(=^_^=) [พุงกามามะ] –เมื่อสายตาของผู้หวังดีจับมองอยู่ พวกเราจะแสดงให้รู้ถึงศรัทธา..(=^_^=)
สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้ง ในทรรศนะก่อนเกม คาดว่าคงมีหลายท่านกำลังคิดในใจว่าผมจะมาเขียนอีกหรือเปล่า หลังจากสถิติถูกทำลายไป แต่ขอบอกแสดงเจตนารมณ์อีกครั้ง ไม่ไปไหนหรอกครับ ยกเว้นจะไล่กัน ถ้าผมพอมีเวลาอยู่หน้าคอมได้ ผมก็จะมาเขียนให้ท่านๆอ่าน และแลกเปลี่ยนกันต่อไป กลับมาที่เกมเยือนฟูแลม เกมนี้เป็นที่จับตาของกองเชียร์ฟูแลมทั้งแท้ และเฉพาะกิจมากมายแน่นอน ในหัวข้อที่ว่าแมนยูจะเป๋ หรือเปล่า ผลจากนัดก่อนจะส่งมามากขนาดไหน ผมไม่ใช่นักเตะ และผู้จัดการทีมคงจะไปตอบตรงนี้ไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นคนที่เชียร์แมนยูมาประมาณหนึ่งต้องบอกว่ารอดูกันดีๆละกันครับ ถ้ากลับมาได้ นี่แหละคือ คุณสมบัติของแชมป์ ซึ่งแมนยูก็แสดงให้เราๆท่านๆเห็นกันมาหลายครั้งแล้ว ไม่ต้องไปไหนไกลก็ต้นปีนี้ หรือเมื่อปีก่อนก็มีให้เห็นมากมาย ดังนั้นสำหรับท่านที่จะดูว่าเป๋ป่าว ต้องบอกว่า รอดูนะจ้ะ

ฟูแลมเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้ดีมาก ถึงมากที่สุดนะครับ สถิติในบ้านนี่ดีมาก และอย่าเอาเกมก่อนหน้านี้ที่พบกันมาเป็นมาตรฐานว่าเกมนี้จะต้องถล่มแน่นอน เพราะตอนนั้นแมนยูอยู่ในช่วงขึ้น ขึ้น อย่างเดียวเลยครับ ทุกคนเล่นมั่นใจ และจังหวะทุกอย่างเป็นใจ แต่ตอนนี้ หลังจากเกมก่อนผมว่าอย่างน้อยเวลา 1 อาทิตย์ ฟูแลมเตรียมแผนบางอย่างมาปิดเกมรุกแมนยูแน่นอน การปิดเจ้าโด้ไม่ให้วิ่งได้ การเข้าบีบบอล เราจะได้เห็นเกมลักษณะนี้แน่นอน แต่จุดที่น่าสนใจอีกอย่าง คือจุดอ่อนของฟูแลมที่เห็นชัดมาหลายนัด คือด้านข้างนี่แหละครับ และอีกอย่างต้องยอมรับว่าทักษะผู้เล่นยังเป็นรองแมนยู หรือลิเวอร์พูลพอสมควร ดังนั้นคงจะต้องอาศัยวินัยในการเข้าประกบ และอาศัยจังหวะที่มีเข้าทำ อีกอย่างการเล่นในบ้านจะช่วยเสริมเจ้าบ้านได้อย่างมากในเรื่องกองเชียร์ การกดดันต่างๆต่อผู้มาเยือน และกรรมการ มาดูผู้เล่นที่น่าสนใจของเจ้าบ้านกันนะครับ

- ซาโมรา และ AJ ถือเป็นตัวรุกที่อันตราย โดยมีลูกเด่นที่แตกต่างกันไป ซาโมรา จะสามารถเล่นลูกโหม่งได้ดี พักบอล และส่งต่อ ในขณะที่ AJ จะวิ่งไปเอาบอลตามช่องได้ค่อนข้างดี ซึ่งถือเป็นอันตราย
- เดมพ์ซีย์ ถือว่ามีความสมดุลย์พอควรทั้งการรุก และรับ ในการรุกทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นลูกโหม่ง หรือไอเดียในการเล่น อีกทั้งสามารถช่วยเกมรับในการไล่บอลได้อีกด้วย

กลับมาที่แมนยู ก่อนที่เราจะมาดูรายละเอียดของการจัดตัวของแมนยู เรามาดูผู้เล่นที่พร้อมในเกมนี้กันนะครับ (?? คือ ยังไม่แน่ว่าพร้อมหรือไม่)

[b]ตำแหน่งผู้รักษาประตู [/b]
Van der Sar
Kuszczak
Foster

[b]กองหลัง[/b]
Neville??
Evra
Ferdinand
O’shea
Eckersley
Fabio
Rafael??
Evans
Vidic

[b]กองกลาง[/b]
Carrick
Scholes
Gibson
Fletcher
Possebon
Anderson

[b]ปีก และกองหน้า[/b]
Park
Nani
Tosic
Welbeck
Berbatov
Giggs
Ronaldo
Tevez
Rooney

เกมนี้ท่านเซอร์น่าจะใช้ตัวผู้เล่นในชุดเมื่อเกมก่อนเป็นส่วนใหญ่ แต่จะมีการเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยประมาณ 3 ตำแหน่ง โดยตัวจริงที่ผมคาดว่าท่านเซอร์น่าจะจัดลงใช้งาน เป็นดังนี้ครับ (ชื่อในวงเล็บ คือ มีโอกาสสอดแทรกนะครับ)


Berbatov
Rooney


Park Ronaldo


Giggs (Scholes) Carrick


Evra Evans Ferdinand O’shea

Van der Sar


[b][u]มาดูจุดที่น่าสนใจในแต่ละตำแหน่งของแมนยูกันนะครับ [/u][/b]

[b] ประตู [/b] – น้าซาร์น่าจะได้รับสิทธิลงในเกมนี้ หลังจากพักมาเต็มๆ 1 อาทิตย์
จากเกมที่เสียไปถึง 4 ประตูในเกมก่อน สิ่งที่ต้องสนใจ คือเรื่องความมั่นใจ และความนิ่งว่าจะเป็นอย่างไร เพราะสองอย่างนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อประตูของแมนยูอย่างมาก แต่ผมเชื่อว่าน้าซาร์เก๋าพอที่จะเล่นในมาตรฐานของตนเอง จะว่าไปเกมก่อนก็ไม่ใช่น้าซาร์ที่พลาด ดังนั้นเชื่อครับว่าน้าซาร์จะเล่นได้ตามมาตรฐานช่วยประคองเกม และเตะเปิดได้อย่างมั่นใจในเกมนี้

[b] แผงหลัง [/b] – คู่หลังตัวกลาง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ใช้บริการเฮียเต่า คู่กับ Evans เนื่องจากพี่วี ติดโดทษแบนไป ขณะที่แบ็คซ้าย ท่านเซอร์น่าจะจัดพี่ติ๊กลงในเกมนี้ เพื่อสร้างความประทับใจให้สาวๆ หลังจากนัดก่อนเกิดอาการลมหายใจไม่หอม เท่าไร ในด้านขวาสุดหล่อคนเดิม เฮียจับฉ่ายน่าจะได้รับโอกาสลงมาวาดลวดลายอีกครั้ง
เกมนี้คงไม่ต้องแปลกใจหากผู้คนต่างจะจ้องกองหลังแมนยูเป็นพิเศษว่าจะเกิดลูกผิดพลาดอีกหรือไม่ นี่แหละครับคือวิบากกรรมของกองหลัง ที่เล่นดีมาจะตลอดฤดูกาล การพลาดเพียงครั้งเดียว ส่งผลอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อตนเอง และทีมทีเดียว เกมนี้เฮียเต่า และ Evans น่าจะได้รับบทสอบนี้ ซึ่งผมคิดว่าทั้งคู่น่าจะผ่านไปได้ จะว่าไปการที่เราแพ้ในเกมก่อน ทุกทีมที่จะเจอกับเราก็คงสังเกต และศึกษาเทปเกมก่อนไว้แน่นอน แต่นั่นก็เป็นอะไรที่ดีนะครับ เพราะผมเชื่อว่าทีมอย่างแมนยูของท่านเซอร์ไม่พลาดอะไรซ้ำแบบเดิมๆแน่นอน การเข้าประทะ คือจุดสำคัญของหลังในเกมนี้จะต้องประทะให้ขาด อย่าให้เกิดลูกดิ้งด่องขึ้น คือลูกที่ชนไปชนมาเหมือนไม่มีอะไร แต่ไปเข้าทางคู่แข่ง ในด้านแบ็คซ้ายพี่ติ๊กต้องอย่าขึ้นจนลืมหน้าที่หลักของตน เรื่องเกมบุกผมไม่ห่วงพี่ติ๊กอยู่แล้วครับ ด้านแบ็คขวาเฮียจับฉ่ายน่าจะเล่นได้ตามมาตรฐานเดิมๆ อีกครั้งจะว่าไปผมว่าเค้าเล่นได้คงเส้นคงวาคนหนึ่งของทีมเราเลยนะครับ เริ่มจะชอบขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ล่าสุดท่านเซอร์ยังออกมาชมซะยกใหญ่ ดีไม่ดีนัดนี้ วิวัฒนาการ การสอดเข้าทำคงจะสำเร็จได้ โดยรวมถ้าหลังทีมเราเล่นได้ตามาตรฐาน หรือตกแต่ก็ไม่มาก ไม่เกิดลูกผิดพลาด น่าจะสร้างโอกาสมากมายแก่แมนยูแน่นอน

[b] กองกลาง [/b] – จุดสลบ และพ่ายแพ้จริงๆในเกมก่อน ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่เราแพ้ไป เกมนี้ผมค่อนข้างเชื่อว่าเจ้าอันเดอร์น่าจะไม่ได้ลงไปอีกพักหนึ่ง เพราะท่านเซอร์ต้องการให้ดู ดู และดู การเล่น แนวทาง จังหวะของกลางแบบรุ่นพี่ ว่าเป็นอย่างไร เกมนี้ Carrick ที่รับบทหนักจริงๆในเกมก่อนน่าจะได้ลงมาอีกครั้ง โดยคู่ของเค้า น่าจะเป็น Giggs เนื่องจากเกมนี้ท่านเซอร์น่าจะมาบุกแน่นอน และใช้ลูกเก๋าของตำนานคนนี้เข้าช่วย ส่วนตัวสอดแทรกก็ คือ Scholes ที่น่าจะได้ลงมาใช้ลูกเก๋าเข้าช่วยเช่นกัน และจะทำให้เกมแน่น และนิ่งขึ้น
คู่กลางจะต้องยืนตำแหน่งกันให้ดี เกมแมนยูเป็นเกมที่กลางเป็นจุดตาย ดังนั้นถ้าเล่นไม่ออก หรือไม่ดียังไง จะต้องยืนตำแหน่งให้ดีไว้ก่อน อย่ายืนผิด และต้องคอยประคองคู่ในกรณีที่โดนไล่บี้ อยู่ตลอดเวลา นั่นคือ อย่าทิ้งกันไป กลางแมนยูไม่ได้มีหน้าที่หลักไว้บุก แต่หน้าที่เพื่อประคอง คุมจังหวะช้า เร็ว ดึงฝ่ายตรงข้าม เพื่อเปิดช่อง แล้วจ่ายให้ตัวบุกเข้าทำ ในเกมรับหน้าที่หลัก คือชะลอเกม และช่วยเกมรับ ซ้อนเข้ากับกองหลัง ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าจัดคู่กลางไม่ว่าจะเป็น Giggs หรือ Carrick หรือ Scholes เกมนี้ขอให้อย่าเล่นต่ำกว่ามาตรฐานชนิดจ่ายเสียในแดนตนเองตลอด เชื่อว่ากลางแมนยูสู้ได้แน่นอน

[b] คู่ปีก [/b] – คู่ปีกข้างหนึ่งต้องเป็นจองนางสาวโด้ โดยมีตี๋Park ลงมาวิ่งโชว์พลังโสมอีกข้าง
จุดยุทธศาสตร์ของเกมนี้อยู่ที่ตำแหน่งนี้ ถ้าตำแหน่งนี้เล่นได้ แมนยูจะได้รับโอกาสมากมายทีเดียว เพราะผมมองว่าจุดอ่อนของฟูแลม คือการรับทางด้านข้างนี่แหละครับ ที่มีปัญหาอยู่ และนัดนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อ โด้ได้บอลจะต้องโดนเข้าคุม ไม่ให้ไปได้ คือวางกับดักล่อสาวคนนี้ให้อยู่ในกรง ไม่ให้ใช้สปีดได้ ตรงนี้ต้องขึ้นกับเพื่อนๆแล้วละว่าจะช่วยสาวโด้ได้มากเพียงใด เพราะแผนกับดักล่อสาวอย่างที่ลิเวอร์พูลทำไว้นั้น มันก็มีจุดอ่อนชนิดที่ถ้าหลุดก็หลุดเป็นยวง นั่นคือ การต่อบอลให้เร็ว จังหวะเดียว ซึ่งผมไม่คิดว่านางสาวโด้จะยอมให้ผู้ชายมาหลอกวางกับดักอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน ดีไม่ดีนัดนี้สังเกตนางสาวโด้ ดีๆ เพราะจะว่าไปยิงติดกันมาหลายนัดจนเกือบจะเป็นดาวซัลโวแล้วนะเราหน่ะ แต่ขอยืนยันว่าการยิงของสาวโด้ยังไม่กลับมานะครับ เพราะถ้ากลับมารับรองซี้ดแน่ๆ ในด้านตี๋Park เกมนี้หน้าที่เดิม คือ สร้างความสดดุลในเกมรับ และรุก ไม่เด่นไม่เป็นไร แต่อย่าโหว่ คือจะต้องสอดเข้าทำตามจังหวะ ยืนตำแหน่งเกมรับ ประคอง ช่วยไล่ โดยรวมผมว่าคู่ปีกของเราน่าจะสร้างโอกาสมากมายแก่เรานะครับ

[b] กองหน้า [/b] – คู่หน้า เบอร์บาศิลปินของเราน่าจะได้ลงมาโชว์จิตวิญญาณ อีกครั้ง ในขณะที่คู่หู ก็คือน้องหมูไฟที่ผมรู้สึกดีจริงๆที่น้องหมูไม่พูดถึงเกมนี้มากนัก
ถ้าเราเข้าใจในอารมณ์ศิลปิน ส่วนหนึ่งคือ ความอัดอั้น บีบคั้นในความรู้สึก ผมว่าเบอร์บาคงจะรู้สึกอยู่ตอนนี้ว่าอยากจะพิสูจน์งานศิลปะเหลือเกิน ว่าไอ้นัดก่อนหน่ะ อั้วยังไม่ทันได้โชว์เลย ด้านเจ้าหมูไฟคงไม่ต้องพูดถึงคงเตรียมออกตัวเหมือนหมูอยู่ในกรง ที่รออาหารอย่างหิวโหยแน่นอน หน้าที่ของกองหน้าจะต้องเข้าทำครับ นี่คือหน้าที่หลักจริงๆ การเข้าทำจากลูกเปิดของปีกทั้งซ้ายขวา จะต้องทำให้เฉียบขาด หน้าที่อันดับสองคือ การชิ่งเพื่อช่วยปีกออกจากกับดัก และขณะเดียวกันก็ดึงตัวประกบเพื่อเปิดช่องให้ตัวสอดเข้าทำไปในตัว สองอย่างนี้คือหน้าที่หลักในเกมนี้ครับ แต่ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ เช่นลูกยิงสุดสวย หรือเทคนิคอลังการงานสร้าง ก็อย่าตกใจไปนะครับ ขอให้ร้องโอ้โห แหะ เบาๆก็พอ แต่จุดที่ต้องระวัง คือไอ้ความมุ่งมั่นนี่แหละครับ เบอร์บาผมไม่ค่อยกังวลเพราะเค้าเป็นศิลปิน แต่เจ้าหมูนี่สิอย่ามุ่งมั่นจนเกิดพอดีเข้าเสียบจนโดนใบมาเชียว ไม่อย่างนั้นจะเล่นยากขึ้นๆ แน่นอน ขอให้เล่นตามเกม ตามแผน ก็พอครับ

[b][u]จุดสังเกตโอกาสในเกมของทีมแมนยู [/u][/b]
[b]ความจำสั้น แต่ความเชื่อมั่นยาว [/b] – ลืมไปให้หมดครับ ต้องลืมความรู้สึกในเกมก่อนไปให้หมด เหลือไว้แต่ แทคติก และแผน รวมทั้งความมั่นใจว่าจะต้องทำให้ได้เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ผมเชื่อใจสภาพจิตของท่านเซอร์ และนักเตะแมนยูว่าจะสามารถรับมือกับตรงนี้ได้ค่อนข้างดี และเชื่อว่าท่านเซอร์ไม่ส่งเด็กอย่างเจ้าอันเดอร์ที่ยังต้องเก็บ Level ลงในเกมนี้ค่อนข้างแน่ ดังนั้นนักเตะที่ลงมารับประกันสภาพจิตใจ และจังหวะการเล่นครับ
[b]ขอเท่าที่มี [/b] – นักเตะแมนยูจะต้องเล่นให้ได้ตามมาตรฐาน ต้องคิดว่าเล่นแบบที่เราเคยเล่น อย่าไปคิดว่าเล่นให้ดีกว่านี้ จะถล่มฟูแลมให้เละ หรืออะไรแบบนี้ ห้ามคิดเด็ดขาด เพราะความมุ่งมั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีมากไปมันจะพาสมาธิ และไอเดียออกไปเสมอ โดยเฉพาะเจ้าหมู ขอให้เล่นแบบใจลุ่มๆ หวังว่าศิลปะของเบอร์บา และลีลาของนางสาวโด้จะทำให้เจ้าหมูใจเย็นลงหน่อยได้ ซึ่งถ้าหมูทำได้ แมนยูก็จะเล่นได้ง่ายขึ้นทีเดียว นอกจากนี้กองหลัง ประตู ขอให้เล่นแบบเดิม อย่าพยายามไปเร่งเพื่อจะเอาให้เร็ว ขอให้มันไปตามเกมรับรองดีเองครับ
[b] เราสวยที่สุด [/b] – นางสาวโด้ต้องมั่นใจในตนเองครับ ต้องอย่าไปกลัวกับดัก เพราะกับดักที่ฟูแลมจะเอามาใช้หยุดน่าจะเอามาใช้กับเจ้าโด้แน่นอน อย่างที่บอกไว้มันมีจุดอ่อนในกับดักนี้ครับ ถ้าเจ้าโด้หลุดไปได้บางทีอาจจะยาวถึงขั้นดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับประตูเลยก็ได้ อีกทางที่จะหลุดไปได้ คือเล่นให้เร็ว ซึ่งตรงนี้เป็นจุดหนึ่งในเกมก่อนที่ส่งผลต่อโด้มากพอควร คือร่างกาย เชื่อว่าหลังจากพักมาแบบเต็มที่ ร่างกายน่าจะเต็มร้อย และน่าจะมาแบบเต็มถังเบิ้ลเครื่องรอวิ่งหลอกหนุ่มๆเหมือนเดิมครับ

[b]ศิลปะที่เกินกว่าจะเข้าใจ [/b] – ถ้าพูดถึงข้อนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือเบอร์บาของเรานี่แหละ นัดก่อนผมยังเสียดายไม่หายที่เบอร์บาไม่ได้ลง เพราะมิติเกมรุกของเค้าเป็น ศิลปะแบบที่เกินกว่าจะเข้าใจ ถ้าใช้คำให้เข้าใจก็คือ เป็นฟุตบอลจิตนาการ มากกว่าตามแผน นี่แหละครับที่จะทำลายเกมรับตามแบบแผนที่มีวินัย เกมรับที่มีวินัย แบบแผน เกิดขึ้นจากแนวทางการบุกที่มีแบบแผน แต่ถ้าเรารุกแบบไม่มีแบบแผน รับรองได้โอกาสเยอะครับ ประเด็นที่สำคัญ คือเพื่อนๆในทีมจะเข้าใจศิลปินผู้นี้แล้วหรือยังว่าเค้าเล่นยังไง ถ้าเข้าใจได้สัก 70%ก็สุโก้ยเลยละครับ

เกมนี้ต้องขอเตือนเพื่อนๆว่าอย่าไปคาดหวังสกอร์ถล่มทลายเลยครับ ถือว่าเราเอาแค่สามแต้ม ถ้าทำได้จริง และถล่มจริงมันก็คงเป็นการดี ทั้งนี้จุดเปลี่ยนคงจะขึ้นอยู่กับประตูแรกแหละครับ ถ้าปลดทุกอย่างได้เร็ว เกมแมนยูก็จะเล่นได้คล่อง ขึ้น เพราะเจ้าบ้านจะต้องบุกขึ้นมาสู้ และด้วยเกมนี้เป็นเกมที่แข่งพร้อมกันของทีมอันดับหนึ่งและสอง ดังนั้นสกอร์ของทั้งสองทีมหากเก็บได้สามแต้มทั้งคู่ จะส่งผลกระทบต่อทีมอันดับสามเข้าเต็มๆชนิดทุกความกดดันจะโถมเข้าใส่ ซึ่งประกอบกับความห้าวของทีมอันดับสาม บางทีเราอาจจะได้เห็นภาพเดิม หรือโรเรชั่นเดจาวูก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเชียร์ทีมเราเองดีกว่าครับ อย่าไปแช่งใครเลย เพราะเดี๋ยวของเข้าตัวไม่รู้ด้วยนะ

สุดท้ายอย่างที่เคยบอกต่อจากนี้มีแต่เกมยากมาก ยาก และยากมาก เท่านั้น ไม่มีหรอกครับเกมง่าย ถึงปลายฤดูกาลอย่างนี้ทุกทีมย่อมอยากจะโชว์ผลงานให้เข้าตากองเชียร์ตัวเอง ยิ่งเล่นในบ้านด้วยแล้ว แรงวิ่งของเจ้าบ้านไม่มีหมดแน่นอน ดังนั้นเกมนี้เป็นโอกาสอันดีทีเดียว ที่แมนยูจะโชว์ให้แฟนบอล รวมทั้งผู้หวังดีเป็นพิเศษในเกมนี้ทั้งหลายได้เห็นสิ่งที่พวกเค้าเชื่อ หรือศรัทธา (Believe) ว่าเป็นอย่างไร เพราะสำหรับผมต้องยอมรับกับทุกท่านว่าแมนยูไม่ใช่ทีมเหนือชั้นถึงขนาดแพ้ใครไม่ได้อย่างที่หลายๆคนเข้าใจกันไป แต่ผมบอกทุกคนได้อย่างจริงจัง และจริงใจว่าแมนยูเป็นทีมที่จะไม่แพ้ตนเองแน่นอน



Create Date : 21 มีนาคม 2552
Last Update : 21 มีนาคม 2552 17:31:34 น.
Counter : 376 Pageviews.

0 comment
พุงกา Special : UCL 8 ทีม น่ารักคงหาไม่มี .....แต่เปรี้ยวจี้ดนี่สิมีแน่นอน..
@@@@@ พุงกา Special : UCL 8 ทีม น่ารักคงหาไม่มี .....แต่เปรี้ยวจี้ดนี่สิมีแน่นอน..@@@@@


สวัสดีครับ พรุ่งนี้ก็จะมีการจับฉลาก UCL แล้ว วันนี้ก็เลยมาเขียนถึงเรื่องนี้สักหน่อย ตอนนี้สื่อต่างๆ พยายามจะเสนอเรื่องราวที่ว่าใครจะจับเจอกับใครใน UCL ซึ่งก่อนจะพูดถึงรายละเอียดมาดูทีมที่เข้ารอบ 8 ทีมกันก่อนครับ

อาร์เซน่อล

ปอร์โต้

แมนฯ ยูไนเต็ด

บาร์เซโลน่า

เชลซี

ลิเวอร์พูล

บาเยิร์น มิวนิค

บียาร์เรอัล


จากรายชื่อ 8 ทีม ถ้าถามว่าใครโชว์ผลงานได้เข้าตาสื่อ และแฟนบอลที่สุด คงต้องยกให้ลิเวอร์พูล ที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดในการหยุดราชันชุดขาวได้อย่างชะงักชนิดหมดทางสู้ทีเดียว แต่นอกจากลิเวอร์พูลแล้วยังมีอยู่อีกทีมที่ยิงกันกระจาย ชนิดผู้แพ้มึนไปเลย ก็บาเยิร์น มิวนิค นี่แหละที่ชนะทีมจากแดนฝอยทองอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาถึง 7-1 ไม่น่าเชื่อสำหรับบอลระดับสกอร์ขนาดนี้ไม่ใช่ เรื่องที่เกิดขึ้นง่ายๆ

แต่ถ้าถามว่าทีมไหนที่สื่อ หรือทุกทีมมองว่าเป็นน่ารัก อยากเจอที่สุด ในรอบ 8 ทีมก็คงไม่พ้นปอร์โต้
และบียาร์เรอัล แต่… อย่างที่บอกในบทความก่อนว่า เอาเข้าจริงรอบนี้ไม่มีหรอกความง่าย เพราะถ้ามองแล้วทุกทีมที่จุดสลบ หรือแนวที่ตัวเองไม่ชอบอยู่แล้วด้วยสไตล์ที่ขัดกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องยกตัวอย่างที่ไหนก็ แมนยู กับบียาร์เรอัล นี่แหละ เล่นยังไงก็มีแต่เสมอ นับเป็นทีมที่ขัดกับแมนยูเสียจริง แม้สื่อ และหลายคนจะมองว่าเป็นทีมน่ารักที่อยากเจอ แต่สำหรับแมนยูแล้วคงไม่อยากเจอทีมที่รู้วิธีการหยุดเกมรุกตนเองได้ชะงักแน่นอน มาถึงตรงนี้เราลองมาดูกันว่าในทรรศนะของผมทีมไหนที่ขัดกับทีมไหน เรียกได้ว่าถ้าเลือกได้อย่าเจอดีกว่า


อาร์เซน่อล เป็นบอลสวยงาม ครองบอลได้ ต่อบอลดี และมีความฮึดสู้ในทุกนาที ดังจะเห็นว่ากลับมาได้บ่อยๆในช่วงท้ายๆเกม แต่สิ่งที่ขาดคือประสบการณ์ ซึ่งตรงนี้สำหรับเวที UCL ที่จะต้องมีวินัย และสมาธิตลอด 90 นาทีถือเป็นสิ่งสำคัญ ทีมที่อาร์เซนอลไม่ถูกกับอาร์เซนอล ก็คือ เชลซี และ ลิเวอร์พูล จะเห็นว่าทั้งสองทีมนี้มีลูกนิ่งวินัยที่แข็งมากทีเดียว การเล่นเกมแน่นๆสู้ เป็นอะไรที่อาร์เซนอลไม่ชอบใจนักที่จะเจอ แม้จะเคยชนะเชลซีมา แต่ต้องบอกว่าคนละทีมกันแล้ว เพราะด้วยกุนซือที่ต่าง และจะว่าไปนักเตะแม้จะหน้าเดิม แต่ฟอร์มตอนนี้แน่นอนอย่างน่าทึ่งทีเดียว


ปอร์โต้ เป็นคนน่ารักในสายตาหลายๆทีม ขึ้นชื่อว่าทีมจากแดนฝอยทองย่อมมีความสามารถนักเตะล้นเหลือ เทคนิคแพรวพราว แต่ที่จะขาดไปก็คือ เรื่องเกมรับ การรับมือลูกเปิด การเล่นลูกกลางอากาศ ดังนั้นก็พอจะเดากันได้ไม่ยากว่าทีมที่ขัดกับปอร์โต้ คือบาเยิร์น มิวนิค และแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสองทีมเน้นการครอส การโจมตีทางปีก ที่หนัก โดยเฉพาะในรายของบาเยิร์น มิวนิค ชื่อทีมจากเยอรมันเป็นการันตีเรื่องลูกโหม่งอยู่แล้ว


แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าของรายการนี้ มีสไตล์การเล่นผสมผสานระหว่างนักเตะเทคนิค กับนักเตะวินัย เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องห่วงเพราะมีนักเตะเก๋าคอยประคอง ตลอดจนนักเตะชุดนี้ไดดรับประสบการณ์มาแบบเกินอายุตนเองไปแล้ว แต่เกมที่ขัดกับแมนยู คือทีมที่มาบี้แบบมีวินัยทั้งทีม เข้าบอลเร็ว ชน เข้าหนัก และโยนโด่งให้ผู้เล่นที่มีเทคนิคเข้าไปหาลูก ทีมที่ขัดกับแมนยู คือ ลิเวอร์พูล และ บียาร์เรอัล ทีมแรกคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ แต่ทีมหลังนั้นเป็นทีมน่ารักที่ใครๆก็อยากเจอ แต่บียาร์เรอัล รู้วิธีเล่นกับแมนยู แถมรับแบบมีวินัย เรียกได้ว่าสไตล์คล้ายกับลิเวอร์พูล แต่ความสามารถนักเตะเป็นรองเท่านั้น


บาร์เซโลน่า เกมรุกเป็นสิ่งที่ไม่ต้องบรรรยาย ถึงความสะเทือนขวัญคู่แข่ง ด้วยเทคนิคมากมายหลากหลาย แถมมีว่าที่นักเตะที่ใครๆยกบัลลงดอร์ปีหน้าให้ไปเสียแล้ว อย่างเมสซี่ เรียกได้ว่ามีเกมรุกที่อลังการงานสร้างที่สุดใน 8 ทีมก็ว่าได้ แต่จุดสลบของบาร์ซา คือเกมรับล้วนๆ ทีเดียว ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะทีมที่บุกมากก็มักจะเป็นอย่างนี้ คือจะรับได้ไม่เก่ง ไม่ถนัดเกมรับ การยืนกันหลุดให้เห็นบ่อยๆ ดังนั้นทีมที่ขัดกับบาร์ซ่า คือแมนฯ ยูไนเต็ด และเชลซี สองทีมนี้มีสไตล์การเล่นแบบผสมวินัย และเทคนิค ซึ่งสามารถยืนแพ้คเกม คุมโซน รับได้ ไม่ต้องวิ่งเข้าหาบีบพื้นที่เร็ว เพราะการบีบพื้นที่เร็วเท่ากับ เจอทักษะของนักเตะอย่างเมสซี่หลอกได้ง่ายๆทีเดียว นอกจากนี้สองทีมนี้ยังมีเกมรุก สวนกลับที่ค่อนข้างอันตราย ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้โอกาสมากก็สามารถทำประตูได้


เชลซี เป็นทีมที่แน่น กุนซือรู้จักเล่นในรายการแพ้คัดออก มีนักเตะแดนหน้าที่กลับมาอันตรายอย่างดร้อกบ้า และมีแผงหลังที่ไว้ใจได้อย่างเทอร์รี่ เป็นทีมที่มีการผสมผสานระหว่างเทคนิค และวินัยได้ดีทีมหนึ่ง แต่จุดอ่อนของเชลซี คือ การเจอทีมที่มีการเล่นครองบอล ต่อบอลได้ดีกว่า ตลอดจนมาเล่นลูกตั้งเตะ เก่งๆ การเปิดจากข้าง หรือตั้งเตะ สร้างปัญหาให้เชลซีได้ชะงักมากทีเดียว ทีมที่ขัดกับเชลซีคือ ปอร์โต้ และอาร์เซน่อล ทีมแรกเป็นทีมที่ใครๆก็ว่าน่ารัก แต่ด้วยเทคนิค และการเล่นลูกแบบปีกแพรวพราวนี่แหละ ที่จะสร้างปัญหาให้เชลซีได้ค่อนข้างมาก ส่วนทีมปืนใหญ่มีการต่อบอลที่สวยงาม และต่อบอลดีกว่า


ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย ผลงานในช่วงนี้เข้าตาสื่ออย่างมาก นักเตะออกมาสัมภาษณ์ฮึกเหิม มีเกมบี้ บอลเร็ว มีวินัยในเกมรับ ถ้าเกมบีบพื้นที่เร็ว และบี้นักเตะเร็ว หนัก เรียกได้ว่าดีที่สุดใน 8 ทีมทีเดียว จุดขัดของลิเวอร์พูลคือ ทีมที่มีนักเตะมีความสามารถหลบการเข้าชน เข้าบี้ซ้อนสองได้ จะทำให้โซนรับแตก และทีมที่กองหลังไม่ชอบเก็บบอลกับตัวนานๆ เกมบี้ของลิเวอร์พูลจะทำได้ยาก ซึ่งตรงนี้จะทำให้ต้องมารับแบบโซน ซึ่งการยืนโซนของลิเวอร์พูลถือเป็นจุดขัดทีเดียว ทีมที่ขัดกับลิเวอร์พูล คือ บาร์เซโลน่า และเชลซี ทีมแรกมีนักเตะที่มีความสามารถในการเลี้ยงหลุดการเข้าประกบเร็วของลิเวอร์พูลหลายคนทีเดียว โดยสปีดเกมรุกของบาร์ซานั้นเร็วกว่าราชันชุดขาวมาก ในขณะที่เชลซีมีลูกDerect ที่สามารถโยนข้ามกลางให้กองหน้าที่เก็บบอลอย่างดร้อกบาเข้าโจมตี ซึ่งเป็นการตัดเกมแดนกลางบี้เร็วของลิเวอร์พูลออกไป


บาเยิร์น มิวนิค ทีมที่มีความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศอย่างสุดยอดทีเดียว ทำผลงานในรอบ 16 ทีมมาชนิดเหนือชั้นมากมาย แต่จุดขัด คือ ความเร็วในการตั้งรับ เนื่องจากแบ็คที่ต้องเติมเกมรุก ลอยสูง ที่หากเจอทีมที่มีความเร็วในการขึ้นบอลเร็ว และอาศัยจังหวะเข้าทำเร็วน่าจะสร้างปัญหาค่อนข้างมาก ดังนั้นทีมที่ขัด คือ แมนฯ ยูไนเต็ด และบาร์เซโลน่า สองทีมนี้มีการเข้าทำที่ใช้จังหวะการเข้าทำที่น้อยครั้ง ก็ไปถึงหน้าประตูได้ โดยเฉพาะทีมแรกมีโซนรับที่ดี ทำให้ลูกเปิดด้านข้างมักจะติดหัวกองหลังซะส่วนใหญ่ ในขณะที่บาร์ซ่าแม้จะมีเกมรับที่ไม่ดีนัก แต่จังหวะสวนเรียกได้ว่าอันตรายมากมายสำหรับทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค


บียาร์เรอัล อย่างที่บอกไป ทีมนี้คือลิเวอร์พูลที่มีทักษะน้อยกว่า เกมทุกอย่างคล้ายกันทีเดียว ดังนั้นจุดขัด ก็เหมือนกัน คือ บาร์เซโลน่า และเชลซี ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นเอง


จะเห็นว่าทุกทีมต่างมีจุดขัด ไม่ถนัดของตน และบางทีมต่างฝ่ายต่างขัดกันเองก็มี แต่ใช่ว่าทีมที่เหลือจะง่ายนะครับ ไม่มีหรอกเจ้าความง่ายหน่ะ เพียงแต่ที่แสดงให้เห็นนี่เพื่อให้มองว่าทีมไหน มีธรรมชาติทีมที่น่าจะขัดกับทีมไหน แต่พอเอาเข้าจริงก็ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนของกุนซือที่จะปิดจุดอ่อนของตน และใช้จุดได้เปรียบเข้าทำ ทั้งยังนักเตะที่สามารถทำได้ตามแผนหรือไม่ ตลอดจนกรรมการที่จะตัดสินให้มีข้อกังขาหรือเปล่า และสุดท้ายโชคซึ่งยากจะคาดเดา เห็นมั้ยครับถ้ามีใครสักคนคิดว่ารอบ 8 ทีมเจอทีมน่ารัก แล้วง่าย หรือสบาย ต้องลอง คิดดูใหม่กันแล้วนะ อยากจะขอให้เปลี่ยนเป็นรอบ 8 ทีมเจอทีมไหนก็เปรี้ยวซะ ยากมาก แต่ก็เป็นความสนุกของแฟนบอลทุกทีมดีกว่าเยอะเลยยยย!!






Create Date : 19 มีนาคม 2552
Last Update : 19 มีนาคม 2552 12:42:38 น.
Counter : 252 Pageviews.

0 comment
พุงกา Special : คู่แท้ที่ชื่อประวัติศาสตร์ และแชมป์ ..... กับตัวประกอบไม่มีใครจําที่ชื่อว่าฟอร์ม ..

สวัสดีครับ ช่วงสอง สามวันนี้ ไปที่ไหน ก็เจอแต่เรื่องของวันเสาร์จะว่าไปมันก็ผ่านมาหลายวัน ถ้าเป็นปกติข่าวก็คงจะไม่ได้เล่นประเด็นนี้เท่าไร แต่ด้วยลิเวอร์พูลชนะแมนยูถึง 1-4 ซึ่งดูจากสกอร์ก็มากโข แถมยังไปเอาชัยชนะได้จากบ้านแมนยูอีก คราวนี้ก็เลยเป็นอะไรที่แฟนหงส์บอกว่าสุโก้ยยย กันทั่วบ้านทั่วเมือง ว่าแต่บทความนี้คงจะไม่ได้มาเยินยอ หรือปอปั้น หรือแม้แต่ให้กำลังใจกับทีมที่แพ้ แต่อยากจะมาเสนอข้อเท็จจริงเฉยๆ

ถ้ามองจากตารางคะแนนตอนนี้ ทีมที่หนึ่ง คือแมนยู 65 คะแนน ที่สองคือ เชลซี ที่ตามอยู่ 4 มี 61 คะแนนโดยมีลูกได้เสียดีกว่า ส่วนลิเวอร์พูลอยู่ที่ 3 มี 61 คะแนนโดยมีลูกได้เสียตามหลังอยู่ ตามอยู่ห้าลูก โดยเชลซีกับลิเวอร์พูล เหลือเกมให้แข่งอีก 9 นัด ผมจะตัดลูกได้เสียทิ้งไปนะครับ เพราะเราคงจะไปคาดหยั่งฟอร์มอันร้อนแรงของหงส์แดงไม่ได้ ว่าจะชนะ 4 ประตูต่อไปอีกกี่นัด แต่เรามาดูข้อเท็จจริงกัน

แมนยูมีลุ้นทุกถ้วยที่มีอยู่ตอนนี้ โปรแกรมชุกแน่นอน ซึ่งน่าจะส่งผลให้จะเกิดช่วง เตะทุกๆ 3 วันอีกชุด ตรงนั้นคือจุดตัดสินว่าจะสามารถเก็บความแน่นอนได้หรือเปล่า เพราะเกมที่เหลือ อีก 10 นัด ถ้าเก็บได้ 8 นัด จะได้ 24 แต้มรวมเป็น 89 คะแนน ซึ่งเพียงพอต่อการลุ้นแชมป์แน่นอน เพราะถึงสองทีมคู่แข่งจะเก็บชัยชนะได้ 9 นัดรวดก็จะมีคะแนนเต็ม 88 คะแนน ประเด็นอยู่ที่ว่าใครที่จะกล้าบอกว่าแมนยูจะชนะติดต่อกันอีก 8 นัดใน 10 เกม ทั้งๆที่มีเกมหนักเหลือเกินในทุกถ้วย การลุ้นห้าแชมป์มันเป็นอะไรที่เรียกว่าแทบจะเป็นจินตนาการจริงๆ ซึ่งถามว่ายังเป็นไปได้มั้ย ต้องตอบว่าเป็นไปได้แน่นอน แต่ยากมากทีเดียว ส่วนตัวผมว่าแมนยูปีนี้ได้อีก แชมป์ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่หรูหราแล้วละ แต่ถ้าเผลอโผล่มาสองแชมป์ ก็เป็นอะไรที่สุโก้ย แบบที่แฟนหงส์เค้าใช้กันตอนนี้ และสุดท้ายถ้าออกมาว่าคว้ามันหมดทุกถ้วย การแพ้ลิเวอร์พูลเที่ยวนี้ สำหรับแฟนแมนยูคงจะบอกตอนท้ายว่ามาชนะบ่อยๆนะจ้ะ จะได้ทุกถ้วยอีกที

ลิเวอร์พูล มีลุ้นสองถ้วย คือ พรีเมียร์ลีค และ UCL ดังนั้นจะต้องเจอช่วงเตะทุกๆ 3 วันอีกช่วงหนึ่ง ตรงนั้นก็คือจุดเปลี่ยนเช่นกัน ส่วนตัวถ้าลิเวอร์พูลสามารถชนะในเกมพรีเมียร์ลีคได้ 9 เกมที่เหลือทั้งหมด ก็มีสิทธิคู่ควรกับแชมป์แน่นอน แต่ใครกันที่จะกล้ายืนยันว่าจะทำได้ แม้เกมล่าสุดจะแสดงถึงกำลังใจ เสียงเชิดชูรอบด้าน แต่ปัญหา ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ อย่าลืมการด่าระบบราฟา หรือแม้แต่ลูคัส ของแฟนลิเวอร์พูลในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหากสะดุดสักเกมชัยชนะที่เชิดชูกันอยู่ ณ ตอนนี้ ก็จะกลายเป็นเสียงบ่น ด่า อีกเช่นเคย หรือบางส่วนอาจจะบอกว่าชนะแมนยูแล้วพอใจแล้ว ที่เหลือคือกำไร ถ้าคิดอย่างนั้นก็คงจะมีความสุขแบบมากมายในช่วงที่เหลือของฤดูกาล แต่ส่วนตัวไม่เคยมีใครจำทีมที่ไม่ได้แชมป์นอกจากแฟนบอลตนเองหรอกครับ ไม่ว่าคุณจะโชว์ฟอร์มหรูขนาดไหน ถล่มกันเท่าไรก็ตาม ตอนจบเสียงสรรเสริญที่ดังที่สุดจะกลับมาหาแชมป์ตัวจริงเสมอ ชนิดความดีใจในช่วงสองสามวันนี้ทาบไม่ติดจริงๆ ดังนั้นถ้าลิเวอร์พูลอยากจะสัมผัสความรู้สึกที่แท้จริง ก็ต้องพิสูจน์ครับ๕๕๕๕๕๕
เชลซี ถ้าจะว่าไปคนพูดถึงน้อยจริงๆทั้งๆที่อยู่ที่สอง และถามผมในฐานะ แฟนแมนยูว่ากลัวใครมากกว่ากัน ต้องบอกว่ากลัวเชลซีครับ ไม่ได้เพราะแพ้ลิเวอร์พูลมาถึงมาพูดประชดนะครับ แต่เพราะ เชลซีมีผู้เล่นที่ทดแทนกันได้มากกว่าลิเวอร์พูล ที่มีแต่เจิด และตอร์เรส ถ้าขาดสองคนนี้ไปก็ลุ้นกันเหนื่อยทีเดียว ไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่ได้ยินประโยคตามสื่อที่ว่า หงส์ชนะได้แม้ปราศจากเจิด และตอร์เรส นั่นคือปัญหาที่ผมเห็นจากลิเวอร์พูลเพียงส่วนหนึ่งครับ ไหนจะราฟาที่แฟนๆไล่กันเมื่อเดือน สองเดือนก่อนอีก แต่เทียบกับเชลซีทุกอย่างนิ่งมากตอนนี้ ผู้จัดการทีมมีฝีมือ เอานักเตะอยู่ และได้รับการสนับสนุน จะมีอย่างเดียวก็คือความไม่แน่นอนว่าจะอยู่ต่อหรือเปล่าในฤดูกาลหน้านั่นแหละ อีกทั้งตัวนักเตะที่มองจริงๆแกร่งกว่าแมนยูเสียอีก พึ่งได้เจ้าเอสเซียงกลับมา เจ้านี่ถือเป็นหัวใจของเชลซีให้เกิดความสมดุลจริงๆนะครับ ดังนั้นผมว่าตอนนี้เชลซีได้รับความชื่นชมน้อยกว่าที่เป็นอยู่ และที่สำคัญยังลุ้นทุกถ้วยตอนนี้เหมือนแมนยูอีก ซึ่งจุดตัดสินของเชลซีก็คือ เกมเตะทุกๆ 3 วันเหมือนแมนยู และลิเวอร์พูลนั่นแหละ เห็นมั้ยครับมองเชลซีกันบ้างก็จะดีนะครับแฟนลิเวอร์พูล และแมนยู

สุดท้าย แชมป์พรีเมียร์ลีค คงจะต้องขึ้นอยู่กับการตั้งโจทย์ของเชลซี และลิเวอร์พูล แต่.... ใครที่จะกล้ายืนยันได้ว่า ลิเวอร์พูล หรือเชลซี จะชนะหมด ใน 9 เกมที่เหลือ พอๆกับไม่มีใครกล้ายืนยันว่าแมนยูจะชนะ 8 ใน 10 นัดเช่นกัน ซึ่งถ้ามีนัดไหนที่คู่แข่งพลาดก็ คือโจทย์ที่ง่ายลงเรื่อยๆของแมนยู ดังนั้นต่อจากนี้ทุกเกม คือโจทย์ที่คู่แข่งแย่งแชมป์จะต้องตั้ง และแมนยูจะเป็นผู้ตอบว่าดีพอที่เป็นแชมป์หรือเปล่า ในขณะที่ FA คงจะต้องลุ้นกันไปเชื่อว่าแมนยู และเชลซีไม่ปล่อยแน่นอนมาถึงรอบนี้แล้ว ส่วนในขณะที่ UCL ศุกร์นี้คงจะทราบว่าใครจะเจองานหนัก ใครจะเจองานสบาย แต่พอเอาเข้าจริงรอบนี้มีแต่หนักทั้งนั้นแน่นอน ไม่มีหรอกไอ้ความสบายหน่ะ ตอนจบนี้ขอย้ำอีกทีว่า ประวัติศาสตร์จดจำทีมที่เป็นแชมป์มากกว่าฟอร์มอันร้อนแรง และการสรรเสริญ เยินยอ ทุกอย่างจะกลับมาชนิดรับไม่ไหวทีเดียวที่แชมป์ตัวจริง ซึ่งจะเป็นใครเพื่อนๆคงจะได้รู้กัน มีความสุขกับการเชียร์ทีมรักกันนะครับ



Create Date : 17 มีนาคม 2552
Last Update : 17 มีนาคม 2552 22:21:39 น.
Counter : 215 Pageviews.

1 comment
(=^_^=) [พุงกามามะ] –ในวันที่สมาธิและความแน่นอนหายจากไปแต่จงภูมิใจว่านี่คือเทพนิยายของพวกเรา.(=^_^=)
(=^_^=) [พุงกามามะ] –ในวันที่สมาธิและความแน่นอนหายจากไป แต่จงภูมิใจว่านี่คือเทพนิยายของพวกเรา.. (=^_^=)

สวัสดีครับทุกท่าน ผมเขียนทรรศนะนี้หลังจากที่ทราบผลการแข่งขันที่แมนยูของเราแพ้ต่อลิเวอร์พูลคู่แข่งขันลุ้นแชมป์ครับ จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกของผมทีเดียวที่มาเขียนทรรศนะนักเตะหลังเกมในเกมหลังจากผลการแข่งขันออกมาไม่ดี มันก็เลยออกแนวแปลกๆอยู่บ้าง เพราะการชมการยกย่อง มันง่ายกว่าการติ หรือตำหนิเยอะทีเดียว เอาเป็นว่าก่อนอื่นต้องขอชื่นชมผลงานในเกมนี้ของลิเวอร์พูลจริงๆจากแฟนบอลแมนยูคนหนึ่ง แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ แต่ก็เป็นเกมที่สนุกจริงๆ ทั้งบรรยากาศต่างๆโดยรอบ เกมนี้แมนยูขาดสมาธิกันไปมากทีเดียวเมื่อมองจากเกมก่อนๆ เรื่องรูปเกมผมคงจะไม่พูดถึงเช่นเคยนะครับ ท่านสามารถหาอ่านได้จากน้าสงบได้อย่างละเอียดครับ แต่จะพูดในเรื่องของตัวนักเตะในรายละเอียดของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร

ตัวจริงในนัดต้อนรับลิเวอร์พูลเป็นดังนี้ครับ

Tevez

Rooney

Park Ronaldo


Carrick Anderson


Evra Vidic Ferdinand O’shea

Van der Sar

[b][u] ผู้รักษาประตู [/u][/b]

[b] Van der Sar [/b] – เกมนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลยครับ แม้จะโดนไป 4 ประตู แต่สำหรับผมไม่มีลูกไหนที่จะไปโทษน้าซาร์ได้เลย การเตะบอลออกมาทำได้ค่อนข้างโอเคเลยครับ ถ้าจะมีก็มีเพียงลูกสุดท้ายที่ออกมาเยอะไปหน่อย แต่จังหวะอย่างนั้นการออกไปปิดมุมก็คงเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว โดยรวมเกมนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดครับ แต่ที่น่าห่วง คือความมั่นใจหลังจากนี้ที่จะเป็นอย่างไร หลังจากเสียประตูมากถึง 4 ประตู คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

[b][u]กองหลัง [/u][/b]

[b] Vidic [/b] – พี่วีคงจะต้องรับความผิดพลาดในลูกที่โดนตีเสมอไปเต็มๆทีเดียว เป็นนัดหนึ่งที่พี่วี สมาธิหลุดมากทีเดียว และที่เสียในจังหวะประตูตีเสมอ หรือแม้กระทั่งลูกที่สามที่โดนใบแดงผมว่าอยู่ที่สมาธิทั้งนั้นผมเชื่อว่าถ้าเป็นพี่วีที่มีสมาธิน่าจะเก็บจังหวะพวกนี้อยู่แน่นอน เพราะมักจะหวดทิ้งไปเลย ไม่เสียดายบอล ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ผมสนใจทีเดียวว่าทำไมเกมนี้กองหลังแมนยู แม้ตอนนำอยู่ จนถึงนาทีสุดท้ายดูเสียดายบอลเหลือเกิน และขาดสมาธิดู ลนไปมาก ซึ่งอย่างที่บอกในทรรศนะแหละครับถ้าหลัง หรือกลางจ่ายพลาดก็คงจะเข้าเกมลิเวอร์พูลไปเต็มๆ โดยรวมผมยังสนับสนุนกองหลังผู้นี้ เกมหนึ่งเกมคงจะไปตัดสินผลงานที่ทำมามากมายไม่ได้ ตอนนี้ก็ลุ้นว่าอย่าขาดความมั่นใจในตนเองไป และกลับมาเป็นกำแพงเบอร์ห้าของแมนยูได้ดังเดิม

[b]Ferdinand [/b] – เป็นหนึ่งในกองหลังที่หลุดสมาธิไปพอควร วิชาดูดบอลเข้าหาตัว ไม่ได้ผลจริงๆ ลูกที่ 3 นั้นถ้าจะหาคนมารับผิดชอบร่วมกับพี่วีก็ต้องเป็นเฮียเต่านี่แหละครับ ที่ไม่บังทางเปิดของตอร์เรส ที่สำคัญทั้งเฮียเต่า และพี่วี เล่นเบามากในเกมนี้ การเข้าประทะหนักๆ ไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งทำให้กองหน้าตอร์เรสเล่นได้มากอีกจังหวะก็คือ ลูกที่ 4 ที่เฮียเต่าปล่อยไม่โหม่ง ผมว่าเฮียแกโหม่งถึงนะครับ แต่ไม่เลือกที่จะโหม่งอาจจะเพราะไม่เห็นตัววิ่งสอดขึ้นมาก็ได้ ตรงนี้ก็คือสมาธิอีกนั่นแหละครับ แต่ถ้าเทียบกับพี่วีแล้ว เกมนี้เฮียเต่าก็ยังดูมีสมาธิมากกว่าพอสมควร โดยรวมถ้าตัดลูกที่ 3 และ 4 ที่โดนไปออก เฮียเต่าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดมากมายนักในแต่ละจังหวะ เพียงแต่ไม่เท่ากับนัดก่อนๆที่เคยทำมาเท่านั้น

[b] Evra [/b] – ผู้รับผิดชอบในประตูที่ 2 คือพี่ติ๊กของสาวๆนี่แหละครับ ผมค่อนข้างแปลกใจ และทึ่งในความเร็วของเจิดจริงๆที่เร่งแซงพี่ตี๊กที่อยู่ข้างหน้าไปแบบเห็นๆ เพราะที่ผมเห็น คือพี่ติ๊กออกตัวก่อนเสียอีก แต่กลับไปถึงบอลช้ากว่า ในด้านเกมบุกก็ทำได้โอเคเลยนะครับ เพียงแต่จังหวะทะลุทะลวงโดนบล้อค และตัดออกไปตรงนี้ต้องชมเกมรับลิเวอร์พูลที่แพ้คมาแน่นจริงๆ ทำให้เมื่อโดนสวนตรงที่ว่างพี่ติ๊กนี่แหละครับ ที่ตอร์เรส หรือเจอ ฉีกมาเอาลูกหลายครั้งทีเดียว โดยรวมเป็นอีกคนที่สมาธิหลุดไปมาก หวังว่าจะอมยาอมแล้วมาพูดแล้วหอมอีกครั้งครับ

[b] O’Shea [/b] – ส่วนตัวเป็นกองหลังที่มีสมาธิที่สุดในเกมนี้ เล่นได้ตามมาตรฐานจับฉ่ายที่ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ไม่มีอะไรพลาดมากมาย จะมีก็ลูกที่สี่ที่โดนนั่นแหละครับ ที่วิ่งตามดอสเซน่าไม่ทัน แต่ถ้าดูจากภาพจับฉ่ายคิดว่าเฮียเต่าจะโหม่ง จะเห็นว่าหลังจากเสียประตูจับฉ่ายหันมาโวยเฮียเต่าด้วย เป็นภาพที่นานๆทีถึงจะได้เห็น โดยรวมเล่นได้โอเคครับ เป็นกองหลังที่ผมเชื่อใจที่สุดในเกมนี้ ในการเข้าประกบ

[b][u] กองกลาง [/u][/b]

[b] Carrick [/b] – เล่นได้ดีครับ ได้ตามมาตรฐาน แต่ติดตรงที่ขาดกลางที่มาคอยสนับสนุน อย่างที่ผมเคยบอกในทรรศนะก่อนเกมครับ ว่ากลางอย่างเจ้าอันเดอร์ชอบเร่งเกม และไม่ชอบมาประคอง อีกทั้งหลุดสมาธิบ่อยมาก จะเห็นว่าCarrick ต้องมายืนเป็นกลางตัวเดียวบ่อยมากทีเดียว และช่องว่างตรงนี้แหละครับที่ทำให้ลิเวอร์พูลสวนเข้าไปได้ทุกครั้ง อีกทั้งกองหลังไม่มีกลางมาช่วยไล่ ทำลาย และเบรคเกมเร็ว จึงงานเข้ามากอย่างที่เห็น ในการบุกจังหวะประคองบอลไม่มีกองกลางมาประคองช่วย จึงต้องส่งออกข้าง หรือคืนหลัง ซึ่งทำให้เกมไม่เดินหน้า แต่ถ้าจะหาคนที่เล่นดีที่สุดของแมนยูในเกมนี้ มีสมาธิ และตามมาตรฐานหนึ่งในนั้นก็คือ Carrick นี่แหละครับ

[b] Anderson[/b] – เจ้าหนูอันเดอร์!!!!! ... ขอพักใจนิดนึงนะครับ โอเคมาว่าต่อ เกมนี้เจ้าหนูอันเดอร์ผู้เป็นทายาททาร์ซาน เล่นจนเสียฟอร์มเจ้าป่าทีเดียว จ่ายบอลเสียบ่อยมากที่สุดในทีมแมนยู ยืนตำแหน่งผิดบ่อยมากทีเดียว และสมาธิในการไล่บอลดูขาดๆหายๆไป การเข้าบอลช้าไปในทุกจังหวะไม่เหมือนเจ้าหนูคนเดิมที่ผมเคยเห็นที่บู๊มัน แถมยังเร่งเกมจนเฟ้อทีเดียว ซึ่งสำหรับผมเจ้าหนูนี่คือจุดอ่อนที่สุดในเกมนี้ของแมนยูในครึ่งแรก ยังดีที่ครึ่งหลังทำเกมบุกได้ดีขึ้น แต่จังหวะเร่งจ่าย การยืน ก็ยังคงเหมือนเดิม โดยรวมด้วยศักยภาพผมยังเชื่อในเจ้าหนูคนนี้นะครับ ว่าจะเป็นอนาคตที่ดีของแมนยู และดีพอสำหรับแมนยูแน่นอนถ้าพัฒนาเรื่องจังหวะ และสมาธให้มากขึ้น

[b][u] ปีก [/u][/b]

[b] Ronaldo [/b] – นางสาวโด้ในช่วงแรกดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันของสาวคนนี้ทีเดียว เพราะแม้จะเลี้ยงติด แต่ก็เลี้ยงมาจ่าย มาป่วนได้บ่อยๆ แถมมายิงประตูแรกด้วยจุดโทษได้อีก แต่พอเวลาผ่านไปคงจะหงุดหงิดฟอร์มตัวเองพอควร ต้องชมเกมรับของลิเวอร์พูลด้วยที่ปิด และตัด นางสาวโด้ให้โดดเดี่ยวมาก ได้ลูกทุกครั้ง โดนเข้าสอง เข้าสามตลอด ไม่มีตัวว่างให้จ่ายต้องเลี้ยงลุยเข้าไปเอง ส่วนจังหวะยิงก็ยังไม่กลับมา อีกทั้งเกมนี้จังหวะเปิดดูจะกดดัน และเปิดเสียค่อนข้างบ่อยทีเดียวหลังจากที่ทีมตามแล้ว โดยรวมผมว่านางสาวโด้คงจะเหนื่อยแล้วละครับ ลงบ่อย วันนี้ความเร็วที่กระชากหายไปมากทีเดียว ดูไม่สดชื่นเท่าไร หวังว่าการได้พักเต็มๆ ใน 1 สัปดาห์จะ ทำให้นางเอกของเราไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนม กลับมาเปร่งปรั่งอีกครั้ง

[b] Park [/b] – หนึ่งในผู้เล่นแมนยูที่เล่นดีที่สุดในความเห็นของผม มีสมาธิ และสร้างเกมบุก รวมทั้งสร้างโอกาสที่นำมาสู่ประตูแรกของแมนยู แถมยังมีจังหวะสอดเข้าไปหลายครั้ง เพียงแต่ช้าไปจึงโดนตัดไปได้ก่อน เกมรับช่วยไล่ได้ดี ไม่อย่างนั้นกองหลังน่าจะงานเข้ามากกว่านี้แน่นอน โดยรวมเล่นได้ตามมาตรฐาน จะว่าดีกว่ามาตรฐานก็ได้ครับ นี่ละครับความใจสู้ของคนเอเชีย ผมละภูมิใจจริงๆ

[u][b] หน้า [/u] [/b]

[b] Rooney [/b] – ผมว่าเจ้าหมูดูมุ่งมั่นเกินไป ผมสังเกตมาหลายทีแล้วละครับ ในนัดไหนที่เจ้าหมูโดนสื่อเล่นข่าวหนักๆ เช่นเจอเอเวอร์ตัน หรือนัดนี้ เจ้าหมูจะดูมุ่งมั่นมากมาย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องดีกับเจ้าหมูไฟคนนี้ เพราะเป็นผู้นิยมความร้อนแรงเป็นทุนเดิม ดังนั้นการที่มุ่งมั่นหนักเข้าจะกลายเป็นพาสมาธิ และความสุขุมหลุดออกไป ผลของมันก็คือไอเดียหายไปครับ เกมนี้ไอเดียเกมบุกของเจ้าหมูเรียกได้ว่าหายไปมาก ช่วงที่เจ้าหมูเล่นดีที่สุด คือ ตอนที่นำ 1-0 และต้นครึ่งหลังที่เริ่มกดดันลิเวอร์พูล แต่หลังจากนั้นดูจะมุ่งมั่น แต่ไอเดีย การเล่นเป็นทีมหายไปครับ

[b] Tevez [/b] – โดดเดี่ยวจริงๆ สำหรับทาร์ซานของเราเหมือนอยู่ในป่าคนเดียว เกมนี้จังหวะหลายๆอย่างไม่เป็นใจให้เตจังเป็นฮีโร่จริงๆ มีแต่กุ้กไปกิ๊กมา ยิ่งช่วยต้นครึ่งหลังยิ่งชัดทีเดียว นิดๆหน่อยๆ ถ้าได้สักลูกเค้าคงจะเป็นทาร์ซานฮีโร่ของเราอีกก็เป็นได้ การเก็บบอลทำได้ดีครับ แต่เนื่องจากเจ้าหมูเกิดมุมานะเหลือเกิน และต้องชมเกมรับลิเวอร์พูลที่ปิดการประสานงานของผู้เล่นเกมรุกของแมนยูออกไปจากกัน จึงค่อนข้างโดดเดี่ยวเหงาหงอย โดยรวมไม่ได้เล่นต่ำกว่ามาตรฐานครับ แต่จังหวะไม่เป็นใจ และขาดการสนับสนุนที่ดี


[b][u] สำรอง [/u][/b]

[b] Giggs [/b] – ลงมาสักพักยังไม่ทันทำอะไร สถานการณ์ก็แย่ลงสุดๆ แต่ก็ยังทำจังหวะขึ้นเกมได้ดี ซึ่งจะว่าไปมิติเกมรุกของแมนยูเปลี่ยนไปมากเลยนะครับหลังจากตำนานคนนี้ลงมา แต่ติดตรงที่เหลือ 10 ตัวแล้วนี่สิ โดยรวมเพิ่มมิติเกมได้ดีครับ แต่จังหวะทุกอย่างไม่เป็นใจจริงๆ

[b] Scholes [/b] – เช่นเดียวกับ Giggs ลงมาแป๊บเดียวทุกอย่างก็แย่ลงไปหมด จังหวะส่วนใหญ่ช่วยต่อบอล และประคองเกมได้เก๋าทีเดียวในภาวะอย่างนี้ นี่แหละครับความแตกต่างของนักเตะอย่างอันเดอร์ และScholes โดยรวมคงจะประเมินอะไรไม่ได้มาก แต่นิ่งและรู้จังหวะการเล่นครับ

[b] Berbatov [/b] – เป็นอีกหนึ่งตัวสำรองที่งานเข้าหลังจากลงมา ผมละเสียดายจริงๆที่วันนี้เบอร์บาไม่ได้ลงมาตั้งแต่แรก ส่วนตัวผมชอบเบอร์บา มากกว่าเจ้าหมูเสียอีกในเกมนี้ เพราะเก็บบอลยาว และพักบอลกดกองหลังลิเวอร์พูลได้ แต่พอมาลงแล้วเจอตัวน้อยกว่า แถมตามเยอะทุกอย่างก็เลยผิดไปหมด โดยรวมทำหน้าที่ได้ปกติครับ ไม่มีอะไรเด่น และด้อย

เกมนี้อยู่ที่สมาธิจริงๆครับ นักเตะแมนยูเหมือนขาดสมาธิจริงๆ พลาดเสียบอลในแดนกลาง และกองหลัง ซึ่งเป็นข้อห้ามจริงๆในการเจอกับลิเวอร์พูล เพราะเป็นเกมบี้เร็ว ให้เราพลาด แต่ทั้งนี้ก็ต้องชมลิเวอร์พูลที่เล่นในสภาพกดดันห้ามแพ้ได้อย่างมีสมาธิแม้จะโดนนำไปก่อนก็ตาม ผมไม่อยากเห็นการออกมาต่อว่านักเตะคนโน้น คนนี้เลยจริงๆ เพราะทุกคนก็อยากเล่นดีกันทั้งนั้น และพวกเขาเหล่านี้นี่เองแหละครับที่ทำให้แมนยูเรามีลุ้นแชมป์ในตอนนี้ทุกถ้วยอยู่ ทุกทีมต้องมีวันฟอร์มตก ส่วนตัวผมถือว่าเป็นสิ่งดีที่มาหลุดในเกมที่หลุดได้ ดีกว่ามาหลุดกับทีมที่เราต้องชนะนะครับ และการชนะมันย่อมให้ความรู้สึกที่ดีกว่า แต่การแพ้มันก็สร้างความรู้สึกอีกแบบให้กับเรานะครับ อย่างที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้ นี่แหละครับสเน่ห์ของกีฬาที่เราชอบกันที่ชื่อ ฟุตบอล ส่วนตัวการแพ้ในทุกครั้งมันทำให้เรารู้ว่าเราสัมพันธ์กับทีมนี้ขนาดไหน เอาเป็นว่าผมไม่เคยไม่ภูมิใจที่เชียร์แมนยูเลย แม้จะแพ้ในเกมนี้ก็ตาม ตอนนี้ก็คงจะเป็นเพื่อนๆแล้วละว่ารู้สึกภูมิใจหรือเปล่า

สุดท้าย เกมนี้ถ้าจะมีผลก็คงเป็นเรื่องของจิตใจที่สร้างความสั่นคลอนจากความมั่นใจ หรือถูกสะกิดให้มองทางข้างหน้าว่ามันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนคิดๆกัน ซึ่งผมมองว่าเป็นแง่ดีของเกมนี้ก็มีหลายด้าน อยู่ที่เราเลือกมองจริงๆ โดยส่วนตัวคิดว่าการที่เราเดิน ในโครงการล่าห้าแชมป์ไปกับท่านเซอร์ โดยทุกอย่างราบเรียบ คงต้องมีสักวันที่จะมีโอกาสที่ไปพลาดในเกมที่เรียกกว่าห้ามพลาด อย่างUCL หรือ FA เห็นมั้ยครับ แต่เกมนี้ สำหรับผมเป็นเกมที่พลาดได้ อย่างที่เคยเขียนในทรรศนะก่อนเกมแหละครับ ว่าเกมนี้ไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ แต่เป็นเกมเลือกคู่แข่งชิงแชมป์ อีกข้อหนึ่งก็คือ ความสุขที่ได้จากความสำเร็จคงจะไม่หอมหวาน และมีค่า ถ้าเนื้อเรื่องทุกอย่างมันราบเรียบ ก็เหมือนอย่างเจ้าชาย เจ้าหญิงในเทพนิยายที่รู้จักกันทั่วโลกนั่นแหละครับ ไม่มีสักเรื่องที่ราบเรียบ แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้คือ ทุกเรื่องทุกตอนไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค โชค ดวง มันหล่อหลอมมาสู่ความสุขตอนท้ายได้อย่างชนิดเหมาะเจาะทีเดียว ดังนั้นผม และทุกท่านในฐานะผู้ชื่นชอบเทพนิยายบทนี้ สิ่งที่ต้องทำ คือเปิดหน้ากระดาษ และอ่านต่อไปไม่ว่าหน้านั้นจะเศร้า หรือสะเทือนใจเพียงใด เพื่อนั่นหละครับวิธีที่จะได้รับความสุขของตอนจบที่แท้จริง





[b][u]คะแนนนักเตะ ตามทรรศนะส่วนตัว [/u][/b]

[b] Van der Sar [/b] – 6
[b] Vidic [/b] –5
[b]Ferdinand [/b] – 6
[b] Evra [/b] – 5.5
[b] O’Shea [/b] – 6
[b] Carrick [/b] –6.5
[b] Anderson [/b] –4.5
[b] Ronaldo [/b] –6.5
[b] Park [/b] –6.5
[b] Rooney [/b] – 6
[b] Tevez [/b] – 6.5

[b][u] สำรอง [/u][/b]

[b] Giggs [/b] – ประเมินไม่ได้
[b] Scholes [/b] – ประเมินไม่ได้
[b] Berbatov [/b] -ประเมินไม่ได้




Create Date : 15 มีนาคม 2552
Last Update : 15 มีนาคม 2552 23:14:44 น.
Counter : 253 Pageviews.

1 comment
(=^_^=) [พุงกามามะ] –เกมแห่งอารมณ์ จังหวะและการตัดสินของเพื่อน สู่บทสรุปสุดท้ายที่ย้ำเตือนว่าเป็นเรื
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าวันนี้ผมเพิ่มตรงส่วนให้ทุกท่านที่มาอ่านช่วยเลือกด้วยนะครับ รบกวนท่านที่เข้ามาอ่านกดว่าเป็นแฟนทีมอะไรด้วยนะครับ แอบอยากรู้ว่ามีแฟนทีมอะไรเข้ามาอ่านบ้าง เที่ยวนี้มาเร็วหน่อย เพราะกลัวมาช้าเดี๋ยวจะไม่ทันใจวัยรุ่นหลายๆท่าน อิอิ ก่อนอื่นจากผลวันก่อนต้องบอกว่าผมเป็นคนงมงายไปเรียบร้อยแล้วนะครับ ในขณะที่เกมนัดนี้คงไม่ต้องบอกถึงความหมาย ความสำคัญ บรรยากาศ ว่าจะสุดยอดขนาดไหน เพราะสื่อคงจะทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีทีเดียว แต่จุดที่อยากให้มอง คือผลของเกมนี้ของทั้งสองทีมให้ผลไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าลิเวอร์พูลได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ นั่นคือ สามารถตามแมนยูได้ใกล้ขึ้น ประกอบกับเชลซีก็จะตามมาได้ใกล้ขึ้น แต่เอาเข้าจริงมันก็เพียง 3 คะแนนที่หายไป ซึ่งทำให้แมนยูนำ 4 คะแนน โดยมีเกมตกค้างอีก 1 เกม ซึ่งถ้าเก็บได้ก็จะเป็น 7 คะแนน ตรงนี้ก็แล้วแต่คนมองครับว่ามาก หรือน้อย ส่วนในกรณีแมนยูได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ก็มีผลเช่นกันคือ 3 คะแนน แต่พอดี 3 คะแนนนี้ไปบวกกับ 7 คะแนน เป็น 10 คะแนน โดยแข่งน้อยกว่า 1 เกม ตรงนี้คงไม่ต้องบอกก็รู้กันครับ ว่าเยอะมาก เพราะพวกตัวเลขเดี่ยวๆ ลองขึ้นเป็นสองหลักแล้วมันส่งผลต่อความรู้สึกทั้งนั้น แต่จะบอกว่าเกมนี้เป็นเกมตัดสินแชมป์ก็คงไม่ถูกนัด เพราะยังมีคู่แข่งอย่างเชลซีที่พร้อมจะสอดแทรกเข้ามาได้ ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่าเกมนี้ไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ แต่ถึงไม่เป็นด้วยความที่แมนยู เจอลิเวอร์พูล มันก็เป็นเกมที่น่าดูเสมอแหละครับ

มาสู่บทความนอกเรื่องแต่ไม่นอกความกัน ผมได้พูดถึงความเชื่อ และดวงไปแล้วในกระทู้ก่อนๆ กระทู้นี้จะพูดถึงกระแสความเชื่อนะครับ มาว่ากันเลยนะครับ ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าจะมีคนสร้างกระแส ตามติดกระแสมากเหลือเกิน ยิ่งก่อนเกมกลางสัปดาห์ที่เจออินเตอร์ เรียกได้ว่ามากันยกหมู่บ้านทีเดียว บางทีแอบสงสัยเหมือนกันนะครับว่าพวกเค้าเหล่านี้ อาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ อาจจะมีระบบเครือข่าย ถึงกัน ประมาณว่า “เฮ้ย ตู ส่งไปแนวนี้นะ เอ็งมาตบด้วยอีกกระทู้แนวนี้นะ” หรืออาจจะเป็นอารมณ์เหงาอยากมีเพื่อน ก็คงเหมือน SMS ทางหน้าจอทีวีนั่นแหละครับ ที่บอกว่า “ลำปางหนาวมาก” แต่ถ้าเรามองคนพวกนี้ดีๆ เราจะเข้าใจเค้าเพิ่มขึ้นมากทีเดียว เพราะเค้าทำไปเพราะความเชื่อของตน ซึ่งเกิดจากสิ่งที่ได้พบ หรือจะงมงายแบบที่ผมเชื่อในทรรศนะก่อนเกมของผมก็ได้ เห็นมั้ยครับผมเองยังเชื่ออะไรงมงาย ซึ่งไม่รู้จะมีท่านไหนมาเชื่อกับผมหรือเปล่า ดังนั้นการตั้งกระทู้สุดยอดก่อนเกม เพื่อต้องการได้รับการโหวต การฟันธงแบบหักๆ หรือเจิมนู่น เจิมนี่ ก็ล้วนจะเป็นความเชื่อของเค้าเหล่านั้นครับ โดยเค้าต้องการแสดงตัวตนของตนเองออกมา ก็เหมือนผมนั่นแหละครับที่เขียนทรรศนะในแบบตัวตนของผมเอง ถ้าจะเห็น คือผมจะใช้คำว่าส่วนตัวคิดว่า เสมอๆ ดังนั้นตอนนี้ถ้าเราเห็นกระทู้กระแส สร้างกระแส อย่าไปว่าเค้าเลยครับ แต่ขอให้เข้าใจว่านั่น คือตัวตนของตัวเค้าเองจริงๆ อีกอย่างเรื่องการโหวตประจานขึ้นกระทู้แนะนำ อันนี้ผมมองว่าไม่ผิดอะไรครับ เพราะท่านที่โหวตก็มีความเชื่อในแบบของตนที่ว่า ถ้าพลาดเอ็งโดนแน่!! เห็นมั้ยครับทั้งหมดเป็นเรื่องของความเชื่อ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ


กลับมาดูที่ลิเวอร์พูลกันบ้าง วันนี้ต้องบอกว่าคงมีแฟนๆลิเวอร์พูลแวะเข้ามาอ่านหลายท่านทีเดียว ถ้าไม่ถูกใจ หรืออย่างไร ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย มาเริ่มกันนะครับ สถานการณ์ของลิเวอร์พูลในเกมนี้ อย่างที่บอกไว้คือ แพ้ไม่ได้ และด้วยความมั่นใจจากเกมกลางสัปดาห์ ประกอบกับผลนัดแรกที่เจอกัน ย่อมสร้างความหึกเหิมให้นักเตะได้แน่นอน ประกอบกับลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ใช้การบีบเร็ว วิ่งบี้เร็ว ถึงตัว และหนัก เป็นทุนอยู่แล้ว แต่ในเกมใหญ่อย่างนี้การเข้ารับรองว่าจะเร็ว และหนักกว่าเดิมแน่นอน โดยในเกมนี้คาดว่าลิเวอร์พูลจะมาบี้ และวิ่ง อย่างเร็ว และหนักสุดๆ แน่นอน และคงจะไม่มีหมดด้วยเพราะได้พักมาจากกลางสัปดาห์พอสมควรเนื่องจากเกมค่อนข้างขาด โดยจะอาศัยความผิดพลาดในการจ่ายบอลของแมนยู เป็นจังหวะเข้าทำ ในเกมบุกน่าจะอาศัยลูกเปิดด้านข้าง และยิงไกลเป็นหลัก ในด้านเกมรับจะอาศัยการวิ่งซ้อนกันไปมา ถ้าเรานึกไม่ออก ก็คือแผนที่เราเอาไว้ใช้กับบาร์ซา หรืออินเตอร์ นั่นแหละครับ เมื่อคู่แข่งกำลังลำเลียงลูกข้ามครึ่งสนามมา ปีก และกองหน้า จะวิ่งเข้าหาบอล บีบเร็วทุกจังหวะ ไม่ปล่อยให้เล่นง่าย ๆ ถ้าได้บอล ตัวกลางที่ถอยไปรับจะวิ่งมาเติมแล้วทำเกมบุกต่อ แต่ถ้าคู่แข่งหลุดมาได้จนถึงครึ่งสนาม จะมีตัวกลางรับ หนึ่งตัวเข้าไปเบรคเกม ซึ่งถ้าไม่อยู่จริงๆ จะดึงฟาวล์ หรือเตะ เพื่อหยุดเกมให้ปีก ลงมารับในด้านข้างได้ทัน แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็จะมีกลางรับอีกตัว เข้าไปทำหน้าที่เช่นเดิม และสุดท้ายถ้าหลุดจริงๆ ปีกก็จะมาไล่ประจำตำแหน่งได้ทัน ซึ่งก็จะเป็นกำแพงสองชั้นไป ซึ่งส่วนตัวคิดว่านี่จะเป็นสิ่งที่เราได้เห็นบ่อยๆในเกมนี้ มาดูผู้เล่นที่น่าสนใจในเกมนี้กันนะครับ เพื่อให้เห็นภาพผมจะยกตัวอย่างของนักเตะเป็นร่างกายคนเรานะครับ
- สตวี่ จี เป็นหัวใจของลิเวอร์พูลทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปยังจุดต่างๆ ทั้งในการรับ และบุก มีการเข้าสะกัดที่หนัก และถึงคนจริงๆ ในด้านเกมรุกสามารถเติมมายิงไกล และประสานงานกับผู้เล่นแนวรุกได้อย่างดี
- Alonso คือสมอง เป็นตัวตัดสินใจเลือกจังหวะ และดึงจังหวะชั้นยอดของลิเวอร์พูล ทำหน้าที่วิ่งทำเกม เปิดลูกเพื่อสร้างสรรค์ในเกมบุก และตัดสินใจเข้าสะกัดเป็นตัวกลางสุดท้ายในเกมรับ
- มาสเคราโน่ คือขนที่อยู่ทั่วร่างกายมากน้อยแตกต่างกันไปตามความสำคัญ ที่จะคอยเข้าประกบ คู่แข่งตลอดเวลา จะเป็นกลางตัวแรกที่เข้าไปเบรคเกม และตัดเกมคู่แข่ง จนถึงแดนตัวเองก็จะคอยวิ่งประกบตลอด โดยถ้าบีบได้ผลจะทำให้เกมรุกสามารถตั้งเกมบุกได้ตั้งแต่ครึ่งสนามทีเดียว
- เดิร์ก เค้าท์ คือ ขา ทำหน้าที่วิ่งไล่กวด วิ่งหาช่อง ทั้งเกมรุก และรับ หน้าที่ในเกมรับ คือปีกที่คอยวิ่งบีบตั้งแต่แนวรับคู่แข่ง จนมาถึงแดนตนเอง เกมรุกจะวิ่งขึ้นไปเติมตามช่อง เพื่อกดดันคู่แข่ง มีความขยัน และแรงที่วิ่งได้ไม่หมด
- ตอร์เรส คือ มือที่จะทำสิ่งต่างๆ เป็นตัวจบที่อันตรายของลิเวอร์พูล เพราะเล่นได้หลายรูปแบบ ไปกับบอลได้เอง โหม่งได้ ยิงไกลได้ มีความเร็ว และมีเซนส์การยิงที่ดีมากทีเดียว
- คาร์ราเกอร์ คือผิวหนังที่คอยสะท้อนบอลคู่แข่งออกจากตัว ตัวกองหลังที่มักจะเคลียร์จังหวะสุดท้ายให้ลิเวอร์พูลได้บ่อยๆ เพราะจังหวะการเข้าบอลที่ค่อนข้างดี แถมมีลูกเคลียร์ที่ขาด คือไม่เสียดายบอลทีเดียว นั่นคือเกิดความผิดพลาดในการจ่ายบอลน้อย

กลับมาที่แมนยู ก่อนที่เราจะมาดูรายละเอียดของการจัดตัวของแมนยู เรามาดูผู้เล่นที่พร้อมในเกมนี้กันนะครับ (?? คือ ยังไม่แน่ว่าพร้อมหรือไม่)

[b]ตำแหน่งผู้รักษาประตู [/b]
Van der Sar
Kuszczak
Foster

[b]กองหลัง[/b]
Neville??
Evra
Ferdinand
O’shea
Eckersley
Fabio
Rafael??
Evans
Eckersley
Vidic

[b]กองกลาง[/b]
Carrick
Scholes
Gibson
Fletcher
Possebon
Anderson

[b]ปีก และกองหน้า[/b]
Park
Nani
Tosic
Welbeck
Berbatov
Giggs
Ronaldo
Tevez
Rooney

โดยตัวจริงที่ผมคาดว่าท่านเซอร์น่าจะจัดลงใช้งาน เป็นดังนี้ครับ (ชื่อในวงเล็บ คือ มีโอกาสสอดแทรกนะครับ)


Berbatov (Tevez)

Rooney

Ronaldo Park


Carrick Fletcher (Anderson)


Evra Vidic Ferdinand O’shea

Van der Sar (Foster)


[b][u]มาดูจุดที่น่าสนใจในแต่ละตำแหน่งของแมนยูกันนะครับ [/u][/b]

[b] ประตู [/b] – ถ้าไม่มีอะไรที่สร้างความประหลาดใจ และน้าซาร์ฟิตพอน่าจะได้รับโอกาสในเกมนี้ แต่จุดที่ผมสังเกตมาหลายครั้งทีเดียว คือน้าซาร์จะไม่เล่นเกมติดกันทุกๆ 3 วัน จะต้องพัก ดังนั้นถ้าเป็นไปตามนั้นโอกาสน่าจะเป็นของ Foster

การคุมจังหวะ การออกมาตัดบอล จากลูกตั้งเตะ ความแน่นอน ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นต่อประตูของแมนยูไมม่ว่าในเกมไหนๆก็ตาม จะต้องไม่หวดอย่างเดียว ต้องคิดตลอดเวลา และจ่ายออกไปเร็วช้า เพื่อให้เพื่อนทำเกมต่อไปได้ และในเกมนี้ที่สำคัญเพิ่มขึ้น คือจังหวะออกมาสะกัดบอลโยนยาวของลิเวอร์พูลที่ให้กองหน้าวิ่งไล่กวดหนีกองหลัง จะต้องตัดสินใจให้ดี และออกมาให้ถูกจังหวะ

[b] แผงหลัง [/b] – เฮียเต่า และพี่วีน่าจะได้ลงแน่นอน ที่น่าสนใจคือเฮียเต่ามีอาการเจ็บเพิ่มจากเกมกลางสัปดาห์ หรือเปล่า แต่เท่าที่ตามข่าวมายังไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้น น่าจะได้ลงมาโชว์วิชาดูดบอลแน่นอนครับ ในขณะที่แบ็คซ้ายพี่ติ๊กของสาวๆน่าจะได้โชว์ลมหายใจหอมๆในเกมนี้ คู่กับด้านแบ็คขวาที่มีเทพจับฉ่าย ผู้เคยสร้างความประทับใจให้เหล่าแมนยูมาแล้ว

คู่หลังเกมนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญทีเดียวในเกมนี้ จะต้องจับหน้า และดักทางการสอดของกลางผู้มาเยือนให้แน่นครับ ถ้าเปรียบตอร์เรสเป็นมือ ก็ขอให้ล้อคกุญแจมือไปเลยทีเดียว อย่าให้มีจังหวะเลี้ยงได้เด็ดขาด ต้องเบรคเกมในทุกจังหวะ เพราะส่วนตัวคิดว่าจุดที่ตอร์เรสยังทำได้ไม่ดี คืออารมณ์ ผมว่าเค้าเหมือนน้องหมูเรานั่นแหละครับ ต่างกันตรงบุคลิกที่ดูเงียบเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว เป็นคนใจร้อนมากถึงมากที่สุดทีเดียว ถ้าคู่หลังบีบเร็ว ประทะเร็วจนทำให้หัวเสียแล้วละก็ บางทีอาจจะหายไปจากเกมเลยก็ได้ครับ และอีกอย่างด้วยสภาพร่างกายที่ค่อนข้างเปราะ การเข้าประทะหนักๆบ่อยๆก็จะเป็นปัญหาได้ นอกจากการล้อคหน้าแล้ว จะต้องบังทางบอลจ่ายของลิเวอร์พูลให้ดี นัดนี้ขอให้สังเกตวิชาดูดบอลเข้าหาตัวของเฮียเต่า และวิชากำแพงทองคำเบอร์ห้าของพี่วี นะครับ จะมีประโยชน์กับทีมเรามากมายทีเดียว ในด้านแบ็คซ้าย พี่ติ๊กจะต้องเติมแต่พองาม อย่ามัวแต่ไปหาสาวๆ จนหลุดตำแหน่ง และทำให้เกมด้านนี้ทะลักขึ้นมา ในเกมบุกเชื่อว่าพี่ติ๊กของสาวๆน่าจะทำได้ดี และจะว่าไปจังหวะสอดของพี่ติ๊กนั่นแหละที่จะเป็นโอกาสในเกมนี้อย่างหนึ่ง ในขณะที่ด้านแบ็คขวา เฮียจับฉ่ายต้องยืนจังหวะให้ดี ถ้าจะฟาวล์ต้องเอาตั้งแต่นอกเขตอันตรายอย่างที่ทำกับอินเตอร์ และอย่าเข้าโฉ่งฉ่างจนโดนใบเหลือง ไม่งั้นจะเล่นยาก ส่วนตัวผมเชื่อใจเฮียจับฉ่ายในเกมรับนะครับว่าจะเอาอยู่ และคิดว่าด้วยวิวัฒนาการของเทพที่ผมพยายามจะบอกในหลายๆครั้ง คือจังหวะสอดในเกมบุกน่าจะมาแสดงสัมผัสเทพในเกมนี้ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด กองหลังจะต้องไม่จ่ายบอลพลาด จะต้องประคองเกมให้ได้ ไม่ใช่หวดยาวอย่างเดียว ต้องคอยดึงช้า บ้างเร็วบ้าง ซึ่งนั่นจะทำให้เกมของลิเวอรูลที่เน้นจังหวะบีบ เข้าประกบเร็ว ก็จะมีช่องเกิดขึ้นให้โจมตี ถ้าทำได้โอกาสในแดนอื่นๆจะเปิดกว้างมากทีเดียว


[b] กองกลาง [/b] – Carrick น่าจะได้รับบทบาทตัวพระเอกคุมเกมในเกมนี้แน่นอน สำหรับบทพระรองนั้นผมคิดหนักทีเดียว เพราะสองตัวเลือกนี้ ให้ผลที่แตกต่างกัน ถ้าเทพเฟรทจะได้ความแน่นอน และแผน แต่เกมรุกอาจจะไม่มีลูกหวือหวามากนัก แต่ถ้าเป็นเจ้าอันเดอร์ จะสร้างความหวือหวา ล้อค เลี้ยงไปกับบอลได้ในเกมรุก แต่เกมรับการเข้าประทะ จังหวะอาจจะไม่เท่าเทพเฟรท ด้วยเกมนี้กลางถือเป็นจุดสำคัญดังนั้นจะต้องโดนบีบให้จ่ายพลาด และเจ้าอันเดอร์ยังคุมจังหวะได้ไม่ดีเร็วไปบ้างในหลายจังหวะ บทบาทพระรองจึงน่าจะตกเป็นของ Joker เทพเฟรท ที่พักมาเต็มที่ โดยมีเจ้าอันเดอร์ทายาททาร์ซานมาเป็นตัวสอดแทรก

จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอีกจุดในเกมนี้ ก็คือกองกลาง อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไมเกมนี้มีจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญถึงสองจุด นั่นเพราะอย่างที่บอกไว้ เกมของลิเวอร์พูลเป็นเกมบีบเร็ว เข้าเร็ว และหนัก การบีบเร็ว เข้าเร็ว นั้นมันมีดาบสองคมอยู่ครับ การเข้าเร็ว บีบเร็ว มันก็เหมือนกับคนที่ทำอะไรเร็วๆนั่นแหละครับ มักจะเกิดความผิดพลาดได้ นั่นคือช่องให้เจาะเข้าไป แต่ก่อนที่จะเจอช่องนั้นหลังกับกลางจะต้องเอาตัวรอดออกมาให้ได้เสียก่อน และสำคัญที่สุดคือห้ามเสียบอลในแดนทั้งสองที่เป็นจุดสำคัญเด็ดขาด ไปเสียจุดอื่นไม่เป็นไรว่ากันใหม่ได้ เกมนี้ Joker อย่าเทพเฟรทจะต้องคอยประคอง Carrick ในเกมรุกให้ดี อย่าส่งบอลเสียเด็ดขาด พยายามดึงจังหวะจนเกิดช่อง ให้ปีก หรือหน้าเข้าไปรับบอลเพื่อทำเกมต่อไป ซึ่งนั่นคือหน้าที่หลักในเกมบุกของกลาง หน้าที่เสริมในเกมบุก คือการเข้าไปสอดในจังหวะเข้าทำสุดท้าย ซึ่งอย่างที่บอกว่าอะไรที่เร็วก็มักจะมีหลุด จุดที่หลุดนั่นแหละครับ คือจังหวะเข้าของกลาง หรือตัวเติมเข้าไป หน้าที่หลักอีกอย่างของจุดนี้ คือเกมรับ ลิเวอร์พูล เบรคเกมอย่างไร เกมนี้กลางแมนยูก็จะต้องเบรคเกมแบบเดียวกันนั่นแหละครับ เพื่อบีบให้จ่ายบอลยาก และให้ลูกไปถึงหน้าให้แม่นน้อยที่สุด ถ้าทำได้ต้องตัดหัวใจ และสมองของทีมเยือนออกไปจากเกม (สำหรับท่านที่ลืมแล้วสามารถกลับไปอ่านข้างบนครับ) หรืออย่างน้อยต้องทำให้หัวใจ สูบฉีดช้าลง และสมองสั่งการช้าลง ไม่ว่าด้วยวิธีใด ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวฝากความหวังไว้กับเทพเฟรทพอสมควรทีเดียว เพราะเค้าจะทำหน้าที่เป็น ขน ของทีม โดยมี Carrick เป็นตัวกรองอีกชั้น

[b] คู่ปีก [/b] – นางสาวโด้ได้ลงมาโชว์ลีลาอีกแน่นอนในปีกข้างหนึ่ง โดยอีกข้างน่าจะเป้นโอกาสของตี๋Park เข้ามาช่วยสร้างสมดุลย์

หน้าที่ของนาวสาวโด้ในเกมนี้ คือการยั่วยวน ถ้าจะบอกตรงๆ ก็คือล่อให้นักเตะทีมเยือนเข้ามาหานั่นแหละครับ เพื่อเรียกฟาวล์ และอาศัยความสามารถสเน่ห์ติดตัว เอาตัวรอดเพื่อจ่ายต่อ หรือทำเกมเอง เพื่อกดเกมข้างหนึ่งของลิเวอร์พูลให้ขึ้นมาเติมไม่ได้มากนัก เกมนี้ไม่ต้องแปลกใจนะครับถ้านางสาวโด้จะโดนผู้ชายทีมเยือนรุมกันมากมาย ไม่ใช่เพราะความเนื้อหอม แต่เพราะความหมั่นไส้ ฮ่า แต่ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าลองเรียกใบได้สักคน เกมของนางสาวโด้จะเล่นง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายอาจจะเห็นเจ้าโด้โชว์จนเป็นนางเอกไปเลยก็ได้ และอย่างที่เคยว่าไว้ว่าตอนนี้การเลี้ยงของเจ้าโด้คนเดิมกลับมาเข้าที่แล้ว แต่สิ่งที่ยังรอวันกลับมาอีกอย่างคือ ลูกยิง ที่แม้จะยิงได้ในเกมหลัง แต่นั่นคือจังหวะเข้าโหม่ง ลูกยิงที่ผมพูดถึงคือ เลี้ยงไปแล้วยิง ซึ่งไม่ใช่เพราะสไตล์เจ้าโด้เปลี่ยนไปจ่ายมากกว่าเดิมหรอกครับ แต่จังหวะเดิมยังไม่กลับมาตังหาก การส่งหรือจ่ายนั้น ในฤดูกาลก่อนเจ้าโด้ก็จ่ายครับ เพียงแต่ไม่มีเพื่อนมายิง บางทีเลี้ยงไปเองเลยต้องจบเอง แต่ตอนนี้รูปแบบเกมของแมนยูเปลี่ยนไปมากทีเดียว ผมเชื่อว่าถ้าเจ้าโด้จับจังหวะยิงได้เหมือนเดิม และเชื่อว่าไม่นานครับ ในเวลาอันใกล้นี้แหละครับ เกมรุกแมนยูจะน่ากลัวมากกว่านี้มากทีเดียว พูดถึงเจ้าโด้ซะมาก ต้องพูดถึงตี๋Park ด้วย ความสำคัญของอาตี๋ในเกมนี้ คือสมดุลย์ ช่วยเกมรับ เบรคเกม และซ้อน ซึ่งอาตี๋จะช่วยตรงนี้ได้มาก เพราะจะทำให้เกมเร็ว สวนกลับช้าลงมากทีเดียว ในเกมรุกการสอด และการตัดสินใจของอาตี๋ถ้าผมดูไม่ผิด มันเร็วกว่าเดิมขั้นหนึ่งแล้วนะครับ เกมนี้ถ้าตี๋คิดเร็วทำเร็วจะมีโอกาสมากทีเดียว
[b] กองหน้า [/b] – เบอร์บาน่าจะได้ลงมาโชว์ศิลปะให้ชมกันในเกมนี้ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บ โดยมีน้องหมูเด้งดึ๋ง อยู่อีกคนหนึ่ง และทาร์ซานเจ้าป่าอย่างเตจังที่จะลงมาแทนเพื่อสอดแทรก หรือเปลี่ยนเกม
พวกเราคงจะจำเกมแรกได้ดี แต่ต้องบอกว่าเบอร์บาในวันนั้น เป็นคนละคนกับวันนี้นะครับ วันนั้นคือเกมแรกของศิลปินผู้สร้างสรรค์งาน Abstract ซึ่งจะต้องใช้เวลา และจังหวะความเข้าใจ แต่ตอนนี้ศิลปะของเค้าได้เป็นที่เข้าใจของเพื่อนร่วมทีมไปมากแล้ว แม้จะไม่หมดก็เถอะ ถ้าจะให้เห็นตัวอย่างง่ายๆก็ คือศิลปะที่ชื่อใครว่าตูขี้เกียจ นี่แหละที่ในเกมแรกๆ มีแต่คนยังไม่เข้าใจในศิลปะชิ้นนี้จึงบอกว่าเป็นความขี้เกียจไป และด้วยความเข้าใจนี้เองจึงทำให้เกมนี้เบอร์บาน่าจะสร้างปัญหาให้กับแผงรับผู้มาเยือนได้ชะงักนัก เพราะด้วยสไตล์ค่อยๆแบบมีศิลปะในจิตใจนี่แหละครับ มันเป็นคู่ต่อกรกับความดุ และเร็วของผู้มาเยือนได้ดีนักแล จังหวะพัก แล้วจ่าย หรือจ่ายตัดตามช่อง น่าจะสร้างปัญหาได้มาก ประกอบกับคู่หูอีกคนไม่ว่าจะเป็นเตจัง หรือน้องหมู ล้วนเป็นผู้มีจิตใจแรงกล้า วิ่งกันไฟลุก ก็จะมีช่องให้พ่อศิลปะคนนี้เปิดได้แน่นอน อีกอย่างจังหวะสะกิดเร็วของกองหน้า จะสร้างปัญหาให้กับเกมเข้าประทะเร็วค่อนข้างมาก เพราะการเข้าเร็วถ้าไม่โดนก็คือ พรวดนั่นเอง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจังหวะสะกิดบอล และสอดเข้าไปนี่แหละจะเป็นโอกาสในเกมนี้
[b][u]จุดสังเกตโอกาสในเกมของทีมแมนยู [/u][/b]
[b] Wait a minute [/b] – ไม่ใช่ชื่อเพลงแต่อย่างใด แต่คือจังหวะของเกมนี้ของแมนยูจะต้องรอจังหวะให้ดี และนอกจากรอแล้วยังต้องกะจังหวะใหด้ดีอีกด้วย ในการส่ง การดึงจังหวะช้า และเร็ว โดยการส่งจะต้องทำให้แน่นอนอย่าพลาดในแดนกลาง หรือหลังเด็ดขาด ต้องพยายามคุมจังหวะตนเองให้ดี อย่าไปตามจังหวะของคู่แข่ง ซึ่งหน้าที่หลักในตำแหน่งนี้ คือ ประตูอย่างน้าซาร์ หลังอย่างเฮียเต่า และกลางที่ชื่อ Carrick เนี่ยแหละครับ
[b] มนุษย์Sale [/b] – มนุษย์ Sell ในที่นี้ไม่ใช่เซลล์ในการ์ตูน หรือคนขายของแต่อย่างใด แต่คือ เกมของแมนยูจะต้องทำหน้าที่เป็นป้ายSale ลดราคาที่ผู้หญิงไม่ว่าจะร้อนขนาดไหนเห็นแล้วจะต้องวิ่งเข้าหา หรือเล่นไปตามเกมของแมนยู และหลอกเข้าไปให้อยู่ในเกมของแมนยู จังหวะของแมนยู เหมือนกับผู้หญิงที่หลุดเข้าไปในร้านลดราคาที่อยากซื้อไปหมดนั่นเอง ถ้าในโอกาสแรก Wait a minute คือการรักษาจังหวะตนเอง โอกาสที่ชื่อ มนุษย์Sale ก็คือการทำลายจังหวะของคู่แข่ง ซึ่งคนที่จะรับบทบาททำลายได้ดีที่สุด ในแดนกลางก็คือ เทพเฟรท และตี๋Park นั่นแหละครับ
[b]ปรอทแตก [/b] – อย่างที่ผมบอกแหละครับ ว่าเกมของลิเวอร์พูลเป็นเกมบี้เร็ว โดยธรรมชาติ มันก็เลยทำให้มีนักเตะที่มีจุดเดือดต่ำอยู่หลายตัวทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในแดนกลางอย่างมาสเคราโน่ ซึ่งตรงนี้ต้องยกหน้าที่ให้นางสาวโด้ของเราที่จะโชว์ลีลายั่วอารมณ์ และเรียกจังหวะฟาวล์ออกมา ขอให้จับตาดีๆนะครับ เพราะถ้าได้ใบออกมาด้วยจากตัวกลางรับ จะทำให้โอกาสแมนยูเปิดกว้าง และนางสาวโด้ของเราจะโชว์ลีลาเทพีให้เห็นอีกเกมก็เป็นได้ ในแดนหน้าอย่างที่บอกไว้ ตอร์เรสแม้จะมีบุคลิกนิ่มนวล น่ารัก แต่ภายในนั้นถ้าสังเกตผมว่าใจร้อนได้เรื่องทีเดียว ไม่แพ้น้องหมูแน่นอน ถ้าโดนชนะ เข้าประทะ ตลอด น่าจะออกอาการหงุดหงิดวิ่งเสียบได้ ซึ่งตรงนี้ต้องเป็นหน้าที่แผงหลังล่ะครับว่าจะทำหน้าที่ได้ดีขนาดไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนักเตะแมนยูที่ใจร้อน อย่างเจ้าหมู หรือเจ้าโด้ ถ้าโดนเตะ หรือเล่นหนักก็จะต้องไม่สาวแตก หรือหมูแตกกันนะครับ เพราะจะไปเข้าทางฝั่งตรงข้ามได้ เชื่อว่าถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ให้พุ่งพร่านได้ และเล่นสงครามประสาทกับผู้มาเยือนได้เรามีสิทธิได้เห็นใบสีเหลือง จนถึงแดงทีเดียวครับ

[b] คำประกาศของโฆษกสนาม [/b] – หลายท่านคงทราบดีว่าเกมในบ้านก่อนที่แมนยูจะเดินออกมา จะต้องมีการประกาศว่าถึงศักดินาของทีมแมนยูกันก่อนโดยมีความหมายว่า “ขอต้อนรับแชมป์เกาะอังกฤษ แชมป์ทวีปยุโรป และแชมป์โลก!!” ประโยคนี้แหละครับ สั้นๆ แต่สร้างความฮึกเหิมได้ชนิดที่ท่านเซอร์เอง ไม่ต้องเสียแรงพูดทีเดียว เพราะนั่นจะทำให้เกิดความมั่นใจในตัวเองของนักเตะทุกคน ชนิดที่ถ้าเป็นเกมก็คือ พลังถึงขั้นกดท่าไม้ตายเลยทีเดียว แถมยังส่งผลกระทบต่อฝั่งตรงข้ามแน่นอน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย จะเป็นแนวทางใดก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าผลงานในบ้านที่ดีในฤดูกาลนี้ คำพูดแค่ไม่กี่คำนี่แหละครับที่เป็นส่วนสำคัญทีเดียว



เกมนี้เป็นเกมที่น่าดูอีกเกมหนึ่ง เชื่อว่าแฟนบอลทั้งคู่คงจะไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง โดยผลของเกมนี้ไม่ได้เป็นการตัดสินแชมป์อย่างที่ได้กล่าวไว้ขั้นต้น แต่มันหมายถึงการตัดสินว่าจะเหลือคู่แข่งแย่งแชมป์อีกกี่ทีเท่านั้น ดังนั้นเชื่อว่าแรงกดดันในการเล่นจะไปอยู่ที่ทีมเยือนซึ่งต้องการผลการแข่งขันค่อนข้างมาก และด้วยแรงกดดันนี่เองจะทำให้ทีมเยือนเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม เร็วขึ้น และหนักขึ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าแมนยูในตอนนี้มีความหลากหลายมากกว่าครั้งก่อนที่เจอกัน และการเล่นด้วยสถานการณ์กดดันไม่มากก็เป็นผลดีกับแมนยูเหมือนกับที่ความกดดันเป็นผลดีกับลิเวอร์พูลเช่นเดียวกัน ผมคงไม่กล้าฟันธงอะไร แต่ก็บอกได้เพียงว่าเราจะได้ดูเกมสนุกๆอีกเกมแล้วละครับ

สุดท้ายเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่เป็นหนึ่งในโครงการล่าห้าแชมป์ไปกับท่านเซอร์ โดยหากแมนยูได้ผลการแข่งขันที่ดีผมเชื่อว่าเกมนี้จะสร้างความมั่นใจ และความหึกเหิมให้แมนยูอย่างมากทีเดียว ประกอบกับมีสื่อมากมายออกมายกย่องว่าเป็นแชมป์ไปแล้ว แต่ทุกท่านครับเกมนี้ผมย้ำรอบที่สามไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ครับ เกมนี้คือเกมตัดสินคู่แข่งขันชิงแชมป์ เห็นมั้ยครับมันแตกต่างกันมากนะครับ ในเรื่องทรรศนะคติก่อนลงไปเล่น ซึ่งอ่านจากบทสัมภาษณ์ของนักเตะหลายๆคนก็ไม่ได้คิดว่าเกมนี้คือเกมชิงแชมป์แน่นอน แต่จะว่าไปอย่างน้อยเกมนี้มันก็ให้ความรู้สึกที่ดีนะครับที่เราจะได้เลือกว่าจะให้ใครมาเป็นคู่แข่งของทีมเรา ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อในทีมของผม เช่นเดียวกับหลายๆท่านเชื่อในทีมของตนเองนั่นแหละครับ ทั้งหมดก็คือความเชื่อนั่นแหละครับ








Create Date : 13 มีนาคม 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2552 15:31:13 น.
Counter : 243 Pageviews.

1 comment
1  2  

พุงกามามะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Healthy Wealthy Yummy