ความคล้ายของการวิ่งและชีวิต
 

มาถึงช่วงการฝึก 4 เดือน ในช่วงเดือนแรกสบายครับไม่หนักมาก วิ่งระยะ 5-10 กิโลเมตรเรียกว่าเหนื่อยแต่ไม่ถึงหอบ ความยากมันอยู่ที่การตื่นมาทุกวันเสาร์เช้าเรียกได้ว่าเช้ากว่าวันทำงานปกติเสียอีก เพื่อมาวิ่งนี่สิ ทำเป็นนิสัย ในส่วนของอาหาร วินัยในการทานอาหารเรียกว่าไม่ดี ถึงขั้นแย่ คือวิ่งเช้าสวนลุมวันเสาร์ต่อด้วยเบอเกอร์ก้อนใหญ่ และกาแฟปั่นแก้วใหญ่ ดังนั้นถ้าถามหาความหอมน้ำหนักมันก็ไม่ได้เพิ่มนะครับ แต่ก็ไม่ได้ลงจนเห็นกล้ามท้องอะไรมากมาย เรียกได้ว่าออกเท่าไรกินเท่านั้นเป็นหลัก ในวันธรรมดาโชคดีที่ Office มีลู่วิ่งห้องฟิทเนส แต่ไม่มีแอร์นะครับ ร้อนชนิดอบซาวน่า ดังนั้นคนในออฟฟิสจึงจะคุ้นชินกับภาพผมวิ่งบนลู่ทุกเย็นเป็นปกติ ของจริงของแบบฝึกคือ ช่วงกลางค่อนปลายนี่แหละที่มีการวิ่งยาวระยะ 15-30 กิโลเมตร ทุกครั้งที่วิ่งยาวผมหมดครับ แรงแทบไม่เหลือ ความยากของการวิ่งยาวนอกจากการตื่นนอนจากเตียงอันอบอุ่นเพื่อออกไปวิ่งแล้วคือ ระยะ 10-15 นาทีแรกนี่แหละ ที่เมื่อยและขี้เกียจสุดๆ ลองผ่านไปได้ทุกครั้งก็เหมือนเราก้าวสู่โลกส่วนตัวของเรา และเกิดสมาธิโดยไม่รู้ตัว คือเราจะอยู่กับลมหายใจทุกลมหายใจจริงๆนะครับ นี่แหละคือเสน่ห์ของการวิ่ง ที่คนไม่ลองจะไม่รู้แน่นอน กลับมาที่ข้อดีของการวิ่งยาวๆ นอกจากความอึดที่จะได้ คือ การรู้จักบริหารแรงในการวิ่ง รู้จักผ่อนแรงตอนไหน เรียกได้ว่าการวางแผนในการวิ่งยาว ฟังดูเว่อร์นะครับแต่เอาความจริงการวิ่งระยะ 42.195 km ข้อสำคัญนอกจากแรงที่เราฝึกมา คือการบริหารแรงของเราว่าจะหนักเมื่อไหร่ เร่งมื่อไหร่นี่แหละครับ ผมจะเน้น 1/3 ส่วน วิ่งประคอง ต่อไปมา 2/3 ส่วนเร่งความเร็วประมาณ 60-70 % และสุดท้ายจะอยู่ประมาณ 70-80% และหมดพอดีเมื่อถึงระยะ มาถึงตรงนี้ผมนึกขึ้นได้ว่าการวิ่งก็เหมือนการใช้ชีวิตของคนเราทุกคน เราต้องมีการฝึกชีวิต เสมือนอุปสรรคที่เข้ามา บทเรียนต่างๆมากมายมันก็มีวันง่าย วันที่ยากแตกต่างกัน และชีวิตที่สำเร็จจะต้องมีการวางแผนชีวิตก็เหมือนการวิ่งนี่แหละครับ สุดท้ายเราไม่ควรจะเอาชีวิตไปเปรียบเทียบหรือแข่งขันกับใครเสมือนการวิ่งที่แค่คุณเข้าเส้นชัยได้คุณก็ชนะสิ่งที่ยากที่สุดคือตัวคุณเอง ในตอนหน้าจะเข้าสู่วันแข่งขันจริง 42.195 km ครับv

 




Create Date : 19 พฤษภาคม 2557
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 9:42:35 น.
Counter : 848 Pageviews.

1 comment
รุ้เขารู้เราไม่ชนะก็ไม่แพ้หมดสภาพ
 

หายไปเสียนานเนื่องด้วยภารกิจมากมายวันนี้มีเวลาเลยมาเล่าต่อครับ

การเรียนรู้ จะให้เร็วก็ต้องเรียนให้ถูกตั้งแต่พื้นฐาน จากคนที่ไม่รู้จะหาความรู้ที่ไหน ก็มีที่เดียวที่จะเป็นพื้นฐานที่ดี คือ web ของงานวิ่งที่เราจะวิ่งนั่นแหละ .. เข้าไปหาก่อนเลยใน ข้อแนะนำการฝึกซ้อม ใครอยากหาอ่าน ลองไปตาม LINK นี้นะครับ //www.bkkmarathon.com/thai/tips_racing.php คราวนี้ก็ต้องมาดูว่าเราเป็นประเภทไหน แบบไหน เป้าหมายคืออะไร ตรงนี้สำคัญนะครับอย่าหลอกตัวเรา และจริงใจกับตัวเรา

 

ไอ้ที่ว่าอย่าหลอก

 

อย่าหลอกว่าเรามีความสามารถน้อย ข้อคิดคือถ้ามองแล้วเท่ากับแบบฝึกประจำที่เราทำทุกอาทิตย์ ข้ามไปเลยครับ อย่าคิดว่าจะเอาแบบง่ายๆ เพราะมันไม่ท้าทายอุตส่าห์ตื่นเช้าไปร่วมงาน แถมต้องซ้อมอีก

 

อย่าหลอกว่าเรามีความสามารถมาก คืออย่าห้าวนั่นเอง เช่นปกติวิ่งแค่ไม่เกิน 5 กิโล จะไปลง 42.195 กิโล อันนี้ก็ห้าวเกินไป ถ้ากรณีนี้ลงสัก 10 กิโลดูเป็น ทางเลือกที่ดีครับ

 

 

ก็ว่ากันไปตามแบบฝึกที่เค้าออกแบบ สำหรับผมก็อันนี้ครับ

 

สูตร ๑ (ข.)   ออกแบบมาสำหรับ

๑. ผู้ที่มีพื้นฐานมินิมาราธอน หรือ ฮาล์ฟมาราธอน มาบ้างแล้ว
๒. อายุราชการวิ่งต่ำกว่า ๑ ปีลงมา
๓. เป้าหมายการลงวิ่งมาราธอน  ครบระยะ ได้เหรียญและไม่หวังรางวัล
๔. เวลาคาดหมาย ประมาณ ๕ - ๖   ชั่วโมง
๕. เป็นการวิ่งมาราธอนเป็นครั้งแรก

ตรงจุดนี้สำคัญอีกอันคือ อย่าคาดหวังเวลามากมาย อันนี้สำหรับคนที่ยังไม่ใช่มืออาชีพ แบบผมนะครับ เอาแค่เข้าเส้นชัยได้ก็ถือว่าพอแล้วสำหรับผม

 

หลังจากนั้นก็มาดูเส้นทางสมรภูมิรบของเรา.. ตามคำที่บอกรู้เขารู้เรารบร้อยก็ชนะร้อยหรือไม่ชนะก็คงไม่แพ้หมดสภาพ ดังนั้นต้องรู้เส้นทางวิ่ง ข้อมูลทุกอย่างมีในเว้บหมดครับ โอ้ว ขึ้นสะพาน วิ่งบนสะพานยาว ขนาดขับรถยังรู้สึกนานเลยสะพานนี้ แถมกลับตัวอีกตรงจุดลงสะพาน.. เอาว้ะ ไม่ลองไม่รู้ ผมเองมีหลักการในการพิชิตอะไรที่ยากๆว่า อย่าไปมองไกล มองใกล้ๆทีละก้าวนี่แหละพอเริ่มจากซ้อมและซ้อม แบบฝึก 4 เดือนประมาณนั้น วิ่งอาทิตย์ละ 4 วัน โดยมี 1 วันที่เป็นการวิ่งยาว อย่าคิดมากลุยกันเลย..ในตอนหน้ามาติดตามการฝึกกันครับv

 




Create Date : 07 พฤษภาคม 2557
Last Update : 7 พฤษภาคม 2557 13:16:33 น.
Counter : 453 Pageviews.

0 comment
Spoil หนังเรื่องนี้
 

            ถ้าประสบการณ์การวิ่งของผมเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ ตอนจบอยู่ที่ มาราธอน 42.195 km ตอนนี้ก็มาถึงใกล้ช่วง Climax แล้วประหนึ่งฉากต่อสู้บู๊ ดุเดือด เสียงตูมตาม แต่ความเป็นจริงนั้นมีแต่เสียงฝีเท้า และลมหายใจ ไหนๆก็เข้ามาครึ่งเรื่อง หนังจะสนุกหรือจบแบบไหน จริงๆแล้วคงไม่ใช่สิ่งสำคัญ หนังมากมายเฉลยเนื้อเรื่องตอนจบไว้ก่อนเสียด้วยซ้ำไป แต่สำคัญคงเป็นเนื้อเรื่องที่เดินทางนำผู้ชมเพลิดเพลิน วันนี้ผมมานำเสนอตอนจบ Time Line ของหนังเรื่องเป้าหมายในชีวิตผม ที่จะทำให้สุขภาพดีขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น และพิชิตสิ่งที่เรียกว่ามาราธอน เพื่อแสดงว่ามันทำได้จริง หนังเรื่องนี้มีตอนจบจริงๆ และอยากให้ทุกคนเริ่มต้น วันนี้กันครับ รูปด้านล่างคือ ผมเมื่อปี 2005-2013 ครับ

 vv

 




Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 11:47:57 น.
Counter : 467 Pageviews.

1 comment
ประกายแห่งความหวัง
 

การเตรียมตัวก่อนการวิ่งยังเป็นเช่นเดิม จะบอกว่าเตรียมตัวก็คงไม่เชิง เพราะการวิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้ชายคนนี้ไปเสียแล้ว ซึ่งก็โชคดีที่สามารถบริหารเวลาจากการทำงานมาวิ่งเป็นประจำได้ ด้วยความที่สนุกกับการวิ่งมันก็เลยไม่เหมือนซ้อม พอไม่เหมือนซ้อมก็กลายเป็นไม่ตื่นเต้น พอไม่ตื่นเต้นก็เลยนอนหลับดีก่อนวันแข่งไม่มีอาการกังวลว่าจะติดเพดานหรืออะไรก็ตาม แต่มาตื่นเต้นในวันไปรับเสื้อแข่งก่อนวันแข่งที่จุดสตาร์ท มีไอ้เจ้าซิมติดขาเค้าบอกว่ามันจะจับเวลาบันทึกเวลาของเรา โห เจ๋งอ้ะไม่เคยเห็นมาก่อน และแล้วก็มาถึงเช้าวันงาน ทานขนมปัง น้ำเปล่า พอประมาณ ขับรถไปจอดปุ้บ พอถึงงานก่อนสตาร์ทครึ่งชั่วโมง บรรยากาศครึกครื้นทีเดียว มีจุดจำหน่ายสินค้า รองเท้า มีจุดบริการนวดน้ำมัน ก็มีคุณลุงนอนนวดกันอยู่ ตอนนั้นยังรู้สึกว่าทั้งร้อนทั้งเหม็น มันจะมีประโยชน์อะไร แต่ผมเองก็เห็นประโยชน์ของเจ้าน้ำมันมวยในรายการหน้านั่นเอง ใกล้เวลาสตาร์ทก็ไปรอตรงจุดสตาร์ทแต่..เหมือนลืมอะไรไป เฮ้ยน้องที่นัดมาวิ่งด้วยกันยังไม่มานี่หว่า..โทรหาทันใด น้องบอกว่ากำลังไปแล้วอยู่ในงาน..ฮ่า เสียงนับถอยหลังเริ่มขึ้น 10..9..8..7 .. และแล้วน้องก็โผล่มา  ทันสตาร์ทพอดี ..น้องคนนี้มีประสบการณ์วิ่ง และซ้อมมามากกว่าพี่คนก่อน คือ วิ่งถึงแน่ๆ 10 km และน้องบอกว่าพี่ทิ้งหนูได้เลย พี่วิ่งด้วยแล้วกดดัน .. แต่ถ้าเป็นตอนนี้ที่ผมพิมพ์อยู่น้องคนนี้วิ่งทิ้งผมไม่เห็นฝุ่นเสียแล้ว ..ดังนั้นงานนี้ผมเลยจัดเต็มออกแบบการวิ่งไว้ว่าจะค่อยๆพยุง 1 ใน 3 เร่งปานกลางถึงเร็ว 1ใน 3 และส่วนสุดท้ายก็จะวิ่งเท่าที่ทำได้ ซึ่งก็ขึ้นกับแรงตอนนั้น Bangkok Post 10KM. International Run 2012 เส้นทางวิ่ง 1 ใน 3 จนถึงสีลม รักษาการวิ่งได้อย่างดี จนมาถึงเส้นสีลมก็เร่งเข้าซอยคอนแวนต์ จุด Check Point มีเสียงดังตื้ดๆ ตื้ดๆ เท่ อ้ะ วนกลับมาจนเข้าสู่ระยะสุดท้ายอัดเต็มในตอนเข้าวิทยุ ...พระเจ้ากะระยะผิดไป ยังเหลืออีกเยอะเลยนี่หว่า.. สรุปหมดอีกแล้วครับก่อนเข้าเส้นพระราม 1 สะพานหัวช้างนี่สูงชันกว่าปกติประมาณภูเขาลูกใหญ่ นี่เป็นประสบการณ์วิ่งขึ้นสะพานครั้งแรกของผม เรียกว่าหมด.. แอฟ ไนกี้ร้องบอกเวลา 50 นาที อันนี้ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ.. เหลืออีกนิด ต้องอัดแล้วเพื่อให้เวลาดีที่สุด อัดครับอัด .งแต่มาหมดอีกแล้วตรงเลยพารากอนไป เรียกได้ว่าแค่ก้าวก็หมดแล้ว การแบ่งเวลา ความเร็วที่ไม่ถูกก็ทำให้คนที่วิ่ง 10 กิโลมาประจำ แต่ไม่เคยออกแบบการฝึกเหมือนจริงหมดได้นะครับ พอเข้าใกล้เส้นชายทางตรงสุดท้ายได้ยินเสียงร้อง มองเห็นคนข้างหน้า 10 คน เอาว้ะ อัดสุดชีวิต เพื่อไม่ให้เสียใจ .. ในที่สุดก็เข้าเส้นชัย เวลาดีกว่าซ้อมครับ 56 นาที ผมซ้อมวิ่งได้ประมาณ 58-59 นาทีนะครับตอนนั้น ..ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจสำหรับผมแล้วละ .. บทเรียนจากครั้งนี้ทำให้ตั้งเป้ากับตัวเองอย่างจริงจังว่าจะวิ่งอย่างจริงจัง และจะทำมาราธอน 42 กิโลให้ได้ในชีวิตนี้ .. ดังนั้นต้องซ้อมจริงจังแล้วสิ..ในตอนหน้าพบกันครับv




Create Date : 09 มกราคม 2557
Last Update : 9 มกราคม 2557 14:43:02 น.
Counter : 449 Pageviews.

0 comment
ใครยังไม่มีเป้าหมายปีใหม่เร่เข้ามา
 

ก่อนอื่นต้องสวัสดีปีใหม่ทุกคนก่อน ปีใหม่ก็ตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ดีๆ ถ้าใครคิดว่าไม่ออก จะลองมาตั้งเป้าเหมือนผมเมื่อ 2 ปีก่อนก็ได้ครับ คราวนี้ผมจะพาย้อนอดีตกลับมาหลังจากจบรายการ KOTR2012 นะครับพร้อมกันหรือยัง ไปเลยยย!!!

เมื่อเป้าหมายก่อกำเนิด จิตใจก็หึกเหิม ประหนึ่งเณรน้อยที่ฝึกวิชาที่เส้าหลินเพื่อวันหนึ่งจะขอผ่านด่านอรหันต์ออกสู่โลกภายนอกให้ได้ อย่างใดอย่างนั้น

ผมเองหลังจากที่สัมผัสงานแข่งขันจริงจัง ก็ตั้งเป้าหมายใหม่ว่าจะต้องวิ่ง 10 กิโลเมตร ภายใน 1 ชั่วโมงในงานวิ่งต่อไปให้ได้ ซ้อมครับที่ทำได้ ทุกเสาร์ อาทิตย์ เจอผมเสมอที่สวนลุม ช่วงเช้า ขยันอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้เมื่อมองย้อนไป ตื่นเช้ากว่ามาทำงานปกติเสียอีก วันธรรมดาก็วิ่งสายพาน เรียกว่าหายใจเข้าออกเป็นการวิ่ง .. และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิด ไอ้เจ้า IPHONE ที่ลุยมาหลายงาน เจอเหงื่อจนแฮงค์ไม่สามารถใช้งานได้ .. จริงๆมันก็มีอาการมาเรื่อยๆแต่ยังใช้ได้จนคราวนี้คงสลบไปเฉยๆอาการรับสายไม่ได้ กดปุ่มไม่ได้ ชนชาร์จแบตไม่เข้า เป็นมันทุกอาการ จนต้องส่งซ่อมหมดเงินไปหลาย แต่ก็หาเข็ดไม่ ยังคงนำพาไปวิ่งอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ใครเป็นมั้ยแต่ผมเองถ้าไม่มีเพลงฟังขณะวิ่งอันนี้ถือว่าผิด.. จะวิ่งไม่ออก เบื่อ หมดแรง เหนื่อย นี่แหละนะที่ว่าจิตอยู่เหนือร่างกาย ทั้งที่ก็คนคนเดิมนี่แหละ ..  และด้วยโชคชะตาก็พามาพบกับน้องที่ทำงานอีกคนที่เริ่มจะวิ่ง น้องคนนี้ ณ ปัจจุบันเป็นนักวิ่งชิงรางวัลไปเสียแล้ว เรียกได้ว่า ผู้ชายเองยังสู้ไม่ได้แน่นอนถ้าไม่ใช่นักวิ่งจริงจัง .. แต่ ณ ตอนนั้นน้องพึ่งหัดวิ่ง แม้ตอนนี้ผมเองสู้น้องคนนี้ไม่ได้เสียแล้วผมเองภูมิใจมากๆในวันนี้ที่รายการแรกของน้องเค้า เราได้มีส่วนร่วม ประมาณว่าเคยเตะบอลกับลีซอสมัยยังเป็นเด็กไรงี้.. จึงตัดสินใจสมัคร ด้วยเหตุผล

1. อยากลองแบบจริงจังว่าเราจะวิ่งได้ถึงไหนแล้วในระยะ 10 กิโลเมตร 

2. งานมันจัดใกล้และสะดวก ที่ เซนทรัลเวิร์ล

3. เส้นทางวิ่งในสีลม  ..หลังจากติดใจสาธรมาแล้วก็ขอลองสีลมหน่อยจะเป็นไร

 

นับข้อดีได้ 3 ข้อก็ไม่ลังเล สมัคร และพร้อมวิ่งครับ คราวหน้าจะมาบอกเล่าบรรยากาศงานที่ชื่อ Bangkok Post 2012 v

 




Create Date : 02 มกราคม 2557
Last Update : 2 มกราคม 2557 13:41:08 น.
Counter : 1494 Pageviews.

0 comment
1  2  3  

พุงกามามะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Healthy Wealthy Yummy