ชีวิตคู่ที่ดีต้องไม่อายที่จะสื่อสารเรื่องเพศสัมพันธ์

เพศหญิงมักได้รับการสอนสั่งมาว่า ไม่ให้บอกความรู้สึกตรงๆ ออกไป เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นคนไม่มีมารยาท ยิ่งเรื่องสื่อสารของความรู้สึกทางเพศด้วยแล้ว อาจถูกมองว่าเป็นคนไม่รักนวลสงวนตัวได้ ดังนั้นการสื่อสารในเพศหญิงจึงค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงจึงต้องรู้จักพูดสื่อความนัยในเรื่องดังกล่าว

การสื่อสารใน เรื่องนี้นี่สำคัญเพราะถ้าไม่สื่อสารเลย อาจเป็นสาเหตุของโรคที่เกิดจากการเก็บคว่องการความรู้สึกมากเกินไป และไม่ได้รับการระบายออกที่เหมาะสม เช่น โรคปวดศีรษะจากความเครียด โรคเครียดจนหายใจเร็ว หรือหายใจไม่อิ่ม เป็นต้น ในขณะที่การสื่อสารของฝ่ายชายจะเป็นลักษณะตรงไป ตรงมา บางครั้งก็ตรงเกินไป จนขาดการระมัดระวังในคำพูด แถมบางทียังมีลงมือลงไม้กับคู่สนทนาด้วย แต่เพศชายส่วนใหญ่จะไม่ค่อยจะมีอาการของโรคที่เกิดจากการเก็บความรู้สึก

หมอมีตัวอย่างของการสื่อสารของผู้ป่วยที่เข้ามาครับ..

"หมอครับผมขอปรึกษาหน่อยผมมีปัญหาอวัยวะเพศไม่สู้" ผู้ป่วยชายรายหนึ่งเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่คลินิกด้วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ บกพร่อง ในขณะที่ผู้ป่วยหญิงอีกรายหนึ่งเดินเข้ามาพบแพทย์ด้วยปัญหาเดียวกันที่เกิด ขึ้นกับสามี และมีผลให้ตนเองไม่ได้ความสุขจากเพศสัมพันธ์ โดยสื่อสารว่า

"คุณหมอคะดิฉันปวดศีรษะมากเลยค่ะช่วงนี้" แต่ไม่ได้บอกปัญหาที่เกิดขึ้นแบบตรงๆ ดังนั้น เธอจึงได้รับยาแก้ปวดศีรษะ ไปหลายครั้ง จนกว่าแพทย์ผู้ตรวจจะสื่อสารได้ว่าปัญหาที่แท้จริงเป็นอย่างไร

ผู้ป่วยหญิงวัยรุ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่มาตรวจปัสสาวะเพื่อพิสูจน์การตั้ง ครรภ์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บอกกับแพทย์ผู้ตรวจว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครมาก่อน แต่ปรากฎว่าผลปัสสาวะเป็นบวกแสดงการตั้งครรภ์

การสื่อสารที่ดีมักเป็นการสื่อ สารที่บอกความรู้สึกของตนเองมากกว่าการไปวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของอีกฝ่าย หนึ่ง เช่น กรณีสามีเป็นคนพูดเสียงดังทำให้ภรรยาที่เป็นคนขวัญอ่อน ตกใจง่าย จะรู้สึกสะดุ้งสุดตัวทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสามีพูดเสียงดัง ผู้เป็นภรรยาอาจจะใช้คำพูดว่า

"ฉันรู้สึกตกใจกลัวทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดัง" ดีกว่าที่จะพูดว่า

" ทำไมเธอพูดเสียงดังใส่ฉัน" เพราะจะเป็นคำพูดเชิงตำหนิมากกว่าที่จะเป็นคำพูดเชิงบอกความรู้สึกที่จะทำ ให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจความรู้สึกของเรา ไม่ควรไปตำหนิต่อว่าเขาแม้จะเป็นการพูดไปโดยไม่ตั้งใจ

ความเข้าใจธรรมชาติของแต่ละเพศจะช่วยลดปัญหาเรื่องการสื่อสารลงไปได้อย่างมาก ก่อเกิดความเข้าใจอันดีต่อกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การเป็นสามีภรรยากันนั้นชีวิตคู่ควรสื่อสารกันให้เข้าใจ เช่น เมื่อมีความต้องการทางเพศก็ต้องสื่อสารกัน อาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฝ่ายชาย แต่สำหรับฝ่ายหญิงนั้นอาจจะสื่อสารตรงๆ ได้ยาก ก็อาจสื่อสารทางอ้อมได้ เช่น อาจจัดบรรยากาศที่คุ้นเคย การนวดร่างกายให้กันและกันก็เป็นสิ่งนำร่องไปสู่การมีความสัมพันธ์ที่ลึก ซึ้งต่อกันได้

บางท่านไม่สื่อสารกันให้เข้าใจทำให้ต้องใช้อุปกรณ์เสริมทางเพศ หรือ SEX TOY ช่วยเหลือตนเอง นั่นเป็นทางออกที่ยิ่งทำให้ห่างเหินกันไปอีก ถ้านำอุปกรณ์เสริมไปใช้เป็นอุปกรณ์หลักของชีวิตสมรส ความจริงแล้วอุปกรณ์เสริมทางเพศ หรือ SEX TOY นั้นมีคุณและโทษขึ้นกับทัศนคติและมุมมองของผู้ใช้ ถ้าใช้ไปในทางที่ดีก็เป็นประโยชน์ได้ เช่น สามีอาจใช้อวัยวะเพศหญิงเทียมในขณะที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ ภรรยาอาจใช้อวัยวะเพศชายเทียมเมื่อสามีเดินทางไกลต่างประเทศ เป็นต้น

ในส่วนตัวในชีวิตคู่ถ้ามองในแง่ดีการใช้อุปกรณ์เสริมทางเพศนั้นย่อมดีกว่าการนอกใจกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาเป็นไหนๆ

ืที่มา...................talkaboutsex.thaihealth

Create Date : 19 กรกฎาคม 2556
Last Update : 19 กรกฎาคม 2556 21:25:50 น.		0 comments
Counter : 1366 Pageviews.
Share Tweet