ในการจะซื้ออะไรสักอย่าง สิ่งที่เราจะใช้ในการตัดสิน คือ ราคาที่จ่ายออกไป และคุณค่าที่ได้รับกลับมา ในเรื่องราคาเป็น Common Sense ส่วนตัว จะว่าไปในบางครั้งก็แตกต่างตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน อันนี้เห็นชัดมากคือ กาแฟ ที่มีตั้งแต่ราคาไม่กี่บาท จนแก้วละหลายร้อย แต่กาแฟแก้วละหลายร้อยก็ไม่เห็นจะล้มหายตายจาก กลับกันขายดีเสียอีกนี่สิ ยิ่งกว่านั้นคนที่บ่นว่ากาแฟแก้วละหลายร้อยแพง พอซื้อ 1 แถม 1 ก็คนเหล่านี้แหละไปต่อแถว แสดงว่ากาแฟแก้วละหลายร้อยมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้

วกกลับมาที่การลงทุน การจะลงทุนอะไรสักอย่างก็คล้ายๆกับซื้อของ คือ ราคาที่จ่ายไปและคุณค่าที่ได้รับ แต่ความยากคือการจะบอกว่าถูกหรือแพงนี่แหละ เพราะกิจการไม่เหมือนกาแฟ 1 แก้ว เพราะ Scale มันใหญ่ขึ้น จะว่าไปอะไรที่ทำ Scale ใหญ่ๆกว้างๆมองยากนะ เช่น กาแฟ 1 แก้ว /กาแฟ 100 แก้ว/ร้านกาแฟ 1 ร้าน/ร้านกาแฟ 100 ร้าน การตีมูลค่าที่มีขนาดใหญ่และกว้างขึ้นก็ยากขึ้น ดังนั้นการตีมูลค่าหุ้นสักตัวว่าถูกหรือแพงเลยยาก หลักยึดของเราคือ พยายามมองเหมือนหาคนสักคนที่เราจะร่วมกิจการกับเค้า ดูสิ่งที่เค้ามีอยู่ มากกว่าสิ่งที่จะเกิด มองกิจการเป็นคนหนึ่งคน มีเงินสดติดตัวเท่าไร มีที่ดินตรงไหนราคาเท่าไร มีรถขับมั้ย มีบ้านมั้ย แล้วต่อมาก็มีกิจการอะไรทำอะไร มีเงินเข้ามาจากทางไหน เดือนละเท่าไร สุดท้ายสำคัญสุดคือนิสัยคนนั้นว่าดีหรือเปล่า ข้อนี้สำคัญนะครับ ถ้าเค้าเป็นคนไม่ดี เค้าก็โกงเราได้จริงมั้ย ซึ่งทั้งหมดนี้หาได้จากงบการเงินกิจการที่กำลังประกาศอยู่ได้เกือบทั้งหมด

 จะว่าไปในตลาดหุ้นในภาวะร้อนแรงตอนนี้ก็มีหุ้นหลายๆตัวที่นิสัยดี ปันผลต่อเนื่อง มีเงินสดมากเหลือ รายได้ต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อโสดฐานะดีเสน่ห์แรง สาวสวยรวยเอาใจเก่ง ที่สำคัญ ราคาไม่แพงอีก แล้วทำไมคนถึงไม่สนใจไม่ขึ้นเป็นเด้งสองเด้งแบบหุ้นหลายๆตัว นั่นแหละครับโอกาสในการเก็บของดีราคาถูก โชคดีในการลงทุนครับv