|
โอกาสดีของคนมีทุกข์
(ขอบคุณภาพประกอบแสนสวยจากคุณ SevenDaffodils ครับ)
ผมเพิ่งเขียนเรื่อง "งอมอย่างมีคุณค่า" ไปหมาดๆ ก็มีคำถามอีกสองสามอันมาคล้ายๆกัน
รายหนึ่งมีปัญหาเรื่องหมาข้างบ้านเห่าดัง เห่าน่ารำคาญ แบบที่โบราณเรียกว่า "หมาเห่าใบตองแห้ง"
อีกรายมีปัญหาเรื่องสามีเคยนอกใจ แล้วอยากหย่า แต่ผู้ใหญ่ห้ามไม่ให้หย่า เลยต้องทนอยู่
ที่จริงทั้งสองปัญหาฟังดูต่างกันไกล แต่สุดท้ายแล้วคำแนะนำของผมมันก็เหมือนกัน
คือถ้ายังจำเป็นต้องอยู่กับทุกข์ ก็ให้รู้ทันทุกข์ เรียนรู้ทุกข์ แล้วจะได้ประโยชน์จากทุกข์ ทุกข์เป็นครูที่ดีมากนะครับ มันสอนอะไรเราได้ดี ได้เก่งกว่าความสุขด้วยซ้ำไป
คุณที่มีปัญหาเรื่องหมาๆ ผมอยากบอกว่ามันก็ต้องทำใจแหละครับ ไม่อย่างนั้นก็ต้องย้ายบ้านหนี หมามันสร้างปัญหา ก็ว่าแย่แล้ว แต่ถ้าคนจะไปทะเลาะมีเรื่องกันเพราะหมา ผมก็ว่าไม่คุ้มนะ
บางบ้านยิงกันตาย ก็เพราะเรื่องหมาเห่า หมาขี้หน้าบ้าน แล้วถามว่าคุ้มไหม ฉะนั้น ถ้าทำใจได้ ก็ทำใจ ทำใจไม่ได้ ก็ต้องย้ายบ้านครับ
สมัยผมเรียนมัธยม บ้านผมอยู่ย่านอาคารสงเคราะห์แถวทุ่งมหาเมฆ ห้องนอนที่บ้านนั้น หน้าต่างอยู่ตรงกับคอกหมาโดเบอร์แมนของข้างบ้านพอดี
หมาตัวนั้นมันแก่มากแล้ว แล้วมันไม่ค่อยสบายครับ แล้วก็เป็นอย่างนั้นแหละ คือเห่าทั้งวันทั้งคืน เห่าทุกสิบนาที เห่าเป็นระยะๆ ทั้งตอนเราตื่น และหลับ
ตอนแรกๆ ผมก็เซ็งครับ แต่พอตอนหลังๆ พอเริ่มยอมรับได้ว่า มันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละ ผมก็เริ่มชิน และไม่ค่อยทุกข์อีก
อยู่อย่างนั้นมาเป็นปีๆ จนมันตาย วันแรกๆที่มันตาย ผมกลับนอนไม่ค่อยหลับ เพราะไม่มีเสียงมันเห่า
ส่วนคุณ Marked Rider Kabuto ที่จริงผมตอบให้ในบล็อกคำถามนั้นแล้ว แต่เอามาลงไว้ในนี้อีกที เผื่อท่านอื่นจะได้ประโยชน์ด้วยนะครับ
>> ผมคงแนะนำได้เฉพาะเรื่อง อยู่อย่างไรให้ทุกข์น้อย หรืออยู่ในสถานการณ์ลำบากได้โดยไม่ลำบากเกินไป
อนุมานเอาว่า คุณเคยอ่านบล็อกผม และสนใจเรื่องปฏิบัติมาบ้างแล้ว
ผมก็อยากให้คุณใช้โอกาสนี้ ในการภาวนา
คนที่ภาวนาได้ดี เห็นธรรมส่วนมาก ล้วนแต่เป็นคนมีทุกข์มากนะครับ พวกที่ชีวิตดี สุขสบาย เขาจะชิลๆ เพลินๆ ทำไปเรื่อยๆ น้อยคนจะเห็นไตรลักษณ์เวลามีความสุขกับโลก
แต่พวกที่ชีวิตมีโจทย์ยากๆอุปสรรคเยอะๆ แต่มีสติคอยรู้ทันจิตใจตัวเองบ่อยๆ พวกนี้ภาวนาดีมากครับ ยืนยันได้ ก็เพราะผมก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้มาหลายหน
สำหรับมือใหม่ เบื้องต้นหาอะไรทำให้จิตใจสบายสักหน่อย เช่นเดินเล่น ฟังเพลงเย็นๆ ชมนกชมไม้ ให้อาหารปลา ง่ายที่สุด ก็ไหว้พระทำบุญ
พอใจสบายขึ้น ไม่เครียด ก็เริ่มหัดฝึกรู้สึกตัว ฝึกด้วยการคอยนึกถึง "พุทโธ" จะพร้อมลมหายใจเข้า พุท หายใจออก โธ หรือนึกถึง พุทโธ อยู่ในใจเฉยๆก็ได้ทั้งนั้นครับ
ไม่ได้สำคัญว่าบริกรรมอะไร สำคัญที่เวลาจิตมันเคลื่อนไปคิดโน่นคิดนี่ ให้คอยรู้ทัน ถ้าเผลอไปคิดจบแล้ว จิตปรุงทุกข์ขึ้นมา ก็ไม่ต้องแก้อะไร เพียงแค่คอยรู้ทันว่ามันเป็นอย่างนั้น
ให้คอยสวดมนต์ตอนเช้า และก่อนนอน วันละห้านาที สิบนาที สวดมนต์ไป ก็คอยดูจิตไป ดูสบายๆนะครับ อย่าเพ่งจ้องเอาเป็นเอาตาย ชนิดหมายจะบังคับไม่ให้มันเคลื่อนไปไหนเลย ไม่ทำอย่างนั้นนะ
สวดมนต์ไปสบายๆ จิตใจสบาย ผ่อนคลาย ก็รู้ สวดแล้วมีปีติ ขนลุกซู่ขึ้นมา ก็รู้ สวดแล้วจิตมันฟุ้งซ่าน น่ารำคาญ ก็รู้ว่าทันฟุ้งซ่าน รู้ว่ารำคาญ
สวดแล้วจิตมันนึกถึงหน้าใคร ก็รู้ว่าจิตมันคิดอยู่ คิดถึงเรื่องอะไร ก็แค่รู้ แค่รู้ว่ามันคิด แต่ไม่ต้องสนใจว่าคิดเรื่องอะไร คิดถึงใครนะ
จำหลักแม่นๆว่า เราดูเพื่อให้รู้ว่า จิตมันมีธรรมชาติคิดนึกปรุงแต่งของมันอย่างนั้นเอง ให้เห็นว่ามันทำงานได้เอง มันบังคับไม่ได้จริง เพราะมันไม่ใช่ตัวเรานะ
ไม่ได้ดูเพื่อให้มันไม่คิด ไม่รู้สึก ไม่โกรธ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่ใช่นะครับ ต้องตั้งหลักดีๆ
ฉะนั้น วิปัสสนาจึงไม่ใช่การฝึกห้าม ฝึกบังคับให้กายให้ใจเป็นอะไรทั้งนั้น แต่คือการเรียนรู้ความจริง ตามที่มันเป็น ด้วยสติ ความรู้สึกตัว
เห็นไหม วิปัสสนานี่ง่ายนะครับ ยากตอนเริ่มใหม่ๆ เพราะยังไม่คุ้นเคยเท่านั้นเอง
พอรู้สึกตัวบ่อยๆ จะเกิดความระลึกได้เองของจิตที่จำสภาวะต่างๆได้ทีละตัวสองตัว เรียกว่า สติตัวจริง บางทีเรียกสัมมาสติ แต่ครูบาอาจารย์บอกว่า มันก็ยังไม่ใช่สัมมาแท้ๆ ที่เกิดในมรรค 8 หรอก แค่หยวนๆ อนุโลมเรียกเอาใจ ให้พวกเรามีกำลังใจไปก่อน
เมื่อมีสติตัวจริง จิตใจจะตั้งมั่น เกิดสมาธิช่วงสั้นๆชั่วขณะ เห็นกายเห็นใจทำงานตามความเป็นจริง เรียกว่าเห็นกาย เห็นใจ มันแสดงไตรลักษณ์ให้ดู
ว่ามันไม่เที่ยง มันมีสิ่งบีบคั้นให้มันต้องเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว เป็นระยะๆ และมันไม่ใช่สิ่งที่เราเคยเข้าใจว่าคือ "ตัวเรา" หรอกนะ เพราะเราไม่เคยสั่งมันได้เลย
วันไหนจิตคิดดีต่อสามี ก็รู้ทันว่าคิด วันไหนคิดแย่ ก็รู้ทันไปอย่างนั้น ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ดัดแปลง แต่รู้ทันตัวเองนะครับ ย้อนมาดูตัวเองไว้เป็นหลัก
ทำไปอย่างนี้ แล้วคุณจะมีความสุขขึ้น ไม่ว่าจะมีใครอยู่ในบ้าน หรือไม่มี ไม่ว่าสามีจะทำตัวแย่ลง หรือพัฒนาขึ้นจากเดิม
แต่เรื่องจะตัดสินใจหย่าไม่หย่า อันนั้นคุณต้องไปว่ากันเองนะ ผมขอไม่แตะในส่วนนั้น เพราะมันเป็นเรื่องสุขทุกข์ของชีวิตคุณเอง ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วย
แต่ถ้ายังจำเป็นต้องอยู่ ก็ควรอยู่ด้วยความปรารถนาดีต่อกัน มีสติ มีเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา คนอยู่บ้านเดียวกัน ถึงจะไม่ใช่ในฐานะสามีภรรยา จี๋จ๋า แต่ก็เป็นกัลยาณมิตรกันได้
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ สำหรับอีกคนหนึ่ง เราจึงต้องเรียนรู้จะเชื่อใจ ให้อภัยในเรื่องที่เป็นอดีต และอยู่กับปัจจุบัน
ถ้าคุณภาวนาไปของคุณ แล้วอยากแบ่งปันให้เขา ลองเปิดซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ฟังเวลาอยู่บ้าน เขาก็จะได้อานิสงส์ ได้ฟังไปด้วย
ซีดีไปขอได้ที่ห้องสมุดบ้านอารี หรือที่สวนสันติธรรม ดูรายละเอียดทั้งสองที่ หรือโหลดมาฟังในคอมก็ได้ ที่ //www.wimutti.net นะครับ
อย่างน้อย วันนึงต่อให้ไม่รักกันมากพอจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันแล้ว ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ของลูก เหมือนเดิม
โชคดีนะครับ
Create Date : 26 เมษายน 2552 |
Last Update : 26 เมษายน 2552 11:11:44 น. |
|
20 comments
|
Counter : 963 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Mermaid AI วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:11:24:30 น. |
|
|
|
โดย: Mermaid AI วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:11:45:30 น. |
|
|
|
โดย: เด็กกรุงเก่า IP: 125.24.183.12 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:12:22:19 น. |
|
|
|
โดย: VAAy วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:12:41:01 น. |
|
|
|
โดย: daisyntulip IP: 75.43.214.79 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:13:34:09 น. |
|
|
|
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.35.41 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:15:01:08 น. |
|
|
|
โดย: พิม IP: 124.121.176.235 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:15:49:36 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:19:47:21 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน IP: 61.47.19.72 วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:9:50:47 น. |
|
|
|
โดย: him_aeng IP: 118.173.240.199 วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:10:31:14 น. |
|
|
|
โดย: him_aeng IP: 118.173.240.199 วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:10:33:15 น. |
|
|
|
โดย: แฟนคลับ IP: 222.123.3.227 วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:12:24:22 น. |
|
|
|
โดย: มุทิตา IP: 58.10.192.153 วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:15:01:19 น. |
|
|
|
โดย: MeJayya วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:20:44:09 น. |
|
|
|
โดย: My Life as a Doc (อย่างไรก็ดี ) วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:0:46:20 น. |
|
|
|
โดย: 1 IP: 202.12.118.61 วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:8:37:07 น. |
|
|
|
โดย: manus IP: 124.121.21.74 วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:17:43:44 น. |
|
|
|
โดย: สุริยา IP: 124.120.146.233 วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:21:14:33 น. |
|
|
|
โดย: สายเผลอ IP: 58.8.227.142 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:04:56 น. |
|
|
|
โดย: แพม IP: 118.174.70.108 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:23:54:43 น. |
|
|
|
| |
|
|
ขอบคุณอีกทีค่ะ แต่ถ้าต้องย้ายบ้านเมื่อไหร่แล้วจะบอกอีกที ฮ่าๆ ๆ (แต่ก็คือความเสี่ยง เพราะย้ายไป อาจจะเจอหนักกว่าเดิม)