่ำกว่า เมื่อเทียบกับรถยนต์ Optima 2,400 ซีซี ความชาญฉลาด เรียบง่าย และการประหยัดค่าใช้จ่ายของระบบ “parallel hybrid system”, คุณสมบัติพิเศษสำหรับการติดตั้งคลัตช์ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2,400 ซีซี และมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 30 กิโลวัตต์ ทำให้ไม่มีการปล่อยมลพิษออกสู่อากาศในขณะขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า หรือการชะลอและหยุดรถสำหรับการใช้เครื่องยนต์เบนซิน และสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง นับเป็นการสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ด้วยระบบไฮบริดแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง
Kia Optima K5 Hybrid ใช้แบตเตอรีลิเธียม โพลิเมอร์ ด้วยการพัฒนาร่วมกับ LG Chem ด้วยความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพของแบตเตอรี ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุดใหม่ในช่วงอายุการใช้งานอย่างน้อย 10 ปี หรือ 150,000 ไมล์
ด้วยนโยบายการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์ Kia รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในไทย นับเป็นครั้งแรกที่เราเป็นผู้นำการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยนโยบายของการรับประกันคุณภาพ 5 ปี และเป้าหมายการเติบโตของตลาดรถยนต์ในไทย ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้ กับค่าใช้จ่ายที่น้อยลง กับความเป็นผู้นำด้านการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ซึ่งเรามั่นใจว่ารถยนต์ Kia ทุกรุ่น จะเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในตลาดประเทศไทย
นอกจากนี้ ได้นำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขาย ภายในงานมอเตอร์โชว์ โดยผู้ที่สั่งจอง Kia Picanto รถซิตี้คาร์ รับสิทธิพิเศษดาวน์ต่ำเพียง 5% ดอกเบี้ย 1.99 ผ่อนนานถึง 72 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี โดยมีให้เลือกทั้งแบบ เกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ในราคาจำหน่าย 407,000 บาท และ 479,000 บาท ตามลำดับ
ส่วน Kia Soul รถ Trendy Car เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี รับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน และรุ่น K2900 จัมโบ้ปิคอัพ เครื่องยนต์ดีเซล 2,900 ซีซี CRDi รับสิทธิพิเศษประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี พร้อมบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

ผู้ใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม Kia ทั่วประเทศ หรือบู๊ธรถยนต์ Kia A18 ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2554 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี