|
หลายชีวิต ปี 1
(เอื้อเฟื้อภาพประกอบจากฝีมือคุณ SevenDaffodils ครับ)
ผมเองก็มีเรื่องอยากเขียนหลายเรื่อง ที่ยังไม่ได้เขียน แต่คำถามค้างสต็อก ก็ชักพอกพูนคูณทวี เก็บไว้นานไปท่าจะไม่ดี
อ่านคำถามของแต่ละท่านแล้วก็ไพล่ไปนึกถึงงานเขียนของหม่อมคึกฤทธิ์ ที่สมัยเป็นเรียนม.ปลาย ผมอ่านแล้วชอบมาก ชื่อ "หลายชีวิต"
เลยอาศัยชื่อหนังสือท่านมาเป็นชื่อบล็อกสารพันปัญหาบล็อกนี้ แถมใช้ ปี 1 ไว้ต่อท้าย เพราะเชื่อว่า น่าจะมีอีกหลายปี
สวัสดีครับ พี่แอสตัน
รบกวนขอปรึกษาปัญหาครับ คิดว่าพี่น่าจะเข้าใจผมได้ดี เพราะปัญหาของผมคล้ายๆกับที่พี่เคยเขียนเรื่องของพี่ไว้ในบล็อกครับ
คือผมเป็นเกย์ครับ (อันนี้ไม่ใช่ปัญหาที่บอกว่าเหมือนกับพี่นะ..หุหุ) เพิ่งคบกับแฟนคนปัจจุบันได้ไม่นาน พ่อแม่ของเขารู้เรื่องครับ แล้วก็ออกอาการกีดกันอย่างรุนแรง เผลอๆจะบังคับแฟนผมให้ไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนึงอีกต่างหาก (แฟนผมเป็นไบครับ ถ้าจำเป็นจริงๆ เขาก็สามารถแต่งงานกับผู้หญิงได้) ผมลำบากใจมากเลยครับ เขาเองก็บอกว่ารักผม แต่ไม่รู้จะทำยังงัยดี
ผมควรจะตัดใจ เลิกรากับเขาไหมครับ บางทีผมก็คิดเหมือนที่พี่เขียน ว่าถ้าเขาจะไปมีชีวิตที่ดีกว่า (อย่างน้อยก็ไม่ต้องทะเลาะกับพ่อแม่) ผมก็ควรจะปล่อยเขาไป
...พูดง่าย แต่ทำยากจังเลยครับ
ขอบคุณครับ โดย: บอย
อ่านทีแรกก็สะดุ้ง ว่าเรื่องของผมไปเหมือนคุณตรงไหน
ถ้าถามว่าควรตัดใจเลิกราไหม ต้องถามกลับว่า แล้วทำได้ไหมล่ะครับ ถ้าทำได้ก็โชคดีไป ทำไปเถอะครับ ไม่เหนื่อยเรา ไม่ลำบากเขา
ผมเป็นพวกที่เชื่อว่า คนที่ทำบุญด้วยกันมาและเป็นคู่บุญกันแท้ๆ มันจะมีความพร้อมในหลายๆทาง ที่จะเอื้อให้การคบหากันเป็นไปโดยดี
กระทั่งจังหวะชีวิต ช่วงเวลาที่เจอกัน มันก็จะดูลงตัวพอเหมาะพอดี ไม่ใช่เริ่มต้นก็เจอโจทย์ยากขนาดนี้ อันนี้ ถึงจะฝืนไป ผมก็ว่าลำบากนะ
บางคนบอกว่า ผมเป็นพวกไม่ต่อสู้เพื่อพิสูจน์รักแท้ แต่ผมมองว่า ถ้าการพิสูจน์รักแท้ของผม มันต้องแลกกับการที่ครอบครัวนึง เขาต้องทะเลาะกันใหญ่โต ถึงผมชนะ มันก็ไม่คุ้มหรอก
อันนี้ เป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่เรียกร้องให้ใครเชื่อและเลียนแบบนะครับ
พี่เอ๊ดดี้คะ มีคำถามค่ะ
คบกับแฟนมา 8 ปี แต่วันนึงเค้าก้อห่างไปและไปมีคนใหม่โดยที่ไม่ได้บอกเรา เสียใจมากมายแต่ก้อคิดได้ค่ะว่ามันคงเป็นการใช้กรรม เราอาจจะเคยทำเค้ามาก่อน และคงใช้หมดแล้วจึงต้องเป็นแบบนี้ ก้อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรเค้ายังคงมีความรู้สึกดี ๆให้และคิดอโหสิกรรมให้
คำถามคือว่าถ้าเราไม่ได้ขออโหสิกรรมกับเค้า ชาติหน้าเรากับเค้ายังจะต้องใช้กรรมกันอยู่แบบนี้หรือป่าวคะ ขอบคุณค่ะ
โดย: jum
อนุโมทนาที่คุณได้ทำ "อภัยทาน" ซึ่งเป็นทานที่ยิ่งใหญ่นะครับ
เรื่องกรรม อันนี้ผมไม่มีความสามารถจะตรวจดูแผนที่กรรมให้ได้ว่าหมดหรือยัง
ดัชนีอันนึงที่พอวัดได้คือ ถ้าไปเจอหน้ากันแล้ว ไม่มีตะกอนของความเสียใจเหลืออยู่ มีแต่ความเบาสบาย อันเป็นผลจากอภัยทาน ก็พอสบายใจได้ว่าหมดเวรหมดกรรมกันแล้ว
แต่ถึงจะหมดกรรมกับคนนี้แล้ว มันก็ยังมีกรรมอื่นๆที่รอคิวจะให้ผลอยู่ ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิด เราก็ยังมีโอกาสสร้างกรรมดีบ้าง ชั่วบ้าง และก็ต้องมานั่งใช้หนี้ นั่งรับผล ของทั้งกรรมดี และกรรมชั่วนั้นไปเรื่อยๆ
ถ้าวันนี้ คุณหัดเจริญภาวนา เพื่อการหลุดพ้นจากความน่าเบื่อของการเกิดใหม่ อันนั้นถึงจะสบายใจได้จริงๆนะครับ ว่าจะหมดเวรหมดกรรมได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในวันหนึ่ง
สวัสดีครับ ติดตามงานของท่านมาพักใหญ่ และรู้สึกโชคดีที่ได้อ่านผลงานของท่าน วันนี้ผมมีเรื่องรบกวนขอความเห็นครับ
คบกับแฟนมา 10 ปี แต่ค่อนข้างแน่ใจว่า ผมไม่ชอบชีวิตคู่เมือ 2 ปีก่อน...ไม่ใช่กับเธอเท่านั้น ผมรู้สึกการมีครอบครัว ไม่ใช่วิถีทางที่ทำให้ชีวิตสงบ แต่รู้สึกผิดถ้าจะเลิกกันเนื่องจากคบกันมานาน (เธอบ่นเสียโอกาสที่จะไปตั้งต้นกับคนอื่น อายุเรา 40 แล้ว) และสงสารที่เธอเป็นคนดี แต่ชีวิตเธออาภัพ...เป็นม่ายลูกติด(ก่อนรู้จักผม) ต้องทำงานหนักเลี้ยงพ่อแม่ ตัวผมเองเอาเปรียบเธอมีอะไรกันมาตลอด เราเคยคุยกัน...เธอบอกไม่ต้องการแต่งงานและขอให้ผมดูแลเธอ แต่ผมคิดว่าจริงฯ เธออยากมีชีวิตครอบครัว ผมควรจะเปลี่ยนความคิดและมีครอบครัว หรือ เลิกกันไปเพื่อเริ่มใหม่ดีครับ
โดย: หาวพระพราย
ใจจริงผมอยากแนะนำคุณหาวพระพรายว่า เรื่องนี้ควรนั่งคุยกัน 2 คนกับแฟนนะครับ มาถามความเห็นคนนอกแบบผมไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นความสบายใจของคุณ 2 คน
แต่ถ้าถามแบบคนนอก ไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นคู่ของคุณ ผมจะตอบว่า ถ้าคบกันมาได้ตั้ง 10 ปี เรื่องจะอยู่หรือเลิกกัน ไม่ควรจะเป็นคำถามนะครับ
ถ้ายังเพิ่งคบกันได้สักสี่ซ๊าห้าเดือน แล้วมาถาม ก็พอจะฟังได้อยู่ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว คำถามที่ควรถามคือ จะอยู่กันยังไงให้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย
ทำอย่างไรเขาเองก็ยังมีคุณในชีวิต คุณเองก็ไม่ต้องรู้สึกผิด คำถามคือ ถ้าทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่เป็นอยู่ คุณ 2 คนโอเคไหม
ถ้าโอเค ก็ไม่ต้องถามอะไรมาก เราก็ดูแลกันไปอย่างนี้ งานแต่งงานอะไร จะมีหรือไม่มีมันไม่สำคัญหรอกครับ
มันอยู่ที่คนสองคน ให้เกียรติ ดูแลกัน มีน้ำใจไมตรีต่อกัน ก็พอแล้ว อันนี้พูดกรณีที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงเขาไม่ว่าอะไรนะ
เรื่องชีวิตสงบไม่สงบ อย่าพึ่งไปยึดติดรูปแบบนะครับ พระดีๆหลายรูป ท่านก็มีคู่ก่อนบวช แล้วก็เมตตากัน ชวนกันไปภาวนาตั้งแต่ยังเป็นฆราวาสนี่แหละ
ผมเคยถามอาจารย์ผมว่า เราจะรู้ได้ไง ว่าควรบวชเมื่อไหร่ ท่านบอกว่า ถ้ายังยึดติดว่า ชีวิตนี้ต้องบวชเท่านั้น ผ้าเหลืองเท่านั้นคือคำตอบ อันนั้น ยังไม่พร้อมจะบวชจริงหรอก
แต่ถ้ารู้สึกว่า อยู่ทางโลกก็ได้ อยู่ทางพระก็ดี อันไหนก็ภาวนาได้ แบบนี้แหละ ถึงสมควรจะบวช
ฉะนั้น ชีวิตคู่ก็ใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคเสมอไป สำหรับการเดินสู่ความสงบ เพียงแต่ต้องมี ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา เสมอกันหน่อยนะครับ
ถ้าเราแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว แต่กับสามีเหมือนหมดรักกันแล้ว ไม่มีเพศสัมพันธ์(6ปีแล้วค่ะ) มีแต่ความผูกพัน อยู่กันเพื่อลูก เราสามารถไปรักคนอื่นอีกได้หรือไม่คะ เราควรจะไขว่คว้าหาความรักต่อไปหรือไม่ แต่บอกตรงๆ ดิฉันยังอยากมีคนมารัก หรือได้รักใครอีกค่ะ
โดย: จิดา
คุณจิดา รู้สึกว่าหมดรักสามีแล้ว แต่แน่ใจหรือเปล่าครับ ว่าสามีหมดด้วย เพศสัมพันธ์ อาจจะเป็นดัชนีวัดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ
ขอเตือนกันตามตรงว่า สิ่งที่คุณจิดาคิดอยู่ มันค่อนข้างล่อแหลมต่อการผิดศีลข้อสามครับ
ยกเว้นสามีคุณสนับสนุนยอมรับเห็นดีเห็นงามให้คุณมีคนอื่น อันนั้นก็แล้วไป เพราะศีลข้อสาม มันมีข้อยกเว้นในส่วนของการยินยอมพร้อมใจอยู่
สมัยพุทธกาล มีภรรยาคนนึงได้โสดาบัน ก็หาเมียน้อยมาให้สามี เพราะตัวเองอยากเอาเวลาไปภาวนา ไม่อยากร่วมหลับนอนกับสามี แบบนี้สามี ก็ไม่ผิดศีลข้อสาม เพราะภรรยาเต็มใจ
แต่อยากให้ข้อคิดไว้อีกมุมหนึ่งว่า คุณจิดา จะหาเหามาใส่หัวอีกทำไม ในเมื่อก่อนคุณจิดาแต่งงาน ก็คงรู้สึกอย่างนี้ว่า "อยากมีคนรัก"
แล้วพอเวลาผ่านไป คนรักก็มีแล้ว ได้แต่งงานแล้ว ลูกก็มีแล้ว คุณจิดา มีความสุขถาวรไหม หรือมันแค่ชั่วคราว แล้วก็เป็นภาระอย่างตอนนี้
โลกนี้เร่าร้อนวุ่นวายเพราะเรื่องความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์มากจริงๆนะครับ คุณจิดา แน่ใจจริงๆเหรอครับ ว่าอยากเลือกเส้นทางนี้เป็นทางเดิน
ผมไม่แนะนำเลยนะครับ
Create Date : 24 กันยายน 2552 |
Last Update : 24 กันยายน 2552 18:39:10 น. |
|
22 comments
|
Counter : 6772 Pageviews. |
|
|
|
โดย: azamiya วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:20:48:39 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:21:50:36 น. |
|
|
|
โดย: daisyntulip วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:1:35:26 น. |
|
|
|
โดย: มุทิตา IP: 58.10.192.163 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:8:36:59 น. |
|
|
|
โดย: บอย IP: 58.9.234.133 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:9:52:41 น. |
|
|
|
โดย: Toy_fire IP: 124.121.241.76 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:9:55:21 น. |
|
|
|
โดย: jum IP: 58.11.64.81 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:11:32:25 น. |
|
|
|
โดย: noi IP: 61.91.248.100 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:12:06:34 น. |
|
|
|
โดย: หญิง IP: 124.122.154.119 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:13:33:12 น. |
|
|
|
โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:13:50:28 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน IP: 61.47.19.72 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:17:07:02 น. |
|
|
|
โดย: หม่นหมอง IP: 58.8.196.27 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:23:30:21 น. |
|
|
|
โดย: Tony Koon IP: 58.9.205.66 วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:10:26:17 น. |
|
|
|
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.37.175 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:1:33:04 น. |
|
|
|
โดย: wankawaew IP: 111.84.80.214 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:11:43:56 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:0:03:26 น. |
|
|
|
โดย: nearmoons IP: 58.8.28.213 วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:16:41:18 น. |
|
|
|
โดย: am^^ IP: 58.8.127.85 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:16:18:32 น. |
|
|
|
โดย: TW IP: 203.146.197.126 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:18:03:02 น. |
|
|
|
โดย: ja IP: 118.173.112.174 วันที่: 1 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:47:35 น. |
|
|
|
| |
|
|
สวัสดีค่ะพี่เอ็ด
อ่านมาจนจบ
หนูยังไม่มีคำถามค่ะ